Counter Gods! ลงฟาร์มให้เลเวลขึ้น แล้วไปบึ้มพวกต่างดาวกันเถอะ!
-
เขียนโดย NE_INK
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.39 น.
1 ตอน
0 วิจารณ์
2,095 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 15.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ ภาค เด็กผู้กำเนิดจากสองดวงดาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความPrologue
เคยตั้งคำถามหรือไม่ว่าตำนานทั้งหลายบนโลกใบนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร
เทพเจ้าเอย ปีศาจเอย วีรบุรุษเอย พวกเขาเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการ,ศาสนาหรือความรู้สึก แต่มันจะใช่แบบนั้นจริงๆน่ะหรือ หากว่าลองจับจุดสังเกตได้เราจะสามารถค้นพบความเชื่อมโยงที่ลงตัวกันในเรื่องเล่าของพวกเขา เกิดเป็นรูปร่างและมิติที่สมจริงเกินไป
“จะบอกว่าพวกนั้นมีจริง? เฮ้~พวก ไม่เอาน่า มาล้อเล่นกันก็ควรคิดมุกที่มันแจ่มๆกว่านี้นะพวก”
คำถามหลุดมาจากปากชายหนุ่มผิวสีที่ทำหน้าไม่เชื่อให้เห็นอย่างไม่ปกปิด ดวงตาสีน้ำตาลที่จ้องมองสื่อเป็นนัยๆว่าคู่สนทนาของเขากำลังเพ้อเจ้อหรือไม่ก็เป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ใช่ ที่ฉันกำลังเล่าให้คุณๆทั้งหลายได้รับรู้ก็เพื่อที่จะบอกถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฟังให้ดีนะ พวกเขามีอยู่จริง”
ชายหนุ่มที่ถูกหาว่าบ้ายิ้มน้อยๆแล้วพูดยืนยันด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบคล้ายไม่ใส่ใจกับท่าทางที่อีกฝ่ายได้แสดงออกมาแบบนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งชายหนุ่มคนนี้ยังใช้คำว่าคุณๆเนื่องจากว่าคนที่นั่งอยู่บนบาร์เดียวกันต่างกับเงี่ยหูฟฟังอย่างตั้งใจพร้อมเผยเสียงหัวเราะขบขันออกมาด้วย
“พวกคุณไม่เชื่อหรอก แต่ผมจะขอแนะนำอะไรสักอย่างนะ”
ชายหนุ่มยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว ก่อนที่คู่สนทนาผิวสีจะยิ้มเยาะแล้วยักไหล่เล็กน้อย
“ว่ามาสิพ่อหนุ่มแฟนตาซี”
คำกล่าวนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบๆได้ดี แต่ชายหนุ่มที่ถูกพูดเหมือนเป็นตัวตลกกลับยิ้มรับแล้วตอบกลับอย่างสุภาพ
“เปิดทีวีไปที่ช่องที่ 37 เถอะ”
บาร์เทนเดอร์อ้วนฉุเลิกคิ้วแล้วเดินไปกดปุ่มเปิดทีวีโดยที่สายตายังคงจ้องมองอีกฝ่ายไปพร้อมกับยิ้มเยาะออกมา
ช่องที่ 37 เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นช่องที่มีการรายงานข่าวสถานการณ์ที่วิกฤติ เป็นช่องที่เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆมาออกอากาศเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปพร้อมที่จะรับมือกับเหตุฉุกเฉิน หากว่าในขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่จะถูกหยิบมาออกอากาศก็คือข้อมูลเหตุการณ์วิกฤติในหน้าประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการทบทวนให้ทุกๆคนจดจำเกี่ยวกับมันได้และพร้อมที่จะรับมือกับมันได้อย่างทันท่วงทีหากว่ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองที่มีภาพของนักข่าวสาวปรากฏขึ้น ข้างๆขอบจอบนขวาเป็นรูปที่กำลังถูกถ่ายทอดสดมาจากที่ไหนสักแห่ง เป็นภาพของสสารคล้ายหมอกสีฟ้าที่หนาแน่นกระเพื่อมไปมาอยู่เหนือน่านฟ้า สสารนั้นกระเพื่อมไหวจัดรูปทรงเป็นทรงกลมที่หนาแน่นจนในที่สุดก็ค่อยๆบิดเบือนบรรยากาศไปทีละน้อยอีกทั้งความเร็วยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ฮูมมมม
ลมกรรโชกพัดอย่างรุนแรง สสารสั่นไหวอย่างรุนแรง ช่องว่างตรงกลางทรงกลมที่ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ได้แปรสภาพเป็นเสมือนโพรงลึกลับอันมืดมิด ร่างขนาดมหึมาพุ่งพรวดออกมาจากช่องว่าง ในตอนนั้นเองที่เสียงอุทานกรีดร้องได้หลุดออกมาจากปากของคนในบาร์
มังกรเกล็ดสีดำขนาดตัวมหึมากระพือปีกคำรามก้อง กล้ามเนื้อกำยำและตัวของมันสูงกว่าตึก 20 ชั้นเสียอีก มันไม่รอคอยให้ใครที่ไหนได้ตั้งหลักทั้งสิ้น เปลวเพลิงได้ก่อตัวและระเบิดออกเป็นลำแสงสาดกระจายทำลายล้างตึกจนพินาศ และพริบตาต่อมาภาพที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ก็ถูกตัดขาดไป นักข่าวสาวพยายามเรียกชื่อคนที่อยู่ต้นทางการถ่ายทอดสดแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ใบหน้าของเธอซีดเผือดเป็นการบ่งบอกชัดเจนว่านี่ไม่ใช่การอำเล่น
“โอ๊ะ...เจิมด้วยมังกรเลยเหรอ!”
ชายหนุ่มร้องขึ้นขณะที่หัวเราะเฮะๆพลางเดินออกมาจากร้าน ท่ามกลางสายตาที่แฝงไปด้วยอารมณ์หวาดกลัวระคนตกใจของผู้คน ไม่มีใครขวางทางเขา ไม่มีใครเอ่ยปากพูดหรือถามคำถามอะไรชายหนุ่มคนนี้แม้เพียงครึ่งคำ
“ฉะ ฉันต้องรีบกลับไปหาลูกที่บ้าน”
“ส่วนฉันต้องรีบไปหาคุณแม่”
แล้วผู้คนทั้งหลายก็ได้กระวีกระวาดวิ่งออกจากบาร์กันไปจนหมด ทิ้งเพียงชายหนุ่มให้สูดหายใจลึกแล้วหยิบรูปถ่ายเก่าๆและมีคราบเลือดแห้งกรังขึ้นมาดู มันเป็นรูปถ่ายของหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามและชวนให้ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึงเป็นอย่างมาก
“พยายามฉุดรั้งเอาไว้ไม่ให้ใครรับรู้มาได้ตั้งหลายพันปี สุดท้ายก็ปิดบังไว้ไม่ไหวอยู่ดี เฮ้อ...ถึงเวลาแล้วล่ะที่มนุษย์ทุกๆคนจะต้องวิวัฒนาการและร่วมมือกันจริงๆจังๆสักที หน้าที่ของการเสียสละน่ะไม่ใช่แค่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไปแล้ว...แต่น่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นช้าไปหน่อยเนอะมอร์แกน”
เคยตั้งคำถามหรือไม่ว่าตำนานทั้งหลายบนโลกใบนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไร
เทพเจ้าเอย ปีศาจเอย วีรบุรุษเอย พวกเขาเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการ,ศาสนาหรือความรู้สึก แต่มันจะใช่แบบนั้นจริงๆน่ะหรือ หากว่าลองจับจุดสังเกตได้เราจะสามารถค้นพบความเชื่อมโยงที่ลงตัวกันในเรื่องเล่าของพวกเขา เกิดเป็นรูปร่างและมิติที่สมจริงเกินไป
“จะบอกว่าพวกนั้นมีจริง? เฮ้~พวก ไม่เอาน่า มาล้อเล่นกันก็ควรคิดมุกที่มันแจ่มๆกว่านี้นะพวก”
คำถามหลุดมาจากปากชายหนุ่มผิวสีที่ทำหน้าไม่เชื่อให้เห็นอย่างไม่ปกปิด ดวงตาสีน้ำตาลที่จ้องมองสื่อเป็นนัยๆว่าคู่สนทนาของเขากำลังเพ้อเจ้อหรือไม่ก็เป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ใช่ ที่ฉันกำลังเล่าให้คุณๆทั้งหลายได้รับรู้ก็เพื่อที่จะบอกถึงความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฟังให้ดีนะ พวกเขามีอยู่จริง”
ชายหนุ่มที่ถูกหาว่าบ้ายิ้มน้อยๆแล้วพูดยืนยันด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบคล้ายไม่ใส่ใจกับท่าทางที่อีกฝ่ายได้แสดงออกมาแบบนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งชายหนุ่มคนนี้ยังใช้คำว่าคุณๆเนื่องจากว่าคนที่นั่งอยู่บนบาร์เดียวกันต่างกับเงี่ยหูฟฟังอย่างตั้งใจพร้อมเผยเสียงหัวเราะขบขันออกมาด้วย
“พวกคุณไม่เชื่อหรอก แต่ผมจะขอแนะนำอะไรสักอย่างนะ”
ชายหนุ่มยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว ก่อนที่คู่สนทนาผิวสีจะยิ้มเยาะแล้วยักไหล่เล็กน้อย
“ว่ามาสิพ่อหนุ่มแฟนตาซี”
คำกล่าวนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบๆได้ดี แต่ชายหนุ่มที่ถูกพูดเหมือนเป็นตัวตลกกลับยิ้มรับแล้วตอบกลับอย่างสุภาพ
“เปิดทีวีไปที่ช่องที่ 37 เถอะ”
บาร์เทนเดอร์อ้วนฉุเลิกคิ้วแล้วเดินไปกดปุ่มเปิดทีวีโดยที่สายตายังคงจ้องมองอีกฝ่ายไปพร้อมกับยิ้มเยาะออกมา
ช่องที่ 37 เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นช่องที่มีการรายงานข่าวสถานการณ์ที่วิกฤติ เป็นช่องที่เอาเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆมาออกอากาศเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปพร้อมที่จะรับมือกับเหตุฉุกเฉิน หากว่าในขณะนั้นไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่จะถูกหยิบมาออกอากาศก็คือข้อมูลเหตุการณ์วิกฤติในหน้าประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการทบทวนให้ทุกๆคนจดจำเกี่ยวกับมันได้และพร้อมที่จะรับมือกับมันได้อย่างทันท่วงทีหากว่ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองที่มีภาพของนักข่าวสาวปรากฏขึ้น ข้างๆขอบจอบนขวาเป็นรูปที่กำลังถูกถ่ายทอดสดมาจากที่ไหนสักแห่ง เป็นภาพของสสารคล้ายหมอกสีฟ้าที่หนาแน่นกระเพื่อมไปมาอยู่เหนือน่านฟ้า สสารนั้นกระเพื่อมไหวจัดรูปทรงเป็นทรงกลมที่หนาแน่นจนในที่สุดก็ค่อยๆบิดเบือนบรรยากาศไปทีละน้อยอีกทั้งความเร็วยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ฮูมมมม
ลมกรรโชกพัดอย่างรุนแรง สสารสั่นไหวอย่างรุนแรง ช่องว่างตรงกลางทรงกลมที่ก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ได้แปรสภาพเป็นเสมือนโพรงลึกลับอันมืดมิด ร่างขนาดมหึมาพุ่งพรวดออกมาจากช่องว่าง ในตอนนั้นเองที่เสียงอุทานกรีดร้องได้หลุดออกมาจากปากของคนในบาร์
มังกรเกล็ดสีดำขนาดตัวมหึมากระพือปีกคำรามก้อง กล้ามเนื้อกำยำและตัวของมันสูงกว่าตึก 20 ชั้นเสียอีก มันไม่รอคอยให้ใครที่ไหนได้ตั้งหลักทั้งสิ้น เปลวเพลิงได้ก่อตัวและระเบิดออกเป็นลำแสงสาดกระจายทำลายล้างตึกจนพินาศ และพริบตาต่อมาภาพที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ก็ถูกตัดขาดไป นักข่าวสาวพยายามเรียกชื่อคนที่อยู่ต้นทางการถ่ายทอดสดแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ใบหน้าของเธอซีดเผือดเป็นการบ่งบอกชัดเจนว่านี่ไม่ใช่การอำเล่น
“โอ๊ะ...เจิมด้วยมังกรเลยเหรอ!”
ชายหนุ่มร้องขึ้นขณะที่หัวเราะเฮะๆพลางเดินออกมาจากร้าน ท่ามกลางสายตาที่แฝงไปด้วยอารมณ์หวาดกลัวระคนตกใจของผู้คน ไม่มีใครขวางทางเขา ไม่มีใครเอ่ยปากพูดหรือถามคำถามอะไรชายหนุ่มคนนี้แม้เพียงครึ่งคำ
“ฉะ ฉันต้องรีบกลับไปหาลูกที่บ้าน”
“ส่วนฉันต้องรีบไปหาคุณแม่”
แล้วผู้คนทั้งหลายก็ได้กระวีกระวาดวิ่งออกจากบาร์กันไปจนหมด ทิ้งเพียงชายหนุ่มให้สูดหายใจลึกแล้วหยิบรูปถ่ายเก่าๆและมีคราบเลือดแห้งกรังขึ้นมาดู มันเป็นรูปถ่ายของหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามและชวนให้ชายหนุ่มรู้สึกคิดถึงเป็นอย่างมาก
“พยายามฉุดรั้งเอาไว้ไม่ให้ใครรับรู้มาได้ตั้งหลายพันปี สุดท้ายก็ปิดบังไว้ไม่ไหวอยู่ดี เฮ้อ...ถึงเวลาแล้วล่ะที่มนุษย์ทุกๆคนจะต้องวิวัฒนาการและร่วมมือกันจริงๆจังๆสักที หน้าที่ของการเสียสละน่ะไม่ใช่แค่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอีกต่อไปแล้ว...แต่น่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นช้าไปหน่อยเนอะมอร์แกน”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ