Linn Amarant -ลินน์ อมาเรนท์
-
เขียนโดย Linn
วันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.24 น.
1 ตอน
0 วิจารณ์
2,709 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ. 2562 12.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เกรเนส
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ปีที่หนึ่งพันสี่ร้อยหกสิบสี่ ตามปฏิทินแห่งอาณาจักรงู บันทึกถูกเขียนไว้ว่า ...
" เหล่านักรบจากตระกูลชั้นสูงเจ็ดตระกูล รวบรวมกำลังคน เข้ายึดอาณาจักรแห่งรุ่งอรุณจากน้ำมือของราชาโควเชีย ผู้บ้าคลั่ง ราชาถูกเนรเทศไปสู่ดินแดนลี้ลับ ทางตอนเหนือ
สามปีต่อมา สภาสูงสุด แต่งตั้ง ทัชแห่งโอเลนเดอร์ หนึ่งในเจ็ดตระกูลชั้นสูง เป็นกษัตริย์ครองบัลลังค์เหนือแคว้นทั้งมวล
สองร้อยปีล่วงผ่าน สายตระกูลแห่งราชาโควเชียกับกองกำลังกบฏยาตราทัพเข้าโจมตีเมืองหลวง บ้านเมืองตามรายทางพังพินาศ ปราการด่านสุดท้ายคือเมืองแห่งความบริสุทธ์ ว่ากันว่า ชายทุกคนถูกเกณฑ์เพื่อเข้าสู่สงคราม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชรา สงครามกินเวลาสิบสามเดือน ผู้นำกบฏถูกสังหาร ผู้คนล้มตายนับไม่ถ้วน สมรภูมิแห่งความบริสุทธ์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมือง ดอกไม้แดง "
หนึ่งพันปีต่อมา...
***
"เมื่อกี้ ท่านว่าอะไรนะ!" น้ำเสียงสั่นเครือของผู้พูด สั่นระรัวจนแก้วหูคนในห้องพลอยสั่นไปด้วย ผู้ถูกถามเป็นชายชราในผ้าคลุมสีเทาชั้นดีเพียงแต่ออกจะเก่าไปสักหน่อย เส้นผมของเขาพันกับเศษไม้เล็กๆถักทอคล้ายเป็นรังของสัตว์ ชายชราเหลือบตาซ้ายขวาเหมือนลังเลที่จะพูดซ้ำ จนเมื่อตั้งสติขึ้นได้จึงพูดย้ำประโยคเดิม
"ถูกแล้ว พระองค์ท้อง"
"ท้อง !" ครั้งนี้ราชา ทัช ที่ยี่สิบสี่ แห่ง โอเลนเดอร์ ผู้อยู่ในชุดยาวสำหรับผู้ป่วยทรุดลงอีกครั้ง ทั้งร่างรู้สึกอ่อนแรงเหมือนถูกน้ำเย็นจัดราดลงจากศีรษะ ราชินีลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างกายรีบประครองพระสวามีเข้าที่บรรทม พร้อมปลอบประโลม
"เป็นไปได้อย่างไรกัน พระองค์เป็นผู้ชาย "ราชินีถามด้วยสุรเสียงสั่นเครือเช่นเดียวกัน มือหนึ่งประครองพระสวามีอีกมือหนึ่งประครองที่อกตนเอง
"กระหม่อม เกรงว่า... นี่อาจเป็นคำสาป "น้ำเสียงของเขามีความกระอักกระอ่วนซ่อนอยู่ จนทำให้พูดตะกุกตะกัก
ชายชราในชุดคลุมสีเทาที่แท้ มีชื่อว่า เกรเนส ชายผู้นี้เดินทางมาจากดินแดนไวท์โลตัชทางตอนใต้ของเมืองหลวง เล่ากันว่าเขาสามารถชุบชีวิตแกะที่ถูกหมาป่ากัดจนตายให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เกรเนส ถูกเชิญให้มารักษาอาการผิดปกติของราชาทัชที่ยี่สิบสี่แห่งโอเลนเดอร์หลังจากหมอในพระราชวังเริ่มทยอยถูกปลดไปทีละคน
"คำสาปนี้กระหม่อมเพียงแต่เคยอ่านพบ ไม่คิดว่าจะมีจริง !" สีหน้าของเกรเนสตอนนี้ไม่พบความประหลาดใจปรากฏแม้นิดหนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวต่อ
"บันทึกเล่าว่า นานมาแล้ว ก่อนที่สงครามสิบสามเดือนจะเกิดขึ้นร้อยปีเศษ ดินแดนหนึ่งทางทิศตะออกเกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ทางเมืองหลวงจึงส่งคนมาสืบข่าว รายงานบอกว่า เป็นฝีมือของพวกแม่มด ...สตรีทั้งหมดในดินแดนนั้นจึงถูกเผาทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เด็กทารก คนในเมืองถูกกักตัวไม่ให้เดินทางออกมาแพร่โรคระบาด ... ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าสู่ดินแดนนี้นับร้อยปี ...จนกระทั่งนักเดินทางจากอาณาจักรงูเข้าไปสำรวจ ... น่าประหลาดที่กลับพบเด็กๆ ทั้งชายหญิง ... ว่ากันว่า พวกแม่มด ใช้มนตร์ดำ สาปผู้ชายในเมืองนั้นทุกคนให้ตั้งท้องได้ ... เพียงแต่นั่นเป็นแค่เรื่องที่เล่าในบันทึก และไม่เคยพบเจออีกจนกระทั่ง ...กระทั่งกรณีของพระองค์ !"เกรเนสบรรยายอย่างช้าๆ
"ไม่มีทางลบล้างคำสาปนี่ได้เลยเหรอ" ราชินีลิลลี่ยิ่งพูด เสียงยิ่งสั่นขึ้นเรื่อยๆ เกรเนสส่ายหัวไปมาแทนการบอกว่าหมดหนทางลบล้างคำสาป เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะบรรยาย ต่อ
"คำสาปนี้ถูกเชื่อมไว้ด้วยพลังชีวิตของคนถูกสาป หากเด็กได้รับอันตราย ผู้ถูกสาปก็จะได้รับอันตรายไปด้วย นั่นหมายความว่าถ้าเด็กเสียชีวิต พระองค์ก็จะสิ้น..."
"พอได้แล้ว..."ราชาทัช ยกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้พูดต่อ หลังจากรวบรวมสติได้จึงประครองตัวเองลุกขึ้นนั่ง พร้อมถอนหายใจยาวๆอยู่หลายครั้ง ความเงียบคืบคลานเข้ามาแทนที่ความตะหนก มีเพียงเสียงลมพัดผ่านช่องหน้าต่างที่ยังมีชีวิต
"กระหม่อมมีวิธี เพียงแต่..." เกรเนสจากไวท์โลตัสเป็นคนแรกที่ขับไล่ความเงียบซึ่งสะกดทุกคนไว้
"วิธีอะไร ท่านรีบว่ามา" ราชินีร้องขึ้นอย่างไม่ลังเล แสงที่ปลายอุโมงค์แม้เล็กน้อยอาจนำไปสู่ทางออก
"บางที..."เกรเนสยังลังเลไม่พูดต่อ
"วิธีอะไร รีบบอกมาเถอะ"ครั้งนี้ราชาทัชเป็นคนออกคำสั่งเอง
"บางทีกระหม่อม อาจย้ายร่างทารกไปให้อีกผู้หนึ่งได้ เพียงแต่..." เกรเนสกล่าวพร้อมหลบสายตาราชินี
"เพียงแต่อะไร รีบว่ามา" ราชินีลิลลี่ถามขึ้น เธอเริ่มกังวลกับข้อแม้ ที่ยังเล้นรับ
"เพียงแต่การสลับที่ของสิ่งของต้องมีเงื่อนไขน่ะ " เกรเนสตอบไปทั้งยังคงหลบตาราชาและราชินี
"เราไม่เข้าใจ" ราชาทัชกล่าวตัดบท
"ในกรณีนี้ คือ ต้องหาคนที่ตั้งท้องมาใช่ไหม" ราชินีลิลลี่พูดแทรกขึ้น สตรีในเมืองหลวงนี้ยากที่จะมีคนที่มีเชาว์ปัญญาเทียบเท่าเธออีก เกรเนสพยักหน้ารับคำวินิจฉัยที่ไม่ผิดแม้แต่น้อย
"ลิลลี่ เจ้ารับคำสั่ง ให้ทหารไปหาคนท้องมาโดยเร็ว" ราชาทัชกล่าวกับราชินี ทั้งคู่แววตาเริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
"มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ..."เกรเนสกล่าวพร้อมยกมือขวางพระราชินี อีกมือหนึ่งลูบเคราสีเทาอ่อนที่ยาวถึงหน้าอก
"ถ้าจะใช้เวทมนตร์นี้สำหรับสิ่งมีชีวิต กระหม่อมคิดว่าอาจต้องมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นั่นคืออายุของทารกที่จะใช้สลับกับเด็กในท้องของพระองค์ต้องมีอายุเท่ากัน ..." เขาหยุดครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยวิธีที่ซับซ้อนขึ้น"ถ้าทารกแก่เกินไปพลังวิญญาณส่วนเกินจะทำลายพลังชีวิตของพระองค์ ถ้าทารกยังเยาว์เกินไปพลังชีวิตของพระองค์จะถูกทารกดูดกลืน ความต่างแค่นิดหน่อยอาจทำให้คนคนหนึ่งแก่ขึ้นถึงสิบปี หรืออาจเสียชีวิตได้เลย... " เขาพยายามบรรยายอย่างช้าๆ เพียงแต่ยากไปสักหน่อยสำหรับราชาทัช
"เมื่อสลับตัวได้แล้ว พวกเราจึงค่อยเอาทารกอีกคนในท้องออกมา" ราชินีลิลลี่พูดตอนจบของประโยค เกรเนสได้เพียงแต่พยักหน้ารับอีกครั้ง
"งั้นข้าให้ เจ้าทั้งสองไปตามหาผู้ที่มีทารกเหมือนเรา ให้สตรีทุกคนส่งประวัติมาที่พระราชวัง" ราชาทัชรับสั่งอย่างมีความหวัง แต่ลึกๆกลับกังวลอยู่ไม่น้อย
"อืม.../ เพคะ" ทั้งสองรับคำพร้อมกัน
"ท่านเชื่อคนคนนี้หรือเพคะ" ราชินีกล่าวอย่างเป็นห่วง หลังจากในห้องมีเพียงราชาและราชินี
"เจ้าอยู่กับเรามาหลายปี ไม่เชื่อใจเรางั้นเหรอ "ราชาทัชตัดพ้อ
"เปล่าเพคะ" ราชินีลิลลี่ตอบได้เพียงประโยคสั้นๆ เธอชอบคิดว่าเธอมีเชาว์ปัญญาเหนือราชามาเสมอ
"ถ้ามันรักษาเราได้จริง นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ... ถ้าไม่สำเร็จ เราจะสั่งให้เผามันเอง ในฐานะที่หลอกลวงพระราชา"ราชาทัชพูดอย่างสุขุมรอบครอบ เขาครองบัลลังค์มายี่สิบปี ไม่ใช่เพราะโชคชะตาเพียงอย่างเดียว สติปัญญาคืออาวุธที่คมกล้าที่สุดที่เขามี
***
คำสั่งถูกส่งไปทั่วทุกสารทิศ ยิ่งนานวันความหวังยิ่งเลือนราง สตรีท้องทั้งหลายต่างไม่ตรงกับเงื่อนไขในการสลับชีวิต ท้องของราชาทัชเริ่มโย้ขึ้นทีละน้อยทุกวันๆ พระองค์ทรงหวั่นวิตกจนไม่สามารถว่าราชการได้อย่างปกติ ประชาชนเริ่มวิตกกังวลเรื่องการหายไปของราชาทัช บ้างว่าพระองค์กำลังประชวรหนัก บ้างถึงกับเชื่อว่าพระองค์สวรรคตไปแล้ว
สามเดือนถัดมา จดหมายแห่งความหวังจ่าหน้าถึงราชินีลิลลี่แห่งโอเลนเดอร์ ในจดหมายเขียนไว้ว่าพบคนที่ตรงตามเงื่อนไขแล้ว จะส่งไปถึงราชวังในอีกสามวัน ...
***
สามวันต่อมา ณ ประตูเมืองทางทิศตะวันตกติดกับป่าโอลวู๊ด
เสียงกึกกักของรถลากเทียมสัตว์ดังมาจากในป่า รถคร่ำคร่าคันหนึ่งเทียมด้วยกวางป่าสีน้ำตาลเข้มสองตัวเคลื่อนมาอย่างช้าๆ สภาพชิ้นส่วนของรถคล้ายจะหลุดออกจากกันทุกครั้งที่ผ่านทางขรุขระ รถไม้เก่าค่อยๆเคลื่อนมาถึงประตูเมืองเสียงกระดิ่งเป็นจังหวะดังขึ้นจากภายใน กวางทั้งสองหยุดเดินพร้อมกันเหมือนถูกฝึกในค่ายทหาร มันสะบัดหัวไปมา พอดีกับองค์รักษ์สองนายที่ยืนเฝ้าที่ประตูอยู่เดินเข้ามาด้วยอาการตื่นตระหนก ทั้งสองคนเป็นทหารที่พึ่งถูกส่งมาประจำที่ประตูทิศตะวันตกด้านที่ติดกับป่าโอลวู๊ด ตั้งแต่ทั้งคู่มาเฝ้าที่นี่ยังไม่เคยมีใครผ่านทาง และใช้ประตูนี้เลย ที่นี้เป็นทางเข้าที่เล็กที่สุด เก่าแก่ที่สุด และไม่มีใครในค่ายฝึกทหารอยากมาประจำที่นี่เลยสักคน
ม่านสีเทาที่ใช้แทนประตูรถถูกแหวกออก ชายหน้าตาประหลาดโผล่หน้าออกมา บนหัวมีรังนกและลูกนกตัวเล็กๆอยู่ตัวหนึ่ง เกรเนสนั่นเอง ทหารยามทั้งสองมองตาพร้อมกัน แล้วยืดตัวยืนตรงคล้ายทำความเคารพ คนหนึ่งเริ่มกล่าวอีกคนนึงกล่าวตาม
"พวกเราขอดูใบผ่านทาง" เสียงทั้งสองแทบจะประสานกันคล้ายเสียงดนตรี เพียงแต่เสียงหนึ่งแหลมเล็กเสียงหนึ่งทุ้มหนัก
"ใบผ่านทาง ... !"เกรเนสลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าครั้งหนึ่งพร้อมเอื้อมมือเข้าไปใต้เบาะที่นั่ง คลำหาสิ่งที่ถูกเก็บไว้จนแทบจะลืมไปแล้ว ทหารยามทั้งสองมองหน้ากันไปมาสลับกับมองชายประหลาด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนแปลกหน้าผ่านมาทางนี้
"นี่ ..."เกรเนส ยื่นกระดาษสีน้ำตาลอ่อนใบหนึ่งให้ทหารยามคนที่ตัวเล็กกว่า กระดาษเก่าเต็มไปด้วยรอยขาดวิ่นและรอยเปียก เหมือนถูกเขียนขึ้นเมื่อร้อยปีมาแล้ว ทั้งคู่ต่างไม่เคยเห็นใบผ่านทางของจริงมาก่อนจึงรีบรับไว้แล้วค่อยๆอ่านอย่างระวังที่สุด ยามคนที่ตัวใหญ่กว่าอ่านออกเสียงช้าๆ "วัตถุดิบสำหรับยาวิเศษ..."
"เอ๊ะ นี่มันอะไรกัน" ทั้งคู่กระโดดถอยออกมารีบคว้าดาบที่ข้างเอวหลังจากรู้ตัวว่าถูกตบตาด้วยกลลวงง่ายๆ แต่สายไปแล้วทั้งรถและคนต่างหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครเชื่อสายตาของตัวเองหรือเรื่องเล่าของทหารยามทั้งสองคนนี้เลย ...
***
ภายในสวนชั้นในสุดของพระราชาและราชินี
เสียงกระดิ่งลึกลับดังขึ้นเตือนราชองครักษ์ให้แตกตื่น "มีผู้บุกรุก"ราชองค์รักษ์คนแรกซึ่งได้ยินเสียงตะโกนให้สัญญาณแก่ทุกคน เสียงชุดเกราะกระทบกันดังมาจากทุกทิศทางมุ่งสู่ภายในสวนชั้นใน ที่นี่เต็มไปด้วยดอกไม้แปลกตาจากทุกอาณาจักร ราชาองค์ก่อนทรงชื่นชอบดอกไม้เป็นพิเศษถึงกับให้สร้างสวนชั้นในนี้ไว้สำหรับเป็นที่ผ่อนคลายส่วนตัว
ทหารราวสามสิบนายในชุดเกราะสีเงินชั้นเลิศยืนอยู่ที่มุมต่างๆของสวน ไม่มีใครกล้าย่างเท้าเข้าไปภายใน ทั้งหมดต่างตกตะลึงที่มีคนๆหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางสวนใกล้กับน้ำพุรูปสิงโตแกะสลัก ข้างๆชายลึกลับมีวัตถุชิ้นหนึ่งคล้ายตู้ขนาดใหญ่ถูกผ้าคลุมไว้ ชายคนนั้นเมื่อเห็นไม่มีใครกล้าเข้ามาในสวนสักคน จึงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ทหารทั้งหมดชักดาบสีเงินวาวออกมา ประกายคมดาบระยิบระยับจนนกตัวเล็กๆในสวนพากันบินหนีออกไปอย่างพร้อมเพรียง
"หยุดก่อน" เสียงคำสั่งดังออกมาจากภายในตัวอาคาร ผู้กล่าวค่อยๆเดินออกมาตามทางยาวที่ปูด้วยพรมขนสัตว์ชั้นดี ข้างกายติดตามด้วยหญิงรับใช้สองนาง ราชินีลิลลี่นั่นเอง เธอมองไปที่ผู้บุกรุกแวบหนึ่งจึงค่อยคลายความกังวล ยกมือส่งสัญญาณให้ทหารทั้งหมดลดอาวุธลง
"ที่แท้ เป็นท่านเกรเนส ! ท่านคงพบคนตามเงื่อนไขแล้ว " พูดจบ ราชินีลิลลี่จึงออกคำสั่งอีกครั้ง ทหารทั้งหมดเดินออกไปอย่างพร้อมเพรียง หญิงรับใช้สองคนค่อยๆคลานหลบไปก่อนจะลุกขึ้นแล้วจากไป
"ฮิ ฮิ ..." ยิ่งเห็นผู้คนรับคำสั่งเหมือนสัตว์ถูกฝึก เขายิ่งอดกลั้นหัวเราะไม่ได้ เขาพยายามใช้มือปิดปากแล้วประครองตัวเองให้ยืนตรง
"อาจเป็นเช่นนั้น !" เขาพูดพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้าง ใบหน้ายังมีคราบน้ำตาของความขบขัน
***
" เหล่านักรบจากตระกูลชั้นสูงเจ็ดตระกูล รวบรวมกำลังคน เข้ายึดอาณาจักรแห่งรุ่งอรุณจากน้ำมือของราชาโควเชีย ผู้บ้าคลั่ง ราชาถูกเนรเทศไปสู่ดินแดนลี้ลับ ทางตอนเหนือ
สามปีต่อมา สภาสูงสุด แต่งตั้ง ทัชแห่งโอเลนเดอร์ หนึ่งในเจ็ดตระกูลชั้นสูง เป็นกษัตริย์ครองบัลลังค์เหนือแคว้นทั้งมวล
สองร้อยปีล่วงผ่าน สายตระกูลแห่งราชาโควเชียกับกองกำลังกบฏยาตราทัพเข้าโจมตีเมืองหลวง บ้านเมืองตามรายทางพังพินาศ ปราการด่านสุดท้ายคือเมืองแห่งความบริสุทธ์ ว่ากันว่า ชายทุกคนถูกเกณฑ์เพื่อเข้าสู่สงคราม ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชรา สงครามกินเวลาสิบสามเดือน ผู้นำกบฏถูกสังหาร ผู้คนล้มตายนับไม่ถ้วน สมรภูมิแห่งความบริสุทธ์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเมือง ดอกไม้แดง "
หนึ่งพันปีต่อมา...
***
"เมื่อกี้ ท่านว่าอะไรนะ!" น้ำเสียงสั่นเครือของผู้พูด สั่นระรัวจนแก้วหูคนในห้องพลอยสั่นไปด้วย ผู้ถูกถามเป็นชายชราในผ้าคลุมสีเทาชั้นดีเพียงแต่ออกจะเก่าไปสักหน่อย เส้นผมของเขาพันกับเศษไม้เล็กๆถักทอคล้ายเป็นรังของสัตว์ ชายชราเหลือบตาซ้ายขวาเหมือนลังเลที่จะพูดซ้ำ จนเมื่อตั้งสติขึ้นได้จึงพูดย้ำประโยคเดิม
"ถูกแล้ว พระองค์ท้อง"
"ท้อง !" ครั้งนี้ราชา ทัช ที่ยี่สิบสี่ แห่ง โอเลนเดอร์ ผู้อยู่ในชุดยาวสำหรับผู้ป่วยทรุดลงอีกครั้ง ทั้งร่างรู้สึกอ่อนแรงเหมือนถูกน้ำเย็นจัดราดลงจากศีรษะ ราชินีลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างกายรีบประครองพระสวามีเข้าที่บรรทม พร้อมปลอบประโลม
"เป็นไปได้อย่างไรกัน พระองค์เป็นผู้ชาย "ราชินีถามด้วยสุรเสียงสั่นเครือเช่นเดียวกัน มือหนึ่งประครองพระสวามีอีกมือหนึ่งประครองที่อกตนเอง
"กระหม่อม เกรงว่า... นี่อาจเป็นคำสาป "น้ำเสียงของเขามีความกระอักกระอ่วนซ่อนอยู่ จนทำให้พูดตะกุกตะกัก
ชายชราในชุดคลุมสีเทาที่แท้ มีชื่อว่า เกรเนส ชายผู้นี้เดินทางมาจากดินแดนไวท์โลตัชทางตอนใต้ของเมืองหลวง เล่ากันว่าเขาสามารถชุบชีวิตแกะที่ถูกหมาป่ากัดจนตายให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เกรเนส ถูกเชิญให้มารักษาอาการผิดปกติของราชาทัชที่ยี่สิบสี่แห่งโอเลนเดอร์หลังจากหมอในพระราชวังเริ่มทยอยถูกปลดไปทีละคน
"คำสาปนี้กระหม่อมเพียงแต่เคยอ่านพบ ไม่คิดว่าจะมีจริง !" สีหน้าของเกรเนสตอนนี้ไม่พบความประหลาดใจปรากฏแม้นิดหนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวต่อ
"บันทึกเล่าว่า นานมาแล้ว ก่อนที่สงครามสิบสามเดือนจะเกิดขึ้นร้อยปีเศษ ดินแดนหนึ่งทางทิศตะออกเกิดโรคระบาด ผู้คนล้มตายจำนวนมาก ทางเมืองหลวงจึงส่งคนมาสืบข่าว รายงานบอกว่า เป็นฝีมือของพวกแม่มด ...สตรีทั้งหมดในดินแดนนั้นจึงถูกเผาทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เด็กทารก คนในเมืองถูกกักตัวไม่ให้เดินทางออกมาแพร่โรคระบาด ... ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าสู่ดินแดนนี้นับร้อยปี ...จนกระทั่งนักเดินทางจากอาณาจักรงูเข้าไปสำรวจ ... น่าประหลาดที่กลับพบเด็กๆ ทั้งชายหญิง ... ว่ากันว่า พวกแม่มด ใช้มนตร์ดำ สาปผู้ชายในเมืองนั้นทุกคนให้ตั้งท้องได้ ... เพียงแต่นั่นเป็นแค่เรื่องที่เล่าในบันทึก และไม่เคยพบเจออีกจนกระทั่ง ...กระทั่งกรณีของพระองค์ !"เกรเนสบรรยายอย่างช้าๆ
"ไม่มีทางลบล้างคำสาปนี่ได้เลยเหรอ" ราชินีลิลลี่ยิ่งพูด เสียงยิ่งสั่นขึ้นเรื่อยๆ เกรเนสส่ายหัวไปมาแทนการบอกว่าหมดหนทางลบล้างคำสาป เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะบรรยาย ต่อ
"คำสาปนี้ถูกเชื่อมไว้ด้วยพลังชีวิตของคนถูกสาป หากเด็กได้รับอันตราย ผู้ถูกสาปก็จะได้รับอันตรายไปด้วย นั่นหมายความว่าถ้าเด็กเสียชีวิต พระองค์ก็จะสิ้น..."
"พอได้แล้ว..."ราชาทัช ยกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้พูดต่อ หลังจากรวบรวมสติได้จึงประครองตัวเองลุกขึ้นนั่ง พร้อมถอนหายใจยาวๆอยู่หลายครั้ง ความเงียบคืบคลานเข้ามาแทนที่ความตะหนก มีเพียงเสียงลมพัดผ่านช่องหน้าต่างที่ยังมีชีวิต
"กระหม่อมมีวิธี เพียงแต่..." เกรเนสจากไวท์โลตัสเป็นคนแรกที่ขับไล่ความเงียบซึ่งสะกดทุกคนไว้
"วิธีอะไร ท่านรีบว่ามา" ราชินีร้องขึ้นอย่างไม่ลังเล แสงที่ปลายอุโมงค์แม้เล็กน้อยอาจนำไปสู่ทางออก
"บางที..."เกรเนสยังลังเลไม่พูดต่อ
"วิธีอะไร รีบบอกมาเถอะ"ครั้งนี้ราชาทัชเป็นคนออกคำสั่งเอง
"บางทีกระหม่อม อาจย้ายร่างทารกไปให้อีกผู้หนึ่งได้ เพียงแต่..." เกรเนสกล่าวพร้อมหลบสายตาราชินี
"เพียงแต่อะไร รีบว่ามา" ราชินีลิลลี่ถามขึ้น เธอเริ่มกังวลกับข้อแม้ ที่ยังเล้นรับ
"เพียงแต่การสลับที่ของสิ่งของต้องมีเงื่อนไขน่ะ " เกรเนสตอบไปทั้งยังคงหลบตาราชาและราชินี
"เราไม่เข้าใจ" ราชาทัชกล่าวตัดบท
"ในกรณีนี้ คือ ต้องหาคนที่ตั้งท้องมาใช่ไหม" ราชินีลิลลี่พูดแทรกขึ้น สตรีในเมืองหลวงนี้ยากที่จะมีคนที่มีเชาว์ปัญญาเทียบเท่าเธออีก เกรเนสพยักหน้ารับคำวินิจฉัยที่ไม่ผิดแม้แต่น้อย
"ลิลลี่ เจ้ารับคำสั่ง ให้ทหารไปหาคนท้องมาโดยเร็ว" ราชาทัชกล่าวกับราชินี ทั้งคู่แววตาเริ่มมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
"มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ..."เกรเนสกล่าวพร้อมยกมือขวางพระราชินี อีกมือหนึ่งลูบเคราสีเทาอ่อนที่ยาวถึงหน้าอก
"ถ้าจะใช้เวทมนตร์นี้สำหรับสิ่งมีชีวิต กระหม่อมคิดว่าอาจต้องมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นเล็กน้อย นั่นคืออายุของทารกที่จะใช้สลับกับเด็กในท้องของพระองค์ต้องมีอายุเท่ากัน ..." เขาหยุดครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยวิธีที่ซับซ้อนขึ้น"ถ้าทารกแก่เกินไปพลังวิญญาณส่วนเกินจะทำลายพลังชีวิตของพระองค์ ถ้าทารกยังเยาว์เกินไปพลังชีวิตของพระองค์จะถูกทารกดูดกลืน ความต่างแค่นิดหน่อยอาจทำให้คนคนหนึ่งแก่ขึ้นถึงสิบปี หรืออาจเสียชีวิตได้เลย... " เขาพยายามบรรยายอย่างช้าๆ เพียงแต่ยากไปสักหน่อยสำหรับราชาทัช
"เมื่อสลับตัวได้แล้ว พวกเราจึงค่อยเอาทารกอีกคนในท้องออกมา" ราชินีลิลลี่พูดตอนจบของประโยค เกรเนสได้เพียงแต่พยักหน้ารับอีกครั้ง
"งั้นข้าให้ เจ้าทั้งสองไปตามหาผู้ที่มีทารกเหมือนเรา ให้สตรีทุกคนส่งประวัติมาที่พระราชวัง" ราชาทัชรับสั่งอย่างมีความหวัง แต่ลึกๆกลับกังวลอยู่ไม่น้อย
"อืม.../ เพคะ" ทั้งสองรับคำพร้อมกัน
"ท่านเชื่อคนคนนี้หรือเพคะ" ราชินีกล่าวอย่างเป็นห่วง หลังจากในห้องมีเพียงราชาและราชินี
"เจ้าอยู่กับเรามาหลายปี ไม่เชื่อใจเรางั้นเหรอ "ราชาทัชตัดพ้อ
"เปล่าเพคะ" ราชินีลิลลี่ตอบได้เพียงประโยคสั้นๆ เธอชอบคิดว่าเธอมีเชาว์ปัญญาเหนือราชามาเสมอ
"ถ้ามันรักษาเราได้จริง นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ... ถ้าไม่สำเร็จ เราจะสั่งให้เผามันเอง ในฐานะที่หลอกลวงพระราชา"ราชาทัชพูดอย่างสุขุมรอบครอบ เขาครองบัลลังค์มายี่สิบปี ไม่ใช่เพราะโชคชะตาเพียงอย่างเดียว สติปัญญาคืออาวุธที่คมกล้าที่สุดที่เขามี
***
คำสั่งถูกส่งไปทั่วทุกสารทิศ ยิ่งนานวันความหวังยิ่งเลือนราง สตรีท้องทั้งหลายต่างไม่ตรงกับเงื่อนไขในการสลับชีวิต ท้องของราชาทัชเริ่มโย้ขึ้นทีละน้อยทุกวันๆ พระองค์ทรงหวั่นวิตกจนไม่สามารถว่าราชการได้อย่างปกติ ประชาชนเริ่มวิตกกังวลเรื่องการหายไปของราชาทัช บ้างว่าพระองค์กำลังประชวรหนัก บ้างถึงกับเชื่อว่าพระองค์สวรรคตไปแล้ว
สามเดือนถัดมา จดหมายแห่งความหวังจ่าหน้าถึงราชินีลิลลี่แห่งโอเลนเดอร์ ในจดหมายเขียนไว้ว่าพบคนที่ตรงตามเงื่อนไขแล้ว จะส่งไปถึงราชวังในอีกสามวัน ...
***
สามวันต่อมา ณ ประตูเมืองทางทิศตะวันตกติดกับป่าโอลวู๊ด
เสียงกึกกักของรถลากเทียมสัตว์ดังมาจากในป่า รถคร่ำคร่าคันหนึ่งเทียมด้วยกวางป่าสีน้ำตาลเข้มสองตัวเคลื่อนมาอย่างช้าๆ สภาพชิ้นส่วนของรถคล้ายจะหลุดออกจากกันทุกครั้งที่ผ่านทางขรุขระ รถไม้เก่าค่อยๆเคลื่อนมาถึงประตูเมืองเสียงกระดิ่งเป็นจังหวะดังขึ้นจากภายใน กวางทั้งสองหยุดเดินพร้อมกันเหมือนถูกฝึกในค่ายทหาร มันสะบัดหัวไปมา พอดีกับองค์รักษ์สองนายที่ยืนเฝ้าที่ประตูอยู่เดินเข้ามาด้วยอาการตื่นตระหนก ทั้งสองคนเป็นทหารที่พึ่งถูกส่งมาประจำที่ประตูทิศตะวันตกด้านที่ติดกับป่าโอลวู๊ด ตั้งแต่ทั้งคู่มาเฝ้าที่นี่ยังไม่เคยมีใครผ่านทาง และใช้ประตูนี้เลย ที่นี้เป็นทางเข้าที่เล็กที่สุด เก่าแก่ที่สุด และไม่มีใครในค่ายฝึกทหารอยากมาประจำที่นี่เลยสักคน
ม่านสีเทาที่ใช้แทนประตูรถถูกแหวกออก ชายหน้าตาประหลาดโผล่หน้าออกมา บนหัวมีรังนกและลูกนกตัวเล็กๆอยู่ตัวหนึ่ง เกรเนสนั่นเอง ทหารยามทั้งสองมองตาพร้อมกัน แล้วยืดตัวยืนตรงคล้ายทำความเคารพ คนหนึ่งเริ่มกล่าวอีกคนนึงกล่าวตาม
"พวกเราขอดูใบผ่านทาง" เสียงทั้งสองแทบจะประสานกันคล้ายเสียงดนตรี เพียงแต่เสียงหนึ่งแหลมเล็กเสียงหนึ่งทุ้มหนัก
"ใบผ่านทาง ... !"เกรเนสลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าครั้งหนึ่งพร้อมเอื้อมมือเข้าไปใต้เบาะที่นั่ง คลำหาสิ่งที่ถูกเก็บไว้จนแทบจะลืมไปแล้ว ทหารยามทั้งสองมองหน้ากันไปมาสลับกับมองชายประหลาด นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนแปลกหน้าผ่านมาทางนี้
"นี่ ..."เกรเนส ยื่นกระดาษสีน้ำตาลอ่อนใบหนึ่งให้ทหารยามคนที่ตัวเล็กกว่า กระดาษเก่าเต็มไปด้วยรอยขาดวิ่นและรอยเปียก เหมือนถูกเขียนขึ้นเมื่อร้อยปีมาแล้ว ทั้งคู่ต่างไม่เคยเห็นใบผ่านทางของจริงมาก่อนจึงรีบรับไว้แล้วค่อยๆอ่านอย่างระวังที่สุด ยามคนที่ตัวใหญ่กว่าอ่านออกเสียงช้าๆ "วัตถุดิบสำหรับยาวิเศษ..."
"เอ๊ะ นี่มันอะไรกัน" ทั้งคู่กระโดดถอยออกมารีบคว้าดาบที่ข้างเอวหลังจากรู้ตัวว่าถูกตบตาด้วยกลลวงง่ายๆ แต่สายไปแล้วทั้งรถและคนต่างหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครเชื่อสายตาของตัวเองหรือเรื่องเล่าของทหารยามทั้งสองคนนี้เลย ...
***
ภายในสวนชั้นในสุดของพระราชาและราชินี
เสียงกระดิ่งลึกลับดังขึ้นเตือนราชองครักษ์ให้แตกตื่น "มีผู้บุกรุก"ราชองค์รักษ์คนแรกซึ่งได้ยินเสียงตะโกนให้สัญญาณแก่ทุกคน เสียงชุดเกราะกระทบกันดังมาจากทุกทิศทางมุ่งสู่ภายในสวนชั้นใน ที่นี่เต็มไปด้วยดอกไม้แปลกตาจากทุกอาณาจักร ราชาองค์ก่อนทรงชื่นชอบดอกไม้เป็นพิเศษถึงกับให้สร้างสวนชั้นในนี้ไว้สำหรับเป็นที่ผ่อนคลายส่วนตัว
ทหารราวสามสิบนายในชุดเกราะสีเงินชั้นเลิศยืนอยู่ที่มุมต่างๆของสวน ไม่มีใครกล้าย่างเท้าเข้าไปภายใน ทั้งหมดต่างตกตะลึงที่มีคนๆหนึ่งยืนอยู่ตรงกลางสวนใกล้กับน้ำพุรูปสิงโตแกะสลัก ข้างๆชายลึกลับมีวัตถุชิ้นหนึ่งคล้ายตู้ขนาดใหญ่ถูกผ้าคลุมไว้ ชายคนนั้นเมื่อเห็นไม่มีใครกล้าเข้ามาในสวนสักคน จึงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ทหารทั้งหมดชักดาบสีเงินวาวออกมา ประกายคมดาบระยิบระยับจนนกตัวเล็กๆในสวนพากันบินหนีออกไปอย่างพร้อมเพรียง
"หยุดก่อน" เสียงคำสั่งดังออกมาจากภายในตัวอาคาร ผู้กล่าวค่อยๆเดินออกมาตามทางยาวที่ปูด้วยพรมขนสัตว์ชั้นดี ข้างกายติดตามด้วยหญิงรับใช้สองนาง ราชินีลิลลี่นั่นเอง เธอมองไปที่ผู้บุกรุกแวบหนึ่งจึงค่อยคลายความกังวล ยกมือส่งสัญญาณให้ทหารทั้งหมดลดอาวุธลง
"ที่แท้ เป็นท่านเกรเนส ! ท่านคงพบคนตามเงื่อนไขแล้ว " พูดจบ ราชินีลิลลี่จึงออกคำสั่งอีกครั้ง ทหารทั้งหมดเดินออกไปอย่างพร้อมเพรียง หญิงรับใช้สองคนค่อยๆคลานหลบไปก่อนจะลุกขึ้นแล้วจากไป
"ฮิ ฮิ ..." ยิ่งเห็นผู้คนรับคำสั่งเหมือนสัตว์ถูกฝึก เขายิ่งอดกลั้นหัวเราะไม่ได้ เขาพยายามใช้มือปิดปากแล้วประครองตัวเองให้ยืนตรง
"อาจเป็นเช่นนั้น !" เขาพูดพร้อมยักไหล่ทั้งสองข้าง ใบหน้ายังมีคราบน้ำตาของความขบขัน
***
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ