หิมะแรกในฤดูหนาว
-
เขียนโดย หมาบ้าน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 00.48 น.
4 บท
0 วิจารณ์
4,941 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 01.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่1: พบเบาะแส
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ดวงตาสีน้ำตาลแดงเบิกโพลงขึ้นเหงื่อโทรมไปทั่วร่างสูงใหญ่ เม็ดเหงื่อเกาะพราวไปทั่วใบหน้าคมสัน เวลาผ่านมาแล้ว10ปีนับจากเกิดเหตุการณ์นั้น นาฬิกาดิจิตอลบ่งบอกเวลาหกโมง เด็กหนุ่มเสยผมน้ำตาลเข้มตัดสั้นขึ้นก่อนลุกไปยังมุมหนึ่งในห้องนั่งเล่นเพื่อทำอาหารเช้าถึงแม้จะไม่ใช่งานที่เขาถนัดนักแต่ก็พอมีประสพการณ์จากตอนช่วยที่บ้านทำอาหารมาบ้าง เขาเสียปลั๊กกระทะไฟฟ้าทำไข่ดาวสามฟองทอดสุกกำลังพอดีและเตรียมขนมปังปิ้งห้าแผ่น พร้อมกับเตรียมเนยและแยมอีกสองชนิดวางจัดเรียงอยู่บนโต๊ะ วันนี้เป็นวันที่สามที่เขาเริ่มใช้ชีวิตอยู่ในหอพักแห่งนี้ มือใหญ่คว้าหยิบขนมปังที่พึ่งออกมาจากเครื่องปิ้งพร้อมตักไข่แดงขึ้นมาปาดสร้างสรรณเมนูแปลกประหลาดตามความคิดแล้วกัดเข้าไปคำใหญ่ ผสมแยมทั้งสองปาดลงไปบนไข่ขาวที่เหลือแล้วหั่นกินอย่างอเล็ดอร่อย
“รสชาติไม่เลวแหะ” ปากบ่นพึมพำหลังจากนั้นไม่นานอาหารในจารก็หมดลง ร่างโปร่งนำจานไปวางไว้ในอ่างล้างจานแล้วออกไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อออกกำลังกายยามเช้าเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศ หอพักชายเต็มไปด้วยความครึกครื้น ทาคาฮาชิ นัตสึโอะ แต่งชุดนักเรียนเต็มยศเดินออกจากห้องพร้อมพาดกระเป๋านักเรียนสีดำไว้บนบ่า
“ไง ยังตื่นเช้าเหมือนเคยนะวันนี้” เสียงทักทายสดใสดังขึ้น ทานะกะซังผู้ดูแลหอพักแห่งนี้ทักขึ้น
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับสั่นๆก่อนจะมุ่งไปยังหอประชุมใหญ่อย่างไม่รีบร้อน รอบหอพักชื่นมื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่มีเสียงนกร้องอยู่รำไร กลีบซากุระโปรยปรายไปทั่วทางเดินลอยมาจากรอบด้านบ่งบอกถึงฤดูใบไม้ผลิ ถนนสายหลักของหอพักประดับไปด้วยต้นซากุระสองข้างทางไปจนสุดทางเดิน ระยะทางจากหอพักไปยังโรงเรียนห่างกันประมาณ15นาทีเป็นอีกเหตุผลที่หลายคนเลือกที่จะอยู่หอพักที่โรงเรียนจัดให้ แถมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในยังครบครันไม่ต่างจากหอพักเกรดAที่สามารถพบได้ในเมืองใหญ่ส่งผลให้หอพักแห่งนี้ไม่เคยเงียบเหงา
เมื่อนัตสึโอะเดินมาถึงหอประชุมก็ได้เวลาเจ็ดโมงกว่าๆแล้ว นักเรียนเริ่มทยอยเข้ามาประปรายส่งเสียงทักทายกับอย่างคึกคัก บ้างก็เคยรู้จักกันมาก่อน บ้างก็นั่งปลีกนิเวศอยู่คนเดียว เขาเป็นจำพวกหลังอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เพราะว่าเขินอายที่จะเข้าหาคนอื่นแต่ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยรับแขกแถมความสูงยังมากกว่าเด็กปกติไปถึง180ซม.ถึงจะหน้าตาดูดีแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปทักทาย บวกกับการแพ่รังสีอันตรายออกมารอบ ๆ หลายคนจึงทำได้เพียงแค่มองอย่างหวาดหวั่น
เวลาเจ็ดนาฬิกาสี่สิบนาทีคณะครูค่อยๆเดินออกมาจากหลังเวที ประธานนักเรียนประกาศให้ทุกคนนั่งประจำที่ หลังจากหาที่นั่งของเขาเจอเขาก็นั่งรอให้คนอื่นเดินวุ่นหาที่นั่งกันต่อไป เวลาผ่านไปซักพักระหว่างนั่งรออย่างเบื่อหน่ายนักเรียนสี่ร้อยกว่าคนเดินขวักไขว่วุ่นวายไปรอบ ๆห้องประชุม พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับร่างๆหนึ่ง …ดวงตาสีฟ้า…ผมสีดำสนิท… ราวกับช่วงเวลาหยุดเดินลง นัตสึโอะลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วหัวใจบีบรัดด้วยความตื่นเต้น เด็กผู้หญิงคนนั้นที่เขาไล่ตามหามาถึง10ปีกำลังยืนอยู่เพียงแค่เอื้อมมือ
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสังเกตเห็นชุดนักเรียนที่อีกฝ่ายสวมอยู่ ‘ผมสั้น? ผู้ชาย? เป็นไปไม่ได้…’ เป็นเพราะเมื่อกี้เขานั่งอยู่จึงมองเห็นเพียงแค่ใบหน้าหมดจดนั่นเท่านั้น ร่างสูงได้แต่เก็บอาการตื่นเต้นไว้ ดวงตาสีฟ้าประหลาดและผมสีดำขลับแบบชาวเอเชียแท้แบบนี้จะพบได้ซักกี่คนเชียวในประเทศญี่ปุ่น
‘ไม่แน่เขาอาจจะเป็นญาติกับเธอคนนั้นก็ได้’ เด็กหนุ่มคิดก่อนจะยอมนั่งลงเนื่องจากเสียงประธานนักเรียนประกาศบอกว่าพิธีกำลังจะเริ่มขึ้น แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่บนร่างที่ห่างออกไปเบื้องหน้าอย่างไม่ลดละ
ถัดออกไปอีกสองช่วงแถว ยุกิมุระ ฟุยุคิ รู้สึกอึดอัดอย่างแปลกประหลาด ขนแขนลุกซู่ สัมผัสได้ถึงสายดุดันที่ส่งมาให้ตนอย่างไม่ลดละ ‘มาถึงวันแรกก็โดนจ้องเล่นงานเลยแฮะ…’ เสียงปราสัยของผู้บริหารที่กำลังกล่าวคำอภิปรายไม่ได้เข้ามาในหัวเลยซักนิด ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ เสียงทุ้มด้านข้างก็ทักขึ้น
“เมื่อวานตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเหรอ สีหน้าดูไม่ดีเลย” เด็กหนุ่มทักด้วยความเป็นห่วงสายตาคอยสอดสำรวจรูปร่างหน้าตาอีกฝ่าย ร่างเล็กด้านข้างมีรูปร่างสูงโปร่งแต่ก็ยังดูเตี้ยกว่าตนแต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาคือผิวสีขาวราวน้ำนมหมดจดและตาสีฟ้าประหลาดเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้างทำให้ลืมเรื่องเพศของคนๆนี้ไปได้ชั่วขณะ เป็นคนที่มีแรงดึงดูดไม่ธรรมดาเลย
“ฉันชื่น นากามูระ เรียวเฮ อยู่ห้องเดียวกับนาย ฝากตัวด้วย” สายตาจดจ้องไปบนในหน้าอีกฝ่ายไม่วางตา ไม่บ่อยนักที่จะมีคนมาเข้าหาตนก่อน ร่างโปร่งเอ่ยเสียงเรียบ ด้านข้างเป็นเด็กหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ผมสีน้ำตาลเข้มนัยน์ตาสีดำเข้ากับบุคลิกร่าเริงของเจ้าตัวอย่างลงตัว
“ยูกิมูระ ฟุยุคิ ฝากตัวด้วย”
‘สายตานั่นคงจะไม่ได้มาจากเจ้านี้หรอกนะ’ ถึงแม้อีกฝ่ายจะจ้องเขาไม่วางตาเหมือนกัน แต่ความรู้สึกที่ได้รับนั้นแตกต่างกันความรู้สึกก่อนหน้าอย่างมาก ออกจะไปในทางชื่นชมสะด้วยซ้ำ
“วันนี้พึ่งย้ายเข้าหอเลยกังวลนิดหน่อย”
“เอ๋? ปกติการย้ายเข้าหอต้องมาก่อนวันปฐมนิเทศไม่ใช่รึไง” ร่างใหญ่ถามด้วยความสงสัย
“ติดธุระทางบ้านนิดหน่อย” ขณะที่กำลังจะสานต่อบทสนทนาเพลงประจำโรงเรียนก็ดังขึ้น บ่งบอกให้นักเรียนทุกคนลุกขึ้นเพื่อเป็นการเคารพสถาบัน บทเพลงดำเนินจนจบก่อนประธานนักเรียนรุ่นพี่จะประกาศให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายไปตามอัธยาศัยเป็นอันจบพิธีของวันนี้ เรียวเฮแตะไหล่เรียกคนที่เตี้ยกว่าด้านข้างก่อนจะเสนอตัวเข้าช่วยเหลืออีกฝ่าย
“ฉันก็พักอยู่ที่นั่นเหมือนกัน ให้ฉันได้ช่วยนายขนของเถอะ” ฟุยุกิครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณตอบรับ ทั้งคู่มุ่งตรงไปยังทางออกอย่างไม่รีรอพร้อมสนทนาเรื่องจิปาถะเล็กน้อย โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตานึงกำลังสอดส่องหาตัวพวกเขาอยู่
“รสชาติไม่เลวแหะ” ปากบ่นพึมพำหลังจากนั้นไม่นานอาหารในจารก็หมดลง ร่างโปร่งนำจานไปวางไว้ในอ่างล้างจานแล้วออกไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อออกกำลังกายยามเช้าเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศ หอพักชายเต็มไปด้วยความครึกครื้น ทาคาฮาชิ นัตสึโอะ แต่งชุดนักเรียนเต็มยศเดินออกจากห้องพร้อมพาดกระเป๋านักเรียนสีดำไว้บนบ่า
“ไง ยังตื่นเช้าเหมือนเคยนะวันนี้” เสียงทักทายสดใสดังขึ้น ทานะกะซังผู้ดูแลหอพักแห่งนี้ทักขึ้น
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับสั่นๆก่อนจะมุ่งไปยังหอประชุมใหญ่อย่างไม่รีบร้อน รอบหอพักชื่นมื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่มีเสียงนกร้องอยู่รำไร กลีบซากุระโปรยปรายไปทั่วทางเดินลอยมาจากรอบด้านบ่งบอกถึงฤดูใบไม้ผลิ ถนนสายหลักของหอพักประดับไปด้วยต้นซากุระสองข้างทางไปจนสุดทางเดิน ระยะทางจากหอพักไปยังโรงเรียนห่างกันประมาณ15นาทีเป็นอีกเหตุผลที่หลายคนเลือกที่จะอยู่หอพักที่โรงเรียนจัดให้ แถมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในยังครบครันไม่ต่างจากหอพักเกรดAที่สามารถพบได้ในเมืองใหญ่ส่งผลให้หอพักแห่งนี้ไม่เคยเงียบเหงา
เมื่อนัตสึโอะเดินมาถึงหอประชุมก็ได้เวลาเจ็ดโมงกว่าๆแล้ว นักเรียนเริ่มทยอยเข้ามาประปรายส่งเสียงทักทายกับอย่างคึกคัก บ้างก็เคยรู้จักกันมาก่อน บ้างก็นั่งปลีกนิเวศอยู่คนเดียว เขาเป็นจำพวกหลังอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เพราะว่าเขินอายที่จะเข้าหาคนอื่นแต่ด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยรับแขกแถมความสูงยังมากกว่าเด็กปกติไปถึง180ซม.ถึงจะหน้าตาดูดีแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปทักทาย บวกกับการแพ่รังสีอันตรายออกมารอบ ๆ หลายคนจึงทำได้เพียงแค่มองอย่างหวาดหวั่น
เวลาเจ็ดนาฬิกาสี่สิบนาทีคณะครูค่อยๆเดินออกมาจากหลังเวที ประธานนักเรียนประกาศให้ทุกคนนั่งประจำที่ หลังจากหาที่นั่งของเขาเจอเขาก็นั่งรอให้คนอื่นเดินวุ่นหาที่นั่งกันต่อไป เวลาผ่านไปซักพักระหว่างนั่งรออย่างเบื่อหน่ายนักเรียนสี่ร้อยกว่าคนเดินขวักไขว่วุ่นวายไปรอบ ๆห้องประชุม พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับร่างๆหนึ่ง …ดวงตาสีฟ้า…ผมสีดำสนิท… ราวกับช่วงเวลาหยุดเดินลง นัตสึโอะลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วหัวใจบีบรัดด้วยความตื่นเต้น เด็กผู้หญิงคนนั้นที่เขาไล่ตามหามาถึง10ปีกำลังยืนอยู่เพียงแค่เอื้อมมือ
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสังเกตเห็นชุดนักเรียนที่อีกฝ่ายสวมอยู่ ‘ผมสั้น? ผู้ชาย? เป็นไปไม่ได้…’ เป็นเพราะเมื่อกี้เขานั่งอยู่จึงมองเห็นเพียงแค่ใบหน้าหมดจดนั่นเท่านั้น ร่างสูงได้แต่เก็บอาการตื่นเต้นไว้ ดวงตาสีฟ้าประหลาดและผมสีดำขลับแบบชาวเอเชียแท้แบบนี้จะพบได้ซักกี่คนเชียวในประเทศญี่ปุ่น
‘ไม่แน่เขาอาจจะเป็นญาติกับเธอคนนั้นก็ได้’ เด็กหนุ่มคิดก่อนจะยอมนั่งลงเนื่องจากเสียงประธานนักเรียนประกาศบอกว่าพิธีกำลังจะเริ่มขึ้น แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่บนร่างที่ห่างออกไปเบื้องหน้าอย่างไม่ลดละ
ถัดออกไปอีกสองช่วงแถว ยุกิมุระ ฟุยุคิ รู้สึกอึดอัดอย่างแปลกประหลาด ขนแขนลุกซู่ สัมผัสได้ถึงสายดุดันที่ส่งมาให้ตนอย่างไม่ลดละ ‘มาถึงวันแรกก็โดนจ้องเล่นงานเลยแฮะ…’ เสียงปราสัยของผู้บริหารที่กำลังกล่าวคำอภิปรายไม่ได้เข้ามาในหัวเลยซักนิด ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ เสียงทุ้มด้านข้างก็ทักขึ้น
“เมื่อวานตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเหรอ สีหน้าดูไม่ดีเลย” เด็กหนุ่มทักด้วยความเป็นห่วงสายตาคอยสอดสำรวจรูปร่างหน้าตาอีกฝ่าย ร่างเล็กด้านข้างมีรูปร่างสูงโปร่งแต่ก็ยังดูเตี้ยกว่าตนแต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาคือผิวสีขาวราวน้ำนมหมดจดและตาสีฟ้าประหลาดเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนรอบข้างทำให้ลืมเรื่องเพศของคนๆนี้ไปได้ชั่วขณะ เป็นคนที่มีแรงดึงดูดไม่ธรรมดาเลย
“ฉันชื่น นากามูระ เรียวเฮ อยู่ห้องเดียวกับนาย ฝากตัวด้วย” สายตาจดจ้องไปบนในหน้าอีกฝ่ายไม่วางตา ไม่บ่อยนักที่จะมีคนมาเข้าหาตนก่อน ร่างโปร่งเอ่ยเสียงเรียบ ด้านข้างเป็นเด็กหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ผมสีน้ำตาลเข้มนัยน์ตาสีดำเข้ากับบุคลิกร่าเริงของเจ้าตัวอย่างลงตัว
“ยูกิมูระ ฟุยุคิ ฝากตัวด้วย”
‘สายตานั่นคงจะไม่ได้มาจากเจ้านี้หรอกนะ’ ถึงแม้อีกฝ่ายจะจ้องเขาไม่วางตาเหมือนกัน แต่ความรู้สึกที่ได้รับนั้นแตกต่างกันความรู้สึกก่อนหน้าอย่างมาก ออกจะไปในทางชื่นชมสะด้วยซ้ำ
“วันนี้พึ่งย้ายเข้าหอเลยกังวลนิดหน่อย”
“เอ๋? ปกติการย้ายเข้าหอต้องมาก่อนวันปฐมนิเทศไม่ใช่รึไง” ร่างใหญ่ถามด้วยความสงสัย
“ติดธุระทางบ้านนิดหน่อย” ขณะที่กำลังจะสานต่อบทสนทนาเพลงประจำโรงเรียนก็ดังขึ้น บ่งบอกให้นักเรียนทุกคนลุกขึ้นเพื่อเป็นการเคารพสถาบัน บทเพลงดำเนินจนจบก่อนประธานนักเรียนรุ่นพี่จะประกาศให้นักเรียนทุกคนแยกย้ายไปตามอัธยาศัยเป็นอันจบพิธีของวันนี้ เรียวเฮแตะไหล่เรียกคนที่เตี้ยกว่าด้านข้างก่อนจะเสนอตัวเข้าช่วยเหลืออีกฝ่าย
“ฉันก็พักอยู่ที่นั่นเหมือนกัน ให้ฉันได้ช่วยนายขนของเถอะ” ฟุยุกิครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณตอบรับ ทั้งคู่มุ่งตรงไปยังทางออกอย่างไม่รีรอพร้อมสนทนาเรื่องจิปาถะเล็กน้อย โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตานึงกำลังสอดส่องหาตัวพวกเขาอยู่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ