นางสาวแสนเฉิ่ม
-
เขียนโดย Mawmeaw
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.06 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
5,149 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 22.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ลับสุดยอด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อเดินนำมาถึงห้องทำงานส่วนตัวของตำรวจหนุ่มแล้ว ชายหนุ่มผายมือเพื่อเชื้อเชิญหญิงสาวเข้าไปข้างใน
ทรามเชยมองอย่างระแวง แม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นถึงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่หล่อนก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในเจตนาของเขาเท่าใดนัก
หล่อนจึงหยุดอยู่แค่ที่หน้าประตู จ้องหน้าชายหนุ่มนิ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"คุณสิงหา ชั้นว่าเราคุยธุระกันที่ห้องรับแขกก็ได้นะ"
"ทำไม คุณกลัวว่าผมจะทำอะไรคุณงั้นเหรอ ทรามเชย"
ชายหนุ่มว่าพลาง ยิ้มนิดๆที่มุมปาก
"บอกตามตรง ชั้นไม่ค่อยไว้ใจคุณเท่าไหร่"
หญิงสาววางสีหน้านิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"โถ่คุณ ผมเป็นตำรวจนะ ผมต้องช่วยเหลือประชาชน ผมไม่รังแกประชาชนหรอกน่า ไว้ใจผมได้"
เขาพูด พร้อมลอบสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวและแอบคิดในใจว่า
"ช่างระวังตัวเสียจริง แม่คุณ"
"นี่ ยิ้มอะไรของคุณ คุณสิงหา"
หญิงสาวเอ่ยทักอย่างสงสัย เมื่อจู่ๆหล่อนก็เห็นเขายืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียว
"เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกคุณเชย คุณเรียกผมว่าเสือก็ได้นะ เรียกว่าสิงหาดูจะห่างเหินไปหน่อยนะ ผมว่า"
ชายหนุ่มว่ายิ้มๆ
"ค่ะ คุณเสือ ตกลงคุณมีธุระอะไรจะคุยกับดิชั้นเหรอคะ"
หญิงสาวถามเข้าเรื่องทันทีโดยไม่รอช้า หล่อนรู้สึกอยากรีบคุยธุระที่ว่านั้นให้เสร็จๆไปเสียทีโดยไม่ต้องยืดเยื้อ
"โอเคๆ ตกลงคุณอยากคุยตรงนี้ใช่มั้ยครับ งั้นผมอยากให้คุณอ่านนี่ซะก่อน"
ตำรวจหนุ่มยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลไปตรงหน้าหญิงสาว หล่อนรับมาและเปิดซองออกดู
ภายในซองมีกระดาษแผ่นสีขาวหนึ่งใบ ประทับตราบนหัวกระดาษว่า "ลับสุดยอด"
หล่อนหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา กวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า
"คุณเสือ ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว เราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ"
พูดจบหล่อนก็เป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปก่อน สิงหาไม่รอช้า เขารีบเดินตามหญิงสาวเข้าไปและไม่ลืมปิดล็อกลูกบิดประตูอย่างเบามือ
วิฬาร์ยาเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องรับแขก หล่อนรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวขึ้นมาจับใจ ปกติพี่ชายของหล่อนไม่เคยให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามในห้องทำงานส่วนตัวเลย แต่ครั้งนี้กลับให้เชยหรือทรามเชยเข้าไปได้ง่ายๆแถมยังคุยกันตั้งนานสองนานไม่ยอมออกมาเสียที
"เอ๊ะ! อย่าบอกนะว่าสองคนนี้กิ๊กกันอยู่ โดยที่เราไม่รู้ อย่าทำให้เพื่อนเหมียวเสียใจก็แล้วกันพี่เสือ"
หญิงสาวนึกเดาในใจเป็นตุเป็นตะอยู่คนเดียว สักพักเพื่อนสาวที่เธอนึกห่วง ก็เดินกลับมาที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม โดยมีพี่ชายของหล่อนเดินตามหลังมาติดๆ
"เชยๆ เธอเป็นไงบ้าง พี่ชายชั้นเขาว่าอะไรให้เธอหรือเปล่า"
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวก็อดถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
"เปล่าหรอกจ้ะเหมียว เรากับพี่ชายเธอคุยธุระกันนิดหน่อยน่ะจ้ะ"
"ธุระอะไรเหรอเชย เห็นคุยกันตั้งนานแน่ะ"
"ก็...พอดีชั้นจะเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวนเป็นครั้งแรก ก็เลยจะมาขอข้อมูลจากพี่ชายเธอหน่อยน่ะจ้ะ"
"เอ๊ะ! แต่พี่เสือเป็นคนให้ชั้นนัดเธอมานะ ชั้นนึกว่าพี่เสือมีเรื่องอะไรจะให้เชยทำซะอีก"
เหมียวถามด้วยความสงสัย
"ยัยเหมียวตัวแสบ อยากรู้อะไรนักหนานะเรานี่ ที่พี่ให้เราชวนเชยมาที่นี่ เพราะว่าเชยติดต่อมาที่ สน.ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมาขอข้อมูลกับทางตำรวจไปเขียนนิยายเรื่องใหม่ของเธอ พี่เห็นว่าเชยเป็นเพื่อนเหมียว เลยให้เหมียวชวนมา ก็ไม่เห็นจะแปลกนี่"
ชายหนุ่มช่วยพูดเสริม เมื่อเห็นว่าทรามเชยเริ่มจะตอบไม่ค่อยถูกกับคำถามชวนสงสัยของน้องสาวเขา
หล่อนยังไม่วาย ซักไซ้ไล่เรียงผู้เป็นพี่ชายด้วยความสงสัยต่อ
"ก็แล้วทำไม พี่เสือไม่ให้เหมียวบอกไปล่ะ ว่าพี่น่ะเป็นคนนัดเชยมาเอง ไม่ใช่เหมียว"
"เอ้า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พี่จะบอกให้ก็ได้ยัยเหมียว พี่น่ะแอบสนใจเพื่อนเหมียวอยู่น่ะสิ แต่เชยเขาดูหยิ่งๆ เหมือนไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่เท่าไหร่ ก็เลยให้เหมียวบอกไปแบบนั้นไงล่ะ"
เขาพูดพร้อมทั้งส่งสายตากรุ้มกริ่มไปยังหญิงสาวที่ยืนข้างๆ แต่เจ้าหล่อนกลับทำสีหน้าเหมือนไม่พอใจเขาตอบกลับมาเสียอย่างนั้น
"จริงเหรอพี่เสือ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีน่ะสิ เหมียวไฟเขียวให้อยู่แล้วสำหรับเพื่อนที่น่ารักคนนี้"
พูดจบหล่อนก็ยิ้มสดใส โดยลืมสังเกตสีหน้าอึดอัดใจของเพื่อนไปเสียสนิท
ทรามเชยส่งสายตาดุๆไปยังชายหนุ่มผู้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆหล่อน ก่อนกระซิบเบาๆว่า
"นี่คุณ ทำไมคุณไม่ใช้เหตุผลอื่นบอกยัยเหมียวไป ทำไมต้องแสร้งทำเป็นว่าคุณสนใจชั้นด้วย"
"ผมว่าเหตุผลนี้แหละเเนบเนียนที่สุดแล้ว เห็นมั้ยพอผมพูดปั๊บ ยัยเหมียวก็หายติดใจเราสองคนเลย"
เขาบอกอวดๆ พร้อมรอยยิ้มแบบมีเลศนัยที่มุมปาก
หญิงสาวต้องจำยอมปล่อยเลยตามเลย หล่อนต้องตามน้ำไปก่อนอย่างเสียมิได้ เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ กระดาษสีขาวที่ประทับตรา "ลับสุดยอด" นั้นต่างหาก
วิฬาร์ยายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเห็นเพื่อนรักและพี่ชายกระซิบกระซาบกัน ด้วยเข้าใจว่าทั้งคู่คงจะเย้าแหย่กันตามประสาคนที่กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ โดยไม่เฉลียวใจสักนิดว่าสิ่งที่เธอเห็นอยู่นั้น อาจไม่ใช่ความจริงเสียทั้งหมด
ส่วนนายตำรวจหนุ่ม เขาชักอยากจะรู้ว่าผู้หญิงธรรมดาที่ชื่อทรามเชยนั้นตัวตนที่แท้จริงภายใต้หน้าตาเรียบเฉยของเธอจะเป็นคนอย่างไรกันแน่
โปรดติดตามตอนต่อไป➡️
ทรามเชยมองอย่างระแวง แม้ว่าคนตรงหน้าจะเป็นถึงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แต่หล่อนก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในเจตนาของเขาเท่าใดนัก
หล่อนจึงหยุดอยู่แค่ที่หน้าประตู จ้องหน้าชายหนุ่มนิ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"คุณสิงหา ชั้นว่าเราคุยธุระกันที่ห้องรับแขกก็ได้นะ"
"ทำไม คุณกลัวว่าผมจะทำอะไรคุณงั้นเหรอ ทรามเชย"
ชายหนุ่มว่าพลาง ยิ้มนิดๆที่มุมปาก
"บอกตามตรง ชั้นไม่ค่อยไว้ใจคุณเท่าไหร่"
หญิงสาววางสีหน้านิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"โถ่คุณ ผมเป็นตำรวจนะ ผมต้องช่วยเหลือประชาชน ผมไม่รังแกประชาชนหรอกน่า ไว้ใจผมได้"
เขาพูด พร้อมลอบสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวและแอบคิดในใจว่า
"ช่างระวังตัวเสียจริง แม่คุณ"
"นี่ ยิ้มอะไรของคุณ คุณสิงหา"
หญิงสาวเอ่ยทักอย่างสงสัย เมื่อจู่ๆหล่อนก็เห็นเขายืนยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่คนเดียว
"เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอกคุณเชย คุณเรียกผมว่าเสือก็ได้นะ เรียกว่าสิงหาดูจะห่างเหินไปหน่อยนะ ผมว่า"
ชายหนุ่มว่ายิ้มๆ
"ค่ะ คุณเสือ ตกลงคุณมีธุระอะไรจะคุยกับดิชั้นเหรอคะ"
หญิงสาวถามเข้าเรื่องทันทีโดยไม่รอช้า หล่อนรู้สึกอยากรีบคุยธุระที่ว่านั้นให้เสร็จๆไปเสียทีโดยไม่ต้องยืดเยื้อ
"โอเคๆ ตกลงคุณอยากคุยตรงนี้ใช่มั้ยครับ งั้นผมอยากให้คุณอ่านนี่ซะก่อน"
ตำรวจหนุ่มยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลไปตรงหน้าหญิงสาว หล่อนรับมาและเปิดซองออกดู
ภายในซองมีกระดาษแผ่นสีขาวหนึ่งใบ ประทับตราบนหัวกระดาษว่า "ลับสุดยอด"
หล่อนหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมา กวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ก่อนเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉยว่า
"คุณเสือ ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว เราเข้าไปคุยกันข้างในเถอะ"
พูดจบหล่อนก็เป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปก่อน สิงหาไม่รอช้า เขารีบเดินตามหญิงสาวเข้าไปและไม่ลืมปิดล็อกลูกบิดประตูอย่างเบามือ
วิฬาร์ยาเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องรับแขก หล่อนรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนสาวขึ้นมาจับใจ ปกติพี่ชายของหล่อนไม่เคยให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามในห้องทำงานส่วนตัวเลย แต่ครั้งนี้กลับให้เชยหรือทรามเชยเข้าไปได้ง่ายๆแถมยังคุยกันตั้งนานสองนานไม่ยอมออกมาเสียที
"เอ๊ะ! อย่าบอกนะว่าสองคนนี้กิ๊กกันอยู่ โดยที่เราไม่รู้ อย่าทำให้เพื่อนเหมียวเสียใจก็แล้วกันพี่เสือ"
หญิงสาวนึกเดาในใจเป็นตุเป็นตะอยู่คนเดียว สักพักเพื่อนสาวที่เธอนึกห่วง ก็เดินกลับมาที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม โดยมีพี่ชายของหล่อนเดินตามหลังมาติดๆ
"เชยๆ เธอเป็นไงบ้าง พี่ชายชั้นเขาว่าอะไรให้เธอหรือเปล่า"
เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวก็อดถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
"เปล่าหรอกจ้ะเหมียว เรากับพี่ชายเธอคุยธุระกันนิดหน่อยน่ะจ้ะ"
"ธุระอะไรเหรอเชย เห็นคุยกันตั้งนานแน่ะ"
"ก็...พอดีชั้นจะเขียนนิยายแนวสืบสวนสอบสวนเป็นครั้งแรก ก็เลยจะมาขอข้อมูลจากพี่ชายเธอหน่อยน่ะจ้ะ"
"เอ๊ะ! แต่พี่เสือเป็นคนให้ชั้นนัดเธอมานะ ชั้นนึกว่าพี่เสือมีเรื่องอะไรจะให้เชยทำซะอีก"
เหมียวถามด้วยความสงสัย
"ยัยเหมียวตัวแสบ อยากรู้อะไรนักหนานะเรานี่ ที่พี่ให้เราชวนเชยมาที่นี่ เพราะว่าเชยติดต่อมาที่ สน.ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมาขอข้อมูลกับทางตำรวจไปเขียนนิยายเรื่องใหม่ของเธอ พี่เห็นว่าเชยเป็นเพื่อนเหมียว เลยให้เหมียวชวนมา ก็ไม่เห็นจะแปลกนี่"
ชายหนุ่มช่วยพูดเสริม เมื่อเห็นว่าทรามเชยเริ่มจะตอบไม่ค่อยถูกกับคำถามชวนสงสัยของน้องสาวเขา
หล่อนยังไม่วาย ซักไซ้ไล่เรียงผู้เป็นพี่ชายด้วยความสงสัยต่อ
"ก็แล้วทำไม พี่เสือไม่ให้เหมียวบอกไปล่ะ ว่าพี่น่ะเป็นคนนัดเชยมาเอง ไม่ใช่เหมียว"
"เอ้า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พี่จะบอกให้ก็ได้ยัยเหมียว พี่น่ะแอบสนใจเพื่อนเหมียวอยู่น่ะสิ แต่เชยเขาดูหยิ่งๆ เหมือนไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่เท่าไหร่ ก็เลยให้เหมียวบอกไปแบบนั้นไงล่ะ"
เขาพูดพร้อมทั้งส่งสายตากรุ้มกริ่มไปยังหญิงสาวที่ยืนข้างๆ แต่เจ้าหล่อนกลับทำสีหน้าเหมือนไม่พอใจเขาตอบกลับมาเสียอย่างนั้น
"จริงเหรอพี่เสือ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีน่ะสิ เหมียวไฟเขียวให้อยู่แล้วสำหรับเพื่อนที่น่ารักคนนี้"
พูดจบหล่อนก็ยิ้มสดใส โดยลืมสังเกตสีหน้าอึดอัดใจของเพื่อนไปเสียสนิท
ทรามเชยส่งสายตาดุๆไปยังชายหนุ่มผู้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆหล่อน ก่อนกระซิบเบาๆว่า
"นี่คุณ ทำไมคุณไม่ใช้เหตุผลอื่นบอกยัยเหมียวไป ทำไมต้องแสร้งทำเป็นว่าคุณสนใจชั้นด้วย"
"ผมว่าเหตุผลนี้แหละเเนบเนียนที่สุดแล้ว เห็นมั้ยพอผมพูดปั๊บ ยัยเหมียวก็หายติดใจเราสองคนเลย"
เขาบอกอวดๆ พร้อมรอยยิ้มแบบมีเลศนัยที่มุมปาก
หญิงสาวต้องจำยอมปล่อยเลยตามเลย หล่อนต้องตามน้ำไปก่อนอย่างเสียมิได้ เพราะตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ กระดาษสีขาวที่ประทับตรา "ลับสุดยอด" นั้นต่างหาก
วิฬาร์ยายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเห็นเพื่อนรักและพี่ชายกระซิบกระซาบกัน ด้วยเข้าใจว่าทั้งคู่คงจะเย้าแหย่กันตามประสาคนที่กำลังศึกษาดูใจกันอยู่ โดยไม่เฉลียวใจสักนิดว่าสิ่งที่เธอเห็นอยู่นั้น อาจไม่ใช่ความจริงเสียทั้งหมด
ส่วนนายตำรวจหนุ่ม เขาชักอยากจะรู้ว่าผู้หญิงธรรมดาที่ชื่อทรามเชยนั้นตัวตนที่แท้จริงภายใต้หน้าตาเรียบเฉยของเธอจะเป็นคนอย่างไรกันแน่
โปรดติดตามตอนต่อไป➡️
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ