The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.84K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

61) หางานทำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
เครดิตภาพจาก  https://www.wallpaperflare.com
 
      กลางดึกของเมืองแกรนด์ยารด์ แม้จะมีผู้คนเตร็ดเตร่ไปมา แต่ก็น้อยกว่าตอนกลางวันหลายเท่าตัว ด้านหน้าของบาร์แห่งหนึ่ง มีม้าสองตัวผูกติดกับเสาไม้ ตัวแรกสูงใหญ่ ท่าทางองอาจ สมกับเป็นม้าศึก ส่วนอีกตัวนั้นทั้งเล็กทั้งแห้ง แลหย็องกรอด แถมยังมีสีกระดำกระด่างดูสกปรก ใกล้ๆกับพาหนะมีชีวิต ปรากฏร่างของวัยรุ่นชายหญิงคู่หนึ่ง นั่นก็คือ….มาวินและเหมยลี่นั่นเอง
 
“ เฮ้อ........เงินโดนขโมยไปหมดแล้ว ทีนี้จะทำยังไงกันดี ” เด็กหนุ่มหัวเขียวนั่งเท้าคาง ท่าทางเบื่อหน่าย ปากก็พล่ามบ่น
        
 
      เหมยลี่นั่งขัดสมาธิ สายตาที่ทอดยาวไปข้างหน้ากำลังปิดพริ้ม ใบหน้าสงบนิ่ง ปราศจากความกังวลใดๆ เธออยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ก่อนตอบกลับ
 
“ คืนนี้ คงต้องอยู่แบบนี้ไปก่อน เพราะเงินไม่พอจะจ่ายค่าโรงแรม จากนั้นก็หางานทำ เพื่อเก็บเงิน ” 
 
“ หา..... ทำงาน ” มาวินตกตะลึงอย่างรุนแรง ดวงตาเบิกโพลงจนเกือบทะลักออกจากเบ้า 
 
“ ใช่แล้ว นี่อย่าบอกนะว่า.....ตั้งแต่เกิดมา นายไม่เคยทำงานเลย ” เด็กสาวร่างสูงหันมาถาม สีหน้าดูสงสัย 
 
“ เหอๆ ก็ไม่เชิง ชั้นเคยทำมานิดหน่อย แต่ไม่ค่อยชอบน่ะ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวหัวเราะแห้งๆ ใบหน้าเล็กเรียวดูเหยเก คล้ายรังเกียจการทำงานอย่างรุนแรง 
 
“ ถึงตอนนี้ นายคงต้องฝืนทำ เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว ” เหมยลี่ตอบเนือยๆ เธอดูไม่ทุกข์ร้อนเลย     
       
 
       ทั้งสองนิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ด้วยท่าทีที่แตกต่างกัน เหมยลี่ยังคงกอดอกนิ่ง ส่วนมาวินได้แต่ขยุกขยิกตามประสาคนอยู่ไม่สุข เวลาต่อมา เด็กหนุ่มหัวเขียวก็สะกิดเพื่อนสาว เพื่อไถ่ถาม
 
“ นี่ ยัยโย่ง ในเมื่อไม่มีทางเลือกแล้ว พอจะบอกได้มั้ยว่างานที่ทำมีอะไรบ้าง ” 
          
 
        เหมยลี่ไม่ไหวติง เธอยังนั่งนิ่งในท่าเดิม ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ารำคาญ
 
“ นายสามารถดูรายละเอียดของงานเหล่านั้นได้ด้วยนาฬิกาประจำตัว ” 
 
“ หา......มันทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ ” มาวินร้องเสียงหลง เขายกข้อมือขึ้นมา เพื่อมองนาฬิกาสีกระดำกระด่างที่ตนสวมใส่
           
 
        เหมยลี่หันมาตำหนิด้วยสายตา ประกายรุนแรงจนมาวินนึกผวา ด้วยรู้ฤทธิ์ของแม่เสือสาวเป็นอย่างดี แต่สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ลงไม้ลงมือ เพียงแต่กล่าวสั้นๆว่า….. 
 
“ นาฬิกาทุกเรือนทำได้หมด ” 
 
“ เอ่อ..... ครับผม ” มาวินรีบตอบอย่างสุภาพ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาสำรวจนาฬิกาข้อมือของตนเอง 
          
 
       มาวินง่วนกับอุปกรณ์อยู่พักใหญ่ ถึงกระนั้น ก็ไม่สามารถไขความลับของมันได้ ทุกครั้งที่เขาพยายามกดปุ่มบนตัวเรือน ไฟหน้าจอก็เหมือนจะดับ มิดับเหล่
          
 
       สิ่งที่เกิดไม่พ้นหูพ้นตาของเหมยลี่ เหมือนว่าเธอจะรำคาญในความงี่เง่าของมาวินหรือไม่ก็สมเพชความโปเกของอุปกรณ์ จึงล้วงเข้าไปในย่าม เพื่อหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมาสวมข้อมือ มันคือ……นาฬิกาทรงเหลี่ยมที่เพรียวบางและล้ำค่า เพราะตลอดทั้งเรือนล้วนทำมาจากทองคำ 
 
“ ว้าว..... นะ...... นี่คือนาฬิกาของเธอเหรอ สุดยอดไปเลย ” มาวินตกตะลึงจนตาค้าง เขาไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะซุกของมีค่าขนาดนี้เอาไว้
 
“ หุบปาก แล้วตั้งใจดู ” เหมยลี่ตัดบท น้ำเสียงเฉียบขาด ทำให้มาวินสงบคำในทันที เนื่องจากกลัวว่าตนจะโดนภัยจากบาทา ถ้ายังปากมากไม่เข้าเรื่อง แต่ในใจแอบเถียง
 
" ก็มันสวยจริงๆนี่นา " 
        
 
        เหมยลี่กดปุ่มบนตัวเรือนอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เกิดแสงที่หน้าจอ ความสว่างทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ภาพโฮโลแกรมสามมิติก็พุ่งออกมาจากนาฬิกาและลอยอยู่กลางอากาศ มันคือกรอบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีข้อความให้เลือกมากมาย
 
“ เฮ้ย.......นาฬิกาของเธอทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ไฮเทคเป็นบ้าเลย แลกกันมั้ย ” มาวินยื่นนาฬิกาของตนให้เด็กสาวร่างสูง หวังจะแลกเปลี่ยนกัน แต่อีกฝ่ายกลับตะคอกใส่ด้วยอาการหัวเสีย 
 
“ เจ้าบ้า นาฬิกาวิญญาณเป็นของประจำตัว ผู้ที่ใช้งานได้คือเจ้าของเพียงคนเดียว ดังนั้น ถึงนายแลกกับชั้น ก็ใช้มันไม่ได้อยู่ดี ” 
 
“ แฮะๆ ใช้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แค่ใส่ไว้เท่ๆก็พอ ” มาวินหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบกลับกวนๆ 
 
“ นี่ไง เท่ ” เหมยลี่เขกกะโหลกของเด็กหนุ่มเต็มแรง 
 
“ โป๊ก ” 
 
“ เจี๊ยก...... ” มาวินกระโดดโลดเต้น พร้อมร้องจนสุดเสียง เพราะน้ำหนักมือที่ประเคนใส่ ท่าทางจะหนักมิใช่น้อย  
 
“ เลิกนอกเรื่อง แล้วตั้งใจดูให้ดี ” เหมยลี่ตวาดกลับ ท่าทางเด็ดขาด ทำให้มาวินต้องข่มความปวด แล้วฝืนดูข้อความที่ลอยอยู่กลางอากาศ
        
 
       มาวินตั้งอกตั้งใจอย่างเต็มที่ เนื่องจากเขาเป็นอีกคนที่อ่านหนังสือปีละแปดบรรทัด ดังนั้น การอ่านอะไรที่ยาวเหยียดจึงเป็นเรื่องยาก ข้อความบนภาพโฮโลแกรมมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 
 
ข้อมูลงานในเมืองแกรนด์ยารด์
งานล้างจานที่ร้านแมวเหิน 1 อัตรา ค่าจ้าง 3 เหรียญเงินต่อวัน
งานแบกหามที่โรงงานสุนัขร้องไห้ 5 อัตรา ค่าจ้าง 2 เหรียญเงิน 50 เหรียญทองแดงต่อวัน
งานเด็กเสิร์ฟที่ร้านตะกวดหิว 2 อัตรา ค่าจ้าง 79 เหรียญทองแดงต่อชั่วโมง
งานเลี้ยงเด็กที่บ้านคุณนายโหวง 1 อัตรา ค่าจ้าง 3 เหรียญเงิน 20 เหรียญทองแดงต่อวัน
 
“ เหอๆ นี่มันอะไรกันเนี่ย ” มาวินหัวเราะแห้งๆ เขาเหนื่อยใจ เมื่อเห็นเนื้องาน
 
“ อ้าว.....ไม่ชอบเหรอ ชั้นว่างานล้างจานน่าจะดีนะ เพราะเย็นสบายมือ ด้วยโดนน้ำทั้งวัน ” เหมยลี่ถาม สีหน้าเหมือนจะยิ้มนิดๆ 
 
“ ยัยบ้า ตั้งแต่เกิดมา ชั้นไม่เคยเข้าครัวเลย แล้วจะล้างจานเป็นได้ยังไง เกิดไปทำของเขาแตก มิต้องเสียเงินแทนได้เงินรึ ” มาวินเถียง 
 
“ แล้วแบกหามล่ะ สนมั้ย นายน่าจะถนัดงานที่ใช้แต่กำลังนะ ” เด็กสาวเสนอต่อ 
 
“ นี่หาว่าชั้นโง่รึไง ” มาวินตอบกลับ น้ำเสียงดุ 
 
“ หึๆ แล้วงานเด็กเสิร์ฟล่ะ ได้แต่งตัวน่ารักๆด้วยนะ ” เด็กสาวหัวเราะเล็กน้อย เธอแกล้งกระเซ้าต่อ 
 
“ ชั้นเป็นผู้ชายนะยะ....... ” มาวินเริ่มโวยวาย ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโมโหแกมอาย 
 
“ เฮ้อ.......สุดท้ายคืองานเลี้ยงเด็ก ทำมั้ยล่ะ ดูมีความสุขดีนะ ” เหมยลี่ยื่นข้อเสนอสุดท้าย พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขที่ได้แกล้งมาวิน 
 
“ ว้าก...... ไม่ต้องพูดเลย หน้าตาชั้นเหมือนคนรักเด็กเหรอ ” คราวนี้มาวินเริ่มแหกปาก สองมือรุมทึ้งผมบนหัวตัวเอง ท่าทางไม่ต่างจากคนบ้าที่หลุดจากโรงพยาบาล 
 
“ ฮะๆ ” ทันทีที่ฟังจบ เด็กสาวร่างสูงก็หัวเราะเล็กน้อย เพราะขบขันท่าทีปัญญาอ่อนของเด็กหนุ่ม 
 
“ นี่ หัวเราะทำไมยะ หล่อน ชั้นไม่ใช่จำอวดนะเฟ้ย ” มาวินทำตาขวางใส่ พลางแยกเขี้ยว 
 
“ ฮะๆ ไม่หัวเราะก็ได้ อุๆ ” เหมยลี่พยายามจะหยุดหัวเราะ แต่ทำได้ไม่ดีนัก  
         
 
       ทีแรกมาวินนึกเคือง แต่เมื่อเห็นความสดใสของเหมยลี่ จิตส่วนหนึ่งก็หวนระลึกถึง….จัน เพื่อนสาวคนสนิท สองคนนี้มีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึง ราวกับว่าเป็นคนๆเดียวกัน 
 
“ นี่ถ้าจันยิ้มและหัวเราะ ใบหน้าของเธอก็คงเป็นแบบนี้ ” มาวินเพ้ออยู่ภายใน อารมณ์เป็นสุขอย่างประหลาด ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์เริ่มผ่อนคลายและแย้มยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเอง โสตประสาทก็แว่วเสียงร้องทักของเพื่อนสาว
 
“ นายยิ้มทำไม ”  
 
“ เอ๊ะ เปล่า ไม่มีอะไร เหอๆ ” มาวินสะดุ้งเล็กน้อย พร้อมตอบตะกุกตะกัก อันดูมีพิรุธเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเหมยลี่ก็ไม่ได้เค้นคอ หาความจริง มีเพียงดวงตาคมเข้มที่หรี่ต่ำ เป็นเชิงสงสัยเท่านั้น 
        
 
       เวลาแห่งความอึดอัดผ่านไปครู่หนึ่ง มาวินก็หาทางออกให้ตัวเอง ด้วยการกระแอมเบาๆ พร้อมเอ่ยถามแบบเป็นการเป็นงาน อันเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยกระทำ
 
“ ฮะแฮ่ม เอ่อ......ชั้นคิดทบทวนแล้วนะ งานพวกนี้คงไม่เหมาะกับชั้นหรอก อีกประการ เงินที่ได้ก็น้อยเกินไป กว่าจะพอค่าเดินทาง ต้องทำงานไม่ต่ำกว่าสองปี ” 
 
“ ชั้นก็กะไว้อยู่แล้วว่านายต้องพูดแบบนี้ ไม่ต้องห่วง มีงานพิเศษที่ได้เงินดีกว่านั้น ” เหมยลี่เริ่มเข้าเรื่อง 
 
“ เอ๋......งานพิเศษอะไร สนุกมั้ย ” ท่าทีของมาวินดูตื่นเต้น กายเกร็งสุดๆ คล้ายกำลังลุ้นบางอย่าง
 
“ สนุกรึเปล่าไม่รู้ แต่งานที่ทำนั้นยากและต้องใช้ทักษะเฉพาะทาง บางทีก็อันตรายถึงชีวิต ” เหมยลี่ตอบกลับด้วยท่าทีขึงขัง 
 
“ ว้า......งั้นไม่เอาแล้ว ทั้งยากทั้งเหนื่อย ดีไม่ดี ต้องตายอีกต่างหาก ” หลังรู้ความจริง  มาวินก็คิดถอนตัว
 
“ โอเค งั้นนายกลับไปทำงานเลี้ยงเด็กก็เเล้วกัน ” เหมยลี่ยิ้มเยาะ 
 
“ ว้าก..... นั่นก็ไม่เอา ยี้...... ” มาวินปฏิเสธอย่างรวดเร็ว 
 
“ โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา แล้วนายจะทำยังไง หรือจะล้มเลิก แล้วตั้งรกรากที่นี่ ” เหมยลี่เริ่มเซ็งกับความเรื่องมากของเด็กหนุ่ม
         
 
        มาวินนิ่งคิดอยู่นาน ใบหน้าทะเล้นแปรเปลี่ยนเป็นขมวดนิ่ว เพราะใช้สมองอย่างหนัก ครู่หนึ่ง เขาก็กลั้นใจตอบกลับ
 
“ เอาล่ะ ชั้นเลือกทำงานพิเศษก็แล้วกัน ตกลงมันคืองานอะไร ”
 
 
สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา