สืบสู้ผี ภาค เมฆาคนล่าผี
เขียนโดย Jintanakorn
วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 04.55 น.
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
13) สมุดวาดเขียนสั่งตาย Part 8
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในคืนนั้นเอง ราวๆ ห้าทุ่ม
ณ.บ้านในซอยเปลี่ยวหลังที่เมฆาได้ไปเจอโทรศัพท์มือถือตกอยู่ที่ริมรั้วหลังบ้านเมื่อสองคืนก่อนหน้านี้ ที่บนบ้านชั้นสองก็ได้มีเสียงพูดคุยกันอย่างค่อนข้างเบาของคนสองคน โดยที่หน้าต่างทุกบานภายในบ้านก็ถูกปิดทั้งหมด และภายในบ้านก็ไม่ได้เปิดไฟนีออนไว้แต่อย่างใด แต่กลับได้จุดเทียนไขไว้พอให้มีแสงสว่างเพียงเล่มเดียว ราวกับว่าคนทั้งสองที่กำลังพูดคุยกันนี้จะไม่ต้องการให้เพื่อนบ้านหรือใครที่อยู่ในระแวกใกล้ๆ แถวนี้มาได้ยินการพูดคุยในครั้งนี้ไปได้แม้แต่นิดเดียว
"จนถึงตอนนี้แล้ว พี่ก็ยังไม่ได้เชิญอาจารย์คนนั้นมาหรอกรึ? " เสียงที่ถามนี้เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งที่ลักษณะน้ำเสียงดูจะเป็นสาวมากกว่ามีอายุ
"เชิญแล้วๆ แต่อาจารย์ท่านยังไม่ว่าง ท่านบอกว่าวันพรุ่งนี้ตอนสามทุ่ม ท่านถึงจะมาหาเราที่นี่ได้น่ะ" เสียงของชายหนุ่มที่ดูจะยังมีอายุไม่เยอะตอบก่อนจะพูดต่อไป
"แล้วนี่น้องจะมาเร่งอะไรกับพี่กันนักหนา ถึงยังไงเราก็ได้สมุดวาดเขียนอาถรรพ์นั่นมาเก็บไว้ที่นี่แล้วนี่ คราวนี้เราก็แค่รออาจารย์ท่านมาทำพิธีให้กับพวกเราเพียงอย่างเดียว หลังจากนั้นแล้ว ไอ้เรื่องอาถรรพ์ที่ทำให้พวกเราเครียดๆ กันมาถึงตอนนี้ ก็คงจะได้จบๆ กันไปสักที"
"แล้วอาจารย์คนนี้น่ะ ท่านเก่งจริงๆ รึ ท่านจะสามารถทำลายอาถรรพ์หรือสมุดวาดเขียนเล่มนี้ได้จริงๆ รึพี่? " เสียงของหญิงสาวยังคงถามต่อไป
"เชื่อได้เลย ว่าเก่งจริงแน่นอน เพราะพี่เองก็ได้สืบหามาอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอาถรรพ์ต่างๆ หรือแม้แต่การปราบผีที่จะเฮี้ยนมากขนาดไหนท่านก็เอาอยู่ทั้งหมด และตามที่พี่ได้ข้อมูลของอาจารย์ท่านนี้มา พี่ก็ไม่เคยได้ยินว่าท่านจะเคยทำงานล้มเหลวมาก่อนเลยนะ..." เสียงชายหนุ่มตอบหญิงสาวอย่างมั่นอกมั่นใจ
แล้วหญิงสาวก็ถอนใจขึ้นมาครั้งหนึ่ง "เฮ้อ... ถ้ามันจะสำเร็จโดยไม่มีปัญหาอะไรมันก็ดี แต่น้องน่ะ กลัวว่ามันจะมีปัญหาอะไรตามมาอีกน่ะสิ แล้วอีกอย่างนะ น้องเองน่ะก็ไม่ค่อยจะไว้วางใจนายเม้งนั่นสักเท่าไรหรอกนะ กลัวแต่ว่ามันจะไปทิ้งร่องรอยอะไรไว้ที่ตรงไหนโดยไม่รู้ตัวเข้าน่ะสิ..."
"วันนี้นายเม้งบอกว่า ทำมือถือเก่าๆ หาย..." ชายหนุ่มรีบบอกเรื่องนี้ราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้
"อะไรนะ...?! " เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาอีกระดับ "นี่ไปทำสะเพร่าไว้อีกแล้วล่ะสิ โธ่ ไอ้ควายหน้าหม้อคนนี้...! "
"เบาๆ สิ..." ชายหนุ่มเตือน "เราจะต้องระวังไม่ให้ใครแอบมาได้ยินที่เราคุยกันที่นี่นะ
"ก็มันน่าด่าจริงๆ นี่..." หญิงสาวลดเสียงให้เบาลงเหมือนเดิม "แล้วนี่มันไปทำหายไว้ที่ตรงไหนกันล่ะ แล้วถ้าเกิดใครเก็บไปได้จะทำยังไงกัน? "
"นายเม้งเองก็จำไม่ได้ว่าตัวเองไปทำหายหรือทำหล่นไว้ที่ตรงไหนนะ..." ชายหนุ่มว่า "ดูเหมือนเขาเองก็จะเพิ่งรู้ตัวเอาเมื่อวานนี้เองว่ามือถือเขาได้หายไปหลังจากที่เพิ่งตื่นนอนขึ้นมาในตอนสาย หลังจากนั้นเขาเองก็ยังมาถามหาเอากับพี่ที่นี่ แต่พี่ก็บอกเขาว่า ไม่ได้ทำตกไว้ที่นี่แน่นอน ไม่อย่างนั้นพี่ก็คงจะเห็นแล้วสิ... แต่พี่ว่ามือถือนั่น ก็คงจะไม่สร้างปัญหาอะไรให้หรอก ถึงจะมีชาวบ้านคนไหนเก็บไปได้ก็เถอะ เพราะคนส่วนใหญ่ของที่หมู่บ้านนี้ ก็คงจะไม่รู้ว่าเบอร์เครื่องเป็นของใคร อย่าลืมว่านายเม้งเองก็ได้ไปอาศัยอยู่ที่อื่นตั้งพักใหญ่แล้วตามความเข้าใจของคนในหมู่บ้านนี้..."
"ชิ ไอ้เม้งคนนี้ ถุนยามากไปก็เป็นซะแบบนี้ล่ะ" น้ำเสียงของหญิงสาวออกจะเหยีดๆ "ไอ้สมงสมองของมันนี่ ก็คงจะเอ๊าท์ไปไม่น้อยแล้วด้วย แต่ไอ้ความจัญไรที่มีมาแต่ดั้งเดิมของมันนี่ ก็ไม่รู้ว่ามันจะลดน้อยลงไปด้วยหรือเปล่านะ...? "
"เอาเถอะๆ อย่าไปว่าอะไรมันนักเลย ถึงแม้มันจะชั่วอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าไม่มีมัน เรื่องยุ่งๆ หรือเรื่องอาถรรพ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ เราก็คงจะไม่รู้ว่าจะแก้ไขกันได้ยังไงนะ..."
"ฮึ๊... ก็แล้วไอ้เรื่องยุ่งบ้าๆ ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ มันเป็นเพราะใครกันล่ะ มันก็เป็นเพราะพี่กับไอ้เม้งนั่นสร้างกันไว้ไม่ใช่เหรอ...? " เสียงของหญิงสาวดูจะขุ่นเคืองขึ้นมาอีกก่อนที่จะพูดต่อไป
"แล้วไอ้คนที่ครูสุนทรได้เชิญมันมาเป็นครูสอนศิลปะชั่วคราวนั้นน่ะ เห็นว่าที่จริงมันก็เป็นหมอผีอะไรสักอย่างใช่ไม๊ นี่มันเองก็คงจะตามสืบเรื่องอะไรในโรงเรียนได้อยู่ไม่น้อยแล้วด้วยล่ะมั้ง พี่ไม่คิดบ้างหรือว่า มันเองน่ะ อาจจะสร้างปัญหาให้กับพวกเราได้อยู่เหมือนกันนะ ถึงหน้าตามันจะดูเสี่ยวๆ และดูจะไม่ค่อยฉลาดนักก็เถอะ...? "
แล้วเสียงแกร๊กราวกับเสียงกิ่งไม้หักก็ดังมาจากนอกหน้าต่างจนหญิงสาวเองก็ถึงกับสะดุ้ง จากนั้นก็มีเสียงเหมือนเสียงของการกระพือปีกของสัตว์อะไรบางอย่างดังตามมา...?!
ไวราวกับจะระมัดระวังไว้อยู่แล้ว ชายหนุ่มรีบถลาตัวไปที่หน้าต่างและเปิดผั๊วะออกไปทันที...!
เลยห่างออกไปจากหน้าต่างไม่ไกลนัก ชายหนุ่มก็ได้มองเห็นว่า มีสัตว์มีปีกชนิดหนึ่ง กำลังโผบินขึ้นสู่อากาศเบื้องบนของท้องฟ้าราตรี ชายหนุ่มลองมองดูดีๆ แล้วก็เห็นว่ามันเป็นเพียงนกชนิดหนึ่งที่ดูคล้ายๆ กับนกฮูกสีขาว และเจ้านกตัวนี้ก็คงได้มาเกาะอยู่ที่กิ่งของต้นเงาะแก่ๆ ที่ได้ปลูกไว้อยู่ที่ข้างบ้านหลังนี้จนบังเอิญว่ากิ่งที่มันได้เกาะอยู่นี้คงจะผุและหักในจังหวะเมื่อกี้พอดี
"อะไร... อะไรเหรอพี่ น้องงี้ตกอกตกใจหมดเลย? " หญิงสาวถามขณะที่ค่อยๆ เดินมาชะเง้อดูอยู่ที่เบื้องหลังของชายหนุ่ม
"ไม่มีอะไร... ไม่มีอะไรหรอก มันก็แค่นกตัวหนึ่งน่ะ ดูเหมือนจะเป็นนกฮูก มันคงบินมาเกาะอยู่ที่กิ่งเงาะนั่น แล้วกิ่งก็คงจะหักเพราะความผุเข้าพอดีน่ะ ดูสิ มันบินไปโน่นแล้วล่ะ..." ชายหนุ่มบอกแล้วก็ชี้นิ้วให้หญิงสาวมองไปที่ตัวของนกที่กำลังบินห่างออกไปเรื่อยๆ
นกตัวนี้เป็นนกฮูกจริงๆ มันเป็นนกฮูกที่มีสีขาวบริสุทธิ และขณะนี้ มันก็กำลังบินอยู่กลางท้องฟ้าอันไร้หมู่เมฆ แล้วมันก็บินตัดแสงจันทร์ขาวนวลที่เกือบจะเต็มดวงก่อนที่จะโผพุ่งลงไปยังพื้นที่เบื้องล่างอันเห็นเป็นแสงไฟนีออนของบ้านห้องแถวหลังหนึ่งในหมู่บ้านทับรุ้งแห่งนี้
แล้วนกฮูกก็ถลาลงไปที่ระเบียงหลังห้องของห้องแถวห้องหนึ่ง โดยที่มันก็ได้ลงไปเกาะอยู่ที่บนไหล่ซ้ายของชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะรอคอยมันอยู่ที่ตรงนี้มาได้สักพักแล้ว และชายผู้นี้ก็มีใบหน้าที่ออกจะเสี่ยวๆ เหมือนอย่างที่ใครบางคนเพิ่งจะได้พูดไว้
เพราะชายคนนี้ ก็คือ 'เมฆา' นั่นเอง...!
"ทำงานได้ดีมากลูกรัก..." เมฆายกมือขึ้นลูบขนของนกฮูกอย่างรักไคร่ และชั่วครู่เดียวนกฮูกตัวนี้ก็ค่อยๆ สลายหายไปกับอากาศธาตุ
แต่เมื่อเมฆาได้แบมือข้างนั้นออกมาดูแล้ว ที่กลางฝ่ามือนั้นก็กลับมีวัตถุที่แกะสลักเป็นตัวนกฮูกขนาดจิ๋วสงบนิ่งอยู่ในฝ่ามือ
แล้วเมฆาก็มองฝ่าความมืดออกไปยังทิศที่เป็นที่ตั้งของบ้านในซอยเปลี่ยวหลังนั้่น
"หนอย... ว่าเราหน้าเสี่ยวรึ คิดว่าฉันจะไม่ได้ยินรึไง...? " สีหน้าของเมฆาดูจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมา "รอพรุ่งนี้ก่อนเถอะ แล้วเราจะได้เจอกัน...! "
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆ นี้นะครับ)
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ