The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
45) จอมพริ้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.pexels.com
บรรยากาศในร้านดูตึงเครียด หนุ่มผมทองได้แต่ยืนอึ้ง ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ พวกเขากำลังส่งสายตาอาฆาตมายังเซียนไพ่จอมโกง โดยมีมาวินยืนยิ้มกริ่มอยู่ด้านหลัง
“ พวกข้าจับกลโกงของแกได้แล้ว จะว่ายังไงต่อ ” ชายร่างน้องกอริลลาเปิดฉากถาม หนุ่มผมทองจึงรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ จากนั้นก็เริ่มอ้อนวอน ขอความเห็นใจ
“ ไม่ว่ายังไงหรอกครับ แค่อยากจะบอกว่า......กรุณายกเว้นผมเถอะ ”
ชายกอริลลาแสยะยิ้มนิดหนึ่ง ทำให้ใบหน้าถมึงทึงดูน่าเกลียด น่ากลัวเป็นเท่าทวี เขาส่ายหัวเป็นเชิงปฏิเสธ
“ ไม่…..ไม่ได้ กฎต้องเป็นกฎ แกต้องโดนพวกข้ารุมกระทืบตามสัญญา ”
ใบหน้าของหนุ่มหล่อเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขารวบรวมกำลังใจ เพื่อต่อรองอีกครั้ง
“ เอาอย่างนี้มั้ย ผมขอมอบเงินทั้งหมดให้แก่พวกคุณ จะได้เลิกแล้วต่อกัน ”
“ ไม่เอา พวกข้าอยากกระทืบแกมากกว่า ” ชายกอริลลาตอบกลับ น้ำเสียงเด็ดขาด
หนุ่มผมทองเริ่มสลด ใบหน้าผุดผ่องกลับกลายเป็นขาวซีด เหงื่อเม็ดเล็กๆหลั่งไหลไปทั่วกาย ถึงกระนั้น เขาก็ไม่ยังยอมแพ้และยื่นอุทธรณ์ต่อ
“ งั้นเอางี้ ผมจะคืนเงินที่ได้จากการโกงลูกน้องของคุณในครั้งก่อน แลกกับการสงบศึก ”
ชายกอริลลาและเหล่าลูกน้องหันมามองหน้ากันเอง พวกเขาเริ่มลังเลใจ เพราะข้อเสนอที่หนุ่มผมทองยื่นมา ค่อนข้างดีจนเหลือเชื่อ
“ เอาไง ลูกพี่ ข้อเสนอที่มันให้เราโคตรจะแจ่มเลย ตอบตกลงดีมั้ย ” ลิ่วล้อร่างน้องๆควายกล่าว ดวงตาฉายแววโลภ
“ นั่นซิ นี่เท่ากับว่าเราไม่เสียอะไรเลยนะ ตอบตกลงดีกว่า ” ลูกน้องร่างผอมเกร็งเสนอความเห็นบ้าง
ชายกอริลลาขบคิดอย่างหนักหน่วง เขายอมรับว่าข้อเสนอที่ได้มาสุดแสนจะเลิศ แต่ก็ยังรู้สึกแค้นเคืองหนุ่มผมทองอยู่ดี หัวใจร่ำร้องอยากจะเข้าไปกะซวกไส้ แล้วเอามาปั่นทำเป็นน้ำแข็งไสให้กากิน ความสับสนอย่างรุนแรงได้บงการให้คิ้วผูกโบ
“ ว่าไง ลูกพี่ เอาไงดี ” ลูกน้องที่ค่อนข้างเตี้ยล่ำเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง แผงอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามสั่นเบาๆ คล้ายว่าอยากวิวาทเต็มที
“ อืม..... คิดไม่ออก อยากได้ทั้งสองอย่างเลยว่ะ เอาไงดีนะ ” ชายกอริลลากุมขมับ ท่าทางคล้ายนักศึกษาที่กำลังเตรียมสอบเอ็นทรานซ์
ระหว่างที่ชาวแก๊งกำลังใช้ความคิด มาวินก็พูดแทรกขึ้นมาเบาๆด้วยใบหน้าที่ยิ้มระรื่น
“ จะไปยากอะไรเล่า ในเมื่ออยากกระทืบพี่ชายคนนี้และได้เงินทั้งหมด พวกนายก็เอาทั้งสองทางเลยดิ ง่ายจะตาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า...... ” มาวิพูดจบ ก็แหกปากหัวเราะด้วยความสะใจ
คำปรึกษาที่สุดโต่ง ทำให้หนุ่มผมทองที่กำลังยืนลุ้นชะตากรรมถึงกับหันไปมอง พร้อมส่งสายตาตำหนิประมาณว่า…….ไม่พูด ก็ไม่มีใครเขาหาว่าเป็นใบ้
“ เออ.....นั่นดิ ปัญหาแค่นี้ ทำไมพวกเราถึงคิดไม่ได้นะ ” เหล่าชนชั้นแรงงานถึงบางอ้อในทันที หลายคนตบศีรษะตัวเองแรงๆ เพื่อเป็นการลงโทษที่โง่งมอยู่นาน
ชายกอริลลาตรงดิ่งมาที่มาวินอย่างรวดเร็ว ทำให้เด็กหนุ่มหัวเขียวถึงกับผวาเฮือกใหญ่ เพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามากระทืบ แต่หัวหน้าแก๊งกลับยื่นมือหนาๆไปเกาะกุมที่มือเล็กบาง จากนั้นก็กล่าวขอบคุณ แววตาเปล่งประกายซึ้งใจ
“ ขอบใจที่ช่วยให้ความกระจ่างกับพวกเรา นายเป็นมิตรเเท้จริงๆ ”
“ อะ.....เออ ไม่เป็นไรหรอก ตามสบายเลยนะ พี่ชายทั้งหลาย แฮะๆ ” มาวินตอบตะกุกตะกัก เขาพยายามดึงมือออก เพราะเริ่มไม่แน่ใจว่าเจ้ายักษ์ใหญ่ตรงหน้าปกติดีหรือไม่
หลังเสร็จกิจขอบคุณสหาย ชายกอริลลาก็หันมาสนใจหนุ่มผมทองอีกครั้ง ใบหน้าหล่อเหลาดูซีดเซียวราวกับคนป่วยหนัก เพราะเพิ่งได้รับคำพิพากษาให้ถูกรุมกระทืบ
“ มีอะไรจะพูดก่อนตายมั้ย ไอ้หน้าหล่อ ” ชายกอริลลาแสยะยิ้ม พร้อมหักนิ้วมือตัวเอง ส่วนเหล่าลูกน้องเริ่มสะบัดไหล่ บิดกายไปมา เพื่อเตรียมลงทัณฑ์
“ เอ่อ.....มีนะ เอางี้มั้ย ผมจะให้เงินทั้งหมดแก่พวกคุณ ขออย่างเดียว อย่ารุมกระทืบผมเลย ” หนุ่มหล่อผมทองพยายามต่อรองอีกครั้ง
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า..... ” ชายกอริลลาแหกปากหัวเราะจนดังลั่นร้าน
“ แฮะๆ ” หนุ่มผมทองพยายามฝืนยิ้ม เขาแอบดีใจที่เห็นว่าทางรอดชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ทันใดนั้นเอง ชายกอริลลาก็หยุดหัวเราะอย่างฉับพลันและปฏิเสธสั้นๆด้วยสีหน้าที่บูดบึ้ง
“ ไม่ได้ ”
“ เยี่ยมมาก พี่ชาย แบบนี้สิลูกผู้ชายตัวจริง เด็ดขาดไปเลย ” มาวินยืนเชียร์อยู่วงนอก หนุ่มผมทองจึงหันมาส่งสายตาอาฆาตให้เด็กหนุ่ม เขาจึงหยุดชะงักอย่างฉับพลัน พร้อมปิดปากเงียบในทันที
“ เตรียมใจหมดตูดและเจ็บตัวได้แล้ว ไอ้หล่อ ” ชายกอริลลาคำรามดัง ก่อนง้างกำปั้น เพื่อเตรียมกระแทกใบหน้าผุดผ่องของหนุ่มผมทอง
“ เปรี้ยง ”
เสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งร้าน หลายคนยกมือขึ้นปิดตา เพราะรู้ว่างานนี้นองเลือดอย่างแน่นอน ด้วยชื่อเสียงของชายกอริลลาออกไปในทางจอมวิวาทซึ่งก่อเหตุเดือดทุกครั้งที่อารมณ์ขึ้น แต่เมื่อทุกอย่างสงบลง ทุกคนก็พบแค่…...ซากโต๊ะไม้ทรงกลมที่แตกหัก
ชายกอริลลาคุกเข่าใกล้ซากเครื่องเรือน เนื่องจากเมื่อครู่นี้ เขาดันจั่วลมจนพลาดไปอัดโต๊ะทรงกลมแทน ด้วยความแรง ทำให้มันแหลกในหมัดเดียว
ชายกอริลลารีบลุกขึ้น พร้อมเหลียวมองไปรอบๆ เพื่อค้นหาเป้าสังหาร จึงพบว่าอีกฝ่ายยืนห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว
“ เฮ้ย แกไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง ” ชายกอริลลาร้องถาม
“ แฮะๆ ชั้นแค่กระโดดถอยหลังออกมาเท่านั้นเอง ว่าแต่ช่วยละเว้นชั้นไปเถอะนะ ถือว่าขอร้อง ” หนุ่มผมทองยิ้มแห้งๆให้กลุ่มชายฉกรรจ์
“ ม่ายได้ ” ชายร่างน้องกอริลลาลากเสียงยาว จากนั้นก็เข้าจู่โจมอีกครั้ง
“ เฮ้อ...... ” หนุ่มผมทองถอนหายใจเบาๆ ก่อนหลบหมัดเหล็กที่พุ่งเข้ามาอย่างง่ายดาย
“ เฮ.... เอาเลย ฆ่ามัน ” เหล่าลูกน้องต่างพากันตะโกนเชียร์ โดยไม่รู้เลยว่าแต่ละหมัดที่ลูกพี่ปล่อยออกมา ล้วนสูญกำลังไปฟรีๆ เนื่องจากเซียนไพ่รูปงามสามารถอ่านทิศทางการโจมตีได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ทำให้พริ้วหลบได้ทุกดอก
มาวินยืนดูการรุกไล่อยู่เงียบๆ ทีแรกนึกเสียวไส้ เพราะกลัวว่าหนุ่มหล่อจะถูกชายร่างยักษ์กระทืบตาย แต่หลังจากเห็นความพริ้วและสเต็ปขา ก็เกิดความคิดใหม่
“ หมอนี่เป็นใครกันนะ ฝีมือร้ายกาจมาก ”
การจู่โจมอยู่ฝ่ายเดียวดำเนินได้ไม่นาน ชายกอริล่าก็เริ่มหมดแรง เพราะแต่ละหมัดที่ปล่อยออกไป ล้วนทุ่มสุดกำลัง ทว่าทุกการโจมตีกลับกระทบถูกแต่อากาศธาตุ หาได้โดนกายของหนุ่มผมทอง สิ่งนี้ทำให้เขานึกแปลกใจและท้อแท้ในเวลาเดียวกัน
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เก่งจริง อย่าเอาแต่หลบสิฟะ ” ชายกอริลลาตะคอกใส่ด้วยเสียงที่เบาลง เนื่องจากตอนนี้เขากำลังหอบหนักด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ แฮะๆ เหนื่อยก็พอเถอะ ชั้นให้เงินกับพวกนาย แล้วเป็นอันจบกัน ดีมั้ย ” หนุ่มผมทองพยายามฝืนหัวเราะ
“ หนวกหูน่า พวกเรารุมมันเลย ” เมื่อชายกอริลลาเห็นว่าลงมือคนเดียว ไม่อาจทำร้ายหนุ่มผมทองได้ จึงร้องสั่งพรรคพวก
“ ได้เลย ลูกพี่ คันมือคันไม้มานานแล้ว ” เมื่อพี่ใหญ่พูดจบ เหล่าลิ่วล้อก็กระจายกันรุมล้อมหนุ่มผมทอง ทว่าเซียนไพ่รูปงามกลับไม่แสดงอาการเสียขวัญออกมา เขายังดูสงบนิ่ง
“ สงสัยจะเลี่ยงไม่ได้แล้วมั้ง เฮ้อ...... ”
บรรยากาศในร้านดูตึงเครียดสุดๆ ลูกค้าส่วนใหญ่เผ่นหนีไปแล้ว ส่วนที่เหลืออีกประมาณสิบคนคือพวกเดนตายและมาวินก็เป็นหนึ่งในนั้น
หนุ่มผมทองยืนสงบท่ามกลางวงล้อม ไม่มีอาการสั่นไหวออกมาให้เห็น เมื่อชายหน้าแหลมอันเป็นหนึ่งในลูกสมุนแอบดอดมาที่ด้านหลัง เขาก็พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว หวังรวบเอวให้อยู่มือ
เหมือนหนุ่มผมทองจะมีตาหลัง เขาหลบชายหน้าแหลมด้วยการขยับกายเพียงนิดเดียว ทำให้อีกฝ่ายถลาลงไปนอนจับกบ
ความผิดพลาดในครั้งแรก ทำให้เหล่าสมุนที่เหลือพุ่งเข้าใส่หนุ่มผมทอง ทว่าพวกเขากลับรู้สึกเหมือนตนกำลังไล่จับวิญญาณ เพราะได้แต่จั่วลมทุกครั้งไป ไม่มีผู้ใดสามารถสัมผัสกาย ซึ่งจะหาว่าเซียนไพ่รูปงามนั้นรวดเร็วจนผิดมนุษย์ก็ไม่ใช่ ด้วยการหลบในแต่ละที เป็นแค่ขยับกายเพียงเล็กน้อย
การรุมสกัมดำเนินไปอย่างดุเดือด เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ยังไม่มีผู้ใดโดนตัวของหนุ่มผมทอง ในที่สุด กลุ่มคนก็พากันหอบเหนื่อย
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก.... อย่างกับไล่จับผีเลย ” ชายกอริลลาหอบจนตัวโยน เหงื่อไหลโชกโทรมกาย หนุ่มผมทองจึงยิ้มน้อยๆ ก่อนขอความเห็นใจอีกครั้งด้วยสียงที่นุ่มทุ้มลึก
“ ในเมื่อพวกนายไม่สามารถทำอะไรชั้นได้ ก็เลิกแล้วต่อกันเถอะ ”
ชาวแก๊งยอมรับว่าท้อแท้ ยิ่งอีกฝ่ายเปิดช่องให้แบบนี้ ยิ่งรู้สึกลังเล ทว่ามีอีกคนที่ยังไม่ถอดใจ นั่นก็คือ…..ชายกอริลลา ผู้เป็นลูกพี่ใหญ่
“ เฮ้ย อย่าท้อโว้ย ไอ้หล่อนั่นต้องหมดแรงหรือพลาดมั่งล่ะ มันเก่งแค่หนีวนไปมาเท่านั้น ขอแค่จับได้ มันก็ม่อย บีบวงล้อมเข้าไป ทำให้พื้นที่แคบลง ” ชายกอริลลาร้องสั่งเสียงแข็ง
ทันทีที่ได้ยิน ขวัญกำลังใจของเหล่าลูกน้องก็เพิ่มเป็นเท่าทวี พวกเขาช่วยกันล้อมกรอบเข้ามาตามคำสั่งจนแทบไม่มีพื้นที่ว่างให้หนุ่มผมทองขยับกาย
หนุ่มผมทองมองไปรอบๆ จึงพบว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ล้อมกรอบเป็นวงกลม ระยะห่างเพียงแค่สามก้าว ดูแล้วไม่มีวี่แววที่จะใช้ความพริ้วของตนเองได้ แต่เซียนไพ่รูปงามก็ไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกออกมา เขาเพียงรำพันกับตัวเอง
“ สงสัยจะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ”
ชายหน้าแหลมย่องไปหยุดยืนที่ด้านหลัง ภายในใจนึกกระหยิ่มยิ้มย่อง
“ คราวนี้แกไม่รอดแน่ ไอ้หล่อ ”
พอคิดได้ดังนั้น ชายหน้าแหลมก็พุ่งเข้าใส่หนุ่มหล่อสุดกำลัง จังหวะที่จะเข้าถึงตัว เขาก็รู้สึกจุกเสียดอย่างรุนแรง คล้ายกับว่ามีท่อนอะไรบางอย่างกระทุ้งที่ลิ้นปี่
“ โอ้ก ”
ชายหน้าแหลมถอยออกมา จากนั้นก็โก่งตัวขย้อนของเหลว ขณะที่ก้มลงมองต่ำ ก็พบว่าสิ่งที่ทำให้จุกเสียดคือ…ท่อนไม้ยาวสองศอกที่คลุมด้วยผ้าดิบ สิ่งนั้นยื่นออกมาจากซอกเอวของหนุ่มหล่อซึ่งตอนนี้กำลังหันหลังให้เขา
“ อุ้ก มะ....มันมีไม้ยาวด้วยคะ...ครับ ” ชายหน้าแหลมรายงานอย่างยากลำบาก ชายร่างน้องกอริลลาจึงคำรามใส่
“ เฮ้ย แกเล่นไม้พลองเลยเหรอ แน่จริงอย่าใช้อาวุธสิฟะ ”
หนุ่มผมทองมองชายกอริลลาแวบหนึ่ง ก่อนยิ้มน้อยๆที่มุมปาก จากนั้นก็ชักไม้ยาวขึ้นมา แล้วกวัดแกว่งซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว ท่วงท่าดูช่ำชองจนชวนให้กลุ่มชายฉกรรจ์นึกแหยงอยู่ในใจ
“ โอกาสสุดท้ายแล้ว จะถอยหรือไม่ถอย ” หนุ่มผมทองกล่าวยิ้มๆ แต่กลับทำให้คนรอบข้างรู้สึกหวาดกลัวจนพูดไม่ออก
กลุ่มชายฉกรรจ์หันมามองหน้ากันเอง ทุกคนดูล่อกแล่ก ชายกอริลลาจึงตะโกนดัง เพื่อเรียกสติให้พรรคพวก
“ พวกแกก็รุมเข้าไปพร้อมกันสิฟะ มันแค่คนเดียวจะทำอะไรได้ ”
สิ้นเสียงสั่งการ ลูกสมุนทั้งสี่นายก็กรูเข้าไปพร้อมกัน แต่ก่อนจะถึงตัว หนุ่มหล่อได้หมุนกายเป็นวงกลม พร้อมหวดไม้ยาวไปรอบทิศทาง ทุกการจู่โจมล้วนฟาดเข้าไปที่จุดตายอย่างแม่นยำ สี่ชายฉกรรจ์จึงกระเด็นออกมา คล้ายถูกมือยักษ์ที่มองไม่เห็นผลักไส
“ อั้ก โอ้ก โอ๊ย เอ๋ง ” ทั้งสี่ร้องครวญครางด้วยเสียงที่ต่างกัน เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ทุกคนก็พร้อมใจกันล้มลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น มันยากจะบอกว่าพวกเขาตายหรือสลบ
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ