ค่อย ๆ รัก [Yuri]

-

เขียนโดย นนิรา

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 17.33 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,096 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2562 17.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ค่อย ๆ รัก #1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
- ตอนที่ 1  -
 
 
รถคันหรูสีขาวถูกขับมาจอดที่หน้าบ้านที่ดูคล้ายราชวัง เมื่อรถจอดสนิทคนขับรถก็รีบลงมาเปิดประตูหลังของรถ ‘นลิน’ หญิงสาวอายุยี่สิบปลาย ๆ ลงมาจากรถพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เธอยืนมองหน้าประตูบ้านของตนด้วยความคิดถึง เธอไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศจึงจากบ้านไปราว ๆ 6 – 7 ปี 
 
“คุณหนูของป้ากลับมาแล้ว”  
เสียงของหญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจหลังจากที่รู้ว่าคุณหนูของเธอจะเดินทางกลับมาวันนี้ พร้อมกับเดินเข้าไปช่วยยกกระเป๋าเดินทางเข้ามาในบ้าน 
 
“ลินก็คิดถึงป้าน้อยมาก ๆ เลยค่ะ”  
นลินพูดพร้อมเข้าไปกอดและหอมแก้มป้าน้อย แม่บ้านคนสนิทของเธอที่คอยดูแลเธอตั้งแต่เกิด 
 
“เดี๋ยวป้าเรียกไอ้จ้อยมาช่วยคุณหนูยกของนะคะ” 
 
“ขอบคุณค่ะป้า งั้นเดี๋ยวลินไปหาอะไรทานก่อนนะคะ ลินยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่กลับมา”  
 
“คุณหนูจะทานอะไร เดี๋ยวป้าทำให้” 
 
“ลินแค่อยากทานมาม่าค่ะ เดี๋ยวลินไปต้มน้ำเอง”  
นลินยิ้มให้คนตรงหน้า เธอรู้ว่ายังไงก็เธอก็ไม่ได้ทำเอง และเป็นตามที่เธอคาด เพราะป้าน้อยรีบเดินเข้าครัวไปต้มน้ำให้เธอเรียบร้อยแล้ว 
 
นลินเธอเกิดในตระกูลที่มีฐานะร่ำรวย มีคนคอยเอาอกเอาใจและแทบจะไม่ต้องหยิบจับงานบ้านเองเลย ต้นตระกูล​ของเธอวางรากฐาน​มาดีตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ทำให้ลูกหลานสบายไปด้วย ครอบครัวของเธอทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์​และส่งออกผลไม้ นอกจากนั้นตัวเธอเองยังมีร้านเพชร​เป็นของตัวเอง 
 
“นลิน พรุ่งนี้ลูกพร้อมทำงานหรือยัง?”  
เสียงของเจ้าของบ้านเอ่ยถามลูกสาวสุดที่รัก คุณประพจน์เจ้าของธุรกิจอสังหาฯ 
ซึ่งเป็นที่รู้จักดีของคนในวงการ​ที่ยกย่องให้เป็นเจ้าพ่ออสังหาฯ 
 
“พร้อมแล้วค่ะคุณพ่อ” 
นลินตอบด้วยความมั่นใจ เธอพร้อมแล้วที่จะนำวิชาความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัย​ที่ดังที่สุดในโลก เพื่อมาช่วยดูแลกิจการของครอบครัว 
 
 
 
สาวสวยแปลกหน้าเดินเข้ามาในห้องประชุมของบริษัท  เพื่อที่จะแนะนำตัวเองให้กับทุกคนในแผนกของเธอได้รับรู้ วันนี้เป็นวันแรกในการทำงานของเธอ 
“สวัสดีค่ะ ฉันนลิน นาร่า จะมาเป็นผู้จัดการใหม่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป​ ขอฝากตัวด้วยนะคะ” 
 นลินกล่าวแนะนำตัวจบก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของเธอทันทีโดยไม่สนใจที่จะความรู้จักพนักงานในแผนกของตัวเอง จะสนไปทำไมกันในเมื่อเธอไม่คิดจะสนิทสนมด้วยอยู่แล้ว ส่วนเรื่องชื่อก็ดูที่บัตรพนักงานเอาก็ได้ไม่จำเป็นต้องใช้สมอง​อันมีค่าของเธอมาจำให้รกสมอง​ 
 
“คุณนลินคะ เอกสารที่..” 
 
“วันหลังกรุณาเคาะประตูก่อนนะคะ” 
 
“ข.. ขอโทษค่ะ” 
 ปรีดารีบวางเอกสารกองโตลงบนโต๊ะก่อนจะรีบหันตัวกลับด้วยความเกรงกลัว แต่ถูกเจ้านายเรียกไว้เสียก่อนจะเดินออกจากห้องไป 
 
“เดี๋ยว! อีกสองชั่วโมงเธอมาเอาเอกสารด้วยนะ” 
 
“ด.. ได้ค่ะคุณน.. นลิน”  
ปรีดาขานรับเสร็จก็รีบกลับไปนั่งที่โต๊ะทันที 
 
“เป็นไงบ้างดา เจ้านายคนใหม่น่ะ” ชญานีถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าเจ้านายสาวสวยคนใหม่เป็นอย่างไรบ้าง 
 
ปรีดาส่ายหัวทันทีหลังสิ้นสุดคำถามของชญานี 
“เห็นสวย ๆ แต่น้ำเสียงกับสายตาโคตรน่ากลัวเลยอะพี่นี ดาแค่ลืมเคาะประตูเอง” 
 
“เอ้าแกนี่ ก็สมควรโดนด่า พี่ว่าคุณนลินเขาคงใจดีเหมือนหน้าตานั้นแหละ​” 
 
“โธ่พี่นี ก็คนมันลืมนี่ ดาว่านะ..” 
 
ปรีดาทันได้พูดจบก็มีเสียงหนึ่งตะวาดแทรกขึ้น 
 
“ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าก่อนเข้ามาหาฉันให้เคาะประตูก่อน พนักงานที่นี่ไม่มีมารยาทกันทุกคนเลยเหรอไงห๊ะ!” 
เสียงของนลินดังลั่นทั่วออฟฟิศ​ ทำให้ทุกบทสนทนา​ต้องหยุดชะงัก​ 
 
นลินหญิงสาวผู้มีความมั่นใจเดินหัวเสียออกมาจากที่ห้องทำงานของเธอ เธอกวาดสายตามองรอบ ๆ อย่างเอาเรื่อง 
“ทุกคนคงจะได้ยินแล้ว ฉันขอความกรุณา​มีมารยาท​ด้วยนะคะ ถ้าไม่ ฉันไล่ออก!” 
 นลินพูดจบก็เดินออกจากออฟฟิศ​ทันที ตอนนี้เธอต้องการหาที่สงบอารมณ์  
 
“ดา พี่ขอถอนคำพูดนะว่าคุณนลินใจดี” 
ชญานีเอ่ยด้วยใบหน้าเหย๋เกให้กับเหตุการณ์เมื่อครู่ 
 
“เป็นใครใหญ่มากจากไหนกันเชียว ฉันต้องทนกับหัวหน้าคนใหม่อีกนานแค่ไหนเนี้ย”  
ปรีดาบ่นกับตัวเอง และคำพูดนี้แทนใจของทุกคนที่ได้อยู่ในเหตุการณ์​เมื่อสักครู่​ 
 
 
 
นลินขับรถคันหรูออกจากบริษัทและแวะร้านกาแฟร้านโปรดของเธอเพื่อสงบสติอารมณ์ 
 
“ลาเต้เย็นกับชีสเค้กได้แล้วค่ะ” 
 
หลังจากนลินจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเธอก็มานั่งกินให้หายอารมณ์​เสีย ของหวานเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาอารมณ์​ของเธอดีที่สุด เมื่อเธอเริ่มใจเย็นขึ้นจึงเรียบไปสะสางงานที่ค้างคาต่อให้เสร็จ ถึงอารมณ์ของเธอจะมาเป็นที่หนึ่งแต่เธอก็ไม่ทำให้งานที่ได้รับมอบหมายเสียหาย  
 
ขณะที่นลินกำลังจะเดินเข้าออฟฟิศ​ก็มีบางคนเรียกเธอไว้ นลินหันไปมองที่ต้นเสียงด้วยท่าทีสงสัยว่าคนตรงหน้าเรียกเธอหรือเปล่า 
 
“นี่เธอ เธอนั้นแหละ ฉันคุยกับเธอ”  
 
“มีอะไรกับฉันหรือเปล่าค่ะคุณ…”  
นลินมองหาป้ายชื่อของบริษัทแต่ทว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ห้อยป้าย ถ้าเป็นพนักงานแผนกของเธอเธอจะไม่ปล่อยไว้แน่ แต่ถึงจะไม่ใช่เธอก็สามารถจัดการได้อยู่แล้ว ตัวเธอเป็นใครล่ะ ลูกเจ้าของบริษัทไง 
 
“เธอน่ะชื่ออะไร เป็นพนักงานใหม่เหรอ? ฉันไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อนเลย” รวีถามสาวแปลกหน้าที่เธอไม่คุ้นหน้า 
 
“แล้วคุณเป็นใคร? ทำไมถึงไม่รู้จักฉัน?” 
เมื่อเช้าเธอก็แนะนำตัวเองไปแล้วนะ ทำไมคนตรงหน้าถึงไม่ทราบว่าเธอเป็นใคร นอกเสียจากว่าหล่อนจะไม่ได้อยู่ตอนที่เธอแนะนำตัว 
 
“อ้อฉันรู้แล้ว เธอเป็นพนักงานใหม่ใช่ไหม..”  
รวีสงสัยเล็กน้อย เพราะเธอรู้มาว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาในเดือนหน้า ไม่ใช่เดือนนี้เสียหน่อย หรือเธอจะฟังผิดไปเอง 
 
หลังจากที่รวีเอ่ยถามจบจึงรีบเปลี่ยนท่าทีและน้ำเสียงเป็นขึงขังเพื่อวางมาดของผู้ที่มาทำงานก่อน หวังจะแกล้งเด็กใหม่ให้เกร็งเล่น ๆ 
“อะแฮ่ม นี่เด็กใหม่ ฉันมาทำงานที่นี่ก่อนเธอ งั้นก็ถือว่าฉันอวุโสกว่า ทำไมถึงไมเคารพ​ฉัน” รวีพูดอมยิ้ม เผลอไม่ได้ที่จะแกล้งสาวสวยตรงหน้า 
 
นลินไม่พูดอะไรพร้อมกับจ้องหน้ารวี สีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจพนักงานคนนี้เป็นอย่างยิ่ง เมื่อรวีเห็นสีหน้าดังนั้นจึงพูดต่อว่า 
“โอเค โอเค ฉันแค่ล่อเล่น ฉันชื่อรวีหรือเรียกว่าวีเฉย ๆ ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” รวียิ้มให้กับนลินพร้อมยื่นมือเพื่อแสดงความรู้จักแต่ถูกนลินปัดทิ้งเสียก่อน 
 
“รวี” นลินทวนชื่อของพนักงานสาวตรงหน้าอีกรอบ ย้ำให้ขึ้นใจประหนึ่งว่าชื่อนี้แหละจะอยู่ในบัญชีหนังหมาของเธอ 
 
“โอ๊ะ ชื่อรวีเหมือนกันเหรอ?”  
 
“เปล่า!” นลินพูดจบก็รีบเดินเข้าออฟฟิศ​ทันที ไม่ปล่อยให้คู่สนทนาได้ตั้งคำถามกับเธออีก 
 
เมื่อนลินเดินเข้าออฟฟิศ​ พนักงานทุกคนต่างพากันนั่งเกร็ง​และเงียบ เมื่อนลินเดินเข้าห้องทำงานของเธอแล้ว ทุกคนต่างพากันซุบซิบเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าทันที 
 
“ว่าไง คุยอะไรกันดูน่าสนุกกันจัง” รวีถามปรีดาและชญานี 
 
“สนุกกับผีน่ะสิวี ดูสีหน้าฉันสองคนว่าเครียดแค่ไหน” ชญานีกล่าว 
 
“แล้วมีไรเกิดขึ้นเหรอ ไหนเล่ามา” 
 
“วันนี้มีผู้จัดการคนใหม่ หน้าสวยแต่นิสัยโหด เนี๊ยะไอ้ดาเพิ่งโดนด่ามาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเช้านี้เลย” ชญานีเล่า 
 
“ใช่ ฉันเพิ่งโดนด่ามาหมาด ๆ เลย เออวี แกไปเอาเอกสารจากคุณนลินแทนฉันหน่อยสิ ฉันไม่อยากไปอ่ะ ฉันกลัว” ปรีดาส่งสายตาอ้อนวอนให้รวี 
 
“คุณนลิน?” รวีทวนชื่อ 
 
“เจ้านายใหม่พวกเรานั่นแหละ” ชญานีกล่าว 
 
“เดี๋ยวฉันเข้าไปเอาให้ ตอนนี้ใช่ไหม” 
 
“ขอบใจนะ รวีอย่าลืมเคาะประตูด้วยนะ เดี๋ยวโดนเหมือนฉัน” 
 
“รู้แล้วน่า ฉันมีมารยาทพอ” รวีพูดพรางหัวเราะ  
 
ก๊อก ก๊อก ก๊อก  
เมื่อเคาะประตูเสร็จรวีก็เปิดประตูเข้าห้องทำงาน 
“ขอโทษนะคะ วีมาเอาเอกสารของเมื่อเช้าค่ะ” 
 
“เชิญ” นลินชี้ไปที่กองเอกสารที่เธอเพิ่งทำเสร็จหมาด ๆ  
 
ขณะที่รวีกำลังไปหยิบเอกสาร เธอก็ได้สบตากับหัวหน้าคนใหม่  
 
เอ๊ะ คนที่เพิ่งเจอเมื่อเช้านี้นี่ 
“อ้าวเด็กใหม่นี่ ทำไมถึงอยู่ในห้องนี้ล่ะ?”  
 
“แล้วคุณล่ะ ทำไมถึงมาอยู่ในห้องนี้ หืมคุณรวี” 
 
“ฉันมาเอาเอกสารน่ะสิ เธอก็รีบออกมาได้แล้ว เดี๋ยวก็โดนเจ้านายใหม่ดุเอาหรอก เห็นว่าน่ากลัวด้วยนะ”  
รวีเดินไปดึงมือคนตรงหน้าให้ออกมาจากในห้องของเจ้านายใหม่ ขณะที่กำลังเปิดประตูนั้นก็มีพนักงานคนหนึ่งเข้ามาพอดี 
 
“คุณนลินค่ะ บ่ายนี้มีประชุมนะคะ” เมื่อพูดจบก็เดินออกจากห้องไป เมื่อรวีได้ยินดังนี้ก็เริ่มคิดประมวลผล 
 
 
‘วันนี้มีผู้จัดการคนใหม่ หน้าสวยแต่นิสัยโหด เนี๊ยะไอ้ดาเพิ่งโดนด่ามาสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเช้านี้เลย’ 
‘ใช่ ฉันเพิ่งโดนด่ามาหมาด ๆ เลย เออวี แกไปเอาเอกสารจากคุณนลินแทนฉันหน่อยสิ ฉันไม่อยากไปอ่ะ ฉันกลัว’ 
‘คุณนลิน?’ 
‘เจ้านายใหม่พวกเรานั่นแหละ’ 
 
 
“นลิน… คุณนลิน!” ซวยแล้วไงไอ้วี 
 
“ค่ะ ว่าไงคะคุณรวี”  
นลินยิ้มให้รวี รอยยิ้มบ่งบอกว่าเธอเสร็จฉันแน่!  
“เอ๋ เมื่อเช้าฉันก็แนะนำตัวไปแล้วนะ นอกเสียจากว่าคุณมาทำงานสาย.. ไหนเข้างานกี่โมงขอเช็ค​ดูหน่อยนะ”  
นลินเดินไปเปิดโปรแกรมเข้าออกของพนักงานในคอมของเธอ 
“อืม ก็มาเช้าดีหนิ แล้วทำไมถึงไม่รู้ว่าฉันไม่ใช่เด็กใหม่” 
นลินค่อย ๆ เดินเข้าไปหารวี  
“ว่าไงค่ะ ตอบสิ อย่ามั่วแต่อ้ำอึ้ง” 
 
“เอ่อคือฉัน… ออกไปซื้อข้าวค่ะ ซื้อข้าว” เหตุผลนี้คงฟังขึ้นมั้ง แล้วใครจะกล้าบอกล่ะว่า ฉันอู้งานค่ะ ออกไปเดินเล่นแป๊บเดียว 
 
“ออกไปซื้อข้าวเกือบสามชั่วโมงเลยเหรอ ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนเกือบสิบโมงเนี๊ยะนะ”  
นลินยืนกอดอกกรอกตามองบน ใครเชื่อก็บ้าแล้วจริงไหม? 
 
“ค่ะ ใช่ค่ะ งั้นวีขอตัวก่อนนะคะคุณนลิน มีไรอะก็เรียกใช้วีได้นะคะ” หลังสิ้นสุดคำตอบ รวีรีบเดินออกมาจากห้อง ไม่ใช่ว่าเธอเกรงกลัวผู้จัดการคนใหม่ เพียงแต่ถ้าเธอยังขืนอยู่ต่อคงต้องคิดคำแก้ตัวอีกยาวแน่ ๆ ดูท่าแล้วเจ้านายคนสวยคงจะต้อนเธอจนจนมุมเป็นแน่  
 
“เป็นไงบ้างวี ทำไมหายไปนานจัง” ปรีดาเอ่ยถามโดยมีชญานีนั่งคอยฟังคำตอบอยู่ข้าง ๆ ปรีดาได้แต่หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเพื่อนของเธอหรอกนะ 
 
“ก็โดนถามอะไรนิดหน่อยอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก ทำงานต่อเถอะ”  
 



 
“ฮัลโหล​เดวิด ลินคิดถึงคุณจังเลยค่ะ” 
[เราเพิ่งเจอกันเมื่อวานเองนะลิน คุณติดผมเกินไปหรือเปล่า?] 
“ก็ลินคิดถึงคุณจริง ๆ นี่ค่ะ เนี๊ยะลินเพิ่งจะประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย” 
[เดวิดค่ะ ฉันชอบสร้อยเส้นนี้ค่ะ/ลินเดี๋ยวเราค่อยคุยกันนะ] 
“เดี๋ยวสิ นั้นเสียงใครค่ะ คุณต้องตอบลินมาเดี๋ยวนี้!” 
[โอเค ผมอยากบอกเรื่องนี้กับคุณมาสักพัก​แล้ว เราเลิกกันเถอะ ผมมีแฟนใหม่แล้ว บาย] 
“เดวิด เดวิด!!” 
[หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้] 
 
เมื่อได้ยินคำตอบของแฟนหนุ่มที่ตกลกจะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้า นลินได้แต่ยืนอึ้ง ตอนนี้โลกทั้งใบของเธอกำลังหยุดหมุน น้ำใส ๆ ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง เธอจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อจากนี้ไป 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา