The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  168.38K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

173) พลังที่แท้จริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก https://wallpaperaccess.com

 

      ลางอัปมงคลเริ่มคืบคลานเข้ามาในจิตใจของอากิเนะ เพราะพอเดาได้ว่าอมนุษย์ตรงหน้าคิดจะทำสิ่งใด ซึ่งก็คงไม่พ้นบีบคั้นเธอด้วยการทรมานท่านปู่ ผู้เป็นญาติเพียงหนึ่งเดียว 

 

“ ไม่นะ ขออย่าให้เป็นแบบนั้น ” 

      

 

       ทว่าคำภาวนาของอากิเนะไม่ใกล้เคียงกับคำว่าได้ผลเลย เพราะมารร้ายได้ตรงเข้าไปหาเทพศาสตรา พร้อมยกขาขึ้นกระทืบยอดอก 

 

“ อุ้ก….” เทพศาสตราถึงกับกระอัก ด้วยจุกเสียดจากน้ำหนักเท้าที่กดทับ 

 

“ ปล่อยนะ อย่าทำท่านปู่ แกมาลงกับชั้นดีกว่า ” น้ำตาของอากิเนะเริ่มไหลพรากอีกครั้ง ปากก็ส่งเสียงวิงวอนด้วยกระแสที่สั่นเครือ ราวกับถูกทำร้ายซะเองก็ไม่ปาน ทว่าอมนุษย์ไม่สนใจ มันหันกลับมาแสยะยิ้มให้ พร้อมตอบกลับอย่างดุเดือด 

 

“ เชอะ ข้าจะทำร้ายท่านไปทำไม ในเมื่อประสงค์ของข้าคือ….ได้สู้กับท่านในร่างที่แท้จริง ” 

       

 

       อากิเนะสับสนเหลือประมาณ ความรู้สึกด้านลบที่หลากหลายประดังเข้ามาในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นโศกเศร้า เจ็บปวด สิ้นหวัง ปิดท้ายด้วยความ…..โกรธแค้น 

 

“ กะ….แก หยุดเดี๋ยวนี้นะ ” โทสะที่รุนแรงแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ดวงตาสดใสแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวอีกวาระ แต่มารร้ายกลับเหม่อมองด้วยอาการชื่นชม พร้อมหวดชายโครงซ้ายของเทพศาสตรา 

 

“ อั้ก….” เทพศาสตรากระอักโลหิตอีกครั้ง และถ้าเดาไม่ผิด ดาเมจในการเตะครั้งนี้ น่าจะทำให้กระดูกซี่โครงหักไปหนึ่งซี่ 

 

“ บ้าที่สุด ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงเป็นเครื่องมือให้มารร้ายใช้กระตุ้นอากิเนะ แต่จะทำยังไง ในเมื่อเราหมดสภาพไปแล้ว ” เทพศาสตราได้แต่คับแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในสมองพยายามขบคิดอย่างหนัก ทว่าก็พบกับคำว่า….สิ้นหนทางอยู่ตลอด 

 

“ เป็นไงบ้าง ท่านโกรธพอรึยัง รีบเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ไม่งั้น เจ้าแก่นี่ได้ตายคาเท้าของข้าแน่ ” มารร้ายพูดจบ ก็หวดเข้าไปอีกหนึ่งดอก 

 

“ แก……” อากิเนะคำรามในลำคอ ดวงตาแลโกรธเกรี้ยว ไม่ต่างจากสัตว์ป่า ใบหน้าที่เคยสดใสบูดบึ้งอย่างรุนแรง ทำให้ดูสวยคมอีกเท่าตัว 

      

 

       มารร้ายสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังเวทที่เพิ่มพูนขึ้นมาเรื่อยๆของเด็กสาว ทำให้มันรู้สึกยินดี เพราะใกล้จะได้ประจันกับบุคคลในตำนาน จึงกระทืบลงไปที่หน้าท้องของเทพศาสตราถี่รัว เพื่อเร่งผลงาน 

 

“ อุ้ก….” คราวนี้ เทพศาสตราจุกเสียดจนพูดไม่ออก เขาได้แต่ชำเลืองไปยังหลานสาวที่นั่งตัวสั่น พร้อมอ้อนวอนอยู่ในใจ 

 

“ อากิเนะอย่าโกรธนะ ไม่ว่าปู่จะเป็นตายร้ายดียังไง ก็อย่าปล่อยเธอออกมา ” 

       

 

       แต่ไม่ว่าเทพศาสตราจะวิงวอนซักเท่าใด อากิเนะก็ไม่มีทีท่าจะคลายจากโทสะ แรงโกรธยิ่งผลักดันให้ระดับพลังของเธอพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ก็ถึงขั้นทำให้โซ่เหล็กสีดำที่พันธนาการเริ่มแตกร้าว 

 

“ แก…ปล่อยท่านปู่เดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้น ” อากิเนะพ่นคำขู่เสียงขุ่น ดวงตาแข็งกร้าวเปล่งประกายแวววาว 

        

 

       มารร้ายยินดีจนเนื้อเต้น เพราะอีกนิดเดียว ก็จะสมหวัง ปีศาจผมขาวรอคอยการต่อสู้แบบนี้มานานนับร้อยปี ด้วยที่ผ่านมา แทบไม่เคยมีอมนุษย์ตนใดมีฝีมือใกล้เคียงกับมัน 

 

“ หึ หึ หึ อีกนิดเดียวเท่านั้น แต่ว่า…ถ้าเราได้เจอท่านผู้นั้น พร้อมกับฆ่าเจ้าเฒ่านี่ไปด้วย มันคงเป็นอะไรที่ดีงามสุดๆ ดังนั้น ก่อนที่จะผจญศึกใหญ่ จงตายซะเถอะ ” มารร้ายนึกทบทวนเสร็จ มันก็ยกแขนขวาขึ้นสูง เพื่อเตรียมเสียบฝ่ามือคมมีดลงไป จุดหมายคืออกข้างซ้ายของเทพศาสตรา 

 

“ ถึงเวลาแล้วสินะ ” ปรมาจารย์ยอดนักสู้ปิดตาลง ในใจน้อมรับความตายที่กำลังย่างก้าวเข้ามา แต่ไม่ทันที่ฝ่ามือคมมีดจะเสียบทะลุอก อากิเนะก็ตะโกนใส่อย่างดุเดือด 

 

“ หยุดได้แล้ว ” 

 

“ เฮ้ย ” มารร้ายรับรู้ได้ถึงแรงลมระดับทอร์นาโด อันพัดให้ร่างบางของอมนุษย์กระเด็นไกลแบบไร้หลักยืน แต่สุดท้าย มันก็กลับมาเหยียบพื้นได้ 

 

“ นะ…นี่มันบ้าอะไรกัน เรากระเด็นได้ไง ” มารร้ายสบถดัง พร้อมหันไปมองสองปู่หลาน แต่พอประจักษ์ ก็ตื่นตระหนก 

 

“ นะ…นั่นมัน…..” 

      

 

       มารร้ายถึงกับพูดไม่ออก เพราะสิ่งที่เห็นคืออากิเนะที่กำลังลุกขึ้นยืน โซ่เหล็กดำที่ล่ามสองมือขาดกระจุยไม่เป็นชิ้นดี รอบร่างบางแผ่ซ่านไปด้วยออร่าสีม่วงอมดำ 

 

“ หึ หึ หึ นะ….นั่นนางมาแล้ว ยอดเยี่ยมที่สุด ” มารร้ายถึงกับยืนตัวสั่น สีหน้าดูอิ่มเอมแบบสุดฤทธิ์จนกระเดียดไปทางบ้าคลั่ง คล้ายพวกแฟนพันธุ์แท้ที่ชอบเกาะติดดาราดัง ส่วนเทพศาสตราที่นอนหงายสิ้นท่า ได้แต่ทอดถอนใจ เพราะไร้แม้แต่แรงจะส่งเสียง 

 

“ เฮ้อ….จบแล้ว โลก The Dark World ถูกทำลายแน่ ” 

       

 

       อากิเนะในเวอร์ชั่นใหม่เหลือบมองมารร้ายที่ยืนแสยะยิ้ม จากนั้น เธอก็กล่าวสั้นๆว่า….. 

 

“ ชั้นมาแล้ว แกต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ” 

 

“ หึ หึ หึ ใช่แล้ว นี่แหละสุดยอดปรารถนา ” มารร้ายคำรามในลำคอ แต่ไม่ทันได้พูดคำต่อไป มันก็กระเด็นไกลอีกครั้งด้วยลมประหลาด

 

“ เฮ้ย! ” มารร้ายพยายามเกร็งกาย เพื่อหยุดยั้งการปลิว และเมื่อมันเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าอากิเนะหายไปแล้ว 

 

“ เอ๊ะ! ท่านผู้นั้นหายไปไหน ” 

       

 

       ทว่ามารร้ายก็ยืนงงไม่นาน ก็สัมผัสได้ถึงไอเย็นประหลาดที่ด้านหลัง กระแสนั้นแฝงจิตสังหารอย่างเต็มเปี่ยมจนแม้แต่อมนุษย์ระดับมันยังอดสยองไม่ได้ 

 

“ นะ…นี่มันอะไรกัน ” 

      

 

       ขณะที่มารร้ายยืนตัวแข็ง เสียงที่หวานใสก็ดังแว่วมาจากด้านหลัง แต่ในเวลาเดียวกัน กระแสนั้นก็ผสมความเยือกเย็นที่แม้แต่น้ำแข็งขั้วโลกยังต้องอาย 

 

“ แกต้องการพบกับชั้นไม่ใช่เหรอ แกก็ได้พบแล้วไง ทำไมไม่รีบหันมา ” 

      

 

       มารร้ายค่อยๆหันกลับมาตามคำสั่ง จึงพบกับอากิเนะเวอร์ชั่นใหม่ แม้รูปลักษณ์จะดูไม่ต่างจากเดิม แต่เธอก็มีดวงตาที่แข็งกร้าว แถมทั่วร่างยังแผ่ออร่าสีม่วงอมดำออกมาจางๆ อันชวนให้น่าสะพรึงกลัว 

 

“ หึ หึ หึ นี่ขนาดเรารวมร่างกับไอ้มาวินจนสมบูรณ์ ทำให้พลังสูงขึ้นหลายขั้น แต่ท่านผู้นั้นยังดูเหนือล้ำกว่า เพราะแค่ยืนเฉยๆ ก็ปล่อยจิตสังหารออกมาได้ถึงเพียงนี้ ” มารร้ายมองขนแขนที่ลุกชูชัน บ่งบอกว่ามันกลัวจากใจจริง แต่ด้วยความเหี้ยมหาญของนักสู้ ผู้ผ่านสมรภูมิมาอย่างยาวนาน อมนุษย์จึงเรียกสติกลับมาได้ 

 

“ ไม่ได้ เราจะกลัวไม่ได้ ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นผู้ใด เราทำแบบนี้มาตลอดไม่ใช่เหรอ ” 

       

 

       แต่ไม่ทันที่มารร้ายจะปลุกปลอบตัวเองจนเสร็จสรรพ อากิเนะก็พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่มีใครมองทัน จากนั้นก็ปล่อยหมัดขวาใส่ใบหน้าของอมนุษย์ 

 

“ เปรี้ยง ” 

      

 

        ร่างบางของอมนุษย์กระเด็นไกลแบบไร้แรงต้าน ไม่นาน ก็ถูกหยุดด้วยต้นไม้ใหญ่ แต่แรงปะทะนั้นหนักหน่วง ส่งผลให้พฤกษาอายุกว่าร้อยปีหักโค่นในทีเดียว 

 

“ โครม…..” 

 

“ อุ้…อุก นะ….นี่มัน ความเร็วอะไรกัน เหนือกว่าเราชนิดไม่ติดฝุ่น ไหนจะพลังนั่นอีก ” มารร้ายค่อยๆยันกายลุกขึ้นยืน เรี่ยวแรงในกายหดหายไปกว่าครึ่ง ด้วยถูกแรงโจมตีที่หนักหน่วง มือขวาปาดโลหิตสีดำที่ริมฝีปาก ส่วนในใจนึกช็อค เพราะไม่เคยพ่ายแพ้ใครในด้านความเร็วมาก่อน 

        

 

       อากิเนะยังคงยืนอยู่ที่เดิม มีเพียงใบหน้าที่หันมามองมารร้าย พอเห็นว่าอริคนสำคัญยังไม่ฟุบ เธอก็เดินเข้าไปหาแบบไม่รีบร้อน 

       

 

        มารร้ายแปลกใจในพลังและความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี แต่เทพศาสตราเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน เพราะตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเห็นอากิเนะต่อยใครซักที 

 

“ นี่หลานทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ ” 

       

 

        มารร้ายได้ยืนตัวสั่น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งจนตนเองไม่อาจเทียบได้ แต่ด้วยจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อผู้ใด มันจึงข่มความกลัวของตัวเอง

 

“ ฮึ่ม…..แล้วเราจะกลัวไปทำไม อย่างมากก็แค่ตาย อีกอย่าง เราต้องการดวลกับท่านผู้นั้นไม่ใช่หรือ ”  

       

 

        ออร่าสีอำพันพวยพุ่งออกมาจากร่างบางของมารร้าย ดูไม่ต่างจากเปลวเพลิงจากเตาแก๊สขนาดใหญ่ พริบตาต่อมา อมนุษย์ก็กางฝ่ามือทั้งสองข้าง เพื่อปล่อยแสงเลเซอร์จากสิบนิ้วมือ  

      

 

       ทว่าอากิเนะก็โยกหลบได้อย่างง่ายดาย บ่งบอกถึงความเร็วที่ล้ำไปอีกระดับ ทำให้มารร้ายตื่นตระหนก 

 

“ ละ…หลบได้หมดเลยเหรอ ปะ…เป็นไปมะ…ไม่ได้ ” 

 

“ อันที่จริง ของแค่นี้ ไม่ต้องหลบก็ได้ เพราะมันช่างเป็นการโจมตีที่อ่อนแอนจนน่าสมเพช ” อากิเนะสบถคำออกมา ซึ่งเป็นวาจาที่ค้านกับนิสัยของเธอโดยสิ้นเชิง ทำให้เทพศาสตราตื่นตกใจ 

 

“ ไม่น่าเชื่อว่าอากิเนะจะพูดคำแบบนี้ออกมาได้ หรือนางคนนั้นจะตื่นโดยสมบูรณ์ ” 

      

 

       มารร้ายยอมรับว่าแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เพราะแสงนั้นจัดเป็นไม้ตายก้นหีบที่ทะลวงได้ทุกอย่าง และมันก็ใช้เผด็จศึกมาหลายสมรภูมิ จึงตะโกนท้าทาย 

 

“ เป็นไปไม่ได้หรอก ต่อให้ท่านแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่อาจหยุดพลังของข้า ที่พูดมาก็แค่ราคาคุยเท่านั้น ” 

       

 

       อากิเนะเวอร์ชั่นใหม่นิ่งตรึกตรอง ก่อนจะกล่าวท้าทาย 

 

“ งั้นเจ้าก็ยิงแสงพวกนั้นออกมา ข้าจะยืนรับทั้งหมดเอง ” 

       

 

        มารร้ายแสยะยิ้มมุมปาก เพราะตัวมันไม่ได้คิดจะยิงเวทแสงจากนิ้วมือเพียงอย่างเดียว แต่จะจัดสองเวทใหญ่ที่ถนัดเข้าไปด้วย 

 

“ เสร็จข้าล่ะ ต่อให้เป็นท่านก็ทนไม่ได้ นี่แหละนาที่เขาเรียกว่า…ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย ” มารร้ายขบคิดในใจ ก่อนจะตอบกลับไป 

 

“ งั้นเตรียมรับพลังของข้าให้ดี อย่าได้ผิดสัญญาเป็นอันขาด ” 

 

“ ฟู่…..” อากิเนะเป่าปากระบายลม ก่อนจะยกสองแขนขึ้นมาตั้งท่าป้องกัน ใบหน้าปล่อยรอยยิ้มที่ดูมั่นใจ

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา