Engineering ตกหลุมรักยัยรุ่นพี่ 18+

9.0

เขียนโดย Kanoomjj

วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 09.54 น.

  16 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2562 10.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) สโมสรนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Engineering ตกหลุมรักยัยรุ่นพี่ 3 : สโมสรนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

 

 

          เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกอีกเพียงแค่ 3 อาทิตย์มหาวิทยาลัยสุดที่รักของฉันก็จะเปิดเทอมแล้ว ชีวิตนักศึกษาปี 4 นอกจากโปรเจคจบและฝึกงานแล้วก็คงจะไล่เก็บวิชาที่ดรอปหรือติดเอฟกันให้วุ่นไปหมด พวกที่ชิวหน่อยก็คงจะรอลงซัมเมอร์แทน สำหรับฉันนอกจากจะต้องผจญกับโปรเจคจบแล้วก้คงหนีไม่พ้นงานของสโมสรเนี่ยแหละ คำถาม... ว่าทำไมปี 4 อย่างฉันถึงต้องยังทำงานสโมสรทั้ง ๆที่ควรเป็นเรื่องของปีสามนั้นก็เพราะอีประธานและอีรองประธานสโมสรมันนอนเดี้ยงอยู่ในโรงพยาบาลอย่างไงล่ะค่ะเลยต้องมาลำบากฉันกับศิวะที่เป็นอดีตประธานและอดีตรองประธานมาดูแลแทนพวกมันสองตัวชั่วคราว คิดแล้วอยากจะตบให้ตายไปเลย!

          “หนุน... ไม้ ลงมาหาม๊าหน่อย” เสียงหวานๆนุ่มหูของม๊าที่รักของฉันเรียกขึ้นมา โคตรขี้เกียจลงไปเลยแต่ก็ต้องลงอ่ะน่ะเพราะหากม๊าพิโรธขึ้นมานี่ธรณีแยกก็เอาม๊าไม่อยู่ - -* พอเปิดประตูห้องออกมาก็เจอกับหน้าวอนอวัยวะเบื้องล่างของน้องชายสุดที่รัก! ลูกไม้มันเดินเข้ามากอดคอฉันพร้อมกับส่งยิ้มร่ามาให้

 

          “กูเพื่อนเล่นมึง?” ฉันว่าพลางปัดมือมันออก

 

          “ใจดีกับผมสักครั้งเถอะเจ๊” ลูกไม้มันบ่นก่อนจะกอดคอฉันใหม่อีกรอบ ฉันถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนจะเดินลงไปข้างล่างพร้อมกับมัน

          “มานั่งนี่” ป๊าสุดหล่อของฉันกวักมือเรียก ฉันมองใบหน้าหล่อเหลา เนียนใสราวกับหนุ่มวัย 30 ต้นๆทั้งที่ป๊าของฉันเนี่ย 40 ปลายๆแล้วด้วยซ้ำส่วนม๊าที่รักนี่ไม่ต้องพูดถึง เวลาเดินกับม๊าสองคนมีแต่คนทักว่ามากับพี่สาวหรอ? ทั้งหมดทั้งมวลก็มาจากความคิดสนุกๆของป๊ากับม๊าที่จะแข่งกันหน้าเด็ก! เห้ออออออ~ ฉันล่ะเซ็งกับความคิดของป๊าม๊า

 

          “ป๊ามีไรหรอ” ฉันถาม

 

          “อีกสองอาทิตย์มหาลัยเปิดแล้วใช่ไหม” ป๊าถาม ฉันกับลูกไม้พยักหน้ารับหงิง ๆ

          “ไม้จะไปหาหอตอนไหน” ป๊าถามขึ้นอีก ฉันเองที่เพิ่งนึกได้จึงหันไปมองหน้ามัน ลูกไม้มันส่งยิ้มระรื่นมาให้ฉันทำเอาขนลุกซู่เลยทีเดียว

 

          “อยู่กับเจ๊ครับ” ลูกไม้ตอบ

 

          “ไม่!!”

 

          “ตกลง”

 

          “ป๊าม๊า!” ฉันเรียกป๊ากับม๊าด้วยความไม่พอใจแบบสุดๆ ทันทีที่ทั้งสองคนตอบตกลงโดยไม่ถามฉันสักคำเดียว! ฉันหันไปมองไอ้ลูกไม้ด้วยสายตาไม่พอใจ มันเหมือนนกรู้รีบวิ่งเข้าไปกอดม๊าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที

 

          “เอาน่าให้น้องไปอยู่ด้วยแหละ ห้องเราก็มีตั้งสองห้องนี่” ป๊าพูดปลอบ ฉันสะบัดตัวออกจากมือป๊าก่อนจะขยับไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวแทนที่ไอ้ลูกไม้มันเมื่อกี้

 

          “นั้นมันห้องเล่นเกมของหนู!” ฉันพูดเสียงนิ่ง เมื่อได้ยินที่ฉันบอกป๊ากับม๊าหันมามองหน้ากันทันที ก็มันแน่อยู่แล้วห้องเล่มเกมของฉันมันคือพื้นที่ที่โคตรส่วนตัว! และฉันก็หวงแหนมากที่สุดด้วยและทุกคนในบ้านก็รู้ดีว่าฉันเกลียดการลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากแค่ไหน!

 

          “งั้นเปลี่ยนล่ะกันเนอะ” ม๊าพูดขึ้นมาพลางส่งยิ้มแห้งๆมาที่ฉัน ฉันร้องเหอะออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันไปชี้หน้าคาดโทษไอ้ลูกไม้มัน ไอ้นี่มันเหมือนกิ้งก่าตอนอยู่บ้านทำตัวอย่างกับเด็กน้อยน่ารัก พอออกจากบ้านล่ะแยกเขี้ยวแยกฟันเป็นหมาบ้าเลยทีเดียว

 

          “เรื่องหอให้มันอยู่หอเดียวกับหนูก็ได้แต่คนละตึก เพื่อนหนูจะย้ายออกพอดีเดี๋ยวหนูคุยให้” ฉันบอก

 

          “ตกลงตามนั้น แต่ว่าจะทันหรอ” ม๊าถาม

 

          “ทันม๊า เจ้าของหอเป็นรุ่นพี่ที่คณะ คุยได้ง่ายอยู่” ฉันตอบ ม๊าพยักหน้ารับ

          “ส่วนมึงพรุ่งนี้สิบโมงเช้าเตรียมตัวไปกับกูถ้าช้ากูเท”ฉันหันไปพูดกับลูกไม้

 

          “รับทราบครับผม” ลูกไม้รับคำ

 

          “เดี๋ยวนะอีไม้” ฉันที่นึกอะไรบางอย่างได้เรียกมันขึ้น

          “มันมีรับน้องรวมของมหาลัยด้วยไม่ใช่หรอวะ” ฉันถามมันขึ้น ลูกไม้ร้องอ้อเสียงยาวเหยียด

 

          “มีเจ๊ แต่ผมขี้เกียจอ่ะเลยไม่ไป” ลูกไม้ว่าก่อนจะล้มตัวลงนอนบนตักม๊า

 

          “อีไม้! มึงลุกไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้เลยนะมึง” ฉันว่าพลางเท้าเอวมองมันอย่างไม่พอใจ

 

          “ไม่เอาขี้เกียจ” มันสวนขึ้นมา

 

          “รณพีร์ อาทิตฏวงศ์!” ฉันเรียกมันเสียงเย็น

 

 

 

          เฮือก!

 

          “ไปแล้วครับผม” ลูกไม้รับคำก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที ฉันมองตามหลังมันไปพลางส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ

 

          “ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วยหืม” ม๊าถาม ส่วนป๊านะหรอตอนนี้นั่งดูทีวีสบายใจเฉิ่มไม่สนผู้ใดแล้วล่ะ

 

          “กิจกรรมนี้ถึงจะไม่ใช่กิจกรรมบังคับของมหาลัยแต่ภาคโยธาเขาให้ความสำคัญกับกิจกรรมรับน้องทั้งของภาค คณะและมหาลัย หนูไม่อยากให้ไม้มันโดนหลายหัวน่ะม๊า หนูขึ้นไปเตรียมตัวไปกับมันก่อนนะ อ้อ คงกลับมาหลังจบกิจกรรมเลยนะม๊าส่วนหอหนูจะไปจัดการให้มันด้วยเลย” ฉันบอกยาวเหยียด ม๊าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจพอจะเดินออกไปมือป๊าก็ยื่นมาตรงหน้าพร้อมกับธนบัตรสีเทาปึกนึง ฉันหันไปมองป๊าที่ไม่ได้มองมายิ้มๆก่อนจะยกมือไหว้ป๊าแล้วคว้าเงินวิ่งขึ้นห้องไปทันที อิอิ มีพ่อสายเปย์ก็ดีแบบนี้แหละ 5555555

 

 

 

 

          “นับเงินออกมาหนึ่งหมื่นหนึ่งพัน” ฉันบอกพร้อมกับส่งเงินปึกนึกที่ป๊าให้มากับลูกไม้ ตอนนี้ฉันกับลูกไม้อยู่บนรถกระบะสี่ประตูสีดำของฉันเรียบร้อยแล้วพูดจบฉันก็ขับรถออกไปทันที

 

          “ทำไมเงินเยอะจังเจ๊” ลูกไม้ถามพลางนับเงินตามที่ฉันบอก

 

          “ป๊าให้มา คงให้มาใช้จ่ายค่าหอด้วยเลยแยกเงินค่าหอออกมาแล้วเอาติดตัวไปสามพันพอที่เหลือเดี๋ยวกูเก็บไว้เอง” ฉันบอก ลูกไม้พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย

 

          “อ่ะเจ๊ ทั้งหมดเหลือสองหมื่นห้าพัน ผมแยกค่าหอไว้ที่ซิปข้างในกระเป๋าเจ้นะส่วนที่เหลือผมเอาใส่ในกระเป๋าตังค์เจ๊ให้นะครับ” ลูกไม้บอก ฉันพยักหน้ารับก่อนจะรีบขับรถไปที่มหาลัยทันทีไปถึงมหาลัยน่าจะ 10 โมงเช้าพอดีไม่ถือว่าสายเกินไปแต่ก็สายเกินไปสำหรับคณะวิศวะล่ะนะ ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปแล้วเชียวพอมีน้องเข้ามาก็รู้สึกว่าชีวิตมันวุ่นวายขึ้นนิดๆแฮะ ฉันปรายตามองลูกไม้ที่นั่งเล่นเกมส์ในไอโฟนเครื่องหรูไม่ล่ะสายตาก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ

          ไม่นานฉันก็ขับรถมาถึงมหาลัยหลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้วฉันก็เดินนำลูกไม้เข้าไปในหอประชุมใหญ่ก่อนจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งเป็นห้องโถงกว้างๆที่สามารถจุนักศึกษาได้มากถึงหนึ่งแสนคนซึ่งทุก ๆปีมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะรับนักศึกษาเพียงแค่เก้าหมื่นคนต่อปีเท่านั้นส่วนจะเฉลี่ยไปแต่ละคณะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนนักศึกษาเดิมที่โดนเด้งออกจากมหาลัย พอเปิดประตูเข้าไปข้างในฉันก็อดที่จะถอนหายใจไม่ได้เพราะคนเยอะมากจริง ๆ เห็นแล้วอยากวิ่งหนีกลับบ้านในมันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ฉันมองหาคณะวิศวะก่อนจะพบว่าปีนี้โดนเด้งไปนั่งหน้าสุด

 

          “ไม้” ฉันเรียกลูกไม้ที่โดนเด็กปีสองปีสามรุมถามอยู่ ลูกไม้มันหันมามองก่อนจะจับมือฉันที่ยื่นมารออยู่แล้ว ฉันเดินจูงมือลูกไม้ไปยังส่วนของคณะวิศวะทันที ฉันเดินผ่านภาควิชาของตัวเองไปด้วยสีหน้านิ่งๆ ก็ต้องนิ่งสิย่ะ! ขืนยิ้มแม้แต่นิดเดียวเสียงเห่าหอนได้ลอยมาตามอากาศเป็นแน่แท้เพราะฉันเล่นจูงมือน้องใหม่มานี่น่า อ้อ ฉันไม่เคยบอกใครว่าฉันมีน้องชาย ก็ไม่มีใครถามฉันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปเปล่าประกาศให้คนอื่นรู้

 

          “อ้าวเจ๊ สวัสดีครับ” รุ่นน้องภาคโยธายกมือไหว้ฉัน ฉันรับไหว้ยิ้มๆก่อนจะดึงลูกไม้มายืนข้างๆ

 

          “นี่ลูกไม้น้องพี่” ฉันบอก

 

          “อ้อ มาสายนะมึง” กรรับคำก่อนจะหันไปพูดกับลูกไม้

 

          “คือผม...”

 

          “พี่ผิดเองแหละ พี่ติดธุระนิดหน่อย มันมากับพี่เลยมาช้าไปด้วย” ฉันพูดขึ้น กรมันพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายเพราะมันรู้นิสัยฉันดี ยามอยู่ต่อหน้ารุ่นน้องปีหนึ่งฉันจะไม่พูดกูมึงกับน้องปีสองปีสามเพราะเดี๋ยวมันจะดูไม่ดีให้ปีหนึ่งมันเคารพรุ่นพี่ของมันดีกว่าเห็นพี่มันต้องมาโดนรุ่นพี่ว่า

 

          “ลูกไม้ใช่ไหม” กรถาม

 

          “ครับ”

 

          “มึงเอากระเป๋าไปให้พี่เจน รับป้ายชื่อแล้วไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ” กรสั่ง ลูกไม้พยักหน้ารับ

 

          “เลิกแล้วไปรอกูที่รถ” ฉันหันไปบอกลูกไม้

 

          “เจ๊เดี๋ยวผมมีเรียกน้องไปที่ภาคต่อ” กรบอก

 

          “อ้อ งั้นเดี๋ยวกูไปรับที่ภาค ตั้งใจทำกิจกรรมเข้าใจไหม” ฉันเอ่ย ลูกไม้พยักหน้ารับ ฉันก็เดินแยกกลับมาที่ภาควิชาของตนเอง พอเดินมาถึงก็เจอสายตาล้อเลียนมาทันที

          “ไม่ต้องแซวนั้นน้องชายฉัน” ฉันเอ่ยบอกกับไอ้พวกรุ่นน้องปากปีจอที่จ้องแต่จะแซวฉันเป็นว่าเล่น พวกมันพยักหน้ารับคำกวนๆจนฉันแทบอยากจะปารองเท้าใส่หน้าพวกมัน!

 

          “นี่พี่ปีสี่ พี่ลูกขนุน เรียกพี่ขนุนก็ได้” ไอเทม รุ่นน้องปีสองที่ทำหน้าที่เป็นพี่ว๊ากเอ่ยบอกกับน้อง ๆ

 

          “สวัสดีครับ/ค่ะ” น้อง ๆยกมือไหว้

 

          “อืม ตั้งใจทำกิจกรรมล่ะ” ฉันบอกก่อนจะหันไปเห็นแมงปอและศิวะที่กวักมือเรียกอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับคนอื่น ๆในสโมที่ยืนหน้าเครียดกันเป็นแถว

 

          “เจ๊หนุนจบนี่แล้วเจ๊จะไปภาคต่อรึเปล่าคะ” น้ำ รุ่นน้องปีสามถามขึ้น

 

          “สำคัญไหม?” ฉันถาม

 

          “ก็จะให้น้อง ๆแนะนำตัวและจำชื่อรุ่นพี่คร่าวๆก่อนคะ” น้ำตอบ

 

          “อืม พี่ไม่รับปากนะว่าจะไปดูท่าที่สโมจะมีปัญหา” ฉันบอก น้ำมองตามสายตาฉันไปเห็นสมาชิกสโมสรนักศึกษาของคณะที่ยืนคุยกันหน้าเครียด

 

          “หนูเข้าใจเจ๊ งั้นไม่กวนแหละ” น้ำบอกพร้อมรอยยิ้ม

 

          “อืม” ฉันรับคำก่อนจะเดินฝ่าน้อง ๆปีหนึ่งไปหาพวกศิวะที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที

 

 

 

 

          หมับ!

          ฉันก้มมองขาตัวเองที่โดนมือแกร่งของใครก็ไม่รู้จับเอาไว้ก่อนจะเหงยหน้ามองคนที่มันจับขาของฉันอยู่

 

          “มึง!” ฉันชี้หน้าไอ้เด็กเวรที่มันขโมยหอมแก้มฉันด้วยความโมโห

 

          “เดินอ้อมไม่เป็นหรอหืม?” มันถามหน้าตาย ตอนนี้ฉันยืนอยู่ฝั่งคณะบริหารซึ่งอยู่ติดกับคณะวิศวะ ฉันถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะย่อตัวลงไปคุยกับมัน

 

          “กูรีบปล่อย!”  ฉันเอ่ยบอก มันเลิกคิ้วให้แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากขาของฉัน พวกรุ่นพี่ของคณะบริหารเริ่มมองมาทางฉันที่นั่งยอง ๆคุยกับน้องของพวกมันอยู่ พอหันกลับไปทางฝั่งวิศวะก็เห็นว่าทางนั้นเองก็มองมานิ่งๆเช่นกัน ถ้าขืนฉันกับมันยังทำท่าทีเหมือนจะกัดกันอยู่ดูท่างานวันนี้ได้เละไม่เป็นท่าแน่ ๆ

          “มึงชื่ออะไร” ฉันถามมันขึ้น

 

          “มาส” มันตอบ

 

          “โอเคมาส ถ้าจะหาเรื่องกันก็ค่อยหาเรื่องทีหลังตอนนี้ปล่อยก่อนพี่รีบจริง ๆ พี่ขอล่ะ” ฉันพูดเสียงอ่อนพยายามสุภาพกับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

          “เอาเบอร์มา” มันพูดหน้าตาย ฉันจิ๊ปากก่อนจะคว้าปากกาที่เสื้อช็อปแล้วเขียนเบอร์โทรศัพท์ลงบนป้ายชื่อของมันซะเลย

 

          “ทีนี้ปล่อยได้ยัง?” ฉันถาม มันไม่ตอบไม่ปล่อยแต่ก้มดูเบอร์ที่ป้ายชื่อของตัวเอง

 

          “ของจริง?” มันถาม

 

          “เออ ปล่อยพี่เหอะ กราบแล้วเนี่ย” ฉันพูดพลางยกมือไหว้ไหล่มันอย่างขอทีไป เอ๊ะ! ดูมันสิ มันยังมีหน้ามาหัวเราะในลำคออีก

 

          “ไว้จะโทรหา” มันบอกพร้อมกับปล่อยขอของฉันให้เป็นอิสระ เมื่อขาเป็นอิสระได้ฉันก็ลุกขึ้นเดินไปทางศิวะและเพื่อนๆทันที

 

 

 

 

 

          “มีอะไรรึเปล่า” ศิวะถามพลางยื่นมือมาตรงหน้า ฉันจับมือมันก่อนจะโดนมันฉุดเข้าไปหา

 

          “ไม่มีไรหรอกชั่งเหอะ” ฉันบอกก่อนจะหันไปมอง นีน่า กรรมการฝ่ายกิจกรรมของสโมสรและ พริม กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสโมสรที่ทำหน้าเครียดอยู่

          “มีอะไรบอกพี่มาสิ” ฉันถาม

 

          “วันพุธนี้ในงานเฟรชชี่ไนท์คณะเราต้องส่งดาวเดือนไปประกวดอ่ะเจ๊” นีน่าบอก

 

          “เรายังไม่มีดาวเดือน?” ฉันถาม

 

          “ใช่เจ๊ เพราะทางคณบดีเลื่อนรับน้องของคณะไปเปิดเทอมเลย” พริมช่วยเสริมขึ้นมา ฉันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

 

          “เอาไงดี” ศิวะถามขึ้นมา ฉันยิ้มรับอย่างจริงใจกับคำถามของศิวะ ศิวะเป็นคนที่เก่งทั้งด้านการเรียนและกิจกรรม เป็นคนที่อ่านสถานการณ์ออกได้อย่างรวดเร็วและตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนจนรอฉันไม่ได้ ศิวะมักจะรอปรึกษาและแลกความคิดเห็นกับฉันก่อนเสมอเป็นเพื่อนที่น่าคบมากเลยทีเดียว

 

          “เรื่องนี้เราค่อยจัดการกันต่อ” ฉันบอก ศิวะพยักหน้ารับคำอย่างเข้าใจก่อนจะเดินออกไปทำในสิ่งที่ฉันและเขาต่างเข้าใจกันและกันเป็นอย่างดี

          “โรม” ฉันเรียก โรม รุ่นน้องปีสามซึ่งเรียนภาควิชาเดียวกันกับฉัน เลขาอีกคนของฉันที่กำลังดูระเบียบการต่าง ๆ หน้าเครียด

 

          “ระเบียบการของพรุ่งนี้มีอะไรบ้าง” ฉันถาม

 

          “ก็มีกิจกกรมช่วงเช้า กินเลี้ยงช่วงบ่ายและพบปะกับคณบดีรวมทั้งคุณพ่อด้วย” โรมบอก “คุณพ่อ” คือ ผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยแห่งนี้พวกเรารู้จักและเรียกชื่อของท่านด้วยคำว่าคุณพ่อมาตั้งแต่ปี 1 ท่านเป็นคนที่ใจดีและเข้าถึงได้ง่ายแต่ถ้าเป็นเรื่องของกฎระเบียบท่านก็เคร่งครัดชนิดที่เรียกได้ว่าตึงจนแทบขาด!

 

          “ส่งระเบียบการเข้าเมลศิวะเลยเดี๋ยวพี่กับศิวะจะเคลียร์เองแล้วก็ส่งข้อความบอกประธานแต่ละภาคให้มาประชุมกันหลังจากที่ปล่อยน้องออกจากหอประชุมใหญ่” ฉันสั่ง โรมรับคำก่อนจะทำงานตัวเองอย่างรวดเร็วทันที

          “นีน่า พริมและปอ” ฉันเรียก สามสาวหันมามองฉันทันทีอย่างรู้งาน

          “พวกแกส่งคนไปคัดตัวน้องได้เลย พี่มีเวลาให้วันนี้กับพรุ่งนี้ถึงเที่ยงต้องมีรายชื่อน้องที่จะเข้าประกวดดาวและเดือนของคณะส่งให้พี่” ฉันชี้แจ้งทั้งสามคนพยักหน้ารับก่อนจะแยกย้ายกันออกไปทำงานทันที

          “ที่เหลือคอยดูแลความเรียบร้อยของงาน” ฉันสั่งพร้อมกับนับจำนวนสมาชิกสโมสรที่เหลืออยู่ อืม... เหลือสิบเอ็ดคนพอดีงั้นก็หวานหมูเลยสิค่ะ 555

          “กระจายกันออกไปอยู่ภาคละคนคอยตามไปดูจนถึงพวกนั้นปล่อยน้องกลับแค่ดูเฉยๆนะไม่ต้องเข้าไปวุ่นวาย ส่วนประชุมวันนี้ไม่ต้องเข้าพี่แค่จะแจ้งเรื่องเลือกดาวเดือนของคณะกับประธานแต่ละภาคแล้วพี่จะสรุปให้ฟังทีหลัง พรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้าเจอกันที่สโมสร”ฉันสั่ง เมื่อทุกคนพยักหน้ารับเรียบร้อยก็แยกย้ายกันออกไปทำหน้าที่ของตนส่วนฉันก็วิ่งออกไปหาศิวะทันที

 

 

 

          ติ๊ด!

          ฉันหยิบไอโฟนขึ้นมาดูทันทีที่มีข้อความเข้า

 

          “พยายามเข้านะเจ๊”

 

          ฉันมองข้อความบนหน้าจอก่อนจะยิ้มออกมาน้อย ๆ เด็กหนอเด็กแทนที่จะตั้งใจทำกิจกรรมแต่กลับมาวุ่นวายเรื่องผู้ใหญ่ถ้าโดนรุ่นพี่ดุนะไอ้ไม้แม่จะตีซ้ำให้! ฉันบ่นในใจก่อนจะเดินเข้าไปหาศิวะที่นั่งยิ้มหน้าบานอยู่

          “หวานหมูสิมึง” ฉันถามขึ้น

 

          “แน่นอน” ศิวะรับคำอย่างมั่นอกมั่นใจ

 

          “ตาลุงพวกนั้นว่าไงบ้าง” ฉันถามศิวะขึ้น มันยักไหล่อย่างอารมณ์ดีก่อนจะดึงฉันให้นั่งลงข้างๆมัน

 

          “ระเบียบการของตาลุงเหล่านั้นก็ตามนี้ครับผม” ศิวะพูดพร้อมกับส่งตารางเวลาของคณบดีที่คณะส่งมาให้ ฉันรับไอแพดมาดูก่อนจะยิ้มร่าออกมา

 

          “มีเวลาถึงสี่ชั่วโมงเลยแฮะ เยอะกว่าที่คิดนะเนี่ย” ฉันเอ่ย

 

          “ใช่ไหมล่ะ” ศิวะเสริมอย่างผ่อนคลาย  มันก็น่าผ่อนคลายอยู่อ่ะนะเพราะตอนนี้ทุกอย่างก็ลงตัวหมดเหลือแค่ว่าเราต้องจัดตารางเวลาส่งให้แก่ทุกคนและหาตัวช้างเผือกที่ซ่อนอยู่ในช้างน้อยใหญ่ทั้งหลาย

 

          “เท่าที่ดูปีนี้ กูว่าน้องมึงหล่อสุดวะ” ศิวะเอ่ยขึ้น

 

          “อยากแดกตีนสินะ” ฉันพูดขึ้นลอย ๆ

 

          “โอ้โฮ หวงน้องซะด้วยนะครับคุณพี่สาว” ศิวะแซว

 

          “ทำงานเหอะ” ฉันบอกก่อนจะสนใจงานตรงหน้าต่อ...

 

 

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ชอบนิยายของขนมไหมคะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา