องค์รักษ์พิทักษ์มังกร

-

เขียนโดย MIBAz

วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 11.41 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,627 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม พ.ศ. 2562 11.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) แม่ทัพผู้เป็นปริศนา 1.1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
              ณ.ท้องพระโรง ที่กว้างขวาง ผนังรายรอบด้วยจิตรกรรมภาพเขียนยาวรอบตัวห้อง เสาสีแดงแต่ละต้นมีมังกรทำด้วยทองคำพันกายรัดตัวเสาทุกต้น กึ่งกลางห้องมีบัลลังก์ที่มองแล้วสะดุดตา ทำด้วยทองคำล้อมรอบด้วยมังกรในตาสีแดง ที่พักแขนประกอบไปด้วยหัวกิเลนทองคำในตาสีแดงเช่นกัน บ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของผู้ครอบครองบัลลังก์แห่งนี้  ปรากฏชายวัยกลางคน ดูมีบารมี สวมชุดมังกร นั่งวางราชการอยู่ ภายใต้บัลลังก์แห่งนั้น เหล่าขุนนาง ข้าราชบริการ ยืนเรียงรายเต็มทั้งสองฝั่งซ้ายและขวา โดยมีพรมสีแดงเข้มกั้นกึ่งกลางไว้อยู่ การยืนของขุนนางแต่ละคนบ่งบอกถึงความสำคัญและตำแหน่งที่ตัวเองดูแลอยู่ การว่าราชการของจักรพรรดิครั้งนี้ก็เหมือนทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา เหล่าขุนนางได้ถวายฎีกาและอ่านรายงานสถานการณ์บ้านเมืองต่อหน้าพระพักตร์จักรพรรดิ
               “เหตุการณ์บ้านเมืองในมณฑลบูรพานั้นปกติสุข ฝนฟ้าเป็นใจ พืชผลอุดมสมบูรณ์ ไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขใต้พระบารมี บัดนี้ภาษีประจำปีที่เรียกเก็บจากราษฎร ได้นำไปไว้ที่ท้องพระคลังหลวงเพื่อทำการตรวจนับแล้ว พะยะค่ะ” ผู้ว่าการมณฑลบูรพา อ่านรายงาน
               “ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี...เอาล่ะ ท่านผู้ว่าการคนต่อไป” จักรพรรดิ กล่าว
               “ช้าก่อน...เถิดพะยะค่ะ องค์จักรพรรดิ ข้าน้อยมีเรื่องกราบทูลให้ทรงทราบ ” เสียงชายแปลกหน้า
 
               ชายวัยกลางคนร่างกายกำยำ ดูองอาจ หนวดเครายาวถึงลิ้นปี่ ใส่ชุดเกราะลายมังกรสีทอง มือด้านซ้ายถือหมวกเหล็กสีทองปลายหมวกมีพู่สีแดง ชายวัยกลางคนถือไว้ระนาบเอว ถัดมาด้านล่างหมวก มีกระบี่สวมอยู่ในฝักกระบี่ ฝักกระบี่มีลวดลายมังกรและเป็นสีทองเช่นกัน ชายวัยกลางคนเดินมากลางพรมแดงอย่างองอาจพร้อมด้วยทหารระดับสูงหลายสิบนายที่เดินตามหลังด้านซ้ายและขวา ชายวัยกลางคนเดินมาเกือบถึงบันไดหน้าบัลลังก์ ก่อนเหล่าทหารจะคุกเข่าฝั่งขวาลงและชันเข่าด้านซ้ายขึ้น พร้อมทั้งก้มหน้าลง
 
               “ข้าน้อย แม่ทัพใหญ่ ห้าวหยาง ขอจงทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่นๆ ปี” แม่ทัพใหญ่ห้าวหยางทำความเคารพองค์จักรพรรดิ
               “กลับมาแล้ว รึ แม่ทัพของข้า เอาๆ รีบลุกขึ้นเร็ว” จักรพรรดิ กล่าว
               “พะยะค่ะ” แม่ทัพห้าวและเหล่าทหารติดตามกล่าว และลุกขึ้นพร้อมกัน
               “เมื่อสักครู่ท่านแม่ทัพห้าว เจ้ามีเรื่องอะไรจะบอกข้ารึ” จักรพรรดิ กล่าว
               “ข้าน้อยมีเรื่องบางอย่าง จะกราบทูล ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของราษฎรและมีบางอย่างเชื่อมโยงกับผู้ว่าการมณฑลบูรพา ” แม่ทัพใหญ่ห้าวหยางกล่าว
               “ไหนท่านแม่ทัพลองเล่ามาสิว่ามีความข้องเกี่ยวข้องกันอย่างไร แล้วความเป็นอยู่ของราษฎร ความจริงนั้นเป็นอย่างไร” จักรพรรดิ กล่าว
 
               แม่ทัพใหญ่ห้าวหยาง ได้เล่าเหตุการณ์ว่า การรายงานของผู้ว่าการมณฑลบูรพานั้นเป็นความเท็จทั้งหมด ฝนก็ไม่ได้ตกตามฤดู พืชผลนั้นก็ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ ราษฎรมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก ครั้นชาวบ้านรวมตัวกันไปจวนของผู้ว่าการนั้นก็ไม่ได้ให้ราษฎรเข้าพบ มิหนำซ้ำยังใช้ให้ทหารเข้าทำร้ายร่างกายชาวบ้านที่มายังจวน เพราะคิดเพียงแค่ว่ามาก่อกวน การทำงานเหมือนอยู่ไปวัน ๆ ไม่ได้คิดถึงราษฎรแม้แต่น้อย ระหว่างที่เสร็จศึกจากชายแดนแถบนั้นและกำลังยกทัพกลับเมืองหลวงเพื่อรายงานผลให้จักรพรรดิทราบ ก็มีชาวบ้านมาขวางทาง แม่ทัพห้าวหยางจึงได้ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในมณฑล จึงเร่งควบม้าเร็วพร้อมกับทหารติดตามมายังวังหลวง หลังจากจักรพรรดิได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ก็พิโรธเป็นอย่างมาก
 
               “นำไอผู้ว่าคนนี้ ไปประจานรอบเมืองสามวัน แล้วนำไปตัดหัวเสียบประจาน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง” จักรพรรดิ กล่าว
               “ไว้ชีวิตข้าน้อยด้วย....ข้าน้อยไม่ได้ทำ....อย่างที่แม่ทัพได้กล่าวไว้” ผู้ว่าการมณฑลบูรพา กล่าว
               “เจ้ายังมีหน้าจะโกหกต่ออีกหรือ...อย่างนั้นก็เพิ่มโทษให้มัน...จับประหารตระกูลมันให้หมด” จักรพรรดิ กล่าว
 
               ผู้ว่าการมณฑลบูรพาถึงกับเข่าทรุด ระหว่างที่ทหารวังหลวงกำลังหิ้วปีกออกจากท้องพระโรง  ปรากฏมีน้ำไหลจากขาของผู้ว่าการไหลยาวเป็นทาง
 
               “ข้าน้อยรู้ว่ามิควร แต่ข้าน้อยมีเรื่องจะทูลขอต่อพระองค์ ” แม่ทัพใหญ่ห้าวหยางกล่าว
               “ท่านแม่ทัพ...มีอะไรก็บอกมาเลยว่าท่านต้องการอะไร” จักรพรรดิ กล่าว
               “ข้าน้อยมิไม่ได้อยากได้อะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เงินภาษีที่เรียกเก็บมานั้น ข้าน้อยขอให้พระองค์ได้คืนกลับไปยังราษฎร เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหา”  แม่ทัพใหญ่ห้าวหยางกล่าว
               “เจ้ายังรู้ใจข้าเหมือนเดิม....ข้าฝากเจ้าจัดการด้วย” จักรพรรดิ กล่าว
               “รับด้วยเกล้า พะยะค่ะ” แม่ทัพใหญ่ห้าวหยางกล่าว
 
               หลังจากนั้นจักรพรรดิได้สั่งยกเลิกการว่าราชการ และได้เรียกแม่ทัพห้าวหยางเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัว โดยทิ้งปริศนาต่อเหล่าขุนนางว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงเชื่อคำของแม่ทัพคนนี้เป็นอย่างมาก และแม่ทัพห้าวหยางคนนี้นั้นเป็นใคร

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา