The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) แก้วตาขาร็อก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2
เด็กหนุ่มหัวเขียวยืนเกากระบาล สีหน้าดูงุนงงและยุ่งเหยิง เขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไรว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นเซียนเกม
“ เอ่อ..... ถามจริงเถอะน้องสาว เธอคิดจะแข่งกับชั้นจริงๆน่ะหรือ ” มาวินถามย้ำอีกครั้ง สุ้มเสียงไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ แน่สิคะ หนูอุตส่าห์มาถึงกรุงเทพ จุดประสงค์ก็เพื่อจะสู้กับพี่นี่แหละ รู้มั้ย พี่คือตำนานของคนเล่นเกมเลย ” สาวน้อยหน้าใสแสดงความดีใจ อาการของเธอดูคล้ายกับเด็กสาวที่กำลังกรี๊ดกร๊าดเวลาพบเจอดาราดังที่คลั่งไคล้
“ ฮะๆ ” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ ที่ได้พบแฟนคลับสาวในเวลาแบบนี้
“ ตกลงพี่จะให้โอกาสหนูมั้ย ” เด็กสาวยืนเกร็ง เพื่อรอฟังคำตอบ สีหน้าส่อแวววิงวอนขอร้องอย่างชัดเจน
“ ฮะ....แฮ่ม เออ จริงๆแล้วก็อยากแข่งด้วยล่ะนะ แต่น้องช่วยดูเกมที่จะเอามาแข่งกับพี่หน่อยสิ ” มาวินตอบกลับ ท้ายประโยค รู้สึกว่าเขาจะเน้นเสียงเป็นพิเศษ เนื่องจากเกมที่เด็กสาวเลือกใช้ในการแข่งก็คือ…… เกมประลองการเต้น
ตู้เกมประลองเต้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สูงกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย มีหน้าจอใหญ่ยักษ์ขนาด 50 นิ้วตั้งอยู่ในระดับสายตา จอกระจกฉายภาพตัวการ์ตูนที่กำลังเต้นตามจังหวะเสียงเพลง ด้านซ้ายของจอนั้นปรากฏสัญลักษณ์รูปลูกศรซ้าย ขวา ขึ้น ลง เป็นระยะ อันเป็นการบอกให้ผู้เล่นต้องเหยียบเท้าลงบนแผ่นป้ายลูกศรที่ติดกับเซ็นเซอร์ด้านล่างให้ถูกต้อง
นอกจากนี้ด้านขวาของจอยังมีสัญลักษณ์บอกให้หมุนมือ ลากมือไปทางซ้าย ขวา ขึ้น ลง อีกด้วย เมื่อสัญลักษณ์เหล่านั้นปรากฏ ผู้เล่นต้องทำท่าทางให้ถูกและเข้าจังหวะ เมื่อจบเพลง จะมีการนับคะแนน
“ เกมนี้หรือ สนุกดีนะ พี่ไม่ชอบเหรอ ” เด็กสาวทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย
“ นี่น้องสาว มันไม่ตลกเลยนะ พี่เป็นเซียนเกมก็จริง แต่ก็เป็นผู้ชายทั้งดุ้นนะ จะให้มาเล่นเกมฮิตของพวกสาวๆได้ยังไง อีกอย่างพี่ก็ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนเลย แล้วเราจะแข่งกันได้ยังไง ” มาวินชี้แจงด้วยท่าทางที่ดูจิตตก
ทันทีที่เด็กหนุ่มหัวเขียวชี้แจงเสร็จ น้ำน้อยๆจากดวงตากลมโตก็เริ่มปริ่มออก ชวนให้ผู้คนที่ได้เห็นรู้สึกเวทนา ซักพักปากเล็กๆของสาวน้อยก็เอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“ พี่.....จะไม่ให้โอกาสหนูจริงๆหรือคะ ซิก.... ”
“ เอ่อ.....อะ.... ” มาวินไมรู้ว่าควรทำตัวยังไง หน้าตาของเขาดูเหลอหลาอย่างรุนแรง
“ โห.......รังแกเด็ก เป็นเซียนเกมซะเปล่า แค่นี้ก็ไม่กล้าสู้ โฮ่..... ” บรรดากองเชียร์เริ่มโห่ฮา พวกเขาพากันสงสารเด็กสาวหน้าใส โดยไม่คำนึงเลยซักนิดว่าเมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมา เด็กหนุ่มผู้นี้เพิ่งจะเป็นฮีโร่กู้หน้าให้แก่พวกตน
เด็กหนุ่มเหลือบมองไปรอบข้าง เขารับรู้ในทันทีว่าตอนนี้ไร้พวกพ้องโดยปริยาย ทุกคนหันไปเข้าข้างเด็กสาวกันหมด สาเหตุหลักเพราะความน่าสงสารของเจ้าหล่อน เมื่อหันไปมองคุณเธอแบบเต็มสองตา ก็พบว่าน้ำตาใสเริ่มอาบสองแก้มเนียน นั่นจึงเป็นปัจจัยให้มาวินต้องยอมแต่โดยดี
“ เอ้า ยอมแล้ว เล่นก็เล่น สอนด้วยแล้วกันว่าเล่นยังไง ”
“ เย้...... ” เด็กสาวหน้าใสร้องเฮ พร้อมกระโดดตัวลอย ส่วนกองเชียร์ที่รายล้อมก็เริ่มเฮตาม
“ เฮ..... ”
“ เฮ้อ........ ” มาวินกุมขมับ ความรู้สึกเหนื่อยใจเริ่มคืบคลานเข้ามา
เด็กสาวประจำตำแหน่ง บนจอภาพปรากฏเมนูหลากหลายให้เลือก สาวน้อยหน้าใสใช้เท้ากดปุ่มสัญลักษณ์บนแผ่นเซ็นเซอร์ เพื่อเลือกเพลงที่ชื่นชอบ
หลังจากเลือกเสร็จ สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอก็คือ.........ภาพตัวการ์ตูน มันดูคล้ายเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ผมเป็นสีส้มอ่อน ใส่ฮู้ดรูปตุ่นสีส้ม ตัวการ์ตูนนั้นกำลังยืนสลับกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างสนุกสนาน ฉากหลังเป็นบ้านเล็กๆสองชั้นแนวคิกขุ
“ เหอ เหอ เหอ อะไรของมันวะเนี่ย ” เด็กหนุ่มหัวเขียวหัวเราะแห้งๆ หน้าตาเคร่งเครียด ความรู้สึกปวดตับมาเยือนจิตใจอย่างฉับพลัน
“ เพลงประกอบการ์ตูนเรื่อง "อุมารุจัง" เรื่องนี้สนุกมากครับ ” ประธานสมาคมร่างอ้วนเตี้ยแจง
“ เหรอ.....ขอบใจมากนะ เหอะๆ ” มาวินกล่าวขอบคุณเสียงอ่อย ภายในใจแอบคิด......
" ไม่เห็นอยากรู้เลย "
“ All Ready ” เสียงสัญญาณที่หวานใสของหญิงสาวดังขึ้น เด็กสาวร่างเล็กจึงก้มตัวลงนิดนึง ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่จอภาพ
“ Goooo ”
ทันทีที่เกมเริ่มขึ้น เสียงเพลงแนวคิกขุของสาวน้อยก็เปิดฉาก ตัวละครในจอภาพเริ่มกระโดด มือทั้งซ้ายขวาก็โยกไปมาอย่างร่าเริง สาวน้อยหน้าใสทำตามทุกอิริยาบถโดยไม่ลังเล
เสียงเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ ว่ากันตามตรง เกมนี้เล่นยากบรรลัย เพราะนอกจากผู้เล่นต้องเต้นตามท่าทางของตัวละครให้ถูกต้องทุกกระเบียดนิ้ว ยังต้องใช้เท้าเหยียบแผ่นเซ็นเซอร์ให้ตรงกับสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนหน้าจอ กระนั้นเด็กสาวก็แทบไม่พลาดเลยซักตัว บ่งบอกถึงความชำนาญได้เป็นอย่างดี
ตัวอักษร “Perfect” ปรากฏบนหน้าจอแบบรัวๆ บอกให้รู้ว่าทุกท่วงท่าที่เด็กสาวเต้นนั้นถูกจังหวะและสมบูรณ์แบบ มิหนำซ้ำท่าทางของเธอยังดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ทำให้คนดูส่งเสียงฮือฮาเป็นระยะ เมื่อเพลงการ์ตูนที่ชวนสนุกสนานจบลง (มาวินคิดว่ามันชวนปวดหัวเสียมากกว่า) คะแนนก็วิ่งไปที่1,709,789 แต้ม
“ โห.....อะไรกันเนี่ย ” เหล่าผู้ชมต่างพากันอุทานดัง เพราะตั้งแต่ห้างเอาตู้เกมประลองเต้นมาตั้ง ยังไม่เคยมีใครทำคะแนนได้ถึงขนาดนี้ ต่อให้นักเต้นอาชีพมาเล่น ก็น่าจะได้แต้มไม่เกินหนึ่งล้านนิดๆ นับว่าเป็นสกอร์ที่สูงสุดของวันนี้และอาจจะตลอดกาลเลยก็ได้
“ ว้า.....น่าเสียดาย หนูเคยทำได้ถึง 2 ล้านกว่าเลยนะ สงสัยรอบนี้พลาดบ่อยน่ะ แย่จัง แฮะๆ ” สาวน้อยพอเห็นคะแนนก็ออกอาการผิดหวังนิดๆ มือขวายกขึ้นเกาหัว พลางแลบลิ้นด้วยท่าทางที่ดูน่ารัก
“ ว่าไงนะ ทะ.....เธอเคยทำได้ถึง 2 ล้านกว่าเลยหรือ ” ประธานสมาคมร่างอ้วนออกอาการติดอ่าง สีหน้าฉายแววตระหนก
“ ค่ะ ” เด็กสาวตอบงงๆ ประมาณว่าจะตกใจกับเรื่องแค่นี้ทำไม
ประธานสมาคมร่างอ้วนเตี้ยหันกลับไปหามาวิน พลางกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“ พี่มาวิน ยอมแพ้เถอะ ยัยเด็กนี่สงสัยจะเป็นมนุษย์ต่างดาว เพลงค่อนข้างเร็วขนาดนี้ยังทำ “Perfect” ได้ถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ แถมเล่นจบยังมีหน้ามาบอกว่าเกมนี้ทำได้ไม่ดีอีก ”
“ จะบ้าหรือ ยอมแพ้ก็ขายขี้หน้าสิ ” มาวินโวย
ทันใดนั้นเองเสียงร้องเชียร์จากคนรอบข้างก็ดังขึ้น ดวงตาของคนเหล่านั้นแสดงออกถึงศรัทธาที่มีต่อฮีโร่ของเขาอย่างเต็มที่
“ มาวิน มาวิน มาวิน ”
มาวินกับประธานสมาคมสบตากัน เด็กหนุ่มหัวเขียวผายมือออกไปยังผู้คนที่รายล้อม พร้อมพูดกับเด็กหนุ่มรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ เห็นมั้ยล่ะ คนพวกนี้เชื่อใจชั้นถึงขนาดนี้ จะให้ยอมแพ้ง่ายๆได้ยังไง ถ้าชั้นยอมแพ้ในเกมนี้ สมาคมเกมเมอร์เมืองกรุงของเราก็จบดิ จริงมั้ย เจ้าตุ้ยนุ้ย ”
“ เอ่อ.....ครับ ” ประธานสมาคมผู้มีนามว่า "ตุ้ยนุ้ย" เริ่มเห็นจริง
“ เอาน่า เชื่อมือเถอะ ชั้นเคยแพ้หรือไง ” มาวินพูดเสียงเข้ม ท่าทางดูมาดมั่น ทั้งที่ภายในไม่มั่นใจเลยซักนิด
“ เอ่อ....มันก็จริงครับ ” สีหน้าท่าทางของประธานสมาคมดูดีขึ้น แต่ก็ยังไม่คลายความกังวล
“ ไปแล้วนะ เหอะๆ ” มาวินตบไหล่ตุ้ยนุ้ยเบาๆ พร้อมหัวเราะแห้งๆ จากนั้นก็ก้าวไปยังลานประหาร เอ๊ะ ไม่ใช่ ลานประลอง
“ มาวิน มาวิน มาวิน.... ” เสียงเชียร์ยังดังต่อเนื่องราวกับคลุ้มคลั่ง ในที่สุดทุกคนก็เริ่มสงบลง เมื่อเด็กหนุ่มหัวเขียวยกมือขึ้นปราม
ทันทีที่มาวินเห็นช่องทางเจรจา เขาจึงเริ่มออกตัวด้วยเสียงที่ไม่ค่อยดัง
“ จริงๆแล้ว ชั้นไม่เคยเล่นเกมประลองเต้นมาก่อน ดังนั้นขอซ้อมซักรอบ ได้มั้ย ”
“ ให้โอกาส ให้โอกาส ให้โอกาส...... ” ฝูงชนกว่าครึ่งร้อยส่งเสียงเชียร์
“ ได้สิคะ หนูให้พี่ซ้อมไปเรื่อยๆจนกว่าจะพร้อมเลย ” เด็กสาวตอบแบบไม่ต้องคิด ท่าทางของเธอดูใสซื่อ
“ ขอบใจมาก น้องสาว ” เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ ในใจคิดว่าถ้าสถานการณ์มันแย่ถึงขีดสุด เราก็แค่ขอซ้อมไปเรื่อยๆจนกว่าห้างปิด เท่านี้ก็พ้นความพ่ายแพ้แล้ว
เด็กหนุ่มขึ้นไปประจำที่อย่างเก้ๆกังๆ เขาใช้เท้าเหยียบแผ่นเซ็นเซอร์ให้เลื่อนไปเลือกเพลงอุมารุ ซึ่งเป็นเพลงเดียวกับที่เด็กสาววัยใสเต้น เมื่อทุกสิ่งพร้อมสรรพ ก็ปรากฏเสียงหวานใสของสาวน้อยดังออกมาจากตู้เกม
“ Ready ”
“ เอื้อก..... ” เด็กหนุ่มหัวเขียวกลืนน้ำลายลงลำคอด้วยอาการตื่นกลัว
“ Gooooo ”
สัญญาณเริ่มเกมดังขึ้น เสียงเพลงการ์ตูนอันชวนปวดหัวก็อุบัติ เด็กหนุ่มรู้สึกคลื่นไส้อย่างฉับพลัน ในใจนึกประท้วงสุดตัว
“ นี่มันไม่ใช่แนวของเราเลยนี่หว่า ”
แน่นอนการเต้นเพียงครั้งแรกก็สร้างเสียงฮือฮาให้กับฝูงชน เพราะเปิดหัวด้วย “Bad” ระนาว
มาวินเต้นผิดจังหวะเพียบ แถมการใช้เท้าก็ดูสับสน ครั้งหนึ่งเขาถึงกลับก้าวพลาดจนล้มกลิ้ง ทำให้เด็กสาวหน้าใสวัย 13 ถึงกลับปิดปากหัวเราะด้วยความขบขัน
ทว่ามาวินยังไม่ยอมแพ้ เขารีบลุกขึ้นมาเต้นต่อ แต่นั่นไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย ถ้าเด็กหนุ่มไม่เต้นช้าเกินไป ก็เร็วไป ไม่เร็วไป ก็ออกไปคนละท่าทางเลย ถึงกระนั้นก็ถือว่าทำได้ดีกว่าเดิมนิดหน่อย เพราะตอนนี้ไม่ได้เหยียบเท้าตัวเองอีกแล้ว
“ เฮ้อ.....แย่ว่ะ อ่อนว่ะ ” เริ่มปรากฏเสียงทอดถอนหายใจ เสียงสบถด่า เสียงเหยียดหยามดูถูก ประธานสมาคมถึงกลับกุมขมับและเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นความเลอะเทอะที่เด็กหนุ่มหัวเขียวก่อไว้
ในที่สุดช่วงเวลาที่สุดแสนจะทรมานของมาวินก็จบลง ผลสกอร์ที่ออกมาคือ…… 959 แต้ม
“ โห...... นี่ก็สถิติใหม่เหมือนกัน ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็นใครทำคะแนนได้แย่ขนาดนี้มาก่อน ขนาดคนหัดใหม่ยังได้คะแนนเกินพันเลย ” เสียงฝูงชนเริ่มฮือฮากับสถิติด้านลบแบบใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...... ” เด็กหนุ่มทรุดกายลงนั่งชันเข่า หลังพิงตู้เกม พลางส่งเสียงหอบ ท่าทางไม่ต่างอะไรจากคนสิ้นสภาพ
เด็กสาววัยใสหยุดยืนตรงหน้า พลางถามเสียงอ่อย สีหน้าฉายแววเป็นห่วง
“ ยอมแพ้มั้ย พี่เล่นเกมเก่งนะแต่สำหรับเกมนี้ พี่คงไม่เหมาะกับมัน ”
ทันทีที่ได้ยินน้ำคำ คิ้วเรียวก็กระตุกอย่างรุนแรง ทิฐิมานะอันเป็นพื้นฐานนิสัยเดิมก็ลุกโชนขึ้นมาทันควัน เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นยืน พร้อมส่งยิ้มแบบเครียดๆให้เด็กสาว ปากก็ตอบกลับ โดยมีเสียงกัดฟันกรอดๆลอดออกมาเป็นระยะ
“ ไม่มีทางยอมแพ้หรอก พี่ยังเหลือโอกาสแก้มืออยู่นี่นา ”
“ อืม..... เอางั้นก็ได้ค่ะ ตามใจพี่แล้วกัน ” เด็กสาวยกมือเป็นเชิงยอมแพ้ เธอรู้สึกสงสารมาวินจากใจจริง แต่ทำไงได้ เพราะหนุ่มรุ่นพี่นายนี้ดื้อด้านเกินคน
“ เฮ้อ......จะไหวเร้อ แพ้แน่ๆ เล่นห่วยซะขนาดนี้ เป็นเซียนเกมภาษาอะไรฟะ ห่วยแตก ” เสียงก่นด่า นินทาปนสมเพชเวทนาดังออกมาจากฝูงชนอย่างพร้อมเพรียง ถ้าจิตไม่แข็งพอ มีหวังเตลิดไปกับสถานการณ์ได้โดยง่าย
มาวินเดินมาที่ตู้เกม เพื่อเลือกเพลง แต่ภายในใจกลับขบคิดบางอย่าง เขาเลยหันกลับไปถามเด็กสาววัยใส
“ น้องสาว ถ้าพี่ขอเปลี่ยนเพลง จะได้มั้ย ”
“ เอ.....ก็เปลี่ยนได้นี่คะ หนูยังงงอยู่เลยว่าทำไมพี่ถึงไม่เปลี่ยนเพลง มาเต้นเพลงแนวผู้หญิงแบบหนูทำไม ” เด็กสาวพูด อาการของเธอดูงงอย่างจริงจัง
“ ฮะๆ ” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ สีหน้าเริ่มปรากฏเค้าของความมั่นใจ
มาวินกดเท้าไปที่แผ่นเซ็นเซอร์ เพื่อทำการเลือก เด็กหนุ่มง่วนอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็หาสิ่งที่ต้องการเจอ และเพลงที่เขาเลือกก็คือ………
“ Around The World ”
“ โห......จะไหวรึนั่น ” คนรอบข้างพากันฮือฮา สาเหตุเพราะ.....เพลงนี้เต้นยากที่สุด ด้วยมันมีอยู่หลายสเต็ป มีทั้งหนัก เบา ช้า เร็ว แถมบางจังหวะก็ลากยาว ไม่ว่านักเต้นรายใดก็ตกม้าตายเป็นประจำ ยิ่งเด็กหนุ่มหัวเขียวเพิ่งโชว์ฟอร์มห่วยกับเพลงที่ไม่ยากมากอย่างอุมารุจัง ยิ่งตอกย้ำให้หลายคนเกิดความคิดในทางลบ
“ แชมป์เกมกรุงเทพหน้าแหกแน่ ”
“ ไหวรึเปล่า หนูให้พี่เปลี่ยนเพลงอีกครั้งก็ได้นะ ” สาวน้อยวัยใสถาม ท่าทีดูเป็นห่วง
“ ไม่หรอก เพลงนี้แหละดีแล้ว ” เด็กหนุ่มยิ้มมุมปาก ท่าทางมั่นใจแบบสุดๆ
“ Ready ”
เสียงสัญญาณดังขึ้น บนหน้าจอปรากฏภาพหนุ่มฝรั่งร่างสันทัดที่ไว้ผมสั้นสีทอง ชายผู้นี้เปลือยท่อนบน ช่วงล่างสวมกางเกงขาสามส่วนสีดำ รองเท้าผ้าใบสีเดียวกัน เขายืนเก๊กท่าเท่ๆอยู่เดียวดาย ฉากหลังเป็นทะเลทราย มีลูกไฟพุ่งขึ้นมาจากพื้นเป็นระยะ
“ Gooooo ”
เสียงกีตาร์ดังยาวสามสี่ที พร้อมสัญลักษณ์ลูกศรซ้ายขวาที่วิ่งขึ้นมาตามจังหวะเพลง เด็กหนุ่มสร้างเซอร์ไพรส์แรกด้วยการกดเท้าขยับตามได้ทันท่วงทีจนได้ “Prefect” ทุกดอกอย่างไม่ยากเย็น
“ ใช่เลย นี่แหละ ยอดเซียนเกมอันดับหนึ่งของเมืองกรุง ” ตุ้ยนุ้ยเริ่มใจชื้นและยิ้มออกมาได้ เพราะรับรู้จากความคุ้นเคยว่านี่คือสภาพที่เอาจริงสุดกำลังของมาวิน
เวลาต่อมาเกิดพายุดนตรี เสียงเพลงระรัวอย่างฉับพลัน เบสและกลองดังกระจาย พร้อมสัญลักษณ์ลูกศรที่ลอยขึ้นมาให้เหยียบแบบถี่ยิบ แต่มาวินยังโชว์แสดงสเต็ปเท้าไฟชนิดไม่พลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว พริบตานั้นเอง เด็กหนุ่มก็แหกปากยาวระบายอารมณ์ราวกับองค์ลง ทำเอาสาวน้อยวัยใสและคนดูผวาไปตามๆกัน
“ อ้า......... ”
มาวินแหกปาก พร้อมรัวเท้ากับพื้นได้ไม่นาน เสียงกีตาร์ที่ดังเป็นจังหวะสั้นสลับยาวก็ปรากฏ ทว่าเด็กหนุ่มยังคงย่ำเท้าตามลูกศรบอกทิศได้ถูกต้องอย่างไม่มีผิดเพี้ยน เด็กสาววัยใสถึงกลับกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ดวงตากลมโตเหลือบมองไปยังคะแนนที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นเอง งานยากก็อุบัติ เมื่อตัวละครชายบนจอเริ่มออกท่าเต้นแบบแปลกๆ มือซ้ายขวาขยับขึ้นลงอย่างประหลาด มันดูพลิ้วไหวราวกับไร้กระดูก ส่วนเอวและขาก็โยกเพียงเล็กน้อย ท่วงท่าไม่ต่างจากการสองมือที่ลากเลื้อย
เสียงเพลงเลื่อนขึ้นสูงสลับลากลงต่ำ เมื่อนำมาประกอบกับท่าเต้นประหลาด ทำให้ทุกคนรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า แต่ไม่ใช่กับเด็กหนุ่ม ที่บัดนี้เหมือนนักร้องนำวง Red Hot Chili Peppers เข้าสิง เพราะเขาสามารถเต้นตามท่าทางที่ปรากฏบนหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์ แถมสเต็ปเท้าก็เพอร์เฟค ราวกับว่าจังหวะดนตรีจะสถิตอยู่ในหัวใจ
พอถึงช่วงท้ายของเพลง จังหวะเริ่มเร่งร้อนและยาวนาน มาวินต้องกดเท้าให้ตรงสัญลักษณ์ พร้อมกระโดดโลดเต้นเป็นลิงเป็นค่างตามตัวละครบนหน้าจอ เรียกได้ว่ามันยากซะจนไม่น่าจะมีใครทำได้ แต่เด็กหนุ่มหัวเขียวกลับทำได้อย่างไม่เคอะเขิน ดูให้ดีเหมือนกำลังเต้นไปยิ้มไปอย่างมีความสุขเสียด้วยซ้ำ
ในจังหวะสุดท้าย ตัวละครบนจอโชว์เหนือด้วยการกระโดดตีลังกาไปด้านข้าง แล้วพลิกกลับมายืนที่เดิม เด็กหนุ่มหัวเขียวไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาตีลังกาตาม พร้อมทิ้งตัวลงมาหยัดยืนอย่างมั่นคง จากนั้นเพลงก็หยุดบรรเลง
“ โอ้ว....... แปะ แปะ แปะ...... ” เสียงฮือฮา พร้อมเสียงปรบมือจากผู้คนดังต่อเนื่อง
เด็กสาวทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่า เธอไม่มองคะแนนที่ปรากฏ เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางสู้เด็กหนุ่มหัวเขียวได้เลย และเมื่อคะแนนออกมา มันก็ทิ้งห่างจริงๆ
“ โห......บ้าไปแล้ว ตั้ง 2,540,790 แต้ม ใกล้เคียงกับคะแนนของแชมป์โลกคนปัจจุบันเลย ” กลุ่มคนในฝูงชนฮือฮา
“ ฮ่าๆ มันมากๆเลย โคตรชอบเพลงนี้เลยว่ะ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวผู้มีเพลงร็อคในหัวใจรับผ้าเช็ดหน้าจากประธานสมาคมร่างอ้วนเตี้ยเพื่อซับเหงื่อ แต่พอสายตาเหลือบไปเห็นท่าทางของคู่อริ เขาก็พลันสลด ด้วยสภาพเด็กสาววัยใสดูจิตตกถึงขีดสุด
“ เออ..... เกมนี้ถือว่าเราเสมอก็แล้วกัน เพราะต่างผลัดกันแพ้ชนะคนละที เหอๆ ” เมื่อเห็นสภาพน่าสงสารเช่นนี้ เด็กหนุ่มก็เริ่มกวนประสาทไม่ออก เขาเดินมาจับไหล่ของเด็กสาวแล้วกล่าวปลอบ
ทันใดนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เด็กสาวที่คิดว่าหมดอาลัยตายอยาก กลับลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นด้วยอาการร่าเริง ใบหน้าสดใสแย้มยิ้มออกมาจนสุดหล้า ปากก็ร้องเฮเสียงดัง
“ เย้ๆ ในที่สุดก็มีคนชนะเราแล้ว เย้ๆ ”
“ เอ่อ......ขอโทษนะ คือ.....มันเกิดอะไรขึ้นหรือ ” มาวินทำหน้างุนงง พร้อมถามเสียงอ่อย เขายอมรับว่าตามอารมณ์ของเด็กสาวไม่ทัน
“ คืองี้ หนูเล่นเกมนี้มาได้ปีกว่าแล้ว ไม่เคยทำแต้มได้ต่ำกว่าล้านห้าแสนเลย เคยได้สูงสุดก็แตะสองล้านนิดๆ หนูเชื่อมั่นว่าในประเทศนี้ไม่น่าจะมีใครสู้หนูได้ แต่…. ” เด็กสาวแจงเสียงสั่นด้วยท่าทางที่ดูตื่นเต้น
“ แต่ว่าอะไร พูดต่อเลย….” เด็กหนุ่มถามต่อ เพราะเขาก็เริ่มอยากรู้สาเหตุที่ทำให้โหมดอะเลิทของเด็กสาวถูกปล่อย
“ แต่พี่ก็ชนะหนูได้ มันทำให้หนูปลื้มสุดๆ แล้วอีกอย่าง พี่รู้มั้ย......” เด็กสาวพูดถึงตรงนี้ ก็เกิดอาการแปลกๆ เธอเอาแต่หลบหน้า ไม่ยอมสบตาเด็กหนุ่ม
“ ว่าอะไร ” เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆ สังหรณ์ในใจบอกว่า.......มันต้องมีอะไรแย่ๆตามมาแน่
“ หนูแอบชอบพี่มานานแล้ว ชอบมาตั้งแต่ได้ดูพี่แข่งเล่นเกมในทีวีเมื่อปีก่อน ดังนั้นมาเป็นแฟนกับหนูเถอะ ” เด็กสาวกลั้นใจตอบเสียงดังลั่น ใบหน้าเล็กๆของเธอแดงก่ำด้วยความเขินอาย
ความเงียบมาเยือนโซนเกมอยู่อึดใจ เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีรายการสารภาพรักกันกลางห้างแบบนี้
“ แล้ว เอ่อ….” เด็กหนุ่มหัวเขียวจอมเกรียนเริ่มพูดติดขัด เขาเองก็ตั้งตัวไม่ติด สาวน้อยนางนี้รุกเร็วเกินไป
“ หนูชื่อ "แตงไทย" ค่า...... ” เด็กสาวคิดว่ามาวินจะถามชื่อ เธอจึงประกาศนาม ท่าทางยังคงเขินอายตามเดิม
“ เอ่อ....ใช่ อ่อ ขอบใจนะ ” เด็กหนุ่มตอบตามน้ำ ในใจคิดว่า.....ไม่ได้อยากถามชื่อซักหน่อย
“ แต่....แต้..... แต่.....แต้.....” หลายคนเริ่มแซวด้วยการส่งเสียงเพลงงานแต่งออกมาจากปาก ทำเอาสองหนุ่มสาววัยสะรุ่นเกิดอาการเขินหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
“ เฮ้ย มะ.....ไม่ใช่ ” มาวินพยายามโบกมือไปมา ทว่าเขากลับรู้สึกว่ามีใครซักคนกำลังคล้องแขนของตน เมื่อหันกลับมามอง ก็พบกับตัวการที่กระทำ นั่นก็คือ.....แตงไทย แต่ที่น่าตกใจกว่านั้น คือ......การที่สาวน้อยหน้าใสค่อยๆโน้มศีรษะลงมาพาดที่บ่าของเด็กหนุ่ม
“ เหวอ....ยะ.....อย่า ” เด็กหนุ่มถึงกลับหน้าแดงซ่าน ดวงตาแทบจะปิดไปในทันที
“ เย้......แต่งเลย แต่งเลย แต่งเลย ” เสียงเชียร์จากผู้คนเกือบร้อยเฮออกมาพร้อมกัน แม้แต่ประธานสมาคมอย่างตุ้ยนุ้ยก็ไม่ยกเว้น
“ แต่งตามคำยุดีมั้ย พี่มาวิน ” เด็กสาวกระซิบถามเสียงใส พร้อมรอยยิ้มที่แสนหวาน
“ เฮ้ย เดี๋ยวก่อน....เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ไม่นะ ไม่.... ” มาวินพยายามปฏิเสธและดึงสองแขนของเด็กสาวออก แต่หนูน้อยผู้ยังไม่มีบัตรประชาชนกลับแข็งขืนและพยายามเกาะแขนต่อไป
ทันใดนั้นเอง ก็ปรากฏเสียงห้าวใหญ่ดังขึ้นมาที่กลางวง
“ หยุดก่อน ชั้นไม่ยอมรับเรื่องนี้ ”
เสียงนั้นทรงอำนาจมากจนถึงขั้นทำให้ฝูงชนสงบในพริบตา ทุกคนหันไปมองเจ้าของเสียง พวกเขาจึงพบกับชายหนุ่มนายหนึ่ง
หนุ่มผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวเข้มจนใกล้เคียงกับทองแดง หน้าเหลี่ยม จมูกบี้ ดวงตาพองโต ผมสั้นเกรียนติดหนังหัว ร่างอัดแน่นกล้ามเนื้อถูกซ่อนอยู่ในชุดเอี๊ยมหมีสีดำ ด้านหลังปรากฏกายของหนุ่มแห้งในชุดคาวบอย ผู้ที่เพิ่งแพ้มาวินในเกมดวลปืน
“ จัดการมันเลย พี่ใหญ่ อย่าให้เสียชื่อ 3 เทพเมืองสุพรรณ ” เด็กหนุ่มร่างผอมในชุดคาวบอยเปิดฉากบิ้วด้วยน้ำเสียงแหบแห้งที่ชวนหาเรื่อง
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ