ภารกิจพิชิตร่างใหม่
-
เขียนโดย ลิลลี่สีเลือด
วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.47 น.
1 chapter
0 วิจารณ์
2,732 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 มกราคม พ.ศ. 2562 07.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพิชญ์นั่งนิ่ง สายตาของเขาจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเปล่งประกายความสุขอยู่ในนั้น พิชญ์รักการเขียนนิยาย เขาชอบเรียงร้อยตัวอักษรให้ออกมาทีละประโยค และเติมแต่งทุกประโยคนั้นให้กลายเป็นเรื่องราวสักเรื่องหนึ่ง
หยิบกาแฟร้อนที่ปล่อยให้มันเย็นจนเกือบจะชืดเพราะติดอยู่กับอารมณ์สุนทรีย์ในการเขียนนิยายเรื่องนี้ให้จบอย่างดงาม เขายกขึ้นดื่มทีเดียวจนหมดแก้ว รสชาติขมปร่าของกาแฟยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น
บิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดคอมพิวเตอร์ นาฬิกาบนโต๊ะทำงานบ่งบอกเวลาเกือบบ่ายสามโมงแล้ว ร่างกายล้าเต็มทน
‘หมอนจ๋า เตียงจ๋า พิชญ์คิดถึงจังเลย’
ลุกขึ้นจากเก้าอี้เตรียมหอบร่างกายที่แสนอ่อนล้าไปยังเตียงนอน หากตอนนี้หัวถึงหมอน พิชญ์รู้ดีว่าเขาคงหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทว่ากลับรู้สึกหวิวๆ เหมือนยืนไม่มั่นคง
“เฮ้ย! นายกำลังจะเป็นลมเหรอ”
พิชญ์รู้สึกราวกับโลกใบนี้กำลังหมุน จากช้าๆ ไปเร็ว แล้วเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนเขานึกว่ากำลังลอยอยู่กลางห้องนอนของตัวเอง จากนั้นสติของเขาก็ดับวูบลงไป
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูหน้าห้องพักดังขึ้น รู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่ได้นัดใครมาหาที่ห้องในวันนี้ หากเป็นเพื่อนหรือคนของกองบรรณาธิการจะใช้วิธีติดต่อกับเขาทางโทรศัพท์มือถือเสียมากกว่า
พิชญ์ลุกขึ้นจากเตียงนอน บิดขี้เกียจเล็กน้อย เขายกมือขึ้นลูบใบหน้า แต่ก็ต้องตกใจเมื่อรู้สึกได้ถึงความแปลก จนต้องเลื่อนมือออกไปตรงหน้า
“เฮ้ย! มือใคร” อึ้งกับมือที่ใหญ่เกินกว่ามือปกติของเขา
เพียะ!
ก่อนจะลองตบแก้มตัวเองแรงๆ
“โอ๊ย! เจ็บ”
เมื่อเหตุการณ์ตอนนี้ไม่ใช่ความฝัน
‘เกิดอะไรขึ้นนะ’
ลองมองไปรอบๆ ห้อง ภาพตรงหน้าออกจะเบลอๆ เขาใช้มือคลำไปตรงโต๊ะข้างๆ เตียงนอน
“เอ อันนี้หรือเปล่า แว่นตาของผู้ชายคนนี้”
พอสวมแว่นตากรอบบางสีเงินอันนั้นเข้า ภาพตรงหน้าของเขาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
‘ค่อยยังชั่ว แต่ที่นี่มันที่ไหนกันนะ’
พิชญ์ลุกเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง ในกระจกนั้นมีร่างของชายหนุ่มผิวขาวซีด สวมแว่นตากรอบบางสีเงิน ไว้ผมยาวกระเซอะกระเซิง รูปร่างสูงโปร่ง ซึ่งต่างจากตัวเขาที่เป็นชายหนุ่มรูปร่างเล็ก ตัดผมสั้น ผิวขาวอมชมพู ไม่ได้ใส่แว่น และไม่ได้ดูติสท์มากมายแบบนี้
“ใครกันนะ แล้วเรามาอยู่ในร่างนี้ได้ยังไง”
พิชญ์มองดูร่างของคนที่เขาไม่คุ้นเคย และเขามั่นใจว่าในชีวิตนี้ไม่เคยรู้จักชายหนุ่มคนนี้เลย
ที่นี่ที่ไหน?
เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
และเขามาอยู่ในร่างของชายหนุ่มคนนี้ทำไม?
เป็นไปได้ว่าเขาตายแล้วใช่ไหม?
และวิญญาณออกจากร่างของเขาแล้วมาเข้าร่างของชายหนุ่มคนนี้?
คำถามมากมายพรั่งพรูเข้ามาในความคิด แต่สุดท้ายเขาก็ได้แค่คำตอบที่ว่าเป็นไปไม่ได้
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอีกครั้ง ฉุดให้ความคิดของพิชญ์กลับมายังโลกแห่งความจริง ในเวลานี้เขาไม่แน่ใจว่าควรเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่มาเคาะห้องหรือไม่ กลัวจะทำตัวไม่ถูกตอนที่เจอหน้ากัน
“เอาเถอะ ลองเปิดดูแล้วกัน อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดละนายพิชญ์”
พิชญ์ใช้มือลูบผมยาวที่กระเซอะกระเซิงให้เข้ารูป
‘ดูดีขึ้นบ้าง’
จากนั้นจึงเดินไปที่ประตูห้อง สูดลมหายใจลึกๆ เข้าปอด ก่อนจะตัดสินใจเปิดประตู
“พี่ฟ้าฮะ”
ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างเล็กของชายหนุ่มโผเข้ากอดเขาอย่างแรง
“เฮ้ย!” เพราะยังไม่ทันตั้งตัว ทำให้พิชญ์ล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้นห้อง โดยมีร่างเล็กของชายหนุ่มล้มทับตามลงไปอยู่บนตัวของเขา
“โอ๊ย!” พิชญ์ร้องลั่น เพราะรู้สึกจุกที่จู่ๆ ก็ถูกใครที่ไหนก็ไม่รู้ล้มทับมาอยู่บนตัวของเขา
หากเป็นในยามปกติเขาคงไม่ล้มกลิ้งลงไปนอนเล่นกับพื้นแข็งๆ ให้เจ็บตัวเล่นแบบนี้หรอก เพราะเขาออกจะคล่องแคล่วว่องไวและหลบเก่ง แต่คราวนี้เขาอยู่ในสภาพที่ร่างกายกำลังอ่อนแอเต็มที่
หากจะว่าหนักก็คงไม่เลย เพราะชายหนุ่มตัวเบามาก แต่เพราะตกใจทำให้พิชญ์เผลอผลักร่างเล็กนั้นออกไป
“อุ๊ย!”
ชายหนุ่มร่างเล็กยังไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อถูกผลักออกก็ฝืนตัวเอาไว้ กลายเป็นล้มลงมาทับบนร่างพิชญ์อีกครั้ง ทว่ามือเจ้ากรรมของพิชญ์กลับไม่รักดี ความตกใจทำให้เผลอตะปบไปที่ก้นงอนๆ ของชายหนุ่มร่างเล็กเสียแทน
“อ่า...” พิชญ์ครางเบาๆ รู้สึกตกใจเพิ่มขึ้นอีก เพราะเผลอทำตัวรุ่มร่ามออกไป เขามักเป็นเช่นนี้ประจำเวลาที่ตกใจหรือเจอเรื่องไม่คาดฝัน
“เอ๋” จุนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะแสดงท่าทางเหลอหลา เมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่เขารู้จัก อีกทั้งผู้ชายคนนี้กำลังทำมิดีมิร้ายด้วยการจับไปที่ก้นของเขาอยู่ ไม่จับเปล่าๆ เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกมือของชายหนุ่มขยำก้นเสียด้วย
“ว้าก!”
จุนร้องลั่น ก่อนจะรีบดันตัวเองออกจากร่างของพิชญ์
‘เฮ้ย! ไม่นะ’
ทว่าความตกใจทำให้จุนเผลอลื่นทับลงไปบนตัวของพิชญ์อีกรอบหนึ่ง ศอกของเขากระแทกไปที่ท้องของพิชญ์อย่างจัง คราวนี้รุนแรงจนเรียกว่าพิชญ์คงจุกโดยไม่ต้องทานข้าว และคงหายง่วงแทบเป็นปลิดทิ้ง
พิชญ์ทำได้เพียงครางออกมาเบาๆ เหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ นี่คือเรื่องบ้าบอเรื่องแรกที่เกิดขึ้นในวันนี้
หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของใครก็ไม่รู้ มีชายหนุ่มร่างเล็กหน้าตาน่ารักเข้ามาเคาะประตูห้อง และจู่ๆ ก็โผเข้ากอดเขา จากนั้นทั้งเขากับชายหนุ่มร่างเล็กคนนี้ที่ไม่รู้ว่าแปลกหน้าหรือไม่สำหรับเจ้าของร่างที่เขาอาศัยอยู่ก็พากันชุลมุนวุ่นวายไปมาอยู่กับพื้นห้อง ราวกับกำลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
จุนเริ่มตั้งสติได้ก่อน เขาค่อยดันตัวเองออกจากร่างของพิชญ์ ลุกขึ้นยืนนิ่ง ก่อนจะมองคนตรงหน้าที่พยายามดันตัวเองลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล นึกโมโหที่ถูกชายหนุ่มแปลกหน้ามาจับก้นแบบนี้
“ไอ้บ้า ไอ้คนลามก” ได้แต่ทำปากขมุบขมิบต่อว่าเสียกรายๆ “มาขยำก้น...”
“จุน”
จุนหันหน้าไปตามเสียงเรียกชื่อของเขาซึ่งดังมาจากห้องที่อยู่ถัดจากห้องนี้ คนข้างในห้องนั้นคงได้ยินเสียงร้องของเขาจึงเปิดประตูออกมาดู เขายิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งไปหาเจ้าของเสียงหวานใสที่เรียกชื่อของเขาทันที
“พี่ฟ้าใส” จุนร้องทัก รู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อเจอคนที่เขาต้องการมาหา
“นี่เจ้าตัวแสบ ไปร้องตะโกนอะไรอยู่หน้าห้องคุณบีแบบนั้นนะ”
ฟ้าใสเขกหัวของจุนเบา เมื่อมองผ่านร่างเล็กของลูกพี่ลูกน้องเธอแล้วเห็นธารานั่งอยู่กับพื้นห้อง เสียงกรีดร้องเมื่อสักครู่คงบ่งบอกได้ชัดเจนว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นจากความผิดพลาดที่จุนก่อขึ้น
“จุนทำอะไรคุณบีล่ะ”
“อ่า จุนเปล่านะฮะพี่ฟ้าใส” จุนปฏิเสธอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นฟ้าใสจ้องเขาเขม็ง รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขาเริ่มเจื่อนลง
“คุณบีเป็นยังไงบ้างคะ” ฟ้าใสเดินเข้าไปหาพิชญ์ซึ่งอยู่ในร่างของชายหนุ่มที่เธอเรียกชื่อว่า ‘คุณบี’
เวลานี้พิชญ์ลุกขึ้นยืนได้แล้ว เหลือเพียงอาการเจ็บจุกเล็กน้อยที่ท้องและอาการงุนงงจากการถูกจู่โจมอย่างรวดเร็วของจุนชายหนุ่มร่างเล็ก เขาดันแว่นตากรอบบางสีเงินที่โชคดีไม่ตกลงมาแตกให้เข้าที่
“ขอโทษแทนน้องชายตัวแสบของฟ้าด้วยนะคะ” ฟ้าใสขอโทษพิชญ์แทนจุน เธอยิ้มให้ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งตรงหน้า “จุนเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรกนะคะ”
‘ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นเพื่อนร่วมคอนโดเดียวกับผู้ชายคนที่เราอยู่ในร่าง เธอเรียกชื่อเขาว่าคุณบี ดูแล้วน่าจะคุ้นเคยกันมากพอสมควร’
“จุน รีบมาขอโทษคุณบีเร็วสิ เราไปทำอะไรคุณบีเข้าล่ะ ดูสิล้มกลิ้งไปนอนกับพื้นห้องแบบนั้น” ฟ้าใสหันไปเรียกให้จุน เพื่อให้มาขอโทษพิชญ์
“ไม่เป็นไรครับ” พิชญ์ตอบกลับเสียงแหบพร่าเล็กน้อย เพราะยังคงเจ็บที่ท้องอยู่ เขาระบายยิ้มให้กับฟ้าใส
‘ยิ้มเอาไว้ก่อนแล้วกันนายพิชญ์ ตอนนี้พอจะได้ว่าชายคนนี้ชื่อเล่นบี ผู้หญิงตรงหน้าอยู่ห้องข้างๆ กันชื่อฟ้าใส แล้วชายร่างเล็กที่โผเข้ากอดเขาชื่อจุน’
พิชญ์พยายามเก็บรวบรวมรายละเอียดที่เพิ่งได้รับรู้เข้าผสมรวมกัน
“คุณบี คุณบีคะ” ฟ้าใสแตะแขนของพิชญ์เบาๆ เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไป นึกกังวลกลัวว่าเขาจะเจ็บหนัก “พี่ฟ้าว่าคุณบีไปเช็คที่โรงพยาบาลดีไหมคะ” เธอห่วงว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเพราะน้องชายของเธอ
“ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ แค่รู้สึกจุกเล็กน้อย”
พิชญ์ตอบออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาเริ่มหายเจ็บบ้างแล้ว แต่ที่นิ่งไปเพราะไม่รู้ว่าตามปกติแล้วชายคนที่เป็นเจ้าของร่างมีนิสัยแบบไหนกัน
“จุน รู้ไหมว่าทำผิดกับคุณบีนะ”
“จุนเปล่านะฮะ ผู้ชายคนนี้ต่างหากที่ลวนลามจุนก่อน” จุนไม่ยอมขอโทษพิชญ์ แม้จะรู้ว่าเขาผิดที่เข้าไปกระโดดกอดคนตรงหน้าก่อน แต่ผู้ชายตรงหน้าก็ลวนลามโดยการจับก้นของเขาจริง
‘ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ นายก็ผิดนะที่มาจับก้นเราแบบนี้ ชิ คนลามก’
แม้ว่าฟ้าใสจะบอกให้เขาขอโทษ ทว่าจุนเหมารวมเอาว่าชายหนุ่มตรงหน้าของเขาเป็นคนผิด
“ลวนลาม คุณบีไปลวนลามอะไรเรานะจุน ไหนบอกพี่ฟ้ามาสิคะ” ฟ้าใสหันไปคาดคั้นเอาความจริงกับจุน
“พี่ฟ้าก็ถามผู้ชายคนนั้นเองสิฮะ”
จุนบ่ายเบี่ยงไปให้พิชญ์เป็นคนตอบคำถามของฟ้าใสแทน ดวงตากลมโตกลอกกลิ้งไปมา เขาเม้มริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มซึ่งได้รูปกับจมูก แสดงออกถึงนิสัยรั้นและค่อนข้างเอาแต่ใจชัดเจน
“นี่คุณธารา หรือคุณบี จุนอย่าไปเรียกคุณบีว่าผู้ชายคนนั้นอีกนะ ฟังแล้วไม่สุภาพเลยค่ะ”
‘ชื่อจริงธารา ชื่อเล่นบี จำไว้นะนายพิชญ์’
“แต่ผู้ชายคนนี้ คุณบีของพี่ฟ้านะมาทำมิดีมิร้ายกับจุนนะฮะ”
“พิชญ์ เอ่อ...บีไม่ได้ทำอะไรนะครับคุณฟ้า” พิชญ์รีบตอบอย่างรวดเร็ว เมื่อพบว่าเขากำลังตกเป็นจำเลย เรื่องที่เผลอไปจับโดนก้นของชายหนุ่มตรงหน้าเพราะความตกใจ “น้องชายของคุณฟ้าเข้าใจผิดเองนะครับ”
พิชญ์ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวถูมือไปมาที่ข้างลำตัว รู้สึกว่าเหงื่อเปียกชุ่มมือเต็มไปหมด เรื่องของเรื่องเพราะเขาเผลอนึกถึงสัมผัสนุ่มนวลเมื่อสักครู่
แปลกนะที่เขาควรรู้สึกวิตกกับเรื่องที่ต้องเผชิญ ทว่าความน่ารักและสดใสจากตัวจุนกลับทำให้พิชญ์รู้สึกดีขึ้น ชายหนุ่มตรงหน้าของเขาน่าจะอายุราวยี่สิบกว่า แต่ไม่น่าเกินยี่สิบสี่ปี ตัวเล็กน่ารักดูรั้นๆ ซนๆ
“โกหก คนลามก นายแอบจับก้นจุน” จุนพูดโพล่งออกไปเมื่อได้ยินพิชญ์ปฏิเสธ “อย่าคิดว่าพูดแบบนั้นแล้วจะพ้นผิดนะ” จุนบ่นพึมพำอยู่ในลำคอ
“บีไม่ได้ตั้งใจทำนะครับคุณฟ้า บีเพียงแค่จะดันน้องชายของคุณฟ้าออกจากตัวบีเท่านั้น แล้วมือของบีไปโดนใส่...”
พิชญ์ตอบตามความเป็นจริง เขารู้สึกผิดเหมือนกันที่ทำเช่นนั้นลงไป แต่เพราะไม่ได้ตั้งใจที่จะเอามือไปจับที่ก้นของจุน เขาจึงอยากอธิบายให้ฟ้าใสเข้าใจ ไม่ได้คิดจะแก้ตัวแต่อย่างไร
“ค่ะ เรื่องของเรื่องคือจุนล้มลงไปทับตัวคุณบี แล้วคุณบีต้องการดันตัวจุนออกไป แต่บังเอิญมือเจ้ากรรมไปจับโดนก้นแทน เรื่องเป็นแบบนี้ใช่ไหมจุน”
ฟ้าใสสรุปเรื่องทุกอย่างจากที่ตาเธอเห็นและจากคำพูดของพิชญ์ซึ่งอยู่ในร่างของคุณบี ก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคคำถามที่ต้องการคำยืนยันจากปากของจุน
“....”
จุนนิ่ง หน้าตาบึ้งตึงเล็กน้อย ยังนึกเคืองพิชญ์อยู่ไม่น้อย
“ว่ายังไงคะน้องจุน” เธอถามซ้ำเมื่อเห็นจุนนิ่งไป ฟ้าใสระบายยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าจุนก้มหน้านิ่ง ซึ่งหมายความว่าที่เธอพูดสรุปมานั้นเป็นเรื่องจริง “พี่ฟ้าจะถือว่าที่จุนไม่พูดแย้งเพราะพี่ฟ้าสรุปเรื่องถูกต้องใช่ไหมคะ”
“ชิ” จุนแอบทำปากขมุบขมิบ เขาไม่ได้โกรธฟ้าใส แต่เพราะรู้ดีว่าเขาเป็นคนผิดจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับผิด อีกทั้งยังรู้สึกเสียหน้าให้กับผู้ชายที่มาจับก้นของเขาตั้งแต่เริ่มเห็นหน้ากันครั้งแรกเสียอีก
“ขอโทษคุณบีด้วยนะคะที่น้องชายตัวแสบของฟ้าไปก่อเรื่องวุ่นวายให้ แล้วยังไปโทษว่าเป็นความผิดของคุณบีเสียอีก”
“ไม่เป็นไรครับ” พิชญ์ตอบรับคำพูดของฟ้าใส นึกเสียวสันหลังวาบเมื่อหันไปสบตากับจุน
‘จ้องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเลยนะนั่น”
พิชญ์ได้แต่ยิ้มแหยๆ ก่อนจะก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อขอโทษจุน ทว่าดูเหมือนจุนไม่เพียงไม่ยกโทษให้ แต่กลับแอบแลบลิ้นให้เขาเสียแทน
‘เจ้าเด็กแสบ’
นึกอยากหัวเราะกลับความน่ารักแบบกวนๆ ของชายหนุ่มร่างเล็กตรงหน้า แต่ก็เก็บอาการเอาไว้ หากคำพูดต่อมาจากปากของฟ้าใสที่หันไปพูดกับจุนอย่างรักใคร่ ทำให้เขาแทบล้มทั้งยืน
“แล้วแบบนี้พี่ฟ้าจะวางใจให้จุนมาดูแลน้องคุนแทนพี่ได้หรือเปล่านะคะ”
“ได้สิฮะ จุนดูแลน้องคุนได้ พี่ฟ้าอย่าห่วงเลยนะฮะ จุนรับประกันว่าจะดูแลน้องคุนอย่างดี” จุนตอบอย่างรวดเร็วเมื่อฟ้าใสแสดงท่าทางเหมือนกับจะไม่ไว้ใจเขาในเรื่องให้ช่วยดูแลกามเทพลูกชายแสนซนของเธอ
“อ่า...” พิชญ์เผลอครางออกมาเบาๆ แสดงว่าหลังจากนี้ตัวช่วยที่จะทำให้เขารู้จักตัวตนของชายหนุ่มเจ้าของร่างนี้จะไม่อยู่
‘แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงต่อดีล่ะนายพิชญ์ แล้วเด็กที่ชื่อน้องคุนอะไรนั่นอีก นายจะทำยังไงต่อดีนะ’
ฟ้าใสหันมายิ้มให้กับพิชญ์ซึ่งในสายตาของเธอเขาคือธารา นักเขียนหนุ่มซึ่งเป็นเพื่อนร่วมคอนโดเดียวกัน
“คือฟ้ากับพี่นัดถูกส่งไปดูงานที่ต่างประเทศสองอาทิตย์นะคะ เราสองคนเห็นว่าถ้าเอาน้องคุนไปคงไม่มีใครดูแล ดีนะที่จุนเขาเรียนจบแล้วเพิ่งกลับมาเมืองไทย”
ฟ้าใสหยุดพูดเล็กน้อยเมื่อเห็นสีหน้าของธาราซีดจางลง เป็นที่แน่ชัดว่าเขาคงกังวลเรื่องจุนน้องชายของเธอแน่ เพราะเพียงพบกันครั้งแรกก็เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเสียแล้ว
“ฟ้าเลยปรึกษากับพี่นัดว่าจะให้จุนมาช่วยดูแลกามเทพแทน”
“ครับ”
“อีกสามวันฟ้ากับพี่นัดต้องเดินทางแล้ว ถ้ายังไงฟ้ารบกวนฝากคุณบีช่วยดูแลสองคนนี้ด้วยนะคะ” ฟ้าใสรีบชิงพูดประโยคถัดมา เพราะเธอไว้วางใจในตัวของธาราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สามวันที่เธอต้องเดินทางไปต่างประเทศพร้อมสามี
‘จะดูแลได้ยังไง ตัวพิชญ์เองพิชญ์ยังเอาเองตัวไม่รอดเลยครับคุณฟ้าใส’
ถ้าเป็นตัวเขาเอง ปกติคงไม่ค่อยมีใครขอร้องให้เขาช่วยดูแลคนอื่นหรอก ไม่ใช่เขาไม่มีเพื่อน เพื่อนนะมีเยอะ แต่เพราะความติสท์แบบแปลกๆ พวกเพื่อนๆ จึงไม่ไว้ใจพอที่จะฝากชีวิตลูกหลานเอาไว้ที่เขาสักเท่าไร
‘คุณบีเจ้าของร่างนี้คงจะเป็นคนดีและน่าไว้ใจสำหรับคุณฟ้าใส นายจะทำยังไงดีล่ะนายพิชญ์ คิดสิ คิดสิ’
“ได้ครับ”
ไม่รู้ผีห่าซานตานอะไรดลใจ ความจริงเขาควรปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นหน้าของเจ้าเด็กแสบจุน ทำให้เผลอตกปากรับคำที่จะยอมมาช่วยดูแลกามเทพกับจุน
“ฟ้าขอบคุณมากนะคะ ตอนแรกก็กังวลว่าจะรบกวนเวลาทำงานของคุณบี”
ฟ้าใสรู้สึกขอบคุณความมีน้ำใจของชายหนุ่มตรงหน้ามาก แม้ธาราจะไม่ค่อยสุงสิงกับใครในคอนโด แต่เขาเรียบร้อยและนิสัยดีจริง อีกอย่างไม่รู้ว่าเพราะอะไร กามเทพลูกชายของเธอกลับถูกชะตากับธารามาก
“ก็ไม่ต้องให้...” จุนตั้งใจจะพูดขัดฟ้าใส แต่ก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากฟ้าใส
“แต่น้องคุนชอบคุณบีมาก และขอให้ฟ้าช่วยบอกให้คุณบีมาเล่นด้วยนะคะ”
ฟ้าใสยิ้มกว้าง วันนี้ดูเหมือนธาราจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ตอนแรกเธอเกรงว่าเขาจะปฏิเสธ แต่ลึกๆ ก็หวังว่าคนที่นิสัยดีอย่างธารา จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้สองแสบของเธอ
“ชิ ไม่เห็นต้องให้นายนี่มาดูแลน้องคุนเลย จุนดูแลเองก็ได้นะฮะพี่ฟ้า”
“เรานั่นแหละตัวดี พี่ยังไม่ไว้ใจเลยนะ ดูอย่างวันนี้มาหาพี่ที่คอนโดวันแรกก็เป็นเรื่องเลย”
“จุนเปล่าก่อเรื่องนะฮะ”
“ทำคุณบีเจ็บแบบนั้นยังว่าเปล่าอีกนะเจ้าตัวแสบ”
จุนได้แต่ค้อนให้ฟ้าใส ก่อนจะหันไปแลบลิ้นให้กับพิชญ์อีกครั้ง
แม้ฟ้าใสจะวางใจในตัวจุนสักเท่าไร แต่น้องของเธอนั้นเพิ่งจะกลับมาจากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถึงเมื่อก่อนจุนจะเคยอยู่ที่เมืองไทย ทว่าผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว อะไรต่างๆ นานาพากันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะอย่างนั้นจุนในเวลานี้นั้นยังไม่คุ้นเคยกับที่ทางสักเท่าไร การมีคนดีดีอย่างธาราเป็นหูเป็นตาให้แทนเธอ เธอน่าจะหมดห่วงได้เพิ่มมากขึ้น
“ให้คุณบีเป็นหูเป็นตาให้ พี่ฟ้าจะได้สบายใจหน่อย”
จุนตั้งท่าจะโต้แย้ง แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรขัดฟ้าใส เพราะถึงพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ดูจากท่าทางแล้วฟ้าใสไว้ใจผู้ชายตรงหน้ามาก และอาจจะมากกว่าน้องชายตัวแสบอย่างเขาเสียอีก
“เชอะ”
จุนเลือกที่จะเบือนหน้าหนี รู้สึกหงุดหงิดใจเล็กน้อย ยามเมื่อต้องมองหน้าของธาราตรงๆ เพราะยิ่งเขามองเห็นความอบอุ่นและอ่อนโยนภายใต้แว่นตากรอบบางสีเงินของชายคนนั้น ยิ่งรู้สึกขัดใจมากขึ้น
‘คนบ้า คนลามก’
“จุนเอากระเป๋าเข้าห้องก่อนนะฮะพี่ฟ้า”
จุนเลือกที่จะเลี่ยงจากพิชญ์ โดยการเข้าห้องพักของฟ้าใสแทน อยากจะหลีกให้พ้นชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าเสียที เพราะยิ่งเห็นแววตาแสนใสซื่อใต้กรอบแว่นตาสีเงินนั้น เขายิ่งรู้สึกว่าเขาเป็นคนผิดมากขึ้น แต่เพราะความดื้อรั้นและทิฐิเขาจึงปัดทุกเรื่องไปให้กับคนตรงหน้าเสียแทน
“ให้บีช่วยนะครับ”
พิชญ์หยิบกระเป๋าใบโตของจุนที่วางอยู่หน้าห้องของเขาขึ้น พร้อมกับหยิบกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์แบบพกพาด้วยอีกมือหนึ่ง เขาขันอาสาจะช่วยหิ้วกระเป๋าเดินทางของจุนด้วยความมีน้ำใจ
“ไม่” จุนซึ่งตั้งใจจะพูดบอกปัดพิชญ์ หากสายตาของฟ้าใสที่มองเขา ทำให้จำต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงไปหมด และเลือกที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าใบเล็กอีกหนึ่งใบที่เหลือแทน “อันนี้ไม่ต้อง จุนถือเองได้”
ฟ้าใสยิ้มไปกับความรั้นของจุน ตั้งแต่เด็กแล้วที่จุนมักแสดงอาการแบบนี้ออกมา ดื้อรั้น ไม่ยอมใคร แต่ความจริงแล้วน้องชายของเธอเป็นเด็กดี และอ่อนโยน เธอจึงไว้วางใจที่จะให้จุนมาดูแลกามเทพลูกชายจอมซนแทนในช่วงเวลาที่เธอและสามีต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ
พิชญ์เดินตามฟ้าใสกับจุนเข้าไปในห้อง เรื่องราวตั้งแต่ตื่นขึ้นมาในวันนี้ราวกับความฝัน ตรงหน้าของเขามีชายหนุ่มหน้าตาน่ารักที่เพียงเจอกันครั้งแรกก็เกิดเรื่องวุ่นวายและดูจะเข้าใจผิดกันเสียยกใหญ่
“ความสดใส” พิชญ์พูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะวางกระเป๋าของจุนไว้ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ซึ่งฟ้าใสจัดเตรียมไว้ให้แล้ว
จุนได้ยินพิชญ์พูดถึงความหมายของชื่อเขาที่แปลเป็นไทย ดวงตากลมโตจ้องมองหน้าธาราราวกับจะมองให้ทะลุผ่านตัวตนที่แท้จริงในร่างนี้
‘นายอ่อนโยนหรือเพียงสร้างหน้ากากเป็นเกราะกำบังนะ’
จุนคิดในใจว่าเขาน่าจะโดนโกรธ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายธาราดูไม่ทุกข์ร้อนหรือแทบจะเรียกว่าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปจนหมด
“อ่า...” จุนครางเมื่อเห็นธารายิ้มให้อย่างอ่อนโยน
แม้จะถูกจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อจากจุน แต่พิชญ์กลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ได้นึกโกรธจุนที่มองเห็นเขาเป็นศัตรูตั้งแต่แรกเจอแบบนี้
“คนบ้า” จุนพูดแบบไม่ออกเสียงให้พิชญ์ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มคนตรงหน้า เขากลับเขินจนต้องเผลอก้มหน้านิ่งมองที่พื้นห้องเสียแทน
‘จะยิ้มอะไรนักหนา นายคนลามก’
“ขอบคุณมากนะคะคุณบี” ฟ้าใสกล่าวขอบคุณธารา ก่อนหันไปมองจุน เธอใช้สายตาบอกให้น้องชายของเธอกล่าวคำขอบคุณให้กับความมีน้ำใจของธารา แต่ดูเหมือนจุนจะไม่ทำแบบนั้นแน่ เมื่อจุนแกล้งเบือนหน้าหนีมองไปนอกหน้าต่างห้องนอน พร้อมทั้งพูดออกมาเบาๆ
“ไม่ได้ขอร้องเสียหน่อย”
“จุน”
“ไม่เป็นไรครับ” พิชญ์ตอบรับสั้นๆ
“เชอะ”
“บีขอตัวก่อนนะครับ” ยิ้มให้กับฟ้าใส มองไปยังจุนเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวกลับห้องของเขา
เมื่อเห็นว่าเพิ่งบ่ายสามโมงครึ่ง พิชญ์จึงเลือกเดินไปนอนบนโซฟาขนาดใหญ่แทนเตียงนอน รู้สึกราวกับสิ่งที่เจอในเวลานี้คือความฝัน และเมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง จะได้พบกับความจริงที่ว่าเขานอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง ไม่มีผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งที่ชื่อธารา ไม่มีฟ้าใส ไม่มีกามเทพ และที่สำคัญไม่มีชายหนุ่มตัวเล็กน่ารักที่ชื่อจุนแต่อย่างไร
‘นายกำลังฝันไปเองนะนายพิชญ์ เดี๋ยวก็ตื่นขึ้นมาเอง’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ