The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
80) จนมุม(หรือเปล่านะ)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.enjpg.com
…………………
เด็กหนุ่มวิ่งหนีสุดกำลัง แม้เขาจะเร็วปานใด แต่ก็ไม่ไวไปกว่าสามหมาป่าที่ไล่จี้มาติดๆ
“ โฮ่งๆ แฮ่…… ” ทันทีที่ไล่หลังจนเกือบทัน ฝูงหมาป่าก็เห่าอย่างรุนแรง ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาคนน่าจะประมาณว่า “หยุดเดี๋ยวนี้นะเฟ้ย”
มาวิแอบหันกลับมามอง ปากก็พึมพำเบาๆด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
“ บ้าชะมัด หนีได้แผล็บเดียว พวกมันก็ตามทันอีกแล้ว วิ่งเร็วสมกับเป็นหมาป่าเลย ”
หนึ่งคนกับสามสัตว์วิ่งไล่ตามกันอยู่พักใหญ่ พอถึงจุดหนึ่ง มาวินก็หยุดวิ่งอย่างฉับพลัน แล้วหันกลับมาประจัน ประกายตาฉายแววจริงจังจนฝูงหมาป่าชะงักงันด้วยความตกใจ
“ แฮ่….. ” เจ้าสี่ขาทั้งสามส่งเสียงขู่ตามประสาสัตว์ป่าที่ดุร้าย
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……. รู้สึกว่าวันนี้ ชั้นจะเหนื่อยเป็นพิเศษนะ ” มาวินยิ้มนิดๆ เขาปาดเหงื่อบนใบหน้า
พอหมาป่าทั้งสามหายตื่นกลัว พวกมันก็กระจายตัวเข้าล้อมกรอบ แต่คราวนี้ ด้านหลังของมาวินพลันปรากฏก้อนศิลาขนาดใหญ่ บ่งบอกว่าเขาได้พาตัวเองมายังทางตันซึ่งไร้ทางออก ทว่าบนใบหน้ากลับฉายรอยยิ้มจางๆอยู่ตลอด ชวนให้สงสัยว่ากลัวจนสติแตกไปแล้วรึไง
เหมือนหมาป่าทั้งสามจะครั่นคร้ามในตัวเด็กหนุ่มพอสมควร เพราะเขาดูสงบและมั่นใจ พวกมันจึงได้แต่จดๆจ้องๆ ปากก็ขู่คำรามด้วยเสียงแหบต่ำ
“ แฮ่…… ”
แม้มาวินจะถูกกลุ่มสัตว์ร้ายรุมล้อม แต่เขาก็ยังนิ่ง มิหนำซ้ำยังโปรยยิ้มให้ พร้อมเอ่ยถามด้วยอาการรื่นเริง คล้ายคนที่กำลังคุยเล่นกับเพื่อนสนิทมิตรสหาย
“ ว่าไง พวกนายจะสู้ต่อหรือถอย แต่ถ้าคิดจะเข้ามา ก็ลุยเลย ชั้นพร้อมแล้ว ”
“ แฮ่……. ” ฝูงหมาป่ายังขู่คำรามอย่างต่อเนื่อง เสียงของพวกมันเริ่มดังยิ่งกว่าเดิม นัยว่าจะทวีความโมโหอีกเท่าตัว เพราะวาจาในเชิงดูหมิ่นของเด็กหนุ่ม
“ โอ๊ะ โอ๋ จะสู้ต่อซินะ เหอๆ ” มาวินขยับกายตั้งท่าสู้ พร้อมหัวเราะกวนๆตามสไตค์ของตัวเอง
ทั้งสองฝ่ายนิ่งคุมเชิงอยู่ครู่หนึ่ง ก็เป็นฝ่ายหมาป่าจ่าฝูงที่พุ่งเข้ามาโจมตีก่อน ปากของมันอ้ากว้างจนเผยให้เห็นเขี้ยวยาวที่แหลมคม
“ แฮ่…… ”
แต่ในจังหวะที่หมาป่าจ่าฝูงกำลังจะเข้าถึงตัว เด็กหนุ่มก็ถีบสูงที่ยอดอก ฝ่าเท้าขวาพุ่งปะทะเป้าหมายที่เล็งไว้อย่างแม่นยำ
“ ผลั้ก ”
“ เอ๋ง….. ”
เสียงฝ่าเท้ากระทบแผงอกแกร่งดังสนั่น พร้อมเสียงร้องครวญครางของหมาป่าตัวเขื่อง ด้วยความแรงในการถีบ ส่งผลให้ร่างของมันกระเด็นไกลถึง 3 เมตร
“ แฮ่…… ” หลังเห็นลูกพี่ใหญ่ถูกทำร้าย หมาป่าทางด้านซ้ายก็พุ่งเข้าใส่มาวิน ทว่าเด็กหนุ่มก็ไวพอจะยกขาซ้ายขึ้นถีบยอดอก
“ เอ๋ง ”
หมาป่าเคราะห์ร้ายร้องได้คำเดียว ก่อนกระเด็นไปในระยะที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับลูกพี่ แน่นอนว่าการโจมตีต่อเนื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ เจ้าตัวที่สามซึ่งอยู่ทางขวาได้พุ่งเข้าใส่มาวินอีกคำรบ มันรวดเร็วเกินกว่าเด็กหนุ่มจะกลับตัวทัน เขาจึงพลิกแพลงด้วยเหวี่ยงขาซ้ายซึ่งยกค้างไปที่ด้านหลัง ส้นเท้าแข็งๆจึงปะทะกรามของสัตว์ร้ายเข้าอย่างจัง ทำให้ปลิวไปอีกตัว
“ เอ๋ง….. ”
ทันทีที่หมาป่าตัวที่สามล้มกลิ้งลงไปนอน มันก็ลุกขึ้นมาโอดครวญด้วยท่าทางที่ชวนเวทนา ซึ่งถ้าแปลเป็นภาษาคนก็น่าจะประมาณ “อู้ย….. เจ็บเหลือเกิน”
ถึงมาวินจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ก็ไม่ได้รุกไล่ เขายังยืนสงบและตั้งท่าต่อสู้อยู่แบบนั้น ไม่นาน ปากเล็กบางก็เริ่มเปิดกว้าง เพื่อร้องท้าทายเหล่าศัตรูขนยาว
“ เอ้า ว่าไง จะต่ออีกยกมั้ยล่ะพวก ”
สามหมาป่าหันมามองหน้ากันเอง เหล่าอริสี่ขารู้สึกสับสน เพราะเด็กหนุ่มดันเก่งขึ้นมากะทันหัน ทว่าจ่าฝูงยังคงใจเย็น วินาทีต่อมา มันก็เชิดหน้าสูง พร้อมกู่ร้องเสียงดังยาว เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ
“ โบ๋ว……. ”
สิ้นเสียงของหัวหน้าใหญ่ เหล่าลูกฝูงก็พลันสงบและกลับมาดุร้ายตามเดิม พวกมันเริ่มขู่คำราม แล้วค่อยๆล้อมกรอบเข้ามา เพื่อต้อนเด็กหนุ่ม
แม้มาวินจะตกอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน แต่เขากลับสงบอย่างประหลาด เด็กหนุ่มเริ่มย่อตัวลงต่ำ มือทั้งสองง้างไปด้านหลังในท่าเตรียมปล่อยหมัด
พอสามหมาป่าอยู่ในระยะสามก้าวก่อนถึงตัว พวกมันก็หยุด วินาทีเป็นตายนั้นเอง จ่าฝูงก็กู่ร้องขึ้นมาอีกครั้ง เป็นสัญญาณให้เข้าจู่โจม
“ โบว๋…… ”
สิ้นเสียงสัญญาณ หมาป่าทั้งสามก็กระโจนเข้าใส่เด็กหนุ่มพร้อมกัน แต่ในครั้งนี้ พวกมันกระโดดสูงยิ่งกว่าเดิมอีกเท่าตัว ทำให้ทางหนีกลางอากาศถูกปิด
“ หึๆ ” มาวินไม่มีท่าทีตกใจ เสี้ยววินาทีต่อมา แววตาของเด็กหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นถมึงทึง ปากก็กู่ก้องร้องตะโกน เพื่อเรียกพลังที่ซ่อนอยู่ภายใน
“ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ”
สิ้นเสียงตะโกน กรงเล็บจากสองมือก็พุ่งกระจายออกไป จุดหมายคือร่างเล็กบางของเหล่าหมาป่า ซึ่งก็เข้าเป้าอย่างเเม่นยำ ก่อให้เกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงโอดครวญสลับไปมา
“ ผลั้ก ปึก ปัง…..”
“ เอ๋ง…… ”
ผลจากการเข้าปะทะ ปรากฏว่าฝ่ายที่ต้องกระเด็นกลับไปคือฝูงหมาป่า เนื่องจากกระบวนท่าพยุหะกรงเล็บแมวป่านั้นรุนแรงและรวดเร็ว มิหนำซ้ำยังปล่อยได้หลายหมัดในเวลาเดียวกัน ทำให้พวกมันไม่สามารถฝ่าพายุกรงเล็บเข้ามาได้เลย
ฝูงหมาป่ากระเด็นไกล พอแผ่นหลังสัมผัสพื้น สองลูกสมุนก็ถึงกับครางดัง ก่อนลงไปนอนชักกระตุก ดวงตาขาวโพลน น้ำลายแตกฟองและแน่นิ่งไป
“ เอ๋ง….. หงิ๋ง….. ”
ยามนี้เหลือเพียงหมาป่าจ่าฝูงที่ยืนอยู่ แม้ว่ามันจะทนท่าไม้ตายของมาวินได้ แต่ก็ซวนเซและโงนเงน เนื่องจากเกิดอาการเมาหมัด แน่นอนว่าเด็กหนุ่มไม่ยอมปล่อยนาทีทองให้ลอยผ่าน เขาจึงปลดปล่อยท่าไม้ตายที่สอง
“ กระบวนท่าเสือดาวไล่เหยื่อ ”
สิ้นเสียงกู่ร้อง มาวินก็พุ่งเข้าไปเตะซ้ายใส่กกหูของหมาป่าจ่าฝูง พอมันถอยหลัง เด็กหนุ่มก็สืบเท้าตามเข้าไปเตะขวาใส่กกหูอีกข้าง เขาตามไปหวดแบบนี้อีกหลายครั้ง แต่ละดอกล้วนหนักหน่วงจนก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ
“ พลั้ก พลั้ก พลั้ก ”
พอการโจมตีสิ้นสุดลง หมาป่าจ่าฝูงก็ล้มลงไปนอน ส่วนมาวิน เขาเตรียมเผด็จศึกด้วยการกระโดดขึ้นกลางอากาศ
“ ย่า……. ”
ร่างเล็กบางลอยขึ้นไปประมาณ 3 เมตร หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็พุ่งทะยานลงมา พร้อมหมัดคู่ที่กะจะทิ่มทะลวงใส่หมาป่าจ่าฝูงซึ่งยังนอนสลบ ทันทีที่กำปั้นกระทบเป้าหมาย ก็เกิดเสียงดังสนั่นยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“ โครม ”
ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ พอม่านหมอกจางลง ก็ปรากฏร่างของมาวินที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างหมาป่า แต่มันยังไม่ตาย เพราะหมัดคู่ได้ทิ่มทะลวงเข้าไปที่พื้นดินข้างลำตัวแทนจนแผ่นดินบริเวณนั้นกลายเป็นหลุมขนาดย่อม คล้ายถูกจอบขุด เด็กหนุ่มเหลือบมองคู่อริที่นอนแน่นิ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา
“ โชคดีที่ชั้นยั้งมือให้ ไม่งั้นนายได้เดินทางไปเฝ้าพระเจ้าแน่ๆ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ