เร้นรักมธุรสลวง
เขียนโดย Phaky
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.20 น.
แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2562 13.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) เฝ้ารอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“ไม่ต้องล็อกประตูหลังห้องนะ คืนพรุ่งนี้พี่จะมาหาอีก”
คำพูดของคมพัชญ์ที่สั่งไว้ก่อนชายหนุ่มจะปีนบันไดกลับลงไปเกือบเที่ยงคืนของคืนวานยังดังก้องในหูชัดเจน ส่งผลให้คืนนี้ลันลาดานั่งแปรงผมไม่ค่อยเป็นสุขนัก ตาหรือก็คอยมองไปยังประตูหลังห้องนอนอยู่เป็นระยะ หูก็คอยฟังเสียงก้อนหินเหมือนอย่างที่คมพัชญ์ใช้โยนให้สัญญาณแบบคืนก่อน ยอมรับว่าทุกครั้งที่ผินหน้ามองประตูก็คาดหวังว่าจะมีร่างสูงของชายหนุ่มยืนรอให้เธอออกไปหา แต่อีกใจหรือก็กลัวบิดาหรือคนอื่นๆในบ้านจะรู้ไม่น้อย ลันลาดามองสลับมาที่ประตูหน้าห้อง ไม่รู้เลยว่าหากคนในบ้านจับได้แล้วจะส่งผลอย่างไรบ้าง เธอจะถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีไหม หรือคมพัชญ์จะโดนลงโทษหรือเปล่า ความรู้สึกของลันลาดาตอนนี้จึงไม่ต่างจากเด็กน้อยที่ริอ่านเกเรแอบทำผิดลับหลังผู้ปกครอง หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะเอาเสียเลย มันผสมปนเประหว่างความตื่นเต้นกับความกลัว จากที่เคยนั่งหาวตั้งแต่สองทุ่มเศษ มาตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว แต่ดวงตากลมกลับสว่างสุกใส ไม่มีวี่แววว่าจะง่วงเลย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ดวงตากลมกำลังจดจ้อง พะวักพะวงอยู่กับประตูหลังห้อง ทว่าเสียงเคาะกลับดังขึ้นมาจากประตูด้านหน้าเสียนี่ ร่างบางผวาเฮือก สองมือเผลอกำชายเสื้อคลุมที่สวมทับชุดนอนสีหวานแน่นด้วยความตื่นตกใจ ใบหน้าซีดเซียวชื้นเหงื่อมองกลับไปกลับมาระหว่างประตูด้านหน้ากับด้านหลัง ยิ่งเสียงเรียกจากด้านนอกคือการันต์ ลันลาดาก็ยิ่งตระหนก คนไม่เคยเกเรลนลานจนทำตัวไม่ถูกแล้วตอนนี้ เมื่อนาทีก่อนยังอยากให้คมพัชญ์ขึ้นมาเร็วๆ แต่วินาทีนี้กลับภาวนาว่าอย่าเพิ่งให้ชายหนุ่มปีนขึ้นมาเลย ไม่งั้นเกิดเรื่องใหญ่แน่ ร่างบางผุดขึ้นเดินวนไปเวียนมาเหมือนหนูติดจั่น กระทั่งเสียงเคาะที่หน้าประตูดังซ้ำอีกครั้งพร้อมเสียงที่ถามตามมาด้วยความเป็นห่วง คิดอะไรไม่ออก ลันลาดาจึงตัดสินใจวิ่งไปเปิดประตูรับการันต์ ก่อนตัวเองจะบาปไปมากกว่านี้ที่ทำให้ท่านกังวลใจ
“คุณพ่อ ยังไม่นอนอีกเหรอคะ”
“แล้วหนูล่ะลูก พ่อเดินผ่าน เห็นไฟเปิดอยู่ เลยแวะมาคุยด้วย”
ธรรมดาของคนเป็นพ่อที่มีความห่วงใยให้ลูก แล้วยิ่งเป็นลูกสาวที่อ่อนต่อโลกอย่างลันลาดา การันต์ก็ยิ่งเพิ่มความห่วงใย หลังจากเดินผ่านห้องพักของลูกสาวแล้วเห็นแสงไฟตรงช่องใต้ประตูซึ่งไม่น่าจะมีเพราะล่วงเลยเวลาเข้านอนของลันลาดามาพักใหญ่แล้ว การันต์จึงอดเป็นห่วงไม่ได้ กลัวว่าบุตรสาวจะไม่สบายใจเรื่องที่ต้องพักอยู่ที่ไร่บารมีเสียดฟ้าต่อเพียงลำพังจนนอนไม่หลับ คนเป็นพ่อที่เพิ่งแยกมาจากห้องทำงานของพ่อเลี้ยงนภัทรจึงจำเป็นต้องเข้ามาถามไถ่อีกครั้งให้รู้ความ
“คือ...ลาดานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะ”
‘ลาดาขอโทษค่ะคุณพ่อ แต่ลาดาจำเป็นต้องพูดปด’
หลังจากพากันมานั่งตรงปลายเตียงนอนสีหวาน ใบหน้าซีดขาวก็ก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าสบตากับบิดาด้วยทั้งกลัวและรู้สึกผิดที่โกหกท่าน แต่กระนั้นก็ไม่ลืมเหลือบสายตามองไปยังหลังห้อง เบาใจขึ้นนิดที่ตรงราวระเบียงยังว่างโล่ง
“พรุ่งนี้เช้าพ่อก็ต้องกลับแล้ว”
นั่งมองหน้าบุตรสาวอยู่นานก่อนที่การันต์จะถอนหายใจเฮือกแล้วเอ่ยคำนี้ออกมา ตระหนักว่าเขาเพิ่งได้มีเวลาคุยกับบุตรสาวจริงจังก็ตอนนี้ เพราะตอนกลางวันลันลาดาจะกลายเป็นตุ๊กตาตัวน้อยให้คมพัชญ์ลากจูงตามติดตัวไปทุกที่ แม้แต่คนเป็นพ่ออย่างเขายังเข้าหาลูกสาวลำบาก แต่นั่นก็เพราะเห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังก้าวหน้า และว่าที่ลูกเขยก็ยังไม่ได้ทำอะไรให้ลันลาดาเสียหาย พ่ออย่างเขาจึงเลือกจะคอยมองอยู่ไกลๆ ไม่เข้าไปก้าวก่ายความสัมพันธ์
“พี่เขาอยากให้ลาดาอยู่ที่นี่ต่อ หนูจะว่าไงลูก”
“หนู... แล้วแต่คุณพ่อค่ะ”
ลันลาดาก้มหน้าจนปลายคางกับคอแทบสัมผัสกัน ระบบภายในร่างกายของหญิงสาวคงแปรปรวนไม่น้อย เพราะเมื่อครู่ตอนการันต์เข้ามา ใบหน้าของหญิงสาวยังซีดเผือดอยู่เลย แต่ตอนนี้เลือดกลับพากันมาหล่อเลี้ยงจนใบหน้าเรียวแดงก่ำทันทีที่ถูกบิดาซักถาม นั่นเพราะเกือบหลุดปากตอบรับท่านตามความรู้สึก แต่พอนึกได้ว่ามันเป็นกิริยาที่ไม่งามนัก ลันลาดาจึงเลือกโยนให้เป็นการตัดสินใจของการันต์แทน แต่ก็เดาได้ว่าท่านคงไม่มีปัญหาอะไร
“ลาดา หนูอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”
การันต์ลอบถอนหายใจเมื่อนึกถึงตอนที่ได้คุยกับพ่อเลี้ยงนภัทรว่าลูกชายคนเล็กของเพื่อนจะขอสวมแหวนหมั้นลันลาดาเอาไว้ก่อน ยอมรับว่าตอนแรกที่ได้ยินเขาดีใจมาก แต่พอเพื่อนสนิทกล่าวต่อว่านอกจากหมั้นหมาย คมพัชญ์ยังอยากให้ลันลาดายังพักอยู่ที่ไร่ตามเดิมเขาก็เริ่มคิดหนัก หนึ่งคือยังไม่ได้ถามความสมัครใจของบุตรสาว และสองคือกลัวว่าลันลาดาจะถูกคนนอกมองไม่ดีที่มาอยู่บ้านฝ่ายชายตามลำพัง แต่ก็รู้อีกนั่นแหละว่าคำถามของพ่อเลี้ยงนภัทรนั้นมีคำตอบชี้ชัดอยู่ในนั้นแล้ว การมาปรึกษาแบบนี้ นั่นก็แสดงว่าเพื่อนสนิทเห็นด้วยกับความคิดของคมพัชญ์ แล้วพอเขาอึกอัก พ่อเลี้ยงนภัทรก็ออกตัวเป็นประกันแทนลูกชายอีก แบบนี้เขาจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร
“ที่นี่ ทุกคนใจดีแล้วก็น่ารักกับหนูมาก คุณพ่อไม่ต้องกังวลนะคะ หนูอยู่ได้ค่ะ”
ไม่ได้กล่าวเกินจริงเพื่อหลอกให้บิดาคลายกังวลเลยสักนิด ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบเท้าเข้าสู่เขตไร่บารมีเสียดฟ้า ลันลาดาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นเสมือนที่นี่คือบ้านของเธออย่างไรบอกไม่ถูก ตอนแรกก็นึกว่าเธอคิดไปเองเพื่อสร้างขวัญกำลังใจข่มความประหม่า แต่เวลาไม่นานก็ได้รู้ว่ามันคือเรื่องจริง พ่อเลี้ยงนภัทรกับกวินพลต่างให้ความเอ็นดูเธอทำให้ความเกร็งของเธอลดเลือน ส่วนคมพัชญ์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มาวันแรกก็ลากเธอตามติดตัวไปทุกที่จนแม่บ้านกับเหล่าคนงานในไร่ให้ความเคารพเหมือนเธอเป็นเจ้านายอีกคนของไร่
“ลาดา หนูคิดยังไงกับคมพัชญ์ ชอบพี่เขาหรือเปล่า”
มืออุ่นของการันต์เชยใบหน้าเรียวของลันลาดาให้แหงนขึ้นสบตาก่อนถามออกไปเสียงเรียบ เพราะคำว่า ‘ทุกคนที่นี่’ ที่ลันลาดาเหมารวมมันยังไม่ชัดเจนพอสำหรับการันต์ ยอมรับว่าอารมณ์ก่อนมากับตอนนี้มันค่อนข้างต่างกัน ตอนแรกเขามัวแต่ให้ความสนใจเรื่องฐานะเป็นหลักจึงไม่คิดอะไรมากไปกว่าผลักดันให้ลันลาดาได้เป็นสะใภ้ตระกูลเศรษฐี แต่พอมาอยู่ที่ไร่แล้วได้มีเวลาจับตามองปฏิกิริยาของบุตรสาว รอยยิ้มแช่มชื่นของลันลาดาทำให้การันต์ฉุกคิดว่าที่ผ่านมาเขามักจะคิดแทนและพยายามยัดเยียดสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดให้ลูกสาวตลอด แทบไม่เคยถามความคิดเห็นของลูกเลย ก่อนจะปล่อยให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไป จึงอยากถามลันลาดาให้แน่ชัดว่าความหวังดีของพ่อคนนี้ไม่ได้เป็นการทำร้ายลูกทางอ้อม
“หนูเต็มใจจะเป็นเจ้าสาวของพี่เขาใช่ไหม”
หากไม่ตรึงปลายคางเรียวค้างไว้คืนนี้ทั้งคืนคงไม่ได้คำตอบ เพราะทันทีที่ถามจบ คนถูกถามก็รีบก้มใบหน้าแดงเถือกหนีสายตาบิดา แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับการันต์ คนเป็นพ่อหัวเราะถูกใจพลางตำหนิตัวเองที่ลืมไปว่าบุตรสาวนั้นขี้อายแสนอาย จะให้มาบอกความรู้สึกแบบนี้ลันลาดาคงกระดากปาก อันที่จริงประกายความสุขสดชื่นที่ปรากฏชัดอยู่ในดวงตากลมๆนั่นยามลันลาดาอยู่กับคมพัชญ์ก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว เด็กสองคนนี่นอกจากเหมาะสมแล้วยังมีใจตรงกัน แค่นี้การันต์ก็รู้สึกสบายใจจนไม่รู้สึกห่วงอะไรอีกหากต้องทิ้งลันลาดาไว้ที่ไร่นี้ตามลำพัง
“เรื่องบ้านกับเงินที่คุณพ่อยืมลุงภัทรมาล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง”
เพราะเขินจนไม่รู้จะเขินอย่างไรแล้วกับสายตากรุ้มกริ่มล้อเลียนของบิดาที่มองอยู่ ลันลาดาจึงจำเป็นเหลือเกินที่ต้องดึงความสนใจของการันต์เป็นเรื่องอื่น
“ไม่ต้องห่วงลูก บ้านหลังนั้นยังเป็นของเราเหมือนเดิม เงินเกือบสามสิบล้านที่พ่อยืมมา ลุงภัทรยกหนี้ให้แล้วตั้งแต่วันที่หนูตอบตกลงมาดูตัวที่นี่”
“แล้วสินสอด...”
สบายใจไปแล้วที่บ้านแห่งความทรงจำยังคงเป็นของครอบครัวเหมือนเดิม เงินที่การันต์ยืมมาก็ใช้จ่ายไปกับการจัดการปัญหาในบริษัทหมดแล้ว แต่ที่ลันลาดาเป็นกังวลก็เงินสินสอดนี่แหละที่เป็นความหวังใหม่ที่บิดาจะใช้กอบกู้บริษัทให้กลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง
“ไม่ต้องกังวลนะลูก ลุงภัทรจะโอนให้พ่อในวันแต่งงานของหนูกับพี่เขา”
มืออุ่นของการันต์ลูบศีรษะยอดดวงใจด้วยความรักและเอ็นดูที่จนป่านนี้ลันลาดาก็ยังนึกถึงแต่เรื่องของเขามากกว่าตัวเอง โบราณว่ามีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมตั้งไว้หน้าบ้าน แต่โชคดีของเขายิ่งนักที่ลันลาดากลับไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่ต้องหนักใจเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายก็ที่หนึ่ง กิริยามารยาทแช่มช้อยไม่เป็นสองรองใคร ลูกสาวเขาแม้จะอ่อนโยนจนดูคล้ายอ่อนแอ แต่ในยามที่ครอบครัวเดือดร้อน ลันลาดากลับเข้มแข็งและกล้าหาญยิ่งนัก หญิงสาวตกปากรับคำทันทีที่รู้ว่าการแต่งงานจะช่วยกู้วิกฤติของครอบครัวให้กลับคืนโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ และนี่คงเป็นผลบุญที่ย้อนกลับมาตอบแทนการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ เพราะลันลาดาโชคดีเหลือเกินที่ได้รับความรักความเอ็นดูจากสมาชิกตระกูลบารมีเสียดฟ้า การันต์ส่ายหน้ายิ้มๆเมื่อนึกถึงความขี้เห่อของพ่อเลี้ยงนภัทรกับสองแฝด ทั้งสามหนุ่มปฏิบัติต่อลันลาดาราวกับหญิงสาวคือเจ้าหญิงน้อยๆเชียวล่ะ
“ดึกแล้วหนูนอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้หน้าตาสดชื่น”
การันต์ถอนหายใจก่อนอ้อมแขนอบอุ่นของท่านจะรั้งร่างบางเข้ากอดเมื่อนึกถึงหลายๆอย่างที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้ คงไม่มีอะไรต้องเป็นกังวลอีกแล้วสำหรับมนุษย์พ่อคนหนึ่งที่กำลังจะส่งนางฟ้าตัวน้อยให้ผู้ชายเข้มแข็งอย่างคมพัชญ์รับช่วงดูแลต่อ กอดบุตรสาวจนหนำใจคนเป็นพ่อจึงเอ่ยบอกให้ลันลาดาเข้านอน ซึ่งลูกสาวคนสวยก็เอนตัวนอนลงอย่างว่าง่าย จากนั้นการันต์ก็ทำหน้าที่ห่มผ้าคลุมทับร่างบาง จูบหน้าผากเนียนราตรีสวัสดิ์เรียบร้อยก็เดินออกไปจากห้องเพื่อเตรียมตัวพักผ่อนเช่นกัน โดยไม่รู้เลยว่าทันทีที่ประตูห้องปิดลง ดวงตาที่ปิดของลันลาดานั้นลืมขึ้นพร้อมกับดีดตัวขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงแล้วหันหน้ามองไปทางประตูหลังห้องทันที เพื่อมองหาใครบางคนที่สัญญาว่าจะมาหากันทุกคืน
........................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ