The Last Love รักครั้งสุดท้าย
-
เขียนโดย ศรุตา
วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 22.08 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
10.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม พ.ศ. 2562 22.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทที่ 1 การประชุม และความโกรธ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 1
การประชุม และความโกรธ
แวลลี่... ถนนเล็ก ๆ สายหนึ่งในเมืองคเวเซอร์ ถนนที่มีช่องจราจรพอให้รถวิ่งสวนทางกันได้ไม่ลำบาก สองข้างทางประดับประดาด้วยผืนหญ้าเขียวขจี แซมด้วยไม้ดอกหลากสี นานาพันธุ์ งามประดุจการรังสรรค์ผลงานจากจิตรกรชั้นเอก ไม้ใหญ่ยืนต้นตั้งตระหง่าน ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ด้วยการให้ร่มเงาแก่ผู้คน และรถราที่ไม่บ่อยนักจะสัญจรผ่าน แวลลี่จึงให้ความรู้สึกสงบ ร่มเย็น และสบายใจ
สิ่งปลูกสร้างที่ดูเบาบาง กอปรกับรูปลักษณ์ภายนอกที่แปลก แตกต่าง ทำให้อาคารหลังหนึ่งโดดเด่น เป็นที่สะดุดตา ภายในหากใครมีโอกาสเยี่ยมชม คงเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นอาคารที่ยอดเยี่ยมที่สุด พื้นที่ใช้สอยเหมาะเจาะ ลงตัว ทันสมัย สะดวกแก่การใช้งาน ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ แต่เป็นห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่บรรจุอุปกรณ์ และเครื่องมือเพียบพร้อม ครบครัน ล้ำค่าด้วยวิทยาการและเทคโนโลยีที่อาจหาไม่ได้ในเมืองนี้ ประเทศนี้ หรือแม้แต่โลกใบนี้
อาคารหลังนี้มิได้เป็นที่ตั้งองค์กรลับตามจินตนาการของผู้สัญจรผ่าน เป็นเพียงที่ทำงาน และที่พักอาศัยของอดีตสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลกคนที่ 5... ศาสตราจารย์เอมิเลีย วินเบิร์ก (Emilia Winberg)
หญิงเกินวัยเกษียณอายุคนนี้ จบปริญญาเอกสาขาเนรอนเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง มีชื่อเรียกตามชื่อเมืองว่า ‘มหาวิทยาลัยคเวเซอร์’ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและคณะกรรมการเนรอนเทคกรุ๊ป องค์กรรัฐบาลทำหน้าที่ดูแลและติดตามความเคลื่อนไหวของเนรอนเทคโนโลยี รวมถึงการจัดอันดับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลก
เบื้องหลังการทำงานให้รัฐบาล เอมิเลียเป็นผู้ก่อตั้ง และผู้นำกลุ่มบุคคลร่วมอุดมการณ์ ‘ตราบจนกว่าชีวิตนี้จะดับสูญ จะไม่ข้องเกี่ยวกับเนรอนเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด’ ความสามารถ ความถนัด และพรสวรรค์ของสมาชิกก็แตกต่างกัน
เนรอนเทคโนโลยี คือ การประยุกต์ ผสมผสาน ดัดแปลงวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เกิดเป็นเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ เพราะใช้เป็นอาวุธทำลายล้างอานุภาพสูง ความเสียที่เกิดขึ้นอาจมากกว่าปรมาณูหรือนิวเคลียร์หลายเท่า หากบุคคลที่สรรค์สร้างมีความสามารถพอ
การตระหนักถึงอานุภาพของเนรอนเทคโนโลยี และอุบัติเหตุที่เคยประสบ เป็นเหตุให้สมาชิกทุกคนพร้อมใจกันเพิกเฉย ไม่รับรู้ ไม่ข้องเกี่ยว แต่ขณะนี้ทุกคนกลับรวมตัวกันตามคำเชิญของเอมิเลียโดยพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุมในอาคารรูปทรงแปลกตา
ห้องประชุมที่เอมิเลียทำหน้าที่เป็นประธานตรงหัวโต๊ะ ปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน อันเป็นผลพวงจากความโกรธที่คุกรุ่นในใจผู้ร่วมผู้ประชุม เหตุเกิดทันทีเมื่อผู้ทำหน้าที่ประธานกล่าวประโยคนี้จบ
‘ตอนนี้คนกลุ่มหนึ่งใช้เนรอนเทคโนโลยีสนองความต้องการของตนด้วยการผลิตอาวุธอานุภาพร้ายแรง ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนไม่น้อยได้รับความเดือดร้อน แม้เคยปฏิญาณว่าจะไม่ข้องเกี่ยว แต่ครั้งนี้เราคงเพิกเฉยไม่ได้ เพื่อหาทางยับยั้งคนกลุ่มนี้ ฉันส่งเรย์น่ากับเอริไปสืบสาวราวเรื่องจากผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบคนล่าสุด อีกสักพักสองคนนี้คงถึงที่นี่แล้วล่ะ’
พิจารณาจากคำพูดคงเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมถึงสร้างความไม่พอใจได้มากมาย สัตย์ปฏิญาณที่ทุกคนให้ไว้ คนทั่วไปต่างรับรู้ เอมิเลียซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม จู่ ๆ กลับคำพูดตัวเองเสียอย่างนั้น มิหนำซ้ำยังขอร้องแกมบังคับให้สมาชิกร่วมมือขัดขวาง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนในห้องนี้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ความเป็นจริง นี่ไม่ใช่สาเหตุที่สร้างพายุในใจเท่ากับประโยคนี้ ‘ฉันส่งเอริไปช่วยผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบ’
ประโยคนี้ต่างหากที่จุดชนวนความโกรธ…
เอริ ไอ (Eri Ai) สาวน้อยวัยยี่สิบปีเศษ ตัดสินใจจากบ้านเกิดเมืองนอน ครอบครัวอบอุ่น เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลยังอีกซีกโลก จุดหมายปลายทางคือประเทศในฝันที่เฝ้ารอโอกาสเยี่ยมเยือนสักครั้ง แม้เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ ในที่สุดโชคชะตาอำนวย หลังจบปริญญาตรี เอริเดินทางตามความฝันของตัวเองด้วยการขออนุญาตพ่อและแม่ศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยคเวเซอร์
การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากวิถีชีวิตเรียบง่าย เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย กลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงเพียงชั่วข้ามคืน ไม่มีใครในแวดวงเนรอนเทคโนโลยีที่ไม่รู้จักเจ้าของตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลกคนที่ 13 ที่อายุน้อยที่สุด
เอริมีความสามารถพิเศษที่ไม่มีใครทำได้ นอกจากเมย์ นั่นคือการประดิษฐ์อาวุธที่มีความสมบูรณ์แบบ และสามารถยับยั้งอาวุธที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีนี้ได้ในเวลาชั่วพริบตา โดยไม่จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลก่อน
ทันทีที่รู้ซึ้งถึงความสามารถนี้ เอริให้คำมั่นว่า ‘จะขอใช้ชีวิตเยี่ยงคนทั่วไป ไม่ข้องแวะ ยุ่งเกี่ยวกับเนรอนเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด’ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสมาชิกคนล่าสุดของกลุ่มภายใต้การนำของเอมิเลีย
เอริเป็นเด็กสาวรูปร่างสันทัด แบบบาง ผมดำ ยาวประบ่า ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมดำ ส่องประกายความจริงใจ ใสซื่อ ประดุจนิสัยของผู้เป็นเจ้าของ จมูกได้รูป รับกับริมฝีปากอิ่ม มุมปากหยักขึ้นน้อย ๆ ราวกับระบายยิ้ม
รูปร่างหน้าตาอาจดูดาษดื่น แต่กิริยา นิสัยซื่อตรง ชอบช่วยเหลือคนอื่น ยึดมั่นคำสัญญาและสัจจะวาจา ไม่เคยมีใครไม่ประทับใจ ด้วยอุปนิสัยเหล่านี้ที่สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ร่วมประชุม โดยเฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ
ทั้งที่เคยให้คำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ผนวกกับอุบัติเหตุจากเนรอนเทคโนโลยีที่ส่งผลให้มีอาการป่วยอย่างหนึ่งซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ตลอดชีวิต แต่เอริตระบัดสัตย์ ยอมทำตามคำร้องขอของเอมิเลีย
“มันจะเป็นไปได้ยังไง เอริไปช่วยคนพวกนั้นได้ยังไง ก็เพิ่งบินกลับบ้านไปหาครอบครัวช่วงปิดเทอมไม่ใช่เหรอไง ทำไม! ทำไม! ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไปได้” เป็นคำถามจากคนที่สะกดกลั้นความโกรธให้อยู่ในใจไม่ได้อีกต่อไป
เอมิเลียส่ายศีรษะให้ความใจร้อนวู่วามของแอลลิสัน และไม่ตอบคำถามที่ทำลายความเงียบแต่มุ่งความสนใจไปยังคน ๆ หนึ่งที่หลายคนต่างลงความเห็นว่าเป็นคนเย็นชา ไม่สนใจใคร ไร้ความรู้สึก ไม่ว่าโกรธ ดีใจ หรือเสียใจ ก็ไม่มีอาการของความรู้สึกเหล่านี้ปรากฏให้เห็นบนใบหน้าและสายตา
ดร.เมย์ เมอร์ริสัน (Mei Merison) ผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลกคนที่ 6 ศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลคเวเซอร์ อาจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัยคเวเซอร์และอาจารย์ที่ปรึกษาของเอริ ไอ
“เมย์… ขอโทษที่จู่ ๆ ก็ยืมตัวเอริไปช่วยงานโดยไม่บอกก่อน” เอมิเลียกล่าวคำขอโทษ เพราะรู้แก่ใจว่าการกระทำของตนคงสร้างความเคืองใจแก่เมย์ไม่น้อย นิสัยที่ไม่ชอบให้ใครก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร เกลียดการโกหกหลอกลวง หวงแหนอะไรก็ตามที่เป็นของตน โดยเฉพาะเอริ หากมีอะไรเกี่ยวข้องกับลูกศิษย์คนนี้ แต่เธอไม่รู้เรื่องแน่นอนว่าต้องบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่
เป็นดังคาด เมย์ตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบตามนิสัย แต่ความเย็นชาและความรู้สึกได้ถึงเรื่องราวใหญ่โตที่จะเกิดขึ้นแผ่ซ่านไปถึงใจคนฟัง
“หึ... บอกตอนนี้มีประโยชน์อะไร จัดการทุกอย่างเองหมดจนจะกลับถึงที่นี่กันอยู่แล้ว บอกให้รับรู้เพื่ออะไร แล้วไอ้เรื่องที่เรียกมาประชุมวันนี้… ขอปฏิเสธ ใครอยากทำอะไรทำไป ไม่เกี่ยวกับฉัน” พูดจบเดินออกจากห้องทันที
ห้องประชุมกลับมาอยู่ในความเงียบอีกครั้ง หลังเสียงประตูปิดดัง ‘ปัง’ สงบไป แต่แล้วเสียงที่ทำลายความเงียบไปเมื่อคราแรกกลับดังขึ้นอีกครั้ง
“เอมิเลีย... คิดจะทำอะไร อย่านึกว่าเอริยอม เมย์กับพวกเราจะยอมตามนะ คิดใช้ยัยเด็กนั่นเป็นเครื่องมือ บอกได้คำเดียวว่า... คิดผิด เด็กกลับกลอกหลอกลวง ทำอะไรไม่เห็นหัวอาจารย์ตัวเอง ไม่มีทาง! ไม่มีวันที่เมย์กับพวกเราจะเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อปกป้องหรอก ไม่มีทาง! มันไม่มีค่าพอ”
ประตูปิดดัง ‘ปัง’ อีกครั้งหลังแอลลิสันระเบิดอารมณ์ออกมาเต็มที่พร้อมกับการเดินออกจากห้องไป
การประชุมครั้งนี้พังไม่เป็นท่าทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำไป…
ชอบหรือไม่ชอบ อยากติชม หรือพูดคุยกับศรุตา เชิญได้ตามด้านล่างเลยค่ะ รออยู่นะคะEmail: saruta.map@gmail.comFacebook: https://www.facebook.com/saruta.map
สำหรับคนที่ไม่อยากรอ ต้องการอ่านแบบรวดเดียวจบ อุดหนุนศรุตาได้ตามนี้ค่ะ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM0MTg0OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg3NTYxIjt9
การประชุม และความโกรธ
แวลลี่... ถนนเล็ก ๆ สายหนึ่งในเมืองคเวเซอร์ ถนนที่มีช่องจราจรพอให้รถวิ่งสวนทางกันได้ไม่ลำบาก สองข้างทางประดับประดาด้วยผืนหญ้าเขียวขจี แซมด้วยไม้ดอกหลากสี นานาพันธุ์ งามประดุจการรังสรรค์ผลงานจากจิตรกรชั้นเอก ไม้ใหญ่ยืนต้นตั้งตระหง่าน ทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ด้วยการให้ร่มเงาแก่ผู้คน และรถราที่ไม่บ่อยนักจะสัญจรผ่าน แวลลี่จึงให้ความรู้สึกสงบ ร่มเย็น และสบายใจ
สิ่งปลูกสร้างที่ดูเบาบาง กอปรกับรูปลักษณ์ภายนอกที่แปลก แตกต่าง ทำให้อาคารหลังหนึ่งโดดเด่น เป็นที่สะดุดตา ภายในหากใครมีโอกาสเยี่ยมชม คงเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นอาคารที่ยอดเยี่ยมที่สุด พื้นที่ใช้สอยเหมาะเจาะ ลงตัว ทันสมัย สะดวกแก่การใช้งาน ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้ แต่เป็นห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่บรรจุอุปกรณ์ และเครื่องมือเพียบพร้อม ครบครัน ล้ำค่าด้วยวิทยาการและเทคโนโลยีที่อาจหาไม่ได้ในเมืองนี้ ประเทศนี้ หรือแม้แต่โลกใบนี้
อาคารหลังนี้มิได้เป็นที่ตั้งองค์กรลับตามจินตนาการของผู้สัญจรผ่าน เป็นเพียงที่ทำงาน และที่พักอาศัยของอดีตสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลกคนที่ 5... ศาสตราจารย์เอมิเลีย วินเบิร์ก (Emilia Winberg)
หญิงเกินวัยเกษียณอายุคนนี้ จบปริญญาเอกสาขาเนรอนเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง มีชื่อเรียกตามชื่อเมืองว่า ‘มหาวิทยาลัยคเวเซอร์’ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาและคณะกรรมการเนรอนเทคกรุ๊ป องค์กรรัฐบาลทำหน้าที่ดูแลและติดตามความเคลื่อนไหวของเนรอนเทคโนโลยี รวมถึงการจัดอันดับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลก
เบื้องหลังการทำงานให้รัฐบาล เอมิเลียเป็นผู้ก่อตั้ง และผู้นำกลุ่มบุคคลร่วมอุดมการณ์ ‘ตราบจนกว่าชีวิตนี้จะดับสูญ จะไม่ข้องเกี่ยวกับเนรอนเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด’ ความสามารถ ความถนัด และพรสวรรค์ของสมาชิกก็แตกต่างกัน
เนรอนเทคโนโลยี คือ การประยุกต์ ผสมผสาน ดัดแปลงวิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เกิดเป็นเทคโนโลยีหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ เพราะใช้เป็นอาวุธทำลายล้างอานุภาพสูง ความเสียที่เกิดขึ้นอาจมากกว่าปรมาณูหรือนิวเคลียร์หลายเท่า หากบุคคลที่สรรค์สร้างมีความสามารถพอ
การตระหนักถึงอานุภาพของเนรอนเทคโนโลยี และอุบัติเหตุที่เคยประสบ เป็นเหตุให้สมาชิกทุกคนพร้อมใจกันเพิกเฉย ไม่รับรู้ ไม่ข้องเกี่ยว แต่ขณะนี้ทุกคนกลับรวมตัวกันตามคำเชิญของเอมิเลียโดยพร้อมเพรียง ณ ห้องประชุมในอาคารรูปทรงแปลกตา
ห้องประชุมที่เอมิเลียทำหน้าที่เป็นประธานตรงหัวโต๊ะ ปกคลุมไปด้วยความเงียบงัน อันเป็นผลพวงจากความโกรธที่คุกรุ่นในใจผู้ร่วมผู้ประชุม เหตุเกิดทันทีเมื่อผู้ทำหน้าที่ประธานกล่าวประโยคนี้จบ
‘ตอนนี้คนกลุ่มหนึ่งใช้เนรอนเทคโนโลยีสนองความต้องการของตนด้วยการผลิตอาวุธอานุภาพร้ายแรง ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์จำนวนไม่น้อยได้รับความเดือดร้อน แม้เคยปฏิญาณว่าจะไม่ข้องเกี่ยว แต่ครั้งนี้เราคงเพิกเฉยไม่ได้ เพื่อหาทางยับยั้งคนกลุ่มนี้ ฉันส่งเรย์น่ากับเอริไปสืบสาวราวเรื่องจากผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบคนล่าสุด อีกสักพักสองคนนี้คงถึงที่นี่แล้วล่ะ’
พิจารณาจากคำพูดคงเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมถึงสร้างความไม่พอใจได้มากมาย สัตย์ปฏิญาณที่ทุกคนให้ไว้ คนทั่วไปต่างรับรู้ เอมิเลียซึ่งเป็นผู้นำกลุ่ม จู่ ๆ กลับคำพูดตัวเองเสียอย่างนั้น มิหนำซ้ำยังขอร้องแกมบังคับให้สมาชิกร่วมมือขัดขวาง จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกคนในห้องนี้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ความเป็นจริง นี่ไม่ใช่สาเหตุที่สร้างพายุในใจเท่ากับประโยคนี้ ‘ฉันส่งเอริไปช่วยผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบ’
ประโยคนี้ต่างหากที่จุดชนวนความโกรธ…
เอริ ไอ (Eri Ai) สาวน้อยวัยยี่สิบปีเศษ ตัดสินใจจากบ้านเกิดเมืองนอน ครอบครัวอบอุ่น เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลยังอีกซีกโลก จุดหมายปลายทางคือประเทศในฝันที่เฝ้ารอโอกาสเยี่ยมเยือนสักครั้ง แม้เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ ในที่สุดโชคชะตาอำนวย หลังจบปริญญาตรี เอริเดินทางตามความฝันของตัวเองด้วยการขออนุญาตพ่อและแม่ศึกษาต่อระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยคเวเซอร์
การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้ชีวิตต้องเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากวิถีชีวิตเรียบง่าย เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย กลายเป็นบุคคลมีชื่อเสียงเพียงชั่วข้ามคืน ไม่มีใครในแวดวงเนรอนเทคโนโลยีที่ไม่รู้จักเจ้าของตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลกคนที่ 13 ที่อายุน้อยที่สุด
เอริมีความสามารถพิเศษที่ไม่มีใครทำได้ นอกจากเมย์ นั่นคือการประดิษฐ์อาวุธที่มีความสมบูรณ์แบบ และสามารถยับยั้งอาวุธที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีนี้ได้ในเวลาชั่วพริบตา โดยไม่จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูลก่อน
ทันทีที่รู้ซึ้งถึงความสามารถนี้ เอริให้คำมั่นว่า ‘จะขอใช้ชีวิตเยี่ยงคนทั่วไป ไม่ข้องแวะ ยุ่งเกี่ยวกับเนรอนเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด’ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสมาชิกคนล่าสุดของกลุ่มภายใต้การนำของเอมิเลีย
เอริเป็นเด็กสาวรูปร่างสันทัด แบบบาง ผมดำ ยาวประบ่า ใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมดำ ส่องประกายความจริงใจ ใสซื่อ ประดุจนิสัยของผู้เป็นเจ้าของ จมูกได้รูป รับกับริมฝีปากอิ่ม มุมปากหยักขึ้นน้อย ๆ ราวกับระบายยิ้ม
รูปร่างหน้าตาอาจดูดาษดื่น แต่กิริยา นิสัยซื่อตรง ชอบช่วยเหลือคนอื่น ยึดมั่นคำสัญญาและสัจจะวาจา ไม่เคยมีใครไม่ประทับใจ ด้วยอุปนิสัยเหล่านี้ที่สร้างความไม่พอใจแก่ผู้ร่วมประชุม โดยเฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ
ทั้งที่เคยให้คำสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ผนวกกับอุบัติเหตุจากเนรอนเทคโนโลยีที่ส่งผลให้มีอาการป่วยอย่างหนึ่งซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ตลอดชีวิต แต่เอริตระบัดสัตย์ ยอมทำตามคำร้องขอของเอมิเลีย
“มันจะเป็นไปได้ยังไง เอริไปช่วยคนพวกนั้นได้ยังไง ก็เพิ่งบินกลับบ้านไปหาครอบครัวช่วงปิดเทอมไม่ใช่เหรอไง ทำไม! ทำไม! ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ไปได้” เป็นคำถามจากคนที่สะกดกลั้นความโกรธให้อยู่ในใจไม่ได้อีกต่อไป
เอมิเลียส่ายศีรษะให้ความใจร้อนวู่วามของแอลลิสัน และไม่ตอบคำถามที่ทำลายความเงียบแต่มุ่งความสนใจไปยังคน ๆ หนึ่งที่หลายคนต่างลงความเห็นว่าเป็นคนเย็นชา ไม่สนใจใคร ไร้ความรู้สึก ไม่ว่าโกรธ ดีใจ หรือเสียใจ ก็ไม่มีอาการของความรู้สึกเหล่านี้ปรากฏให้เห็นบนใบหน้าและสายตา
ดร.เมย์ เมอร์ริสัน (Mei Merison) ผู้เชี่ยวชาญเนรอนเทคโนโลยีของโลกคนที่ 6 ศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลคเวเซอร์ อาจารย์พิเศษประจำมหาวิทยาลัยคเวเซอร์และอาจารย์ที่ปรึกษาของเอริ ไอ
“เมย์… ขอโทษที่จู่ ๆ ก็ยืมตัวเอริไปช่วยงานโดยไม่บอกก่อน” เอมิเลียกล่าวคำขอโทษ เพราะรู้แก่ใจว่าการกระทำของตนคงสร้างความเคืองใจแก่เมย์ไม่น้อย นิสัยที่ไม่ชอบให้ใครก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร เกลียดการโกหกหลอกลวง หวงแหนอะไรก็ตามที่เป็นของตน โดยเฉพาะเอริ หากมีอะไรเกี่ยวข้องกับลูกศิษย์คนนี้ แต่เธอไม่รู้เรื่องแน่นอนว่าต้องบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่
เป็นดังคาด เมย์ตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบตามนิสัย แต่ความเย็นชาและความรู้สึกได้ถึงเรื่องราวใหญ่โตที่จะเกิดขึ้นแผ่ซ่านไปถึงใจคนฟัง
“หึ... บอกตอนนี้มีประโยชน์อะไร จัดการทุกอย่างเองหมดจนจะกลับถึงที่นี่กันอยู่แล้ว บอกให้รับรู้เพื่ออะไร แล้วไอ้เรื่องที่เรียกมาประชุมวันนี้… ขอปฏิเสธ ใครอยากทำอะไรทำไป ไม่เกี่ยวกับฉัน” พูดจบเดินออกจากห้องทันที
ห้องประชุมกลับมาอยู่ในความเงียบอีกครั้ง หลังเสียงประตูปิดดัง ‘ปัง’ สงบไป แต่แล้วเสียงที่ทำลายความเงียบไปเมื่อคราแรกกลับดังขึ้นอีกครั้ง
“เอมิเลีย... คิดจะทำอะไร อย่านึกว่าเอริยอม เมย์กับพวกเราจะยอมตามนะ คิดใช้ยัยเด็กนั่นเป็นเครื่องมือ บอกได้คำเดียวว่า... คิดผิด เด็กกลับกลอกหลอกลวง ทำอะไรไม่เห็นหัวอาจารย์ตัวเอง ไม่มีทาง! ไม่มีวันที่เมย์กับพวกเราจะเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อปกป้องหรอก ไม่มีทาง! มันไม่มีค่าพอ”
ประตูปิดดัง ‘ปัง’ อีกครั้งหลังแอลลิสันระเบิดอารมณ์ออกมาเต็มที่พร้อมกับการเดินออกจากห้องไป
การประชุมครั้งนี้พังไม่เป็นท่าทั้งที่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำไป…
ชอบหรือไม่ชอบ อยากติชม หรือพูดคุยกับศรุตา เชิญได้ตามด้านล่างเลยค่ะ รออยู่นะคะEmail: saruta.map@gmail.comFacebook: https://www.facebook.com/saruta.map
สำหรับคนที่ไม่อยากรอ ต้องการอ่านแบบรวดเดียวจบ อุดหนุนศรุตาได้ตามนี้ค่ะ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM0MTg0OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijg3NTYxIjt9
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ