เร้นรักมธุรสลวง
เขียนโดย Phaky
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) หลอกลวง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“พี่คม! จะ...จะทำอะไรคะ”
ลันลาดาเบิกตากว้างก่อนร้องถามออกไปเสียงสั่นเมื่อคมพัชญ์รวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างพันธนาการไว้เหนือศีรษะด้วยมือใหญ่ข้างเดียว คนเหนือร่างแสยะยิ้มร้ายใส่ดวงตาตระหนกพลางใช้มือข้างที่ว่างแกะสายรัดเสื้อคลุมที่มัดไว้หลวมๆเชื่องช้าราวกับต้องการเขย่าขวัญ ที่ผ่านมาคมพัชญ์ต้องข่มกลั้นความต้องการกลืนกินร่างนุ่มเนียนที่ขโมยกอดขโมยจูบทุกครั้งที่มีโอกาสก็เพราะอยากให้เกียรติว่าที่ภรรยา และอยากให้สาวน้อยไร้เดียงสาค่อยๆคุ้นกับสัมผัสจากเขา แต่ดูเหมือนหน้าใสๆ ตาซื่อๆ ที่หลอกให้เขาลุ่มหลงจะเป็นเพียงภาพมารยาของผู้หญิงใต้ร่างเท่านั้น แท้จริงลันลาดาก็แค่ผู้หญิงหน้าเงินที่ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินก้อนโต กรามแกร่งบดเข้าหากันแน่นเมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ในเมื่อหญิงสาวใช้รอยยิ้มหวานๆหลอกลวงเขาให้ตายใจอย่างคนเลือดเย็น ก็ไม่มีเหตุผลที่คมพัชญ์จะต้องปกปิดตัวตนที่แท้จริงและความต้องการของตัวเองอีกต่อไป คราวนี้ล่ะ ลันลาดาจะได้จำไปจนตายว่าคิดผิดแล้วที่กล้าหลอกลวงผู้ชายที่ชื่อคมพัชญ์ บารมีเสียดฟ้า!
“แกล้งโง่ให้ดูไร้เดียงสากว่านี้อีกสิบเท่า ค่าตัวเธอก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรอก”
“พี่คม ทำไมพูดกับลาดาแบบนี้ล่ะคะ”
พอตัดสินใจเปิดเผยตัวตน คมพัชญ์ก็ไม่คิดยั้งปากยั้งคำพูดใดๆทั้งสิ้น สมองคิดอะไร ปากก็พ่นออกมาแบบนั้น ทำเอาคนฟังผงะตกใจจนหน้าถอดสีกับวาจาเชือดเฉือน เวลาผ่านไปเกือบนาทีแต่เรียวปากบางของลันลาดายังอ้าค้างไม่หาย ในขณะที่ความตกใจยังเกาะกุม ในสมองตื้อๆก็พยายามหาคำตอบว่าวันนี้มันเป็นวันโลกแตกหรือเกิดอาเพศอะไรงั้นหรือ ทำไมพี่คมคนดีของเธอถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นอกจากจะตะคอกใส่เธอรุนแรงแล้วยังพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายอีก ทุกคำที่หลุดออกมาจากเรียวปากได้รูปของคมพัชญ์มันช่างระคายหู โดยเฉพาะคำว่า ‘ค่าตัว’ ที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเปรียบเทียบกับหญิงงามเมือง แต่กระนั้นลันลาดาก็ยังคิดเข้าข้างว่าคู่หมั้นคงไม่ได้ตั้งใจหมายความว่าแบบนั้น
“เธอมาที่ไร่บารมีเสียดฟ้าทำไมล่ะ” ไม่ใช่แค่ท่าทีที่เปลี่ยน แต่สรรพนามเรียกขานก็ยังห่างเหิน
“ลาดามา...มา...”
ลันลาดาอ้ำอึ้งกัดริมฝีปากไว้ก่อนหลุบเปลือกตาลงต่ำ การโกหกไม่ใช่เรื่องถนัด แต่ถ้าให้พูดความจริงก็คงต้องบอกว่าเธอมาเพื่อให้ผู้ชายที่เธอหลงรักตั้งแต่แรกเห็นดูตัวและภาวนาให้คมพัชญ์ตอบตกลงแต่งงานด้วย แต่ยางบนใบหน้ายังแน่นหนา เธอจึงไม่มีความกล้ามากพอที่จะเปิดเปลือยความรู้สึกออกไปเช่นนั้น
“จะอ้ำอึ้งเพื่อ? พูดมาตรงๆสิว่าเอาตัวมาปรนเปรอแลกบ้าน ชำระหนี้ แล้วก็ค่าสินสอดก้อนโต”
“พี่คม!”
“ตกใจเหรอที่ฉันรู้ความจริง คนที่นี่เลี้ยงด้วยข้าว ไม่ใช่หญ้า ฉันถึงไม่โง่ให้เธอจูงจมูกเป็นควาย จำไว้!”
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ดวงตาของคมพัชญ์วาวโรจน์ดั่งมีกองเพลิงสุมเมื่อนึกถึงความจอมปลอมที่ลันลาดามอบให้ นอกจากนิสัยหวงของสุดโต่ง แฝดน้องแห่งไร่บารมีเสียดฟ้าเป็นคนรักแรงเกลียดแรง รักมากแค่ไหนความแค้นที่สุมในอกจากการถูกหักหลังก็ทวีคูณไปสิบเท่าร้อยเท่า และแรงแค้นมันก็มากมายจนถูกถ่ายทอดต่อไปยังข้อมือเล็ก เจ็บจนน้ำตาร่วงกับแรงบีบของมือใหญ่ ทว่าความเข้าใจผิดของคมพัชญ์สำคัญกว่าเป็นไหน ลันลาดาจึงกลั้นใจข่มความเจ็บปวดก่อนละล่ำละลักร้องขอโอกาสแก้ไขความเข้าใจผิด
“พี่คม ลาดาอธิบายได้นะคะ”
“ทำไม หรือจะบอกว่าที่ยอมลำบากลำบนมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเพราะหลงรักฉันจนถอนตัวไม่ขึ้น?”
“ถ้าลาดาบอกว่าใช่ล่ะคะ”
สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนดวงตากลมจะมองประสานกับดวงตาเหยียดหยามของคมพัชญ์ด้วยหวังยืนยันให้ชายหนุ่มเชื่อมั่นคำพูดของตัวเอง วินาทีนี้ลันลาดาจำต้องข่มกลั้นความเขินอายแล้วยอมเปิดเผยความรู้สึก อยากให้คู่หมั้นเปิดใจรับฟังมุมมองของเธอบ้าง หากไม่รักมีหรือจะยอมปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้คมพัชญ์คลอเคลียใกล้ชิด หากไม่รักมีหรือจะยอมทำตัวเป็นสตรีใจกล้านอนค้างอ้างแรมบ้านชายคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องแบบนี้ ทั้งหมดที่ยอมทำก็เพราะรักเขาทั้งนั้น
“ฉันก็จะบอกว่าตอแหล! อย่ามาพิรี้พิไรเพิ่มราคา รีบทำหน้าที่ของเธอซะ”
หากก่อนหน้านี้ไม่เห็นเองกับตา ไม่ได้ยินชัดเจนเต็มสองหูว่าลันลาดามาที่นี่เพื่อหวังกอบโกยทรัพย์สินของตระกูลบารมีเสียดฟ้าเข้ากระเป๋าตัวเอง คมพัชญ์คงเชื่อความรักซื่อตรงที่เปล่งประกายแจ่มชัดอยู่ในดวงตากลมใสที่เขาเคยหลงใหล ทว่าคำที่ลันลาดาพูดกับการันต์ลับหลังเขายังก้องชัดอยู่เต็มรูหู มันไม่มีสักคำที่สื่อสารได้ใกล้เคียงคำว่ารักที่หญิงสาวยืนยันเลย คมพัชญ์หลับตาลงพลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆอย่างคนตัดใจ หมดประโยชน์ที่จะคาดหวังในสิ่งที่ไม่เคยมี นับจากนี้ไม่มีความรู้สึกใดๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ระหว่างเขากับลันลาดาคือการแลกเปลี่ยนเท่านั้น!
“หน้าที่?”
“ก็หน้าที่บำเรอความสุขให้ฉันไง ยอมทิ้งบ้านมาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่เหรอ พ่อฉันสูญเงินไปกับครอบครัวนักขุดทองของเธอตั้งมาก สำนึกบุญคุณแล้วรีบตอบแทนด้วยการอ้าขากว้างๆรอฉันเดี๋ยวนี้”
“พี่คม อย่าค่ะ”
คำเฉลยของคมพัชญ์ทำให้ลันลาดาน้ำตาซึม เพราะมันแสดงให้เห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้เชื่อถือคำบอกรักของเธอเลยสักนิด ซ้ำยังทำให้เธอดูไร้ค่าเหมือนผู้หญิงหากินใช้เรือนร่างแลกเศษเงินไม่มีผิด ซึ่งเธอไม่ต้องการให้คมพัชญ์เข้าใจเธอผิดแบบนั้น เมื่อสถานการณ์ยังคลางแคลง สัญชาตญาณจึงสั่งให้สองมือยกขึ้นดันอกกว้างที่โน้มต่ำลงทาบทับร่างพร้อมทั้งหนีบเรียวขาเข้าหากันต่อต้าน
“อย่าดิ้น!”
เสียงเข้มคำรามสั่ง ดวงตาขุ่นขลั่กด้วยถูกขัดใจของคมพัชญ์เงยขึ้นจากปมเสื้อคลุมก่อนตวัดมองคนใต้ร่างที่ดิ้นรนขัดขืน คนถูกขัดใจใช้ท่อนขาแข็งแรงดันเรียวขาเล็กให้แยกออกจากกันด้วยท่วงท่าน่าหวาดเสียว แววตาของผู้กระทำประสานสายตากับคนใต้ร่างอย่างหมายมาดให้รู้ไปเลยว่าจะไม่มีวันปล่อยให้หญิงสาวรอดมือ ในขณะที่สีหน้าคนถูกกระทำตระหนกจนใบหน้าไร้สีเลือดเมื่อรู้สึกไร้หนทางหลีกหนี
“แต่เรายัง เอ่อ... เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะคะ เราไม่ควรทำแบบนี้”
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นเธออย่าเพิ่งมั่นหน้าหวังไกลเรื่องงานแต่งเลย แผนโกยเงินของเธอกับพ่ออาจล้มเหลว เพราะถ้าเธอขัดใจฉัน ฉันจะถอนหมั้น แล้วเอาบ้านกับเงินที่พ่อฉันให้กลับคืน ทั้งหมด!”
คมพัชญ์แค่นยิ้มกับคำพูดของลันลาดาพลางกลอกตามองบนด้วยความรู้สึกหลากหลายแล้วสุดท้ายก็พยักหน้าหงึกหงักเมื่อคิดว่าพอจะเข้าใจจุดประสงค์ของหญิงสาว บ้านได้ไปแล้ว หนี้สินบิดาเขาก็เคลียร์ให้เรียบร้อย ทว่ายังเหลืออีกอย่างที่ลันลาดากับการันต์ยังไม่ได้ไปสมใจคือเงินสินสอดจากงานวิวาห์ นี่หญิงสาวกำลังคิดว่าเขาปรารถนาเรือนร่างนวลเนียนของเจ้าหล่อนจนตัวสั่นแล้วคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าอยู่ใช่ไหม จึงเอาเรื่องวิวาห์มาอ้างเพื่อกระตุ้นให้เราเร่งจัดงานหากอยากลิ้มรสเนื้อนุ่มของเจ้าหล่อน
‘ฝันไปเถอะ!’
สิ่งที่ลันลาดาคาดหวังจะกลายเป็นแค่ความฝันลมๆแล้งๆ คมพัชญ์แสยะยิ้มดูแคลนใส่ดวงตาตื่นๆ ริมฝีปากของเขาแย้มยิ้ม ทว่าดวงตากลับจงใจถ่ายทอดความสมเพชเวทนาในความโง่เขลาให้ลันลาดารับรู้ ก่อนตอกย้ำด้วยคำพูดที่แสดงให้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายคุมเกมตัวจริง พอใจเหลือเกินที่ได้เห็นเรียวหน้าสวยค่อยๆเผือดลงๆจนซีดสนิท จากนั้นชายหนุ่มก็ปล่อยแขนปล่อยขาให้คนใต้ร่างได้รับอิสระ คมพัชญ์ถอนตัวออกมายืนกอดอกมองร่างบางที่ยังนอนแผ่นิ่งอยู่บนเตียงนอนเหมือนคนไร้วิญญาณด้วยดวงตาราบเรียบแต่แฝงความอันตรายไว้เต็มเปี่ยมด้วยมาดของผู้ชนะ
“ตอนนี้ชะตาชีวิตของเธอกับพ่ออยู่ที่ความพอใจของฉันคนเดียว อยากตกอับ ไม่มีที่ซุกหัวนอนทั้งพ่อทั้งลูก ก็ลุกไป ฉันก็เริ่มรำคาญพวกไม่รู้สถานะตัวเองเต็มที สู้เข้าไปหากินในเมือง ไม่ต้องจ่ายถึงสามสิบล้านให้นั่งเสียดายทีหลัง แค่หมื่นสองหมื่นก็ได้ฟาดระดับนางงาม เอวอ่อน ร่อนเก่ง ไม่เรื่องมากน่ารำคาญเหมือนใครบางคน คุ้มจะตาย”
“พี่คม”
คำพูดว่าเจ็บร้าวแต่ยังน้อยนิดเมื่อเทียบกับดวงตาดูแคลนที่คมพัชญ์จงใจขว้างใส่ ลันลาดาครางเรียกชื่อคู่หมั้นเสียงอ่อนระโหย เบาแสนเบาราวคนจมน้ำใกล้หมดแรงเมื่อความน่ารักในวันวานแปรเปลี่ยนความน่ารำคาญในวันนี้ แต่กระนั้นก็มิอาจเรียกร้องความเมตตาจากชายหนุ่มได้เลย คมพัชญ์ยังคงยืนนิ่งเหมือนรูปปั้นไร้วิญญาณเช่นเคย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินตกกระทบหางตาด้วยความสิ้นหวังถาโถม ความเข้าใจผิดจนสร้างช่องว่างความสัมพันธ์ยังแก้ไขไม่ทันสำเร็จก็มีปัญหาใหม่ที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเข้ามาให้เธอหนักใจ ดวงตาขมขื่นปิดลงด้วยต้องการใช้ความคิด ร่างบางไหวสะท้านเมื่อคมพัชญ์ใช้ความอยู่รอดของบิดาผู้มีพระคุณเป็นเครื่องมือกดดัน แล้วเธอจะไปมีหนทางใดต่อสู้ได้อีกหรือ ริมฝีปากเม้มแน่นกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดรอดเมื่อคำตอบสุดท้ายที่ได้รับจากดวงตาเย็นชาคือ...ไม่มีเลย!
..................................................................................................................................................................
ความจริงเฉลยแล้วนะคะว่าพี่คมของภัคไม่ได้เป็นไบโพลาร์ แต่อิพี่มันได้ยินที่หนูลาดาคุยกับคุณพ่อต่างหาก เถียงอะไรไม่ได้ด้วยเพราะได้ยินเองกับหู เอาเป็นว่าเราเอาใจช่วยให้หนูลาดาเอาตัวรอดจากความเกรี้ยวกราดของอิพี่ให้ได้แล้วกันเนอะ
****************************************************************
แอบอ่อยตัวอย่างของวันพรุ่งนี้ไว้นิดหน่อย 555
“นมแบนเป็นลูกเกดแปะหน้าขนมปังแบบนี้ จะปิดไว้ทำไมนักหนา เอามือออก!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ