เร้นรักมธุรสลวง

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.

  39 ตอน
  3 วิจารณ์
  38.66K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) คนใจร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

‘ลาดาทำอะไรให้พี่คมโกรธเหรอคะ ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้’

 

สายน้ำเย็นๆจากฝักบัวที่พร่างพรมลงมาบนเรือนกายช่วยทำให้เย็นฉ่ำได้เฉพาะภายนอก แต่ภายในหัวใจดวงน้อยของลันลาดายังร้อนรุมครุ่นคิดไม่จางถึงความเปลี่ยนไปของพฤติกรรมคู่หมั้น นับตั้งแต่เมื่อไรกันที่คมพัชญ์ใจดีคนเก่าเริ่มเปลี่ยนไป ถ้าบอกว่าคนไม่คุ้นที่ดุเธอเสียงเหี้ยมคือแฝดลำดับที่สามเพิ่มขึ้นมาเธอคงเชื่อขาดใจ ลันลาดาหลับตาลงหลังยืนพิงแผ่นหลังกับผนังห้องน้ำปล่อยให้สายน้ำรินรดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่ได้คำตอบ มือบางจึงเอื้อมไปหมุนปิดฝักบัวก่อนใช้สันมือกรีดทั้งน้ำตาและน้ำอาบออกจากใบหน้า คว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดที่แขวนไว้บนราวซับหยดน้ำบนเรือนกายจนแห้ง จากนั้นจึงหยิบเสื้อคลุมผ้าขนหนูมาสวมทับ ระหว่างเดินออกมาจากห้องน้ำ สองมือก็ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำจากเส้นผมพลางคิดทบทวนอนาคตของตัวเองอย่างคนล่องลอย

 

“ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังจะสระผม เรื่องง่ายๆแค่นี้คิดไม่ได้หรือไงว่ามันอาจจะทำให้ป่วย”

 

“พี่คม! ขะ..เข้ามาตั้งแต่เมื่อไรคะ”

 

เสียงตะคอกดุทำลายภวังค์ของคนคิดกังวลจนแตกกระเจิง ปลายเท้าบอบบางชะงักกึก ก่อนเงยหน้าตื่นๆขึ้นมองเจ้าของเสียง คนที่กล้าบุกรุกห้องเธอก็มีแต่คมพัชญ์นั่นแหละไม่ใช่ใคร ชายหนุ่มในชุดนอนเข้าชุดสีเทาเข้มนั่งเอนหลังชันแขนอยู่ตรงปลายเตียง ใบหน้าที่มองมาเรียบเฉยแต่แววตากลับจ้องเขม็งมายังเส้นผมเปียกชื้นที่เธอกำลังใช้ผ้าขนหนูซับน้ำ ท่าทางอย่างนั้นทำให้ลันลาดาไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองว่าคมพัชญ์เป็นห่วง คงหาเรื่องดุเธอมากกว่า

 

“เออ ฉันเอง ฉันที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ จะมีปัญหาอะไรไหมล่ะที่จะเข้ามา”

 

“ไม่มีค่ะ”

 

เจ้าของบ้านสุดกร่างทวงสิทธิ์มาขนาดนี้แล้วคนที่เป็นเพียงผู้อาศัยหรือจะกล้ามีปากมีเสียง ลันลาดาก้มหน้าลงต่ำหลบสายตาคมดุ กลัวว่าหากกล้าสบตาแล้วชายหนุ่มจะกล่าวหาว่าเธอมองหน้าหาเรื่องอีกข้อหา น่าน้อยใจนัก เธอก็แค่ถามออกไปเพราะคาดไม่ถึงว่าอยู่ๆคนปล่อยให้เธอยืนตากน้ำค้างเกาะระเบียงรอเก้อถึงสองคืนจะเข้ามานั่งรอถึงในห้อง เมื่อครู่ก็เพิ่งไล่เธอให้ไปพ้นหน้าด้วยความรำคาญ แค่สงสัยเธอก็ไม่ได้เหรอ ถามแค่นี้ทำไมคมพัชญ์ต้องตะคอกใส่เธอด้วย ทำไมถึงกลายเป็นว่าเธอทำอะไรก็กลายเป็นผิดไปหมดในสายตาของเขา

 

“แล้วใครสั่งใครสอนให้สระผมก่อนนอน”

 

ยัง! คมพัชญ์ยังไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆ ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงพลางกอดอก แววตาคู่คมจ้องมาเขม็ง ท่าทางเหมือนผู้พิพากษากำลังซักฟอกจำเลยในศาลไม่มีผิด ถามเหมือนด่าแบบนี้ แล้วลันลาดาจะตอบอย่างไรได้นอกจากรับความผิดไว้คนเดียว

 

“ไม่มีค่ะ”

 

“แล้วสระทำไม!” เหมือนคมพัชญ์จะพูดด้วยโทนเสียงปกติไม่เป็นซะแล้วถึงได้ตะคอกใส่ลันลาดาไม่เลิก

 

“ช่างทำผมฉีดสเปรย์ให้ ผมมันเหนียวค่ะ ลาดานอนไม่หลับ”

 

เรียวปากบางเม้มแน่นด้วยความพยายามยิ่งยวดที่จะไม่ให้น้ำตาที่คลอขังขอบตามันไหล ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วตอบไปตามความจริงเสียงแผ่วเบาเพราะไม่รู้ว่าตอบไปแล้วจะโดนดุกลับมาอีกหรือเปล่า ไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายมากมายเชียวหรือกับแค่การสระผมก่อนนอนให้เนื้อตัวสะอาดโล่ง จะได้นอนหลับสบาย ไม่เข้าใจเลยว่าคมพัชญ์จะทำให้มันเป็นความผิดร้ายแรงทำไม

 

“ยืนบื้ออยู่ทำไม ไปหยิบไดร์เป่าผมมาสิ” ปล่อยผมเปียกนานๆ เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัด

 

ลันลาดาเหลือบหน้าขึ้นมองเสี้ยวหน้าของคนดุ เห็นคมพัชญ์นั่งกอดอกหายใจฮึดฮัดเม้มปากแน่นอย่างคนเจ้าอารมณ์ก็รีบก้มหน้าหนี ได้แต่คิดว่าเธอผิดอะไรอีกแล้วหนอ แต่ไม่มีเวลาให้ยืนคิดนานเมื่อถูกดวงตาคู่คมมองกดดัน ลันลาดาจำต้องเดินเลี่ยงไปหยิบไดร์เป่าผมตรงโต๊ะเครื่องแป้งแล้วกลับมายืนงงอยู่ตรงหน้าคนเจ้าอารมณ์ อันที่จริงถ้าคมพัชญ์ไม่เข้ามาเธอก็คงกำลังนั่งเป่าผมด้วยความร้อนจนใกล้แห้งไปแล้ว แต่พอมีคนตัวโตคอยนั่งจ้องทุกฝีก้าวจึงไม่รู้ว่าต้องทำตัวเช่นไร และท่าทางเงอะงะก็น่ารำคาญจนคมพัชญ์ต้องกระชากร่างบางลงมานั่งบนตัก พร้อมดึงไดร์เป่าผมสีชมพูมาถือไว้เสียเอง

 

“พี่คม! จะทำอะไรคะ”

 

“ป้อนหญ้าให้ควายมั้ง นั่งนิ่งๆ!”

 

นี่ล่ะที่โบราณว่า...ลองได้มีครั้งแรก เชื่อขนมกินได้เลยว่าครั้งสอง สาม สี่ห้าจะตามมาติดๆ เหมือนดังเช่นคมพัชญ์ที่เผลอแสดงมุมมืดอีกด้านที่ซ่อนไว้ของผู้ชายสายดาร์กด้วยการตะคอกใส่ลันลาดาด้วยอารมณ์ฉุนโกรธเมื่อครั้งอยู่ในงานเลี้ยง ลามเรื่อยมาจนนับไม่ถ้วนว่ากี่ครั้งแล้วที่ชายหนุ่มคำรามเสียงแข็งใส่คู่หมั้น และมาถึงครั้งนี้คมพัชญ์ก็ลืมตัวพลั้งปากประชดกลับด้วยถ้อยคำเปรียบเทียบหยาบคายกับคำถามโง่ๆที่ลันลาดาถามหน้าตาตื่นทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าเขากำลังจะเป่าผมให้ เมื่อพูดไปแล้วและเอาคืนกลับไม่ได้ คนพูดจึงได้ยักไหล่ปล่อยเลยตามเลย คงมีเพียงลันลาดาที่ยังนั่งอ้าปากค้างเหมือนยังช็อกไม่หายที่อยู่ๆก็กลายเป็นควายในสายตาของคู่หมั้น

 

‘ว่าที่เมียกู ขวัญอ่อนจริง!’

 

ร่างอ้อนแอ้นถูกจับให้นั่งทับบนตักแกร่ง แผ่นหลังเนียนแนบชิดกับอกแข็งกระด้าง ลันลาดานั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาตัวน้อยให้คมพัชญ์จับพลิกจับหมุนตามใจชอบไม่หือไม่อือตั้งแต่ถูกเปรียบเทียบเป็นควายจนถึงตอนนี้ที่มือใหญ่ใช้ไดร์เป่าผมเปียกชื้นจนใกล้แห้งเต็มทีหญิงสาวก็ยังไม่กระดิกตัว นิ่งจนคมพัชญ์ต้องชะโงกหน้าไปมองให้แน่ใจว่าหญิงสาวยังมีชีวิตอยู่ ดวงตากลมมองไปตรงหน้าดูเลื่อนลอย เบาะมีชีวิตจึงลงความเห็นว่าลันลาดาคงตกใจกับพฤติกรรมก้าวร้าวของว่าที่สามีจนช็อก คิ้วเข้มขมวดครุ่นคิดว่าตัวเองทำผิดไปหรือเปล่า แต่สุดท้ายก็คลายออกเมื่อคมพัชญ์ลงความเห็นว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขา ซึ่งลันลาดาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้และรับมันให้ได้ เพราะหญิงสาวคือว่าที่เมียในอนาคตอันใกล้ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าคำว่า ‘เมีย’ นั้นทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มอ่อนออกมา

 

“เสร็จซะที”

 

ทันทีที่เสียงไดร์เป่าผมในมือคมพัชญ์เงียบลง เสียงถอนหายใจเหนื่อยหน่ายก็กระทบโสตประสาต ตามมาด้วยคำพูดเหมือนตัวเองเป็นภาระที่คมพัชญ์ต้องแบกรับทำให้คนฟังก้มหน้าเม้มริมฝีปากแน่นด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะสะดุ้งจนไหล่กระตุกเมื่อคมพัชญ์โยนไดร์เป่าผมกระแทกกับชั้นวางของตรงหัวเตียงด้วยความรำคาญ มันเป็นช่วงเวลาที่อึดอัด แค่จะหายใจยังรู้สึกว่ามันลำบาก ลันลาดาไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอย่างไรต่อไป จะลุกขึ้นจากตักแกร่งได้เลยไหม หรือหากเลือกนั่งนิ่งแล้วเจ้าของตักเขาเต็มใจหรือเปล่า อากาศในห้องนอนเย็นสบายแต่สองมือที่บีบกันแน่นกลับชื้นเหงื่อ

 

“ฉันต้องขอบใจเธอสินะที่อุตส่าห์นั่งนิ่ง ยอมให้ฉันได้มีโอกาสเป่าผมให้น่ะ”

 

“ขอบคุณค่ะพี่คมที่เป่าผมให้ลาดา” โดนดุอีกจนได้

 

คำประชดระคนแดกดันของคมพัชญ์ดั่งหนามแหลมที่ทิ่มแทงจนลันลาดาต้องรีบดีดตัวขึ้นจากตักแกร่งก่อนพนมมือขึ้นไหว้แล้วอุบอิบขอบคุณเสียงเบา เพียงเสี้ยววินาทีที่เงยหน้าสบตา ลันลาดาก็รีบก้มหน้าลงมองปลายเท้าของตัวเองเพราะรับรู้ได้ว่าความไม่พอใจของคู่หมั้นยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม คนผิดแบบไม่ได้ตั้งใจลอบถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า อยากร้องไห้แต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้จนกระบอกตาร้อนผ่าว เพราะเธอทำอะไรก็ดูคล้ายจะไม่ถูกใจคมพัชญ์เอาเสียเลย ผิดจนเธอไม่รู้จะสำนึกเรื่องไหนก่อนแล้ว

 

“ไม่อยากเป็นภาระ วันหลังก็อย่าสระผมดึกๆอีก”

 

“ลาดาจะไม่ทำอีกค่ะ”

 

แล้วมันก็เกินกว่าที่ตัวภาระหน้าหวานจะอดรนทนไหวเมื่อคำว่า ‘ภาระ’ นั้นออกมาจากปากได้รูปของคนที่เป็นคู่หมั้น พอรับคำจบ หยดน้ำใสๆจากดวงตาแดงช้ำก็ตกกระทบหลังเท้า ไม่ใช่แค่หยดเดียว แต่มันเรียงไล่ตามมาหยดแล้วหยดเล่าไม่ขาดสายจนหลังเท้าขาวสะอาดเปียกชื้น ก่อนสันมือบางจะรีบปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงคำรามในลำคอด้วยความไม่พอใจของคมพัชญ์ ชายหนุ่มคงนึกรำคาญผู้หญิงเจ้าน้ำตาอย่างเธอเป็นแน่

 

‘เฮอะ! เอะอะๆก็ร้องไห้ ผู้หญิง!’

 

ไม่รู้ว่าเป็นไปตามอารมณ์หรือจงใจแสดงออกให้อีกคนที่ยืนร้องไห้รู้ตัวว่ากำลังทำเรื่องน่ารำคาญ คมพัชญ์ถึงได้ถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ ชายหนุ่มนั่งกอดอกจ้องผู้หญิงที่ยืนก้มหน้าตรงหน้าตัวเอง ลิ้นสากดุนดันกระพุ้งแก้มเมื่อเห็นไหล่บางขยับขึ้นลงตามแรงสะอื้นที่ไร้เสียง คมพัชญ์ยักไหล่ น่าเบื่อสิ้นดี ไม่แคร์หรอกกับน้ำตาของคนอ่อนแอ เขาเจอมาเยอะจนเบื่อ ทั้งพวกคนงานที่ทำผิดกฎและผู้หญิงที่พยายามพาตัวเข้ามาใกล้ น้ำตาไม่เคยมีผลต่อความรู้สึกของผู้ชายใจกระด้างที่ชื่อคมพัชญ์ บารมีเสียดฟ้า ไม่เคยมี!

 

“เลิกร้องได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบาย” ยกเว้นคนเดียวก็ได้วะ!

 

ปล่อยให้ลันลาดายืนร้องต่อไป มีหวังน้ำตาคงหมดตัว เดี๋ยวได้เป็นลมเป็นแล้งให้ปวดหัวเอาได้อีก ตัวยิ่งเล็กๆอยู่ คมพัชญ์ถอนหายใจเฮือกก่อนดึงแขนเรียวเข้าหาแล้วจับร่างอ้อนแอ้นนั่งทับลงมาบนตัก ชายหนุ่มจำต้องกัดฟันข่มกลั้นความต้องการที่โพยพุ่งขึ้นมาฉับพลันกับเนื้อแท้ของลันลาดาที่สัมผัสต้นขาด้วยการดึงร่างเล็กเข้ามาชิดอกแล้วกอดปลอบ ทว่าลูบศีรษะก็แล้ว โยกตัวเห่กล่อมก็แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย ไม่อย่างนั้นที่อกเสื้อนอนของเขาคงไม่เปียกชุ่มเหมือนถูกน้ำสาด

 

‘กรรมติดจรวดสินะ’

 

คนไม่เคยใจอ่อนให้น้ำตาของใครกลอกตามองบนแล้วคิดว่านี่เป็นเวรกรรมหรือเปล่า เพราะเขาเป็นคนหน้าเหี้ยม เสียงโหด ชอบดุเวลาลูกน้องทำงานไม่ได้อย่างใจจนบรรดาคนงานขยาดไม่กล้าเข้าใกล้ และทำให้ใครหลายคนเสียน้ำตา กรรมที่ทำกับคนอื่นไว้มากจึงทำให้เขาต้องมีเมียขวัญอ่อนและเปราะบางเหมือนแก้วใสที่พร้อมจะแตกเป็นเสี่ยงๆเพียงแค่เผลอใช้น้ำเสียงเข้มไปนิด คมพัชญ์ถอนหายใจอีกระลอกพลางคิดว่าต่อไปการพูดเสียงดังคงเป็นเรื่องต้องห้ามสำหรับตัวเอง ไม่อย่างนั้นคนขี้ตกใจอย่างลันลาดาคงนั่งร้องไห้ตาบวมไม่เว้นวัน แล้วน้ำตาของเจ้าหล่อนก็มีฤทธิ์ไม่ต่างจากน้ำกรด เห็นคราใดที่อกข้างซ้ายก็ร้อนวูบวาบไปด้วยทุกที

 

“ลาดา แหวนหายไปไหน”

****************************************

กราบความปากร้ายของอิพี่ อยู่ใกล้ๆจะเอาไม้เรียวตีปากให้ ฮึ่ม!

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา