The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
174) หลอกแล้วหลอกอีก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpapersafari.com
มารร้ายเห็นท่าทีของอากิเนะ ก็รู้ว่าเด็กสาวไม่มีวันเล่นตุกติกอย่างแน่นอน มันจึงเกร็งพลังที่สองมือ ก่อนจะยื่นไปข้างหน้า เพื่อปล่อยเวทแสงสีอำพันจากสิบนิ้ว
“ จงพรุนเป็นรังผึ้งซะเถอะ ”
อากิเนะยิ้มเล็กน้อย เพราะมองออกว่าเวทแสงทั้งสิบสายไม่อาจทำอะไรเธอได้ แต่ก่อนจะออกแรงปัดการจู่โจมให้พ้นทาง หางตาก็เหลือบไปเห็นเวทไฟสีดำ
“ เวทเพลิงทมิฬ ”
“ ตูม……”
เสียงระเบิดดังสนั่น พร้อมเปลวไฟสีดำที่ลุกโชติช่วงเกือบสิบเมตร นับว่าเป็นเวทเพลิงทมิฬที่รุนแรงกว่าคราวก่อนเป็นเท่าทวี ด้วยมารผมขาวได้รวมร่างกับมาวินอย่างสมบูรณ์ เลยปล่อยพลังออกมาได้เต็มที่ แต่การจู่โจมของมันยังไม่จบเพียงเท่านี้
“ เมเทโอ ” บอลพลังงานนับสิบผุดขึ้นมารอบกายของมารร้าย แต่ละลูกรุนแรงถึงขั้นทำให้ใครที่โดน ต้องสูญสลายในทีเดียว ไม่ถึงอึดใจ เวทมรณะทั้งหมดก็พุ่งตรงไปยังเพลิงดำที่โหมกระหน่ำ
“ ตูม ตูม ตูม……”
เสียงระเบิดดังต่อเนื่อง พร้อมแผ่นดินที่สั่นไหว ราวกับพื้นโลกบริเวณนั้นจะยุบตัวลงไป บ่งบอกถึงความรุนแรงของเวทมารได้เป็นอย่างดี แต่อมนุษย์ยังไม่ยอมยุติเพียงเท่านี้
“ จงออกมา ร่างแยกของข้า ”
สิ้นเสียงของมารร้าย ร่างที่เหมือนกับอมนุษย์ผมขาวก็แยกออกมาถึง 50 ตน พวกมันตะโกนพร้อมกัน
“ เพลิงทมิฬจงแผดเผาอริของข้า ”
ไฟสีดำลุกรอบกายของร่างแยกกว่าครึ่งร้อย ไม่ถึงอึดใจ พวกมันก็กรูกันเข้าไปยังเพลิงทมิฬที่ยังลุกโชน เพื่อระเบิดตัวเองไปพร้อมกับอากิเนะที่ตกอยู่กลางวงล้อม
“ ตูม ตูม ตูม…..”
เสียงระเบิดดังถี่รัว ส่วนแผ่นดินก็สะเทือนหนักกว่าเก่า ราวกับโลกถล่ม เปลวเพลิงสีดำก็ยิ่งลุกแรงจนสูงใกล้เคียงกับตึก 10 ชั้น พร้อมกินพื้นที่กว้างออกไปถึง 30 เมตร
ด้วยพลังทำลายที่แผ่กระจาย มารร้ายจึงต้องรีบถอยห่าง ไม่งั้น อาจโดนผลกระทบจากท่าไม้ตายของตัวเอง แต่กระบวนจู่โจมดังกล่าวก็กินพลังงานอย่างมากมายจนทำให้อมนุษย์แทบหมดแรง
“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก….”
มารร้ายจ้องมองความพินาศระดับภัยพิบัติ ไม่นาน ดวงตาก็ฉายแววยินดี เพราะสัมผัสถึงพลังของอริร้ายไม่ได้เลย
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เป็นไงเล่า เวทไม้ตายทั้งสี่ของข้ารุนแรงถึงใจมั้ย นี่เป็นเพราะท่านประมาทเกินไป เลยพบจุดจบเช่นนี้ จงนำไปเป็นบทเรียนในโลกหลังความตาย ท่านน่ะเก่าไปแล้ว ” มารร้ายเย้ยหยันไม่ขาดปาก มันดีใจเหลือประมาณ ทว่าก็รู้สึกจิตตกนิดๆ เพราะชัยชนะครั้งนี้ได้มาจากเล่นตุกติก
“ ถึงจะไม่ใสสะอาดนัก แต่การต่อสู้ก็ต้องมีลูกเล่นกันบ้าง มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ตรงไปตรงมาในสงคราม ” มารร้ายคิดเช่นนั้น ด้วยโลกแห่งความเป็นจริงไม่เหมือนกับทุ่งลาเวนเดอร์ของพวกเพ้อฝัน แต่แล้ว อมนุษย์ก็ต้องตกตะลึงจนตาค้างอีกครั้ง เมื่อเพลิงทมิฬสลายตัว
“ นะ…นั่นมัน ” มารร้ายกล่าวตะกุกตะกัก กายสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว เพราะที่กึ่งกลางของพลังทำลาย ได้ปรากฏร่างเล็กบางของอากิเนะ แน่นอนว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ด้วยมีบาเรียเวทสีม่วงอมดำห่อหุ้มกาย และเมื่อหันไปยังจุดที่เทพศาสตราเคยนอน พบว่าท่านผู้เฒ่าก็ถูกปกป้องด้วยวิธีเดียวกัน
“ บัดซบ นี่ขนาดเราทุ่มสุดกำลังไปทั้งหมด ก็ยังไม่มีใครตายซักคน ” มารร้ายสบถคำ มันผิดหวังเป็นที่สุด กำลังใจตกลงหลายส่วน
อากิเนะหันมามองเทพศาสตรา พอเห็นญาติเพียงหนึ่งเดียวยังปลอดภัยอยู่ในกำแพงเวทสุดแกร่ง เธอก็หันไปประจันกับมารผมขาวต่อ บาเรียเวทพลันสลายไปจากร่าง ส่วนปากก็ก่นด่า สีหน้าดูหงุดหงิด
“ แกขี้โกงอีกแล้วนะ ช่างชั่วช้าสารเลวจนหาดีไม่ได้เลย ”
มารร้ายอยากจะเถียงใจจะขาด แต่ตอนนี้ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบสุดๆ จึงได้แต่นิ่งเงียบ สมองพยายามขบคิดหาทางออก
“ จะทำยังไงดีนะ เราทุ่มแรงไปกับเวทไม้ตายทั้งสี่จนหมด เลยไม่เหลือพลังพอจะต้านทาน หรือเราจะยอมแพ้ ” พอคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของมารผมขาวก็พลันเหยเก เพราะการศิโรราบ เป็นอะไรที่เสื่อมเกียรติแบบสุดๆ มันจึงหาหนทางใหม่
“ ใช่แล้ว ในเมื่อสู้ไม่ได้ ก็ต้องหนี ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น มารผมขาวก็กัดฟัน ปล่อยออร่าสีอำพันออกมา เพื่อขู่อีกฝ่ายให้เข้าใจผิด คิดว่าตนยังเหลือแรงอยู่ จากนั้นก็เริ่มท้าทายอีกครั้ง
“ ในเมื่อท่านรอดชีวิตจากมหาเวททั้งสี่ของข้าได้ จงเตรียมรับเวทไม้ตายที่ห้า ซึ่งรุนแรงกว่าสี่เวทแรกหลายเท่าตัว เชื่อว่าท่านรับมันไม่ได้แน่ ”
มารร้ายวางฟอร์มไปอย่างนั้น มันตั้งใจท้าทายตรงๆ หวังให้อากิเนะลองของด้วยการตั้งรับแบบสี่เวทแรก หลังจากนั้น อมนุษย์จะใช้เวทย้ายสถานที่ เพื่อหลบหนีแบบหน้าด้านๆ
“ ฮึ่ม….รับคำท้าสิ ข้าจะได้หลบหนีง่ายขึ้น ” หลังจากมารร้ายลุ้นไม่นาน อากิเนะก็รับคำ
“ ก็ได้ ปล่อยฝีมือออกมาให้เต็มที่ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทำลายบาเรียเวทได้มั้ย ” พออากิเนะพูดจบ บาเรียเวทสีม่องอมดำก็ผุดขึ้นมาห่อหุ้มกายบาง
“ หึ หึ หึ เสร็จข้าล่ะ มนุษย์นี่หลอกง่ายจริงๆ ” มารร้ายแสยะยิ้ม ก่อนจะดำเนินการตามแผน
เกิดแสงสว่างแผดออกมาจากอมนุษย์ผมขาว ทำให้อากิเนะรู้ว่ากระบวนต่อไปของมารร้ายไม่ใช่เวทจู่โจมอย่างที่ควร แต่เป็นเวทเคลื่อนย้าย ทว่าเด็กสาวกลับไม่แยแส
แสงสว่างเจิดจ้าอยู่ชั่วขณะ ส่วนมารร้ายก็ฉีกยิ้มชั่วร้ายให้อากิเนะเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะบอกลา
“ โทษทีนะที่หลอกลวง แต่ข้าน้อยขอลาไปก่อน เพราะท่านเก่งเกินไป ” สิ้นคำกล่าว ร่างของมารร้ายก็หายลับไปพร้อมกับแสงสว่างที่ดับลง
อากิเนะยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าดูเฉยเมย อันที่จริง ออกจะเซ็งเล็กน้อยด้วยซ้ำ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า คล้ายกำลังรอบางอย่าง ไม่นาน ก็มีบางสิ่งลอยละลิ่วลงมา
“ โครม…..”
วัตถุปริศนาร่วงลงมาใกล้จุดที่อากิเนะยืน สิ่งนั้นคือมารร้ายผมขาว มันนอนนิ่งอยู่หลายอึดใจ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นยืน ปากก็ร้องโอดโอย
“ อู้ย….นะ…นี่มันอะไรกัน ทำไมเราถึงใช้เวทเคลื่อนย้ายไม่ได้ ”
“ แกหนีไปไหนไม่ได้หรอก เพราะมีเขตอาคมขนาดใหญ่ปกคลุมดินแดนลี้ลับอยู่ การเข้าออกสถานที่แห่งนี้ ต้องทำตามเงื่อนไขเท่านั้น ” อากิเนะชี้แจงให้เข้าใจ กระแสเสียงดูเนือยๆ ทว่าก็ทำให้มารร้ายช็อคไปถนัดตา เพราะรู้ดีว่ากำลังเข้าตาจน
“ แย่แล้ว จะสู้ไม่ได้ จะหนีก็ไม่สำเร็จ ทำไงดี ทำไงดี ” มารร้ายว้าวุ่นใจ แต่ภายนอก ยังแสร้งยิ้ม พร้อมลองลักไก่
“ ในเมื่อถอยไม่ได้ เห็นทีต้องใช้ไม้เด็ดที่เก็บซ่อนมานาน ”
“ ไม้เด็ดอะไร แกน่ะหมดทางต่อสู้แล้ว เพราะสี่เวทไม้ตายไม่อาจฝ่าบาเรียเวทของชั้นได้ แถมยังกินพลังงานจนแกหมดเรี่ยวแรง ” ทว่าอากิเนะก็ล้วงลึกทันควัน ดูเหมือนเธอจะเริ่มจับทางได้บ้างแล้ว
พอโดนอีกฝ่ายดักได้ มารร้ายก็เริ่มสะอึก มันจึงเดินเกมในทิศทางใหม่ด้วยการก้มลงคุกเข่า พร้อมอ้อนวอน น้ำตาสีใสไหลพรากอาบสองแก้ม
“ ฮือ…..ขะ….ขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ท่านผู้เป็นตำนานของโลกมาร กรุณายกโทษให้ข้าด้วย ”
บาเรียและออร่าสีม่วงอมดำที่ห่อหุ้มกายของอากิเนะพลันหายไป พร้อมพลังที่ลดลงมาจนอยู่ในระดับปกติ สิ่งนั้นทำให้มารร้ายรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง แต่มันก็คุกเข่าอ้อนวอนต่อไป
“ ข้าสำนึกผิดแล้ว ต่อไปนี้ จะขอเป็นทาสรับใช้ ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ฝ่าดงมีด ปีนบันไดดาบ ก็จะไม่อิดออดแม้แต่ครั้งเดียว ทุกประสงค์ของนายท่านคือภารกิจของข้า ”
อากิเนะค่อยๆเดินเข้ามาหา แม้มารผมขาวมองไม่เห็น แต่มันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอย่างชัดเจน และทันทีที่เด็กสาวหยุดยืนอยู่ตรงหน้า อมนุษย์ก็แสยะยิ้ม
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสร็จข้าล่ะ เตรียมตัวตาย ”
ออร่าสีอำพันผุดขึ้นมารอบฝ่ามือมาร จากนั้น อมนุษย์ผมขาวก็ใช้สิ่งนั้นเสียบเข้าไปที่หน้าอกของอากิเนะ หวังทะลวงให้ทะลุในทีเดียว ทว่าเด็กสาวก็กะไว้แล้วว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงหยุดยั้งด้วยการคว้าข้อมือ
“ เอ๊ะ! ” มารร้ายมั่นใจว่าอากิเนะจะไม่สามารถหยุดฝ่ามือคมมีด เพราะเข้าใจว่าอีกฝ่ายคลายความระวัง แต่หารู้ไม่ว่าเด็กสาวยังแอบระแวงอยู่ จึงรับมือได้ทัน และเมื่อถูกจับไต๋ได้ มันก็ยิ้มแห้งๆ
“ ฮะ ฮะ ฮะ ข้าคะ….แค่ล้อท่านเล่นเท่านั้น ”
“ อ้อเหรอ….เข้าใจล้อเล่นนะ ” อากิเนะย้อนคำเสียงเย็น ดวงตากลมโตส่อแววหยามหยัน แต่ไม่ทันที่มารร้ายจะได้พูดอะไร หมัดลุ่นๆก็พุ่งปะทะใบหน้า
“ เปรี้ยง……”
มารร้ายปลิวไปไกลถึง 10 เมตร เพราะถูกหมัดที่ทรงพลังของอากิเนะ พออมนุษย์ลุกขึ้นมาได้ มันก็สัมผัสถึงความเจ็บปวดที่แสนสาหัส
“ อะ…อั้ก นะ…นี่มันอะไรกัน เราโดนต่อยไปแค่ทีเดียว แต่ทำไมถึงบาดเจ็บขนาดนี้ ” พอมารผมขาวพูดจบ มันก็พยายามขยับแก้มของตัวเอง เพราะไม่แน่ใจว่ากรามหักไปแล้วรึยัง
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ