The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) แหกด่าน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://www.pexels.com

 

         

       สมุนร่างผอมแสยะยิ้มนิดๆ เขารู้สึกดีใจที่ได้พบคู่แค้นเก่า จึงกล่าวทักด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน 

 

“ เหอๆ โลกมันกลมจริงๆ เผลอแผล็บเดียว ก็เจอกันอีกแล้ว ”  

 

“ เหอๆ ” มาวินหัวเราะแห้งๆ โดยส่วนตัวเขายังรู้สึกขยาดแก๊งอันธพาลกลุ่มนี้ เพราะจากการปะทะในครั้งที่แล้ว เด็กหนุ่มได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นเกือบตาย ส่วนเด็กสาวร่างสูงไม่แสดงอาการออกมาแต่อย่างใด เธอได้แต่ยืนนิ่ง สีหน้าและแววตาดูตายด้าน 

 

“ เหอๆ ไอ้หนู คราวนี้แกไม่รอดแน่ ส่วนนังหนูนักกังฟู แกไม่จบแค่เจ็บตัวล้านเปอร์เซ็นต์ หึๆ ” สมุนร่างผอมข่มขู่ ปิดท้ายด้วยการหัวเราะใส่ ท่าทางเหมือนมีนัยยะแอบแฝง 

 

“ เหอๆ ดีใจด้วยนะ จัน เฮ้ย..ไม่ใช่ ยัยโย่ง เธอไม่ต้องใช้ไวเบรเตอร์อีกต่อไปแล้ว ” มาวินหันมายิ้มแหยๆให้กับเด็กสาวที่ยืนขรึมอยู่ด้านหลัง ทว่าเจ้าตัวกลับไม่เข้าใจคำพูดของสมุนร่างผอมและเด็กหนุ่มหัวเขียว แถมยังสงสัยว่าไวเบรเตอร์คืออะไร แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า.....ไม่ถามจะดีกว่า เพราะสิ่งที่ออกจากปากของลิงน้อยตัวนี้ คงเป็นเรื่องไร้สาระอีกตามเคย 

         

 

       ชายฉกรรจ์นับ 10 ยืนถือไม้กระบองยาวคุมเชิงอยู่ แต่ไม่ได้บุกเข้ามา คล้ายมีเจตนาแค่ตรึงกำลัง ท่าทางของพวกเขาดูขึงขังซะจนมาวินไม่กล้าเปิดงาน จึงหันกลับไปถามเด็กสาวร่างสูงด้วยเสียงกระซิบ 

 

“ เฮ้ ยัยโย่ง เราจะทำยังไงต่อไป ” 

        

 

        เด็กสาวนิ่งตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก็กล่าวขึ้นมาช้าๆ

 

“ ในตอนแรกชั้นกะว่าจะฝ่าคนพวกนี้ออกไป แต่เมื่อดูจากอาวุธที่ถือ มันมีรัศมีการจู่โจมที่ค่อนข้างยาว ยิ่งรวมตัวกันมากขนาดนี้ ยิ่งจะทำให้บุกยากกว่าเดิม” 

 

“ เอ๋…มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวทำหน้ามึน 

 

“ ใช่ ขนาดคนที่ฝึกมานานอย่างชั้น ยังไม่มั่นใจว่าจะฝ่าไปได้ ระดับฝีมือขนาดนายยิ่งไม่มีทาง ” เด็กสาวตอบกลับแบบตรงๆ โดยไม่คิดถนอมน้ำใจของผู้รับฟัง

        

 

        พอเด็กหนุ่มหัวเขียวได้ฟังคำสบประมาท เขาก็ถึงกับหัวร้อนจนควันออกหู

 

“ เฮ้ย ในเมื่อดูถูกกันแบบนี้ ก็ต้องลองของกันหน่อย ” 

         

 

        เด็กสาวร่างสูงซ่อนยิ้ม เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

 

“ ก็ลองดู ระวังระยะโจมตีของพวกมัน ” 

 

“ เชอะ ” เด็กหนุ่มสบถเบาๆ พลางย่อตัวลงต่ำ เพื่อเตรียมทำการจู่โจม

      

 

          เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์เห็นเด็กหนุ่มหัวเขียวทำท่าจะเปิดฉาก พวกเขาก็ระวังตัวมากขึ้น มือกระชับไม้พลองแน่นกว่าเดิมอีกเท่าตัว 

        

 

         ทั้งสองฝ่ายนิ่งอยู่อึดใจ เด็กหนุ่มหัวเขียวก็เป็นฝ่ายเปิดฉากลุยก่อน เขากระโจนขึ้นสูงสามเมตร ก่อนจะกางกรงเล็บ เพื่อเตรียมขย้ำคู่ต่อสู้จากด้านบน ปากก็ร่ำร้องตะโกน ประสงค์จะสำแดงเดช ข่มขวัญศัตรู 

 

“ กระบวนท่าแมวป่าขย้ำเหยื่อ ” 

       

 

         แต่ก่อนที่มาวินจะเข้าถึงตัว เขาก็ต้องพบกับฝูงไม้พลองนับสิบที่พุ่งสวนเข้ามา ด้วยความที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เลยไม่อาจหลบหลีก ทุกเพลงพลองจึงกระทบถูกสรรพเรือนกายของเด็กหนุ่ม

 

“ จ้าก อู้ก แอ้ก อั้ก ว้าก ” เมื่อร่างเล็กเพรียวถูกไม้พลองทิ่มแทง เด็กหนุ่มก็ร้องลั่นป่าด้วยความเจ็บปวด โดยที่เสียงครวญครางในแต่ละครั้งแทบไม่ซ้ำกันเลย

         

 

        ความแรงของเพลงพลอง ทำให้เด็กหนุ่มกระเด็นถอยหลังลงไปนอนวัดพื้น  เด็กสาวร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็กล่าวทักแบบติดตลก

 

“ ไง กลับมาแล้วรึ เร็วจริงๆ ”  

 

“ แค่กๆ แทบกระอักแน่ะ เจ้าพวกนี้มันแทงชั้นไม่นับแผลเลย ” เด็กหนุ่มกระแอมไอ ท่าทางดูจุกเสียดอยู่ไม่น้อย 

 

“ ก็นายนี่ล่ะนา ชั้นเคยบอกแล้ว….แม้ท่าแมวป่าขย้ำเหยื่อจะรุนแรงที่สุด แต่ต้องใช้ตอนที่คู่ต่อสู้อ่อนกำลังหรือทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำ เล่นใช้ท่านี้ตอนที่คู่ต่อสู้เตรียมพร้อม มันก็ต้องเจ็บตัวแบบนี้แหละ ” เด็กสาวอธิบายยาวเหยียดถึงจุดอ่อนในการเลือกใช้กระบวนท่า ราวกับตนเป็นอาจารย์ผู้ชำนาญยุทธ์ก็ไม่ปาน 

 

“ แค่กๆ ก็กะโชว์พาวให้เธอเห็นซะหน่อย จะได้ไม่ดูถูกกันอีก ” เด็กหนุ่มกระแอมไออีกระลอกใหญ่ สุดท้ายก็ค่อยๆลุกขึ้นยืน ดูเหมือนเขาจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 

 

“ ดูถูกกับการเตือนสติให้รู้จักตัวเอง มันแตกต่างกัน ” เด็กสาวพูดทิ้งท้ายให้ได้คิด พลางตั้งท่าต่อสู้ 

 

“ จ้าๆ แม่อาจารย์สาว ลูกศิษย์ยอมรับแล้วว่าห่วย ว่าแต่เธอมีแผนอะไรมั้ย ” หลังเจ็บตัวไปหนึ่งดอก สมองของมาวินก็เริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง 

 

“ ก็พอมีแผนอยู่นิดหน่อย นายดูให้ดี เจ้าพวกนี้เอาแต่คุมเชิง ไม่บุกเข้ามา เพื่อหวังให้คนกลุ่มใหญ่ตามมาสมทบ ซึ่งฝ่ายเรารอไม่ได้ เพราะถ้ากลุ่มใหญ่มาถึง ก็มีสิทธิแพ้สูง ดังนั้นทางเดียวที่ทำได้คือ.....ชิงลงมือก่อน ” เด็กสาวบอกแผนที่คิด

 

“ อืม……งั้นพวกเราคงต้องหาวิธีที่แนบเนียนกว่านี้ เพื่อบุกเข้าไป จะทำยังไงดีล่ะ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวกล่าวเบาๆ 

 

“ ชั้นก็กำลังคิดอยู่เหมือนกัน นายพอมีแผนบ้างมั้ยล่ะ ” เด็กสาวร่างสูงย้อนถาม 

         

 

         มาวินยิ้มขรึมๆ หัวสมองพยายามคิดถึงภาพเหตุการณ์ในช่วงที่ฝึกวิชา พร้อมประมวลผลถึงสิ่งที่สามารถทำได้ ไม่นาน เขาก็นึกออก

 

“ เยี่ยม ใช้วิธีนี้ดีกว่า ” 

 

“ เอ๊ะ เจ้าลิงหัวเขียว นายจะใช้วิธีอะไร ” เด็กสาวร้องถามรัวเร็ว

       

 

          มาวินหันกลับมายิ้มกวนๆ ก่อนจะเฉลยสิ่งที่คิดอยู่ในใจ

 

“ ไม่ยาก ในเมื่อบุกเข้าไปไม่ได้ ก็ไม่ต้องบุก แค่สร้างความปั่นป่วนให้กับพวกมัน พอแตกแถว เราก็ฉวยจังหวะลุยเข้าไปเก็บในทีเดียว ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ก็หล่นอยู่ตามพื้นตั้งหลายก้อน ” 

         

 

        ได้ยินเพียงเท่านี้ เด็กสาวก็ฉีกยิ้ม เพราะรู้แล้วว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มต้องการสื่อคืออะไร เธอกล่าวชมเบาๆ 

 

“ หัวดีมาก เจ้าลิงหัวเขียว ” 

 

“ เอาไว้ตีพวกมันแตก แล้วค่อยชมดีกว่า เริ่มกันเลยเถอะ ยัยโย่ง ” มาวินตอบกลับ สีหน้าดูมั่นใจสุดๆ 

 

“ โอเค ” เด็กสาวร่างสูงรับคำ ก่อนใช้ปลายเท้างัดก้อนหินที่อยู่บนพื้นให้ลอยขึ้นสูง จากนั้นก็เตะหินก้อนเขื่องให้พุ่งตรงไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์

 

“ โอ๊ย ” 

       

 

        เสียงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดดังมาจากชายผู้หนึ่ง เนื่องจากถูกหินก้อนเขื่องอัดเข้าไปที่กลางศีรษะจนทำให้เซถลาลงไปนั่งจ้ำเบ้า 

         

 

         วัยรุ่นทั้งสองอมยิ้ม พวกเขาดีใจที่แผนประสบความสำเร็จ เด็กสาวร่างสูงรีบดำเนินการจู่โจมต่อด้วยวิธีเดิม เธอใช้เท้างัดหินที่อยู่บนพื้นให้ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พริบตาต่อมากระสุนหินดอกที่สอง สาม สี่ ห้า ก็ตามมาติดๆ 

 

“ โอ๊ย อ้าก อุ้ย อุ้บ เอ๋ง ” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเหล่าชายฉกรรจ์ดังระงม เพราะพวกเขาต้องเผชิญกับพายุกระสุนหินที่ปลิวเข้ามา 

 

“ เฮ้ย อย่าแตกตื่น ตั้งขบวนรับเอาไว้ซิ เจ้าพวกโง่ ” สมุนร่างผอมร้องบอกเสียงหลง แต่ตัวเองกลับถอยหนี เพื่อให้พ้นรัศมีการจู่โจมของกระสุนหิน 

        

 

        มาวินฉีกยิ้มกว้าง สายตามองกลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังสับสนอลหม่าน ไม่มีใครตั้งกระบวนรับเลย เพราะมัวแต่ปัดป้องกระสุนหิน ครู่หนึ่ง เขาก็ร้องบอกเด็กสาวร่างสูงผู้กำลังทำหน้าที่สไนเปอร์

 

“ เอาล่ะ กระบวนมันแตกแล้ว ชั้นจะเล่นลูกสมุนเหล่านี้ พอล้มพวกมันหมด เธอจัดการเจ้าตัวหัวหน้าเลย ”  

 

“ อืม..... ” เด็กสาวร่างสูงรับคำสั้นๆ แต่ยังทำหน้าที่ยิงกระสุนหินด้วยเท้าอย่างต่อเนื่อง 

        

 

        เด็กหนุ่มหัวเขียวหันกลับไปมองกลุ่มศัตรู จากนั้นก็พุ่งเข้าจู่โจม พอเข้าถึงตัว ก็ปล่อยขวาตรงใส่ชายฉกรรจ์ที่อยู่ใกล้สุด 

 

“ พลั๊ก ” 

       

 

         เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น ด้วยแรงหมัดที่เพิ่มพูนจากการฝึก ประกอบกับการรุกเร็วชนิดไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้ชายผู้เคราะห์ร้ายล้มลงไปนอนนับดาวในทันที 

 

“ เฮ้ย ไอ้เด็กหัวเขียว มันบุกเข้ามาแล้ว ” ชายหัวล้านร่างสูงวัย 30 ต้นๆซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆร้องเตือนพรรคพวก แต่ยังไม่ทันจะจบประโยค ก็ถูกมาวินถีบเข้าไปที่หน้าท้อง 

 

“ อุ้บ ” ชายผู้นั้นงอตัวลง เขารู้สึกจุกเสียดอย่างรุนแรง แต่ไม่ทันจะได้ทำอะไร ก็ถูกเท้าอีกข้างงัดเข้าไปที่ปลายคางจนหน้าหงายไปตามแรงเตะ  

 

“ ระวัง ” ชายหัวล้านพูดได้เท่านั้น ก็ล้มลงไปนอนหงายอีกคน 

        

 

        แม้มาวินจะเก็บลูกสมุนได้ถึงสองคนในเวลาใกล้กัน แต่คนที่เหลือก็รู้ตัวแล้วว่ามีข้าศึกบุกประชิด ชายหน้าบากร่างสันทัดกระชับไม้พลองในมือแน่น เพื่อเตรียมฟาดใส่ท้ายทอยของเด็กหนุ่ม

 

“ เฮ้ย…” มาวินไม่ทันระวัง เพราะนักเลงหัวไม้ผู้นี้พุ่งเข้ามาจู่โจมจากทางด้านหลัง แต่ก่อนที่ไม้พลองยาวจะปะทะเป้าหมาย ก็มีหินก้อนเขื่องวิ่งมากระทบขมับของชายหน้าบาก 

 

“ โอ๊ย….. ” นักเลงหัวไม้แหกปากร้อง ก่อนเซถลาด้วยท่าทางที่คล้ายนกปีกหัก มาวินเห็นจังหวะดี จึงพุ่งเข้าโจมตี

 

“ พยุหะกรงเล็บแมวป่า ย่ะๆ…… ” เด็กหนุ่มร้องตะโกน พร้อมรัวกรงเล็บใส่แบบไม่ยั้ง  

 

“ อุ้ก……. ” นักเลงหัวไม้ร้องอุทานในทุกดอกที่ถูกอัด 

       

 

        นักเลงหัวไม้โดนรัวกรงเล็บใส่นับสิบดอก เขาก็ทรุดฮวบลงนอนคว่ำกับพื้น เด็กหนุ่มหันกลับมามองชาวแก๊งที่เหลือ คนเหล่านั้นก็ไม่ได้กรูเข้ามาใช้ไม้พลองต้านศึก เพราะหวั่นเกรงกระสุนหินที่ปลิวเข้ามาอย่างต่อเนื่อง 

 

“ แฮ่กๆ เหลืออีกห้าคน ชักหมดมุกแล้ว จะทำยังไงดีนะ ” เด็กหนุ่มหอบ พลางคิดในใจ 

        

 

        ระหว่างที่เด็กหนุ่มมัวเเต่คิดว่าจะเดินเกมต่อไปยังไง เด็กสาวปริศนาก็กระโดดเข้าไปกลางกลุ่มชายฉกรรจ์ วินาทีต่อมาเจ้าของร่างสูงเพรียวก็หมุนตัวเตะไปรอบทิศทาง ด้วยความรวดเร็วในการจู่โจม ทำให้เหล่าอริร้ายถูกเพลงเท้าอัดใส่จนกระเด็นกระดอน

 

“ โห…… สุดยอด ” เด็กหนุ่มหัวเขียวอุทานดัง เมื่อเห็นการโจมตีที่รุนแรงและรวดเร็ว

       

 

         เด็กสาวร่างสูงยืนจังก้าอยู่กลางวง โดยมีชายฉกรรจ์ห้านายนอนกองอยู่รอบตัว ทุกคนล้วนถูกเพลงเท้าขับกล่อมจนนอนหลับ

 

“ โห……โคตรเท่อ่ะ ” เด็กหนุ่มหัวเขียวยกนิ้วโป้งให้ เมื่อเห็นฉากเปิดตัวสุดเจ๋งของเด็กสาวร่างสูง 

        

 

       แม้จะเปิดฉากโจมตีได้สุดยอดแค่ไหน แต่เด็กสาวร่างสูงดูจะไม่สนใจภาพลักษณ์หรือห่วงเท่อะไรนัก เธอรีบพุ่งเป้าไปยังสมุนร่างผอมที่ยืนโดดเดี่ยว  

 

“ ไง นายผอม เหลือแค่นายคนเดียวแล้ว จะหนีหรือจะสู้ ” เด็กหนุ่มหยอกเย้า   

 

“ เฮ้ย…… เก่งจริง อย่ารุมสิวะ เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า ” สมุนร่างผอมพยายามต่อรองให้มาสู้กันตัวต่อตัว น้ำเสียงสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว 

 

“ เดี๋ยวๆ…แล้วเมื่อกี้ หมาที่ไหนมันรุมพวกชั้นวะ ไอ้นี่ท่าจะบ้าแล้ว ” เด็กหนุ่มหัวเขียวทำหน้างงกับตรรกะสุดเพี้ยนของอีกฝ่าย 

 

“ ไม่ต้องพูดให้มากความ ” เด็กสาวร่างสูงโพล่งออกมา เธอพุ่งเข้าหาสมุนร่างผอมด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ เพื่อหวังล้มศัตรูในหมัดเดียว 

       

 

        จังหวะที่เด็กสาวร่างสูงกำลังจะเข้าถึงตัว สมุนร่างผอมก็ร้องลั่น พร้อมเหวี่ยงบางสิ่งไปข้างหน้า

 

“ เฮ้ย อย่า…… ” 

        

 

         เด็กสาวร่างสูงถึงกับหยุดโจมตีและแปรเปลี่ยนเป็นถอยฉากออกมา 

 

“ เอ๊ะ ยัยโย่งหยุดโจมตีทำไม ” เด็กหนุ่มหัวเขียวออกอาการงงนิดๆ ท่าทีของเด็กสาวร่างสูงดูไม่ปกติเลย 

        

 

       เด็กสาวยืนคุมเชิง เธอเหลือบมองสมุนร่างผอมที่ตั้งท่าสู้แบบหมาจนตรอก ในมือถืออะไรบางสิ่งที่ดูแวววาว เมื่อเพ่งไป ก็พบว่ามันคือ......มีดพกยาว 6 นิ้ว ปลายแหลมคม คล้ายถูกลับอยู่เป็นประจำ 

 

“ เชอะ เล่นมีดเลยหรือ ” เด็กสาวร่างสูงมองเหยียดๆ เธอปาดเลือดสีแดงสดที่หลั่งไหลออกมาจากพวงแก้ม ดูท่าการเหวี่ยงกวาดเมื่อครู่ จะสร้างบาดแผลเล็กๆให้กับกังฟูสาว

 

“ เหอๆ ฮ่าๆ ” สมุนร่างผอมยิ้มนิดๆ ก่อนเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

        

 

        อาการคลั่งอย่างฉับพลันของสมุนร่างผอมสร้างความประหลาดใจให้แก่สองวัยรุ่น เด็กสาวร่างสูงจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย 

 

“ กลัวมากจนบ้าไปแล้วรึ ” 

 

“ ฮะๆ เดี๋ยวก็รู้ เหอะๆ เข้ามาเลยนังหนูเท้าไว ” สมุนร่างผอมหัวเราะอย่างมีเลศนัย ก่อนกระชับมีดคมในมือ 

 

“ ได้ตามคำขอ ” เด็กสาวร่างสูงย่างสามขุมเข้าหา ท่าทางรัดกุม 

       

 

       สมุนร่างผอมยกการ์ดซ้ายขึ้นระดับสายตา ส่วนมือขวายกมีดขึ้นสูงเหนือศีรษะ พร้อมจ่อปลายมีดไปข้างหน้า การวางมือดูคล้ายอสรพิษที่เตรียมพุ่งฉก เมื่อพิจารณาให้ดี ก็รู้ในทันทีว่าหมอนี่น่าจะถนัดอาวุธสั้นประเภทมีด แต่เด็กสาวร่างสูงกลับไม่รู้สึกหวาดหวั่น พอเข้าระยะหมัด เธอก็ยิงขวาตรงไปที่ใบหน้าของศัตรู 

 

“ เฮ้ย ” 

      

 

       สมุนร่างผอมตวัดคมศาสตราเข้ารับหมัดขวา ทว่ามีดเล่มนั้นได้แต่จั่วลม เพราะเด็กสาวดึงมือกลับไปก่อน ทำนองว่านั่นเป็นแค่หมัดหลอก พริบตาต่อมา สมุนร่างผอมก็รู้สึกปวดแปลบที่หน้าแข้งอย่างรุนแรง ด้วยเจอเตะต่ำของอีกฝ่าย

 

“ โอ๊ย ” สมุนร่างผอมทรุดลง ก่อนถูกเด็กสาวถีบไปที่หน้าท้องเข้าอย่างจังจนร่างผอมเกร็งกระเด็นไกล

 

“ อู้ย..... ” สมุนร่างผอมร้องครวญ ซักพักก็ค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืน เขารู้ในทันทีว่าระดับฝีมือห่างชั้นกันมาก แต่ไม่ทันได้ทำอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นเด็กสาวร่างสูงยืนค้ำหัวอยู่ทางขวา 

 

“ หน็อย..... นังหนู ” สมุนร่างผอมทิ่มคมเหล็กเข้าใส่ หวังสร้างบาดแผลอีกซักครั้ง ถึงกระนั้นมีดในมือก็ไม่ไวไปกว่าเท้าของเด็กสาว เธอเตะตวัดไปที่ข้อมืออย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีดเล่มนั้นหลุดกระเด็นออกจากมือ

 

“ เอ๊ะ ” สมุนร่างผอมอุทานได้คำเดียว ก็ถูกเท้าขวาข้างที่เพิ่งตวัดเตะ วกกลับเข้ามาอัดที่ก้านคออย่างรุนแรง ทำให้ล้มลงไปนอนกองในทันที  

         

 

        เวลาผ่านไปไม่กี่นาที เด็กวัยรุ่นทั้งสองก็เก็บเหล่าร้ายนับสิบได้สำเร็จ พวกนั้นนอนระเกะระกะอยู่กับพื้น  

 

“ ฮะๆ เรียบร้อย พวกเรานี่สุดยอดจริงๆ เก็บพวกมันได้อย่างละครึ่ง ” เด็กหนุ่มยืดอก พร้อมคุยโม้โอ้อวด ทั้งที่ความจริง เขาเก็บไปแค่สี่คน ขณะที่เด็กสาวฟาดเรียบถึงเจ็ดคน 

 

“ ไปกันได้แล้ว เจ้าลิงหัวเขียว เดี๋ยวฝูงใหญ่ของพวกมันเข้ามา เราจะลำบาก ” เด็กสาวร่างสูงไม่สนการคุยโต เธอกระตุ้นเตือนให้รีบหนีโดยเร็ว

 

“ แหม.....จะอยู่ปลาบปลื้มกับชัยชนะอีกหน่อยก็ไม่ได้ ” เด็กหนุ่มบ่นงุบงิบ

      

 

         ทันทีที่ทั้งคู่เตรียมจากลา ก็เกิดเหตุประหลาด เด็กสาวร่างสูงทรุดกายลงไปนั่งคุกเข่า ใบหน้าคมเข้มบิดเบี้ยวเหยเก คิ้วขมวดนิ่ว คล้ายพยายามข่มอาการเจ็บปวดที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

 

“ เฮ้ย.......ยัยโย่ง เธอเป็นอะไร ” เด็กหนุ่มร้องถามเสียงหลง

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา