Secret Love ลิขิตรัก

-

เขียนโดย PMIX

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 14.06 น.

  12 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.77K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 14.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ดั่งมีม่านกั้นใจ /3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


         
         


 รับน้องผ่านไปหลายวัน...

     ชื่นกมล ประภากร สังเกตว่าวรรณณี อริยภาส ไม่เข้าร่วมกิจกรรมเลยตั้งแต่วันนั้น
         
            
     รุ่นพี่ถามถึงพวกสาวสาว จากกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นปี แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ รวมทั้งตัวแจ่มใสเองด้วย แดนดนัยกลับมีท่าทีเฉยชากับเรื่องที่ได้ยิน
       



 แล้วเย็นวันนี้เอง..
     
     แดนดนัย พาวรรณณีกลับมาร่วมกลุ่มได้อย่างเคย หล่อนเกาะแขนชายหนุ่มมาอย่างสนิทสนม และดูท่าระหงอย่างผู้มีชัย

       
           

    รุ่นพี่ชื่ออี๊ดและรุ่นพี่คนอื่นๆ ทำท่าเฉย เหมือนไม่มีวรรณณีเข้ามาร่วมวง และไม่เคยเรียกให้หล่อนทำกิจกรรมอะไรอีกเลยคล้ายมาร่วมเป็นประธานในกิจกรรม ต่างๆ
         
     และดูหล่อนก็ถูกอก ถูกใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้สนใจอะไรอีกนอกจากหน้าของแดนดนัย

         
 
     เพื่อนๆสองสาวลูกคู่ของหล่อน นานๆทีจะส่งสายตามึนตึงมาให้เธอ

       
     แต่วรรณณีก็จะร่วมกิจกรรมอย่างตั้งอกตั้งใจขึ้นมาทันทีเมื่อแดนดนัยเป็นผู้นำทำกิจกรรม
         

           

    และมันจะตรงกันข้ามอย่างสุดโต่ง เมื่อพี่อี๊ดเป็นคนนำ โดยเฉพาะกิจกรรมร้องเพลง จนทุกคนเริ่มเอือมระอากับกิริยาอาการของหล่อน

                              

          "นี่ น้องๆ ร้องเพลงให้มันดังๆหน่อยได้ไหม? อย่ากินแรงเพื่อน เดี๋ยวง่อยจะจับ”

        
    สาวอี๊ดเท้าสะเอวว่า สายตานั้นจับอยู่ที่วรรณณี อริยภาส
ทุกๆสายตาจึงตามไปจับที่ปลายสายตานั้น

        
         
    วรรณณี ค้อนควับ หันไปทำปากขมุบขมิบกับเพื่อนสาวของหล่อน

    พิณหทัยหันมายิ้ม “ สมเนอะ” ป้องปากว่า

เธอยักคิ้วให้พิณหทัยนิดๆ แทนคำตอบ

   
   พิธาน ทำหน้าเบ้นิดๆ พยักพเยิดให้พิณหทัยหันหน้าไปก่อนสายตาของสาวรุ่นพี่จะเบนมาหาพวกเขาแทน

       
             

    พิณหทัย เป็นอีกคนพลอยได้รับผลไปด้วย ที่มาทำตัวสนิทสนมกับแจ่มใสเกินไป
       


   ส่วนพิธาน เป็นผู้ชายก็เลยไม่ได้โดนหางเลขไปด้วย เพราะเขาดูจะเฉยๆ ไม่ค่อยใส่ใจกับท่าทีของวรรณณีเอาซะเลย พิณหทัยแอบนินทาพิธานว่า "เฉยเกินเหตุ!!" แต่แจ่มใสก็ค้านแทนว่า
            
    "
ดีแล้ว!!" เพราะไม่อยากให้พิธานต้องมาลำบากใจและวุ่นวายใจด้วย ต่างคนต่างอยู่เป็นดีที่สุด

        



              
    ห้องพักของแจ่มใสอยู่บนชั้นสี่ ของตึกห้าชั้น เป็นหอพักเดียวกับแดนดนัยนั่นเอง ตั้งแต่เธอตกลงเช่าห้องอยู่ ก็มีเพื่อนร่วมหอพักสนิทกันอีกหลายคน
         
                
    แดนดนัย ก็เป็นหนึ่งในนั้น ชายหนุ่มมักจะแวะเวียนมาหาและมาชวนเธอไปทานข้าวด้วยเสมอ ถ้าเขาว่าง

          
     แต่..แจ่มใสสังเกตว่าพักหลังจะไม่ค่อยว่าง เพราะบ่อยครั้งจะมีสาวๆ แวะเวียนมาที่ห้องแดนดนัยเป็นประจำ โดยเฉพาะสาวๆ รุ่นพี่ต่างคณะ เธอเองก็ไม่เคยคุ้นหน้าและรู้จัก

          


          "เพื่อน พี่ทั้งนั้นแหละ” แดนดนัย พูดขึ้น เมื่อแจ่มใสแกล้งถามถึงสาวผมยาวซึ่งเห็นคนล่าสุดเมื่อเย็นวาน ขณะเขาชวนเธอลงไปกินข้าวใต้ตัวตึกเหมือนทุกครั้ง

                 
                         
       "เพื่อนสาวเยอะจังนะคะ?” ดารกา เพื่อนร่วมหอพัก ทำหน้าลอย แจ่มใสแอบเห็นชายหนุ่มยิ้มมุมปาก

                
                         
       "อ้อ ก็ใช่นะสิจ๊ะ คนโสดนี้ครับ มีเพื่อนเยอะเป็นธรรมดา” ชายหนุ่มเอามือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง

                

         "ที่เขาเรียกว่ากิ๊กอะเหรอจ๊ะ ไนท์” ดารกาหล่อนลอยหน้าลอยตาพูดต่อ

                 


      "ไม่ใช่หรอกครับ.. อย่างพี่น่ะไม่มีใครสนหรอก ดาพูดอย่างนี้เดี๋ยวน้องแจ่มก็เข้าใจผิดแย่”

ชายหนุ่มเบนสายตามาทางเธอ

   “ใช่ใหมจ๊ะ น้องแจ่ม อย่างพี่ไม่มีใครสนหรอก" แวบหนึ่งเธอเห็นสายตาเขาเศร้าลง แต่ก็กลับเป็นสายตายิ้มเป็นปกติ


         
  "ไม่รู้สิคะ” เธอมองไปที่เขาแล้วหันไปทางสาวร่างตุ้ยนุ้ย อีกฝาก
    พี่อรว่าไงค”อิงอรทำหน้าย่น “ขอผ่านดีก่า” อิงอรว่า

                

          
           แจ่มใสแอบกลั้นขำ หันเบนไปปอีกทาง

                   

                      ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

           

             


                    การเรียน ดูจะยากขึ้นมากจากระบบโรงเรียน เมื่อก่อนต้องมีอาจารย์คอยจ้ำจี้จ้ำไช มาเป็นการแบบต้องดูแลตัวเองมากขึ้น

    ไม่มีใครมาบังคับให้ต้องเข้าเรียน ต้องค้นคว้าด้วยตนเองและมีงานที่ต้องรับมอบหมายของอาจารย์แต่ล่ะวิชามากขึ้น

        

     อาจารย์ แต่ล่ะท่านต่างย้ำว่าต้องคอยติดตามส่งงานเอง เวลาผ่านไปอย่างยากเย็น การเรียนแสนจะเคร่งเครียด และยังต้องแบ่งสมองมารับกับเรื่องคน ทำไมหนอ

      
    ชื่นกมล ประภากร เองคิด ทั้งเธอเองก็พยายามเลี่ยงและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว
         

         

    แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ยอมลดละ วรรณณี อริยภาส มักจะหาเรื่องมาให้ต้องหงุดหงิดได้เสมอ มักจะมองเธอด้วยสายตาดูถูกดูแคลนอยู่ ตั้งแต่คราวที่เธอแนะนำตัวว่ามาจากเชียงใหม่และที่บ้านเปิดร้านขายของชำ

             
                         

          "ดูสิมาทำไมไม่รู้ ต่างจังหวัดก็มี มหาลัยตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่รู้จักไปเข้าเรียน” วรรณณี หล่อนจีบปากจีบคอ เปิดประเด็นกับสาวๆร่วมก๊วน


    
“นั่นสิ อพยพเข้ามาจนกรุงเทพคับแคบ” มัญญาวี หรือรู้จักในชื่อเรียกว่า เอมมี่ สาวเสื้อรัดติ้วว่า หล่อนหาได้สนใจคนอื่นที่มาจากต่างจังหวัดคนอื่นมองด้วยสายตาเคร่งขรึม

        
      นอกจากจะมองเพ่งมายัง แจ่มใสและพิณหทัย ซึ่งอยู่เมืองอยุธยาเช่นกัน

   
             

    และไม่สนใจจะผูกมิตรกับเพื่อนร่วมห้องส่วนใหญ่ ถึงกระนั้นหล่อนก็ยังมีลูกสมุนไฮโซ เพิ่มขึ้นอีกหลายคน
         

            
   แม้จะไม่ได้ติดสอยห้อยตามวรรณณีเหมือนเป็นเป็นเงาตามตัว เหมือน เอมมี่กับเวนด้า สองลูกพี่ลูกน้องสุดแซบ
        



    แต่ก็ดูจะมีกลุ่มเฉพาะของหล่อนพอจะเหยียบคนอื่นๆนอกกลุ่ม ให้จมได้
          
    “สงสารพ่อแม่พวกนี้จริงๆ” พิณหทัย กระแซะ มาพูดเบาๆ ข้างหู
 

        


     แจ่มใส รู้ว่าพิณหทัยหมายถึงพวกวรรณณี ก๊วนนั้นมักจะพากันแอบโดดเรียน และมาสายเสมอ บางครั้ง มาสายตั้งครึ่งคาบเรียน

                   


        "พวก เธอที่มาทีหลังนะ ครูกำลังให้เพื่อนๆ เขียนแพลนวางแผนกับชีวิตในการเรียนของพวกเธอในเทรมนี้ ทั้งแผนการอ่านหนังสือ ตารางเรียน” อาจารย์ผกามาศว่า แกจ้องเขม็งไปฟากหลังห้อง แทบไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นใครอื่นได้อีก
    

       
    หลายสายตาเหลือบไปมอง แต่เธอก็ยังมองตรงไม่หันตามแน่
 
 
    “ทีหลังก็มาให้มันเร็วกว่านี้สักนิดนะจ๊ะ” อาจารย์ที่ปรึกษาคือ อาจารย์ ผกามาศ เป็นอาจารย์อาวุโส ประจำคณะ แกรูปร่างอวบแกไม่ได้แต่งหน้าเข้มจึงดูใจดี ทั้งที่จริงแกค่อนข้างเป็นคนเจ้าระเบียบ ถึงกระนั้นก็ไม่อาจทำให้ กลุ่มสาวรสแซบเกรงแต่อย่างใด

       
   

     อาจารย์ เป็นคนที่แจ่มใส ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ท่านทำให้แจ่มใส คลายคิดถึงป้า มักจะขันอาสา ช่วยงานอาจารย์เสมอ     
       
             
    จนบางครั้งพิณหทัยก็แซวว่า ลูกอาจารย์ผกามาศ และเธอมักจะพูดแก้เก้อว่าลูกอะไรกันอาจารย์เขารุ่นป้านู้นแล้ว แต่ในใจก็แอบอุ่นใจลึกๆ

          
         


    ตั้งแต่ป้าอิ่มกลับบ้านไป แจ่มใสก็มักจะโทรคุยกับป้าบ่อยครั้งและทุกครั้งแกก็ไม่ลืมจะถามหาแดนดนัย

          
         
     แต่นี่..ก็หลายอาทิตย์แล้ว แจ่มใสมัวแต่ยุ่งและไม่ได้โทรหาป้าเลย งานอาจารย์สั่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ เป็นเงาตามตัว ความรู้ต่างๆอาจารย์ต่างทุ่มเท สั่งสอน งานต้องติดตามส่งงานเองแทบทุกวิชา

             

         "โอ๊ย....เบื่อ....เบื่อ...เบื่อ” วรรณณีและเพื่อนอีกสองคน เดินเข้ามาทางประตูหลังห้อง
        

        

     กลุ่มนั้นมักจะนั่งแถวหลังประจำ ซึ่งบ่อยครั้งคุยกัน หัวเราะคิกๆ จนบางหนอาจารย์พูดแหนบให้ได้อาย แต่หาได้ทำให้พฤติกรรมดีขึ้นไม่

        
             

    แจ่มใสเอง พยายามไม่ใส่ใจ แต่บางครั้งก็อดไม่ได้ต้องหันไปมอง..อย่างเช่นวันนี้ เมื่อวรรณณีเล่นกระแทกหนังสือวรรณกรรมพื้นฐานเล่มหนาที่เรียนในตอนเช้าและ สมุดงานสองสามเล่ม เดาว่าคงใช้เรียนในชั่วโมงข้างหน้าลงบนโต๊ะอย่างแรงอย่างจงใจ

       

    แวบนั้นเองเธอพึ่งสังเกตว่าวันนี้ วรรณณีไม่ใช่เด็กสาวผมเปียอีกต่อไป ดูเหมือนจะทำตัวให้เปรี้ยวเชี่ยวขึ้นอย่างที่ไม่เหมาะกับหน้าใสตาโต อย่างหล่อน
        


    ดูแทบจะถอดแบบ รับกับเพื่อนสาวแสนสนิทของหล่อน ทรงผมหน้าม้าสั้นเต๋อ สไลด์ด้านข้างเรียบหูไปยาวด้านหลัง ดูชอบกล จะเปรี้ยวก็ไม่ให้ ดูจืดๆพิกล

   แจ่มใสอดคิดถึงผมเปียแต่เดิมของวรรณณียังจะดูดีกว่าตอนนี้ไม่ได้

นี่ถ้าเธอจะสามารถบอกความปรารถนาดีนั้นได้ คงทำไปแล้ว

          
           

    คงตั้งใจมาอวดทรงผมเต็มที ไม่งั้นฝนคงจะตก ทั้งที่แดดข้างนอกร้อนเปรี้ยงออกอย่างนี้
         

   เพราะวันนี้เข้าเรียนได้ก่อนอาจารย์เข้าสอน นั่นเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เรื่องหนึ่งได้เลยทีเดียว

           
          
    แจ่มใส หยิบงานต้องส่งในชั่วโมงออกมาทวน มันเป็นงานเขียนเรื่องขนาดสั้น เน้นวิธี อุปมาอุปไมย ที่เรียนไปในชั่วโมงก่อน
        
          

    เธอนั่งอ่านทบทวนที่ตัวเองเขียนไว้ แต่ก็ต้องสะดุดสายตา เมื่ออ่านไปได้แค่สามบรรทัดแรก รู้สึกถึงเงาร้ายทาบทับอยู่เหนือศรีษะ

             
                       

                         

        "ไงจ๊ะ แม่คนขยัน เทรมนี้จะเอา เอ สักกี่ตัวดี?” แจ่มใสทำหูทวนลม ฝ่ายนั้นย่ามใจพูดต่อ

                      
        "ขยันๆ อย่างนี้อาจารย์จะให้ เอ.. เธอนะ!!” ฟังได้ ชัดว่าหล่อนทำเสียงให้ทุ้มขึ้น ให้คล้ายอาจารย์ วินิจ เจ้าของวิชา
         
               
   ฝ่ายสนับสนุน หลายคนพากันหัวเราะคิกคัก


       
   มือดีจากด้านหลังหยิบสมุดที่แจ่มใสกระแทกลงบนโต๊ะ เธอถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายหน้ามองตรง

                          



        "อืม เนื้อหา น้ำเน่าดี ครูจะให้สิบคะแนน รูปแบบถูกต้อง เอาไปอีกสิบ” แจ่มใสเริ่มหูร้อน เหมือนควันจะเริ่มพุ่งออกหู พยายามจะลุกประจันหน้า แต่มือข้างๆของพิณหทัยรั้งเธอไว้

           
                    
                     



          "แล้ว เธอล่ะ เอาสักกี่คะแนนดี?”เสียงทุ้มเจ้าตำหรับทักขึ้น ไม่ไกลนัก เล่นเอาอาจารย์ตัวปลอมหน้าถอดสี หน้านั้นยุ่งแต่สายตายังไม่ถอนไปจากสมุดแจ่มใส

          

     นักศึกษาอีกครึ่งห้องพากันหัวเราะคิกคัก       แจ่มใสรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวร้าย แอบสะใจอยู่ลึกๆ แต่ก็หลบสายตากลั้นขำไว้

                     
                       
                     
         "ไป กลับไปนั่งที่เธอซะ หรือว่าชั่วโมงนี้เธอจะสอนแทนครู”แจ่มใสเงยหน้าขึ้นเมื่อกลั้นขำได้




   อาจารย์ วินิจ ยิ้มในหน้าไม่ได้โกรธขึง แจ่มใสยังทันจะหันไปเห็นสายตาอาฆาต ก่อนหล่อนจะเดินก้มหน้างุดๆกับไปกระแทกก้นนั่ง เสียงเก้าอี้ดังเอียดอาด

         




    ในคาบเรียนสองชั่วโมงจากนั้น..แจ่มใสเรียนไม่ค่อยมีความสุขอย่างเคย เพราะเหมือนมีตาทั้งสามคู่คอยจับจ้องมายังเธอ จนรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก 
           

           
    ตั้งใจจะไม่สน นั่นยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด จึงจำต้องหันไปมอง ตาทั้งหกดวงจับจองไม่วางตา
        

     เธอกวาดตาไปมองสายตาทุกคู่ แล้วหันกลับมาข้างหน้าทำเป็นไม่แยแส และพยายามกลั้นใจไม่มองซ้ำ ใช่แต่เธอจะอึดอัดคนเดียว พิณหทัย และพิธานก็หันไปมองหลายครั้ง

        
        
            

    คาบเรียนผ่านไปอย่างยากลำบาก พิณหทัย บ่นอุบข้างหูว่าเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเหมือนจะไม่มีสมาธิ เธอเองก็เช่นกัน แจ่มใสคิด เสียงกริ่งหมดคาบเรียนดังขึ้นในที่สุด

      
      
    เก็บหนังสือสมุด ก่อนที่อาจารย์วินิจจะทันสั่งงานที่จะส่งในชั่วโมงต่อไปเสียอีก แจ่มใสจึงต้องฝากให้พิณหทัยจดหัวข้องานที่อาจารย์สั่งไว้ด้วย

                                   
                             


        "งาน เก่าใครยังไม่ส่ง ให้ติดตามส่งเองภายในอาทิตย์นี้” สายตาแกกวาดไปรอบๆ
            
    “ส่วนงานอาทิตย์หน้าเขียนบทความเน้นหลักการเขียนโน้มน้าวใจ ที่เรียนไปในชั่วโมงนี้” แจ่มเองก็รู้สึกท้องโหวง เพราะเธอเองก็ไม่มีสมาธิเท่าไหร่เลย ในการจดจำ "วันนี้พอแค่นี้”แกว่า

           
          

   นักศึกษาต่างลุกขึ้นทยอยกันออกไป แต่ไม่ทันที่แจ่มจะได้ก้าวเท้า รังสีอำมหิตก็แผ่ซ่านมาถึงเธอ

            
                         
        "นี่เธอ คงสะใจสินะ ที่เห็นฉันต้องถูกอาจารย์ตอกหน้า ขายหน้าเพื่อนๆ”

            
     ฝ่ายนั้นยืนเชิดหน้ากอดอก “เธอรู้ใช่ไหมตอนอาจารย์มาถึง” สาวหน้าตาจิ้มลิ้มว่า

                    
                          



        "อาจารย์ยังไม่กลับอีกเหรอครับ?” พิธานโพล้งขึ้น ทั้งกลุ่มต่างหันไปด้านหลังพร้อมกัน

        
             
     พิธาน รีบพลุนพลัน สะกิดแจ่มใสรีบรุดเดินออกไป ก่อนวรรณณีจะหันมา เพื่อนชายที่ลากพิณหทัยก็เดินไปได้หลายก้าว ฝ่ายนั้นกระทึบเท้าปึงปัง วิ่งตามมา

        
              
     ไม่ทันจะออกไปพ้นห้อง วรรณณีก็ดึงข้อมือเธอไว้ แต่ยังไม่ได้พูดอะไร เสียงชายหนุ่มรุ่นพี่ก็เป็นเหมือนระฆังหมดยก ซะก่อน

         
                             


          "สวัสดีครับสาวๆ” หนุ่มบอย รุ่นพี่รวมคณะทักขึ้นยิ้มร่า แต่ก็ยังไม่กว้างเท่าชายหนุ่มรุ่นพี่อีกคนคนข้างๆ

        
          
   วรรณณีปล่อยข้อมือแจ่มใสโดยอัตโนมัติ

       "เลิกเรียนแล้วเหรอครับ แล้วจะไปไหนกันต่อนี้” ชายหนุ่มยิ้มกว้างนั้นว่า

                 


   

     "พี่ไนน์ล่ะคะ จะไปไหนต่อ?” วรรณณีเดินเข้าไปจนชิดแดนดนัย

       
     เบียด พิณหทัยที่อยู่ใกล้แดนดนัยมากกว่า ซะจนพิณหทัยต้องถอยไปหลายก้าว

           
                       


     "เราขอไปชมรมนะ”พิธานว่าก่อนจะหลบฉากออกไป ทิ้งให้พิณหทัย ทำหน้ามุ่ยเข้ามาเบียดแจ่มใส

            
                  
                          
 "พี่ว่าจะไปเดินห้างนะ.. ใครสนใจไปกับพี่บ้าง?.. น้องแจ่มไปกับพี่ไหม?” แดนดนัยเบนสายตาจากวรรณณี มาจับที่หน้าของเธอ ไม่ทันตอบ


    เสียงเล็กเจื้อยแจ้วก็ว่า

   “วรรณขอไปด้วยคนนะคะ!”





     แต่ทันทีที่พูดจบ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายวรรณณีก็ดังขึ้น หล่อนดูไม่สบอารมณ์ รีบล้วงมารับโทรศัพท์แล้ว ปลีกตัวออกไปอย่างหงุดหงิด

 

          
                ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

 
       
                 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา