The Stories of Lour: จากขอทานสู่การผจญภัยที่ไม่คาดคิด
เขียนโดย Viscount
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.21 น.
แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 18.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ย่างก้าวแห่งการผจญภัย 2/3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มเกือบจะครึ่ง ผ่านมาเกือบสิบชั่วโมงแล้วหลังจากเกิดอุบัติเหตุบนเรือเหาะ
ทางทีมสืบสวนและหน่วยกู้ภัยดูจะวุ่นวายกันมาก ทว่าพวกเขายังคงขี่ม้าไปม้า
ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย เจ้าพวกหัวอนุรักษ์นิยมเนี่ย
ข้านั่งอยู่ริมหน้าต่างของสำนักงาน ที่ตอนนี้ข้าได้ยึดมันเป็นที่ซุกหัวนอนใหม่ไปแล้ว
ส่วนเรื่องบรรยากาศ เมื่อข้ามองออกไปด้านนอกนั่น มันก็ค่อนข้างเงียบสงบดีนะ
คนไม่พลุกพล่าน หากแต่ก็ยังคงมีแสงไฟและผู้คนอยู่บ้างด้านนอกนั่น
ในหัวข้าคิดวนไปมาเกี่ยวกับเรื่องนักเวทย์ผ้าคลุมแดงกับคำพูดของเจ้าด็อกเตอร์
คิดว่าตอนนี้เขาคงถูกกักตัวไว้ที่เรือนจำย่อยใกล้ๆกับปราสาทคาลเว่นล่ะมั้ง
ถึงแม้จะไม่รู้อะไรมาก แต่ข้าผ่านไปแถวๆเรือนจำนั่นบ่อยสมัยเป็นขอทาน
ที่นั่นถูกใช้เป็นที่กักตัวชั่วคราวก่อนจะส่งไปพบกษัตริย์เพื่อตัดสินโทษอะไรทำนองนั้นน่ะ
ตอนนี้ทุกคนในบ้านหลังนี้ต่างก็เลือกจะอยู่ที่นี่กันหมดไม่มีใครออกไปไหน
ซึ่งก็แหงล่ะ ใครล่ะจะมีบ้าน ถ้าไม่นับข้างกองขยะ ใต้สะพาน หรือ ตามมุมตึกนั่นน่ะ
ไม่มีใครมีเงินพอจะเช่าหรือซื้อบ้านซักหลังได้หรอก แถมที่คาลเว่นนี่แค่ห้องเล็กๆยังแพงมาก
ข้าปลีกตัวมาอยู่คนเดียวข้างๆหน้าต่าง มันมีโต๊ะตัวนึงสำหรับทำอะไรๆที่ทำได้เช่นการนอนหรือกิน
ที่นี่ไม่มีหมอนให้ อันที่จริง.. ก็เพราะมันไม่ใช่ที่พักซักหน่อย แต่ไม่เป็นไร ข้ามีของข้ามาเอง
จะเรียกว่าขยะก็ได้เพราะมันคือหมอนเก่าที่ข้าเก็บมาจากกองขยะก่อนมาสำนักงาน
ส่วนเจ้าพวกนั้น ไม่มีที่นอนดีๆอะไรเหมือนกัน แต่ก็เหมือนจะไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยนะ
นอกจากการจับกลุ่มคุยกันอยู่หลังบ้าน พวกนี้ก็มีเหล่ตามามองข้าเป็นครั้งเป็นคราวด้วย
น่าขนลุกชะมัด.. เป็นผู้หญิงคนเดียวที่นี่คงทำอะไรลำบากกว่าคนอื่นๆหลายอย่าง
แถมยังต้องระแวงเจ้าพวกนี้อีก ไม่รู้วันดีคืนดีมันจะข่มขืนข้าไหม ไม่เอานะ ไม่เอารุมโทรม...
เพราะงั้น ถึงแม้จะดับไฟหมดทั้งบ้านจนเหลือเพียงแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างแล้วก็ตาม
ข้าก็หลับไม่ได้...
ว่าแล้วพักหนึ่งข้าก็นึกอะไรออก คืนนี้ข้าจะไปหาหนังสือมาอ่านเล่นซักหน่อยดีกว่า...
คอร์ลินเพื่อนข้าก็ติดหนึบอยู่กับเจ้ายักษ์เคราแดงนั่น มันน่าน้อยใจนักเชียว
แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยข้าก็สามารถออกมาโดยไม่มีใครเห็นหรือสนใจอะไรนัก
บรรยากาศย่านนี้เปลี่ยวมาก หนำซ้ำยิ่งเดินตามทางมาเรื่อยๆก็เริ่มหนาวจนตัวสั่น เสื้อผ้าดีๆก็ยังไม่ได้ซื้อ
ถึงจะมีตะเกียงเวทมนตร์ที่แขวนอยู่ตามเสาพอจะให้แสงสว่างได้บ้าง
กระนั้นก็ยังคงเอื้อต่อการชิงทรัพในยามดึกเอาแบบสุดๆอยู่ดี
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก เพราะข้าชินมากแล้วกับบรรยากาศวังเวงกลางดึก
จนบางทีข้าคิดว่าจะหาอะไรทำมากกว่าแค่หาหนังสืออ่านแล้วล่ะ
ข้ายืนอยู่ที่สามแยก ด้านหลังจะตรงกลับไปสำนักงานได้ง่ายๆ
ฝั่งซ้าย ถ้าตรงไปไกลหน่อยจะถึงใต้สะพาน บ้านเก่าข้าเองนั่นแหละ. ที่นั่นตอนนี้คงโดนขอทานมือใหม่ยึดไปแล้ว
ส่วนฝั่งขวานี่ ถ้าจำไม่ผิด มันคือทางไปห้องสมุดของเมือง แถมเป็นย่านคนรวยด้วย
ซึ่งมันก็ไม่ง่ายนัก ที่จะเดินเตร่ๆไปแบบนั้น เพราะงั้นข้าก็เลยลัดเลาะไปตามบ้านเรือน
ดึกสงัดขนาดนี้ บ้านที่ยังเปิดไฟมีน้อยมากๆ ส่วนมากจะเป็นพวกมนุษย์กลางคืนไม่ก็พวกกลัวผีจนขึ้นสมอง
แต่ทันทีที่ข้าเข้ามาที่เขต เทอร์เมี่ยน ทาวน์ ข้าก็ต้องทำตัวให้เป็นคนปกติที่สุด ห้ามทำตัวลับๆล่อๆ
ข้าจะเล่าให้ฟังว่าทำไม..
มันเป็นเพราะที่นี่เป็นเขตที่มีชาวเทอร์เมี่ยนจากจักรวรรดิเทอร์เมลอตเข้ามาตั้งรกรากกันให้เพียบ
แล้วเจ้าพวกชาวจักรวรรดิฯเหล่านี้ก็รวยกันมากๆ แถมส่วนใหญ่จะเป็นอดีตทหารด้วย
พวกนี้ไปรบแทบจะทั้งชีวิตเนื่องจากจักรพรรดิแห่งเทอร์เมลอตแต่ละองค์ล้วนชอบทำสงคราม
แต่พอปลดประจำการ
เมืองหลวงที่สุดแสนแออัดอย่าง วอลสไตน์ หรือ ปราสาทวาเลนเฟล
ก็ไม่อยู่ในสายตาของทหารแก่พวกนี้หรอกนะ
พวกนี้มีเงินทองมากพอจะไปอยู่ในอาณาจักรที่คนน้อยๆ เช่นคาลโพรเทียนี่ไงล่ะ
เจ้าพวกนี้มาปลูกบ้านหาคนรักออกลูกออกหลานเต็มไปหมดซ้ำยังขี้เมามากๆด้วย
ข้าเคยมาเขต เทอร์เมี่ยน ทาวน์ สองถึงสามครั้ง มันเป็นเขตที่คึกครื้นตลอดทั้งวันทั้งคืน
ผับบาร์รวมไปถึงซ่องโสเพณีน่ะ มีให้เกลื่อน แต่ก็นะ เพราะมีคนพลุกพล่านทั้งวันทั้งคืนแบบนี้แหละ
ทำให้มีการจ้างผู้รักษาความปลอดภัยจำนวนมากมาคอยจัดการพวกทำตัวลับๆล่อๆ
ส่วนข้อดีของเจ้าพวกนี้คือทำเงินให้ประเทศอย่างมหาศาล
ชนิดที่ว่า อีกไม่นาน ธนาคารแห่งความเมตตาของวาเลนอร์ จะต้องยอมสยบแก่คาลโพรเทียแน่ๆ
แถมเจ้าพวกนี้ยอมรับเทคโนโลยีของนักวิทยาศาสตร์ชาวเพียวโตะนั่นด้วยล่ะนะ
ที่นี่ถึงเต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ไอน้ำเช่นพวกพาหนะขนาดเล็ก หลอดไฟ ไปจนถึงอาวุธที่ดีกว่าธนูและหน้าไม้
อย่างปืนซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนามาจากดอกไม้ไฟของชาวลิตานน่ะ มีร้านขายของพวกนี้โดยเฉพาะอยู่ด้วย
และสวรรค์ก็อยู่ตรงหน้าข้า มันคือโรงอาบน้ำยังไงล่ะ นานแค่ไหนก็จำไม่ได้ที่ข้าไม่ได้ชำระล้างตัวเอง
แต่มันไม่สำคัญ! วันนี้ข้าจะเข้าไปที่นั่นแล้วชำระล้างร่างกายให้สมใจเลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ