Believe
เขียนโดย หัวใจวาย
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.55 น.
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2562 16.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ๙ ความเชื่อ - ๗
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความความเชื่อ - ๗
สหภาพเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงและออกเดินต่อไปตามทางที่มืดครึ้ม ภาพเพื่อนสนิทที่นอนเปลือยบนฟูกสีเข้มยังคงติดตา แม้ไม่มั่นใจว่าภาพนั้นเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ แต่มันก็ติดตาไม่น้อยเลย
แก้ผ้าคุยโทรศัพท์? เล่นอะไรไม่เข้าท่า ถ้ามึงโดนคนอื่นดูดภาพไปปล่อยในเน็ตแล้วจะหนาว!
สหภาพเดินแกว่งถุงกระดาษใบใหญ่ในขณะที่เดินอยู่ริมถนน เขาแวะไปซื้อกางเกงตัวใหม่มาเมื่อช่วงเย็นจึงจำเป็นต้องใช้ทางเข้าหมู่บ้านอีกทางหนึ่งซึ่งเป็นซอยที่ไม่คุ้นเคย แต่มันก็ไม่ถึงกับลำบาก เพราะเขาสามารถมองหามอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ที่หน้าปากซอย หลังจากยืนเข้าคิวรออยู่นานกว่าห้านาทีเขาก็ซ้อนท้ายรถเข้ามาถึงถนนทางเข้าของหมู่บ้าน
หลังจากจ่ายค่าโดยสารแล้ว สหภาพก็เดินตรงมาตามถนนทางเข้าของหมู่บ้านก่อนจะตัดเข้าถนนเลียบสวนหย่อมกว้างของโครงการ สวนหย่อมนี้เป็นสวนหย่อมที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจสำหรับคนทั่วไปเพราะมันกว้างและไม่มีอะไรมากนัก รวมถึงไม่ค่อยมีเสาไฟให้ความสว่างมากพอ แต่สำหรับนักวิ่งแล้ว ความกว้างและร่มรื่นของมันเหมาะมากทีเดียว ช่วงเช้าตรู่และเย็นย่ำจึงมีนักวิ่งและผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายแวะเวียนมาไม่ขาดสาย
และในคืนนี้ สหภาพก็เห็นเหล่านักวิ่งชายหญิงหลากรุ่นเหมือนที่คิดไว้ สหภาพจึงเดินช้าลงเพราะเบาใจที่ยังมีผู้คนอยู่ในสวนหย่อม แม้คนเหล่านั้นจะดูอ่อนล้าและแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลยก็ตาม
เด็กหนุ่มพยายามมองหาใบหน้าที่รู้จัก แต่ทุกครั้งที่เขาเขม้นมองไป ใบหน้านั้นก็จะหลุบเข้าสู่เงามืดทันทีราวกับว่าร่มเงาของต้นไม้ รวมถึงความมืดของยามค่ำคืนจะช่วยกันปกปิดใบหน้าของพวกเขาอย่างมีนัยยะซ่อนเร้น
แต่ไม่เห็นใบหน้าก็ไม่เป็นไร แค่ได้เห็นร่างกายขาวเนียนในกางเกงขาสั้นเต่อหรือไม่ก็หน้าอกกระเพื่อมไหว มันก็เพียงพอที่จะทำให้สหภาพลืมความผิดปกติเหล่านั้นไป ถ้ายิ่งได้เห็นต้นขาขาวอ้ากว้างและเผยกางเกงในตัวเล็กออกมา เขาจะยิ่งตื่นเต้นเป็นพิเศษ
หือ? ...นั่นเด็กโรงเรียนไหนวะ? ถ้าได้ซักคน กูจะฟันแม่งให้ยับเลย
เด็กหนุ่มบอกกับตัวเองอย่างชั่วร้ายในขณะจับตามองกลุ่มนักวิ่งหญิงรุ่นราวคราวเดียวกับตนที่อยู่ห่างแค่เพียงความกว้างของพุ่มต้นเข็มกั้น ร่างกายช่วงล่างของพวกเธอทั้งสามที่ถูกกางเกงตัวเล็กแนบรัดนั้นช่างยั่วเย้า ทั้งต้นขาที่เกร็งแน่นจนกล้ามขึ้นรูปสวย น่องขาที่ขมวดจนกล้ามขึ้นเป็นลูกกลมเหมาะมือ หรือแม้แต่แก้มก้นที่กระเพื่อมไหวสลับเกร็งแน่นอยู่ในกางเกงตัวบาง
สหภาพเหม่อมองนักวิ่งกลุ่มนั้นอย่างใจลอยในขณะเดินต่อไปตามทางอิฐตัวหนอนหลากสี ราวสิบเมตรข้างหน้าคือทางเข้าสวนหย่อม ตรงนั้นมีเสาโคมที่ให้แสงสว่างซีดจางอยู่หนึ่งดวง แต่มันก็ถูกใบไม้บดบังไปไม่น้อย สหภาพจึงเห็นเพียงรางๆ ว่ามีชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรั้วโลหะสีเงินที่สูงระดับเอว เขาจับรั้งรั้วและกำลังลุกนั่งอย่างกระฉับกระเฉง
เด็กหนุ่มเดาว่าชายตัวสูงใหญ่คนนี้คงกำลังทำคูลดาวน์ก่อนที่จะกลับบ้าน เด็กหนุ่มจึงลอบมองเพียงเพื่อหวังจะระบุให้ได้ว่าเขาคือใคร
ร่างสูงใหญ่ในชุดกีฬาหยุดขยับตัวเหมือนกับรู้ตัวว่าถูกจับจ้อง เขาหยุดอยู่ในท่านั่งยองบนปลายเท้าและนิ่งขึงอยู่อย่างนั้น แม้ท่วงท่าของเขาจะเป็นท่าทางของการออกกำลังกายและไม่ได้คุกคาม แต่สหภาพไม่ชอบที่ถูกคนแปลกหน้าที่มองแทบไม่เห็นใบหน้าจ้องตอบด้วยท่าทางนิ่งขึงแบบนั้น เขาจึงเดินส่ายไปตามทางเพื่อให้พ้นทางเข้าสวนหย่อมนั้นโดยเร็ว
เด็กหนุ่มเพิ่งเดินออกห่างมาได้ไม่ถึงสองเมตร เสียงย่ำเท้าหนักๆ ก็ดังขึ้น
เสียงของยางแข็งที่กระแทกย่ำลงบนอิฐตัวหนอนดังขึ้นมาถึงเด็กหนุ่มราวกับเจ้าของรองเท้าจงใจกระทืบรองเท้าของตนลงบนพื้นเพื่อให้เกิดเสียง สหภาพไม่ได้หันไปดูแต่พอจะเดาเหตุการณ์ด้านหลังได้
เสียงย่ำเท้าดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเคลื่อนที่ไปสู่ถนน
อย่างน้อยมันก็ไม่ได้พุ่งมาทางกูละวะ
เด็กหนุ่มกำลังปลอบใจตัวเองพลางปล่อยลมหายใจอย่างโล่งอก เสียงย่ำเท้านั้นเพิ่มจังหวะจนกลายเป็นวิ่งเหยาะ ตอนนี้ชายร่างสูงคนนั้นคงข้ามไปถึงแนวแบ่งเลนกลางถนนแล้ว
แป๊นนนนนนน!!
แค่เพียงชั่วอึดใจ เสียงแตรของรถยนต์ก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงเบรคกระชั้น เสียงล้อรดครูดผิวถนนลั่นขึ้นพร้อมแสงวาบจากไฟหน้าที่ส่องมาจากด้านหลังของสหภาพ เสียงกระแทกลั่นโครมดังสนั่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมแสงจากไฟหน้าวูบสะบัด
เสียงวัตถุหนักตกลงสู่พื้นดังตุ้บ สหภาพรู้ได้ทันทีว่าเสียงนั้นคือร่างของคน เพราะขาข้างขวาของผู้ชายฟาดลงบนพื้นทางเดินและชี้ไปด้านหน้าของสหภาพ เด็กหนุ่มจึงเห็นได้อย่างชัดเจน
รองเท้าผ้าใบอาดีดาสสีขาวแถบส้ม
เด็กหนุ่มพยายามคุมสติ เขาคิดจะก้มลงไปช่วยเหลือชายคนนั้นแม้ตนเองยังคงตื่นเต้นและลนลาน แต่สภาพแวดล้อมรอบตัวดูผิดปกติจนทำให้เขานึกเอะใจขึ้นมา เขาจึงมองไปรอบตัวอีกครั้ง
ภายในสวนหย่อมไม่มีความวุ่นวายใดๆ เกิดขึ้นเลย ไม่มีใครซักคนในสวนหย่อมที่แสดงท่าทางว่าเห็นหรือได้ยิน ไม่มีใครให้ความสนใจกับเหตุการณ์ร้ายแรงนี้ ทุกคนยังคงเดิน วิ่งและพักผ่อนอย่างปกติราวกับมันไม่ได้เกิดขึ้น
รถยนต์คันหนึ่งแล่นตรงมาตามทางด้วยความเร็วสูง รถคันนี้ไม่มีทีท่าว่าจะลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่บนถนนเพิ่งมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เศษซากควรจะกระจายเกลื่อนถนน คนขับน่าจะมองเห็น
แต่รถคันนี้ก็ขับผ่านไปและทิ้งให้รอบตัวเงียบลงอีกครั้ง
สหภาพก้มมองที่พื้นอีกครั้ง คนเจ็บที่รอการช่วยเหลือควรจะต้องนอนอยู่ตรงนี้…
แต่สายตาของเขาพบเพียงทางเดินที่ว่างเปล่า...ขาข้างนั้นหายไปแล้ว!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ