The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
47) เกมมหัศจรรย์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.pexels.com
“ เฮ้ รอด้วยดิ อย่าเดินเร็วนัก ” มาวินร้องตะโกน พร้อมไล่ตามมาติดๆ ถึงกระนั้น เหมยลี่ก็ยังไม่หยุด ส่งผลให้เด็กหนุ่มต้องวิ่งต่อไป เมื่อเข้าถึงตัว เขาก็เอื้อมมือไปคว้าแขนของเด็กสาว
“ นี่....หยุดก่อนได้มั้ย ”
ทันทีที่เหมยลี่รู้สึกว่าถูกฉุดรั้ง เธอก็หันกลับมามอง แววตาดูเงียบขรึมและนิ่งเฉยจนทำให้มาวินนึกกลัว เขาจึงชักมือกลับ พร้อมยิ้มแหยๆ
“ แฮะๆ ขอโทษจ้า ” มาวินพยายามปั้นหน้าให้ดูเป็นมิตรที่สุด สองมือยกขึ้นฟ้าเป็นเชิงยอมแพ้
เด็กสาวมองหน้ามาวิน ท่าทางที่แน่วนิ่ง ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างรุนแรง
“ เฮือก..... น่ากลัวกว่าตอนสู้กับเจ้ากอริลลาและเจ้าหน้าผีซะอีก (หมายถึง กาสเซ่และโกส )”
ไม่นาน สถานการณ์ก็คลายตัว เด็กสาวเลิกสนใจ แล้วไปต่อ มาวินจึงถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็เดินตามอย่างสงบ อันเป็นพฤติกรรมที่ค้านกับสัญชาติลิงโดยสิ้นเชิง
มาวินเดินตามอยู่หลายนาที ก็เกิดอาการคันปาก เพราะถึงยังไง ลิงย่อมเป็นลิง มันจะทิ้งสัญชาตญาณเดิมไปไม่ได้ เขาจึงลองเอ่ยถามอีกครั้ง
“ นี่ ยัยโย่ง เราจะไปไหนกันเหรอ บอกหน่อยดิ ”
สิ้นคำ เหมยลี่ก็หยุดกะทันหัน เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ท่าทางแบบนี้ทำให้หัวใจของมาวินแทบจะตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ภายในแอบขบคิด…….
“ ตูทำอะไรพลาดไปรึเปล่านะ ”
แต่ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะหายสงสัย เหมยลี่ก็ตอบกลับมา โดยไม่หันกลับมามอง
“ ไปดูการแข่ง ROD ไง นี่ก็ใกล้จะเริ่มแล้ว ”
พอเด็กหนุ่มได้ยิน ก็แทบหลงลืมทุกอย่าง ในหัวมีแต่ความตื่นเต้นผสมดีใจจนแทบจะกระโดดไปถึงดวงจันทร์ เขายิ้มกริ่มจนแก้มป่อง พร้อมตอบกลับด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“ เย้…..ไปกันเลย ชั้นอยากดูเกมการแข่งเต็มแก่แล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ”
……………………..
สองหนุ่มสาวเดินลัดเลาะไปตามถนน มีผู้คนเดินสวนไปมาไม่ขาดสาย บ่งบอกถึงจำนวนประชากรที่อยู่อาศัยกันอย่างล้นหลาม
“ ว้าว….. จะว่าไป ที่นี่ก็ดูคล้ายบ้านของชั้นแฮะ คนเยอะเป็นบ้า แถมออกไปทางแฟนตาซี เพราะแต่ละคนแต่งตัวประหลาดเหลือเกิน ฮะ ฮะ ฮะ ” เด็กหนุ่มเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนพูดพล่ามสลับหัวเราะ
เด็กสาวแอบมองมาวินด้วยหางตา จากนั้นก็หันไปมองทาง ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มชินกับความบ้าบอของอีกฝ่าย จึงไม่ถือสาหาความกับคำพูดที่ดูประสาท แต่พอผ่านไปได้พักหนึ่ง ลิงหัวเขียวก็เอ่ยถาม
“ ว่าแต่......ไอ้เกม ROD นี่มันเล่นยังไงเหรอ เหมือนฟุตบอลในโลกของชั้นมั้ย”
เมื่อเหมยลี่ได้ยินคำถาม เธอก็นึกสงสัย เนื่องจากเด็กหนุ่มชอบพูดคำว่า “โลกของชั้น” อยู่หลายครั้ง ทำให้เกิดความคิดที่ว่า…..
“ หรือนายคนนี้จะมาจากโลกต่างมิติจริงๆ ”
เหมยลี่คิดแบบนั้นได้ไม่นาน เธอก็สลัดทิ้งไป เพราะมันค่อนข้างเหลือเชื่อ สิ่งที่เป็นไปได้มากกว่าก็คือ…..เด็กหนุ่มคนนี้เป็นพวกสติเฟื่องและหนักไปทางเพี้ยน ชอบจินตนาการไปต่างๆนาๆ ดังนั้นเธอจึงเลือกตอบในประเด็นที่สมควร
“ ROD เป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม โดยจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย แต่ละฝ่ายมีผู้เล่นห้าคน ตัวสำรองอีกสาม ”
“ โอ้โห อย่างกับเกมฟุตบอลเลย แล้วมันแพ้ชนะกันยังไง ยิงลูกบอลเข้าประตูรึไง ” มาวินดูตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ทำให้รู้เลยว่าเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งขันชนิดเข้าเส้น
เหมยลี่ขมวดคิ้วนิดหนึ่ง ภายในสมองพยายามขบคิดว่ามีกีฬาอะไรที่ใช้ลูกบอลในการเล่นบ้าง แต่เท่าที่นึกออกคือ….ไม่มี ไม่นาน เธอก็เลิกสนใจและอธิบายกติกาของเกมต่อไป
“ ไม่ เราไม่ได้ยิงลูกบอลเข้าประตู แต่จะแพ้ชนะกันด้วยการทำลายป้อมปราการหลักของฝ่ายตรงข้าม ”
“ ยะฮู้ แค่ฟังกฎการแข่งก็มันแล้ว เอ…..แต่ถ้ามาในรูปแบบนี้ ก็ต้องมีการปะทะกันใช่มั้ย ” มาวินถามต่อ กายสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น
“ อืม…..บู๊กันกระจายเลยล่ะ ทุกคนในทีมต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อน็อคผู้เล่นฝั่งตรงข้ามให้ได้ หลังจากนั้นก็ต้องทำลายป้อมเล็กที่ตั้งอยู่ระหว่างทางและฝ่าเข้าไปทำลายป้อมใหญ่ที่ฐานหลักของอีกฝ่าย ” เด็กสาวเริ่มอธิบายถึงรายละเอียด แท้จริงแล้ว เธอเองก็ชื่นชอบกีฬานี้อยู่เหมือนกัน
“ เยส...... สุดยอด แต่ก็นะ กีฬาแบบนี้ มันมักจะมีตำแหน่งโน่นนี่นั่น อย่างฟุตบอลที่บ้านชั้นก็มีกองหน้า กองกลาง กองหลัง ประตู แล้ว ROD มันมีตำแหน่งอะไรบ้างล่ะ ” เด็กหนุ่มตบไม้ตบมือ ท่าทางชอบใจ
เหมยลี่เหลือบมองเด็กหนุ่มแวบหนึ่ง ในใจนึกชมเชย......เจ้าลิงหัวเขียวเป็นคนที่ละเอียดใช้ได้เหมือนกัน เพราะรู้จักถามอะไรที่สำคัญ เธอยิ้มน้อยๆ ก่อนจะแถลง เพื่อคลายความสงสัย
“ ROD ก็มีตำแหน่งที่ต่างกันออกไป อาทิเช่น แทงค์ อัสซัสซิน ไฟท์เตอร์ แครี่ เมจ ซัปพอร์ต ”
“ อืม....แล้วแต่ละตำแหน่งทำหน้าที่อะไรบ้างล่ะ ” เด็กหนุ่มยังสงสัยไม่เลิก ซึ่งเหมยลี่ก็ไม่เบื่อที่จะตอบ
“ แทงค์เป็นตำแหน่งที่ต้องปะทะ เพื่อหยุดการโจมตีของฝ่ายตรงกันข้าม ”
“ พวกถึก ใช้กำลังสินะ ผู้เล่นในตำแหน่งนี้ต้องเป็นคนตัวใหญ่และแข็งแรงมากแน่ๆ ” มาวินอ้าปากเหวอ ซึ่งเหมยลี่ก็พยักหน้ารับคำ จากนั้นก็อธิบายต่อ
“ ลำดับถัดไปคือ อัสซัสซิน เป็น….พวกนักฆ่าที่อาศัยความรวดเร็วในการลอบเข้าไปจู่โจมศัตรู ”
“ ชั้นน่าจะเล่นตำแหน่งนี้ได้นะ ต่อไปล่ะ ” เด็กหนุ่มอุทานดัง เขาดูสนใจ
“ ต่อมาคือ ไฟท์เตอร์ หรือตำแหน่งนักสู้ พวกนี้จะเข้าปะทะในระยะประชิด หน้าที่ใกล้เคียงกับแทงค์ แต่จะเน้นไปที่การโจมตีศัตรู ” เด็กสาวแจกแจง
“ โห…. นี่มันตำแหน่งของเธอชัดๆ ” เด็กหนุ่มร้องเหวอ
“ ใช่แล้ว ชั้นเล่นเกมนี้ทีไร ได้ทำหน้าที่ไฟท์เตอร์ทุกที ” เด็กสาวตอบกลับเร็วจี๋ด้วยความลืมตัว ดูเหมือนเธอจะอินกับการเล่นพอสมควร
“ อ้าว.....เธอเคยเล่นเกมนี้ด้วยเหรอ ” มาวินถามกลับ สีหน้าดูงงๆ
เหมยลี่สะดุ้งนิดนึง เธอลืมตัวจนเผลอเล่าบางส่วนในชีวิตออกมา จึงรีบแก้เกี้ยวด้วยการอธิบายกฎการแข่งต่อ
“ ตำแหน่งต่อมาคือ แครี่ หรือ พวกใช้อาวุธระยะไกล เขาจะอยู่แถวสอง เพื่อคอยยิงอาวุธสนับสนุน ”
“ ไม่ชอบตำแหน่งนี้แฮะ มันดูขี้ขลาดๆยังไงชอบกล ” มาวินบ่นงึมงำ หลังรับรู้ถึงรายละเอียดของตำแหน่ง
เด็กสาวยิ้มนิดๆ เธอรู้ดีว่าตำแหน่งนี้สำคัญกว่าที่มาวินประเมิน แต่ก็ไม่ได้ชี้แจงให้เข้าใจ พร้อมกล่าวถึงตำแหน่งต่อไป
“ ต่อไปคือ เมจ หรือผู้ใช้เวท พวกนี้เล่นคล้ายแครี่ เพียงแต่การโจมตีที่ออกมาจะเป็นพลังเวท ”
“ เฮ้อ…..พวกขี้ขลาดอีกแล้ว ต่อไปเถอะ ” เด็กหนุ่มโบกมือ พร้อมตีหน้าเซ็ง
“ นายประมาทเกินไป ลืมไปแล้วเหรอ พวกนักสู้ระยะประชิดแบบเรามักแพ้ทางผู้ใช้เวทเสมอ ” เหมยลี่จำเป็นต้องแจงให้เข้าใจ ซึ่งหลังจากที่ได้ยิน มาวินก็หน้าถอดสี เพราะหวนนึกถึงความยากลำบากในการต่อสู้กับโกส (เนโครมันเซอร์ ผู้ควบคุมความตาย) จึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“ โอเค แล้วตกลง ไอ้ตำแหน่งซับเพิร์ต มันคืออะไร ”
“ เขาเรียกว่าซัปพอร์ต นี่นายเคยพูดอะไรถูกบ้างมั้ยเนี่ย ” เด็กสาวร้องค้าน พร้อมทำตาเขียวใส่ ด้วยรู้สึกรำคาญที่มาวินมั่วทุกที
“ เออ น่านแหละ ไอ้ซับอะไรน่ะ อ้อ ซัปพอร์ต ตกลงมันทำหน้าที่อะไร ” มาวินโบกมือไปมา ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจในความผิดพลาดของตัวเอง
เด็กสาวส่ายหัวด้วยความระอา ก่อนจะเริ่มขยายความ
“ ซัปพอร์ตเป็นตำแหน่งสนับสนุน พวกเขาสามารถใช้ได้ทั้งอาวุธระยะไกลและเวทมนตร์ ทว่าพลังโจมตีไม่รุนแรงเท่าเมจและแครี่ ”
“ อ้าว.....งั้น เจ้าพวกนี้ก็กากน่ะซิ เหอ เหอ เหอ ” มาวินตัดสินโดยพลัน พร้อมหัวเราะเยาะตามสันดานลิง
“ ใครบอกล่ะ พวกนี้ต่างหากที่น่ากลัวที่สุด แม้โจมตีไม่หนักเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้ช้าและอ่อนกำลังลง บางทีอาจถึงขั้นสลบไปชั่วขณะ เป็นผลให้ผู้เล่นในตำแหน่งอื่นเข้ามาเล่นงานได้ ” เด็กสาวอธิบายช้าๆ เธอพยายามไม่ใส่ใจในท่าทางกวนบาทาของอีกฝ่าย ด้วยกลัวว่าตัวเองจะประสาทไปเสียก่อน
“ โห……ตัวป่วนของแท้เลยนะเนี่ย ” ดวงตาของเด็กหนุ่มลุกโพลง ดูเหมือนเขาจะเจอตำแหน่งที่ชอบแล้ว
“ อย่างนายก็พอจะเล่นตำแหน่งนี้ได้เหมือนกัน ” เด็กสาวยิ้มมุมปาก พร้อมสนับสนุนความคิดของมาวิน
ทั้งสองเดินไปตามทาง เพื่อมุ่งสู่สนามแข่ง ระหว่างนั้น มาวินได้เอ่ยถาม
“ เอ่อ.....ทีมอะไรซักอย่างที่เป็นแชมป์นั่น เก่งมั้ย ”
เด็กสาวมองหน้ามาวินนิ่งๆประมาณว่า….ไปอยู่ไหนมา ถึงไม่รู้เรื่องแบบนี้ ครู่หนึ่งก็ตอบกลับ ท่าทางเครียดนิดๆ
“ ทีมนี้มีชื่อว่า ราส มาจากแคว้นเยอมาเนีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพิ่งคว้าแชมป์ ROD WOLRDCUP เป็นสมัยที่แปดติดต่อกัน ”
“ โห…..เก่งสุดๆเลยดิ ท่าทางจะดังกันทั้งทีม ” เด็กหนุ่มดูตื่นเต้น
“ ใช่ สุดยอดกันทั้งทีม แต่ที่น่าจับตามากที่สุดก็คือ ผู้เล่นในตำแหน่งแทงค์ที่มีชื่อว่า แมกซ์ ชายผู้นี้ทั้งแข็งแกร่งและทนทาน แถมยังมีร่างกายที่สูงใหญ่กว่าสองเมตร แทบทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ไปตั้งแต่เผชิญหน้า ” เด็กสาวอธิบายยาวเหยียด ท่าทางจะนิยมชมชอบผู้ที่ถูกกล่าวถึงอยู่ไม่น้อย
“ โห…..ตัวใหญ่อย่างกะยักษ์เลย ชั้นน่าจะสูงแค่ราวนมของหมอนั่น บรื้อ..... น่ากลัวเป็นบ้า ” เมื่อจินตนาการไปถึงตอนที่เจอกับแทงค์ชื่อดัง ใบหน้าของมาวินก็ขาวซีดในทันที
เหมยลี่ไม่กล่าวอันใด เธอเดินไปยังสนามแข่ง ROD ที่อยู่ใจกลางเมือง การนำทางต่อเนื่องแบบไม่ติดขัด บ่งบอกถึงความชำนาญในเส้นทางได้เป็นอย่างดี ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงที่หมาย
สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็คือ…..…โคลอสเซียมทรงกลมขนาดใหญ่ กะคร่าวๆ น่าจะกว้างประมาณสองสนามฟุตบอลต่อกัน ส่วนความสูง คงใกล้เคียงกับตึก 6 ชั้น สนามแห่งนี้ถูกสร้างด้วยหินปูนเนื้อหยาบสีหม่นๆ มีประตูทางเข้าหลายสิบ ผู้คนจำนวนมหาศาลเข้าแถวยาวเหยียด เพื่อเตรียมเข้าไปชมการแข่งนัดอุ่นเครื่องระหว่างทีมแชมป์โลกและทีมประจำเมือง
ทั่วบริเวณมีผู้คนมากมาย รถเข็นขายของเกือบร้อยคอยให้บริการ นอกจากนี้ รอบโคลอสเซียมยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มประจำการไม่ต่ำกว่าสิบ ถึงกระนั้นก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของฝูงชน
“ ว้าว…..คนดูเยอะมาก คล้ายมหกรรมการแข่งฟุตบอลทีมชาติในโลกของชั้นเลย อลังการงานสร้างจริงๆ ” มาวินเหลือบมองรอบข้าง ท่าทางตื่นเต้น
เหมยลี่ไม่ใส่ใจกับคำพูดเพี้ยนๆของเด็กหนุ่ม เพราะอยากเข้าไปดูกีฬายอดนิยม มิหนำซ้ำ ทีมที่กำลังลงแข่งก็คือแชมป์โลกแปดสมัยติด
“ เข้าไปดูกันเถอะ เจ้าลิงหัวเขียว ” เด็กสาวร้องบอก ท่าทางดูตื่นๆ ทำให้มาวินนึกงง เพราะเขาไม่เคยเห็นโมเมนต์นี้ของเพื่อนร่วมทาง
ทั้งสองต่อคิวและซื้อบัตร จากนั้นก็ค่อยๆไหลไปตามฝูงชนที่แห่กันผ่านประตูทางเข้า เพื่อไปชมเกมนัดหยุดโลกที่เฝ้ารอ
เมื่อเข้าสู่ภายใน สิ่งแรกที่ได้เห็น แทบทำให้เด็กหนุ่มตกตะลึงจนตาค้าง สิ่งนั้นก็คือภาพบรรยากาศของโคลอสเซียม
อัฒจันทร์ถูกออกแบบให้เป็นทรงกลม มีทางเดินเล็กๆวางซ้อนกันหลายร้อยชั้น อันดูไม่ผิดไปจากขั้นบันได เมื่อสังเกตอย่างละเอียด พบว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่มีผู้คนจับจองอยู่ ประเมินด้วยสายตา น่าจะไม่ต่ำกว่า 30,000 คน
เด็กหนุ่มมองไปที่กึ่งกลางของโคลอสเซียมซึ่งอยู่ล่างสุด เขารู้ทันทีว่านั่นคือลานประลอง แต่รูปทรงกลับเป็นวงรีและมีขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอลเล็กน้อย ในนั้นถูกตีเป็นสามเลน ตรงกลางเป็นทางยาว ส่วนเลนซ้ายและขวาตีวงโค้งติดกับขอบสนาม แต่ละเลนกว้างประมาณรถม้าวิ่งเรียงกันได้สามคัน สิ่งที่คั่นกลางระหว่างถนนคือป่าไม้รกครึ้มที่มีช่องว่างให้เดินผ่านไปได้ เพื่อข้ามจากเลนหนึ่งไปยังอีกเลนหนึ่ง
“ สนามบ้าอะไรเนี่ย เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น ” มาวินอุทานดัง ส่วนเด็กสาวได้แต่อมยิ้ม สายตาเหลือบแลไปรอบๆ เพื่อหาที่นั่ง
หลังจากทั้งสองนั่งประจำที่ ก็พบว่ามีผู้เข้าชมมากขึ้น ในตอนนี้แทบจะเต็มความจุของสนามแล้ว
“ คนดูเยอะมาก สมกับเป็นการแข่งของทีมแชมป์จริงๆ ” มาวินร้องดัง ขนทั่วกายลุกชูชัน
“ แน่นอน ทีมราสไปแข่งที่ไหน ไม่มีเก้าอี้ว่างอยู่แล้ว เพราะพวกเขาคือแชมป์ไร้พ่าย ” เด็กสาวตอบกลับเร็วปรื้อจนผิดวิสัย สีหน้าท่าทางดูตื่นเต้นไม่แพ้มาวิน ระหว่างนั้นเอง เสียงประกาศของชายหนุ่มก็ดังกังวานจนทุกคนในโคลอสเซียมได้ยิน
“ สวัสดีทุกท่าน ผมคือ…อาเธอร์ โดแนล มาทำหน้าที่โฆษก เพื่อบรรยายการแข่งนัดหยุดโลกระหว่างมัฟฟิน ทีมประจำเมืองแกรนด์ยารด์อันเป็นที่รักของเรา ”
สิ้นคำประกาศ ก็มีเสียงตบมือแปะๆพอเป็นพิธีไม่ให้น่าเกลียด นอกจากนี้ ยังมีเสียงกรีดร้องดังแว่วเข้ามาแผ่วเบา ( ถ้าตั้งใจฟังนะ )
หลังประกาศชื่อทีมเหย้าเสร็จ นายอาเธอร์ โดแนล ผู้บรรยายเสียงหล่อก็เว้นช่วงไปอึดใจหนึ่ง ก่อนประกาศชื่อทีมเยือน
“ ส่วนทีมเยือนจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก ทีมราส..... แชมป์ผู้ไร้พ่าย ”
พอผู้บรรยายประกาศเสร็จ ก็ปรากฏเสียงตบมือดังสนั่นจากผู้คนนับหมื่นจนมาวินรู้สึกว่าพื้นดินกำลังสะเทือน เสียงกรีดร้องและเอะอะโวยวายดังไม่ได้ศัพท์ ดูโกลาหลราวกับโลกจะแตก
“ กรี๊ด….. เฮ….. ราส….. ”
เสียงของผู้ชมดังนานและต่อเนื่อง มันดูยิ่งใหญ่ รุนแรง และบ้าคลั่งจนมาวินแทบนั่งไม่ติด เขาพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้พลุกพล่านไปมากกว่านี้ แต่สุดท้าย ก็ทำไม่ได้ จึงลุกขึ้นยืน พร้อมตะโกนดัง
“ ราสจะแน่ซักแค่ไหนกัน เก่งจริงมาเจอกับชั้นสิฟะ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ