เร้นรักมธุรสลวง
เขียนโดย Phaky
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
38) โปรยปราย + แจ้งข่าว E-book
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
**************************************************************
“กลับบ้านได้แล้วเหรอครับ”
รู้ดีเชียวแหละว่าเข้าไปแล้วต้องเจออะไร แต่คมพัชญ์กลับไม่คิดหลบหลีก ประกายในดวงตาคมกริบแน่วแน่พอๆกับปณิธานที่ตั้งใจไว้ สองขาจึงก้าวไปต่อข้างหน้าก่อนเอี้ยวตัวกลับมามองลันลาดาที่ยืนแข็งทื่อเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิต คนตัวเล็กเบี่ยงตัวหนีเมื่อเอวคอดถูกดึงเข้าหา เกือบชักสีหน้าใส่ไปแล้วหากไม่เห็นใบหน้าซีดเผือดของคนขี้กลัว เมื่อไม่ให้กอดเอว มือหนาจึงคว้ามือบางชื้นเหงื่อของเมียรักมากุมไว้แน่น ก่อนเดินจูงเข้าไปร่วมวงพ่อเลี้ยงนภัทรกับพี่ชายด้วยกัน
“สวัสดีค่ะคุณลุง” ลันลาดายกมือไหว้พ่อเลี้ยงนภัทรแต่กลับก้มหน้างุด ไม่กล้าสู้สายตาท่าน
“ก็คิดถึงลูกชายนี่หว่า ไหว้พระเถอะลาดา แล้วก็เปลี่ยนจากลุงมาเรียกพ่อได้แล้ว”
อืม ได้ฟังกวินพลเล่าว่าความสัมพันธ์ของว่าที่บ่าวสาวกำลังเป็นสีชมพูว่าสบายใจแล้ว แต่มันก็สู้ได้เห็นด้วยสองตาตัวเองไม่ได้จริงๆ พ่อเลี้ยงนภัทรมองมือน้อยในอุ้งมือใหญ่ด้วยรอยยิ้มปรานี มันไม่ใช่ภาพที่หาดูได้ง่ายนักหรอกกับความอ่อนโยนของลูกชายคนเล็กต่อสตรี เขาเคยเห็นครั้งสุดท้ายก็ก่อนที่มารดาของเจ้าแฝดจะเสียนั่นแหละ เพราะหมอนี่มันหยิ่ง ความอ่อนโยนน้อยนิดในตัวมันล้ำค่าดั่งทอง คมพัชญ์จึงเก็บไว้มอบให้คนที่มันรักเท่านั้น แล้ววันนี้เขาก็ได้เห็นว่านอกจากพ่อ แม่ พี่ชาย ก็มีลันลาดาอีกคนที่โชคดีได้รับความรักจากผู้ชายแข็งกระด้างอย่างคมพัชญ์ ที่บอกว่าโชคดีเพราะผู้ชายรักยากแบบนี้ หากได้รักใครแล้วจะรักสุดหัวใจ หมอนี่มันรักเดียวใจเดียว นิสัยดีเหมือนพ่อมันนั่นแหละ
“เห็นหรือยังพ่อว่าผมไม่ได้โม้ สองคนนี้น่ะสวีตกันไม่ปรานีคนโสดอย่างผมเลย พ่อโอ๋ผมหน่อย”
“โอ๋ๆ เดี๋ยวพ่อซื้อกาแฟให้กินนะลูกนะ” ถูกร้องขอ พ่อเลี้ยงนภัทรก็รีบโอ๋ซะจนกวินพลหน้าแดง
“แหม! พ่อใครวะ แซวเก่ง” คนช่างฟ้องไปแทบไม่เป็นเมื่อโดนบิดาแซวกลับซะตรงจุด
“แน่ใจว่าคิดถึงลูก?”
คมพัชญ์ไม่สนใจคำหยอกเอินของพี่ชาย แต่กลับทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับบิดาพร้อมทั้งดึงร่างเล็กให้ลงนั่งติดกัน ดวงตาของชายหนุ่มที่มองประสานกับพ่อเลี้ยงนภัทรบอกว่ารู้ทันความคิดความต้องการของท่านเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นอยากพูดอะไรก็ให้เปิดอกพูดมาเลยตรงๆ รู้ทันกันขนาดนี้พ่อเลี้ยงนภัทรก็ไม่ขัด แผ่นกระดาษที่มีวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากของสองดวงชะตาถูกวางลงบนโต๊ะกลาง เรียกสายตาทั้งสี่คู่ให้หยุดมองมันด้วยความสนใจ
“พ่อได้ฤกษ์มาจากพระครูที่นับถือ ท่านว่าวันที่เก้าเดือนหน้าฤกษ์ดี”
ดวงตาคมปลาบหรี่แคบ เดือนหน้าฟังเหมือนจะอีกนาน แต่วันนี้ก็ปาเข้าไปวันที่ยี่สิบห้าแล้ว เท่ากับว่ามีเวลาให้เตรียมงานเพียงสิบสี่วันเท่านั้น ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับการจัดงานเลี้ยงของเจ้าบ่าวที่มีพ่อเป็นคนดังประจำจังหวัดที่คาดว่าจะต้องลิสต์รายชื่อแขกไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันคน นี่ยังไม่นับรวมทั้งเรื่องการเตรียมงานอื่นๆอีกมากมาย คมพัชญ์ปรายคามองแผ่นกระดาษก่อนเหลือบมองหน้าท้องของลันลาดา ในเมื่อว่าที่เจ้าสาวไม่ได้ตั้งครรภ์ก่อนแต่ง เหตุไฉนจึงต้องเร่งวันเร่งคืนขนาดนั้นด้วยเล่า ไม่อยากคิดอกุศลแต่ห้ามสมองได้ยากเมื่อนึกถึงที่คุณการันต์โทร.หาลันลาดาเมื่อบ่าย หรือพ่อตาเขาเร่งให้จัดงานแต่งเพื่อที่จะได้จัดการเรื่องโอนบ้านและหวังฮุบเงินสินสอดก้อนโต โหนกกรามแกร่งกระตุกเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ฝันไปเถอะ!
“พ่อรีบเหรอ” ฟังผิวเผินเหมือนคมพัชญ์แหย่ถามเล่นๆ แต่เมื่อเงยหน้าสบตากับบุตรชาย ประกายบางอย่างในนั้นทำให้ท่านฉุกใจ พลางถามออกไปเสียงเรียบ
“แกถามอย่างนี้ หมายความว่าไง”
พ่อเลี้ยงนภัทรไม่ได้รีบ แต่ท่านแค่ไม่ได้ขยายความคำทำนายของหลวงพ่อ ว่าหากเลยเวลานี้ไปดวงของสองหนุ่มสาวมีเกณฑ์พลัดพราก และต้องรอเวลาอีกเป็นปี สองดวงชะตานี้จึงจะได้กลับมาเจอกัน พ่อเลี้ยงนภัทรรู้ว่าการันต์คงไม่ปล่อยให้ลูกสาวลอยชายอยู่ที่ไร่ให้เป็นที่ครหานานเป็นปีแบบนั้นแน่ และในฐานะบิดา ท่านก็รู้ว่าคมพัชญ์ก็ไม่มีทางยอมปล่อยลันลาดากลับไปอยู่บ้านให้ห่างกายอีกเช่นกัน ท่านจึงเลือกฤกษ์ยามแรกที่แม้จะกระชั้นไปนิด แต่ก็ดีกว่าให้เกิดศึกชิงลันลาดาระหว่างพ่อตากับลูกเขย
“ผมยังไม่อยากแต่ง อยากดูไปนานๆให้แน่ใจกว่านี้”
คำตอบไม่คาดฝันของคมพัชญ์เรียกสายตาทั้งสามคู่ให้หันขวับมองชายหนุ่มพร้อมเพรียงกัน โดยเฉพาะพ่อเลี้ยงนภัทรกับกวินพลที่เขม่นตามองคนพูด ก่อนหันไปมองหน้ากันเองเหมือนต้องการให้อีกฝ่ายช่วยยืนยันว่าคำตอบระคายหูนั้นหลุดมาจากปากของคมพัชญ์จริงๆ ส่วนลันลาดานั้นไม่ต้องพูดถึง ดวงตาแดงก่ำไปแล้วเรียบร้อยที่ถูกสามีทางพฤตินัยปฏิเสธต่อหน้าคนอื่น ใบหน้าหม่นหมองก้มหน้ามองพื้นซ่อนหยดน้ำตาจากความร้าวรานที่ทะลักเลอะนวลแก้ม
“แน่ใจกว่านี้?” แล้วก่อนหน้านี้ที่มันให้พ่อรีบหมั้นน้องไว้ก่อน คมพัชญ์ไม่ได้แน่ใจหรอกหรือ
“ครับ เผื่อไอ้ที่เคยคิดมันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด”
คมพัชญ์ประชดแล้วปรายตามองลันลาดาเหยียดๆ ก่อนหน้านี้เขาเคยหลงดีใจเพราะคิดว่าลันลาดามีใจตรงกันจึงเร่งให้บิดาจับหญิงสาวหมั้นหมาย และแพลนไว้ว่างานแต่งจะต้องเกิดขึ้นหลังจากหมั้นไม่นานนัก ทว่าเขากลับได้ยินบทสนทนาของสองพ่อลูกมหาดำรงค์โดยบังเอิญตอนแอบปีนบันไดเข้าหาสาว ใจความที่ได้ยินชัดเต็มสองหู มีแต่เรื่องเงินทองและผลประโยชน์ เจ็บจนอยากจะเฉดหัวสองพ่อลูกนักขุดทองออกจากบ้านเสียเดี๋ยวนั้น แต่เขากลับใจไม่แข็งพอ เพราะมอบหัวใจให้ลันลาดาไปแล้วเขาจึงฉุดรั้งหญิงสาวไว้ข้างกายหวังให้เวลาค่อยๆซึมซับความรักของเขาสู่หัวใจดวงน้อย แต่สิ่งที่ได้ยินสองพ่อลูกมหาดำรงค์คุยกันเมื่อบ่าย ทำให้รู้ว่าคนหน้าเงินก็คือคนหน้าเงินอยู่ดี ที่ลันลาดาโอนอ่อนตามใจยอมพลีกายให้เขาเชยชมเพียงเพื่อต้องการประจบเอาใจมากกว่าจะทำเพราะความรัก
“ขอคำขยายความ”
คำตอบของลูกชายคนเล็กส่งผลให้ระดับโทสะในร่างกายของพ่อเลี้ยงนภัทรพุ่งสูง ผู้อาวุโสสูงสุดขยับตัวนั่งหลังตรงเป็นการเป็นงานพลางผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆยาวๆเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังปะทุเดือด ใบหน้าที่เคยแย้มยิ้มกว้างเยี่ยงผู้ใหญ่ใจดีเรียบตึง ตึงจนดูเยือกเย็นพาให้รู้สึกว่าท่านอำมหิตกว่าคมพัชญ์ในยามพิโรธเสียอีก นานหลายนาทีกว่าที่พ่อเลี้ยงจะข่มใจเค้นเสียงถามรอดไรฟันออกมาได้
“ผมหมายถึงผมกับลาดาอาจเข้ากันไม่ได้”
*******************************************************************************
เนื้อหาลงให้อ่านเป็นตัวอย่างครบโควต้าแล้วนะคะ จากนี้จะเป็นโปรยปรายที่แวะมายั่วให้อยาก ฮ่าๆๆ แต่ถ้าใครไม่อยากค้าง อยากรู้จุดจบของผู้ชายปากพล่อย สามารถโหลด E-book ได้แล้วที่ Meb, Hytexts, naiin และ Ookbee ในราคา 259 บาทค่ะ
ส่วนหนังสือ สามารถสั่งซื้อได้ที่นักเขียนโดยตรง inbox ที่เฟซบุ๊ก พิจักขณา พิชามญชุ์ นักเขียน หรือ แฟนเพจ พิจักขณ พิชามญชุ์ ค่ะ ตอนนี้เหลือไม่ถึง 10 เล่มแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ