The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
159) ระเบิดพลัง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.baltana.com
อากิเนะยืนนิ่ง เธอไม่กล้าพูดคำใดออกมา เพราะกลัวว่าวาจานั้นจะเป็นสัญญาณให้มาวินเข้าจู่โจม ในหัวพยายามคิดหาทางออก
" ทำไงดี เราจะแก้สถานการณ์ยังไง "
มาวินจ้องอากิเนะไม่วางวาย ประกายตาดูผสมระหว่างขาวขุ่นและแดงก่ำ อันชวนให้รู้สึกถึงความโหดเหี้ยมและไร้ชีวิต ไม่ถึงอึดใจ เขาก็ย่างเข้าหาเด็กสาว
อากิเนะถอยหนี เพราะนอกจากหวาดกลัวในสารรูปของนายลิง ยังมีเหตุผลอื่นให้หลีกเลี่ยงการต่อสู้
" จะโจมตีไม่ได้ พลังเวทของเรารุนแรงเกินไป อาจทำให้นายลิงถึงตาย และถ้าสิ้นชีวิตในนี้ ก็ต้องม้วยมรณาในโลกจริง "
ทว่ามาวินไม่สนใจ เขาเดินเข้าหาอากิเนะอย่างต่อเนื่อง โดยมีเงาดำลอยละล่องอยู่ด้านหลังและยิ้มเย้ยหยันเป็นระยะ ประมาณว่าสะใจที่เห็นเด็กสาวไม่มีทางเลือก
" หึ หึ หึ เป็นไปตามที่คาด ยัยกระต่ายน้อยไม่อาจลงมือ ด้วยจุดประสงค์หลักของมันก็คือดึงเจ้าหนูหัวเขียวกลับสู่โลกจริง "
เมื่อเป็นเช่นนี้ มารร้ายจึงปั่นต่อ ด้วยการแกล้งพูดเป็นเสียงของจัน
" ทะ....ทรมานเหลือเกิน มันทั้งเจ็บและหนาวสั่น อยากได้รับความยุติธรรม นายช่วยชั้นด้วย "
" ฮึ่ม.....บัดซบที่สุด ทำไมถึงต้องฆ่าจัน " มาวินคลุ้มคลั่งอีกครั้ง เขาร้องเสียงดัง พร้อมปล่อยออร่าสีดำที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิมจนดูคล้ายมีเปลวเพลิงทมิฬห่อหุ้มกาย แถมยังปรากฏไฟฟ้าสถิตแผ่ออกมาจางๆ
" เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง...."
" โห....นี่มัน....พลังอะไร ทำไมถึงรุนแรงขนาดนี้ " อากิเนะเผลออุทานด้วยความลืมตัว พอสิ้นคำ หนุ่มหัวเขียวก็พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วที่สูงจนมองไม่เห็น
" ตูม........."
เกิดการระเบิดรุนแรง ทำให้บ้านขนาดกลางพังทลายจนไม่เป็นรูปทรง พร้อมเด็กสาวร่างบางที่ปลิวไกล แต่สุดท้าย เธอก็ถลาลงสู่พื้นได้อย่างทุลักทุเล
" แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก....." เด็กสาวหอบเล็กน้อย เธอรอดมาได้ เพราะมีบาเรียทรงกลมสีทองปกคลุมร่างกาย มันคือกำแพงเวทมนตร์ที่ป้องกันได้ทุกสิ่ง ถึงกระนั้น สีหน้าก็ยังฉายแววกังวล
บรรยากาศโดยรวมดูกดดันและเงียบงัน ไฟแดงฉานเริ่มลุกไหม้เหนืออดีตบ้านแสนสุข ที่ตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง อากิเนะหยุดใช้บาเรียเวทมนตร์ชั่วคราว เพื่อประหยัดพลังงาน ดวงตาหวานซึ้งจับจ้องไปที่ความพินาศเบื้องหน้า คล้ายจะรอบางสิ่งอยู่
" เจอแค่นี้ นายลิงไม่ตายแน่ แต่ปัญหาก็คือ....จะไล่มารร้ายออกไปยังไง "
ในที่สุด สิ่งที่เด็กสาวคาดคิดก็เป็นจริง มีใครคนหนึ่งเดินออกมาจากเศษซากที่กำลังลุกไหม้ คนผู้นั้นคือมาวินที่สาวเท้าแบบไม่อนาทรร้อนใจ แม้จะมีเพลิงแดงฉานรายล้อมรอบตัว
" นั่นไง ออกมาจนได้ " อากิเนะพยายามควบคุมสติ ทั้งที่ลึกๆอยากกรีดร้องจนใจจะขาด เพื่อระบายความกดดันทั้งหลาดทั้งมวลที่ถาโถมเข้าสู่จิตใจ
มาวินเข้าใกล้เด็กสาวมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนไฟร้อนแรงก็ยังกระจายทั่วกาย น่าแปลกที่ดูไม่เจ็บปวด อาจเป็นเพราะมีออร่าสีดำคอยป้องกัน และพออยู่ในระยะ 3 ก้าว เขาก็หยุดนิ่ง พร้อมลั่นคำกร้าว
" แกต้องตาย เพราะแกบังอาจฆ่าจัน ไอ้ปีศาจ "
" เดี๋ยว หยุดก่อน ไม่ใช่นะ " อากิเนะรีบร้องห้าม แต่ไม่ทันได้พูดต่อ มาวินก็พุ่งเข้ามาจู่โจมอีกครั้ง หมัดที่ปล่อยนั้นแหวกอากาศ ก่อให้เกิดเสียงดังเสียดแทงแก้วหู
" ซูม....."
แม้อากิเนะจะร่ายคาถาเพิ่มความเร็วให้กับตัวเอง แต่เธอไม่มีทักษะการต่อสู้ใดๆ จึงไม่อาจหลบหมัดที่รวดเร็วกว่าลูกปืน เลยโต้กลับด้วยการปล่อยบาเรียเวทมนตร์
" ตูม......."
เสียงระเบิดดังสนั่น เพราะสองพลังเวทที่กล้าแข็งได้ปะทะกันอย่างหนักหน่วง ผลที่ได้ก็คือ......การกระเด็นไกลของคู่ประลอง
" เปรี้ยง....."
อากิเนะกระเด็นไปติดต้นไม้ใหญ่ขนาดสามคนโอบ ส่วนมาวินนั้นไร้สิ่งใดขวางกั้น จึงลอยไกลถึง 20 เมตร ก่อนจะไถลไปตามพื้น
" แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...." อากิเนะหอบเหนื่อย แต่พอหันไปมองต้นไม้ใหญ่ที่คอยยันกาย ก็พบว่ามันปริแตกจนเกือบหัก คล้ายถูกท่อนซูงขนาดใหญ่กระทุ้งมาหมาดๆ เลยทำให้เธอได้คิด
" โห.....นี่มันอะไร ขนาดเราใช้กำแพงทองป้องกัน (ชื่อของบาเรียเวทมนตร์) ยังเอาแทบไม่อยู่ ดูเหมือนมาวินในตอนนี้จะมีพลังมากกว่ามารร้ายที่อยู่ข้างนอกอีกนะเนี่ย "
" หื หึ หึ....." เสียงหัวเราะแหบๆที่คุ้นหูดังแว่วเข้ามา ทำให้อากิเนะต้องหันไปมอง จึงพบว่ากระแสนั้นมาจากมาวินที่ยังนอนเอกเขนก เลยตะโกนถาม เพื่อให้อีกฝ่ายแถลงไข
" นายลิงหัวเราะอะไร ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป เธอรีบคืนสติซักที "
แต่หนุ่มสันทัดหัวเขียวกลับไม่ยี่หระต่อเสียงเรียก เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ทั่วร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าบิดเบี้ยวแบบแปลกๆ อันดูละม้ายคล้ายมารร้ายที่อยู่โลกข้างนอก ทำให้อากิเนะถึงกับสะอึก เพราะได้เห็นสารรูปที่ดูไม่จืด
" เอ๊ะ นายลิงเปลี่ยนไป มันดูไม่ต่างจากมารร้ายตัวนั้นเลย หรือว่าเราจะสายไปจริงๆ "
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า......ถูกต้องแล้ว ในตอนนี้ ข้าได้รวมตัวกับจิตของเจ้าหนูได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องขอบคุณแกที่เข้ามาในโลกแห่งจิตใจ เพื่อตอกย้ำให้วิญญาณของมันทนทุกข์ เลยครอบงำได้ง่ายกว่าเดิม " มารร้ายในคราบมาวินหัวเราะดัง พร้อมกล่าวขอบคุณที่เด็กสาวช่วยให้มันรุดหน้า
อากิเนะเจ็บใจเป็นที่สุด เพราะจุดประสงค์ที่เสี่ยงเข้ามาในโลกแห่งจิตใจก็คือ......พามาวินกลับไป จะได้หลุดพ้นจากการครอบงำ แต่ที่ไหนๆได้ ตัวเองกลับเป็นฝ่ายกระตุ้นให้หนุ่มหัวเขียวดำดิ่งสู่ด้านมืด เป็นเหตุให้ปีศาจร้ายยึดร่างโดยสมบูรณ์ และเมื่อถึงจุดแตกหัก เด็กสาวก็เริ่มสติหลุด
" กร็อด.....ในเมื่อพานายลิงกลับไปไม่ได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ปิดกั้นพลัง เราจะกำจัดเจ้าซะตรงนี้ ไอ้มารร้าย "
พออากิเนะพูดจบ เธอก็ปล่อยพลังเวทออกมาทั้งหมด ออร่าสีทองแผ่กระจายออกมาจากร่างอรชรดวงตากลมโตที่หวานซึ้งแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบและล้ำลึก ไม่นาน กระแสพลังก็เปล่งประกายสดใส ไม่ต่างจากเพชรหลากสีที่ต้องแสงไฟ
" ครืน......." เกิดเสียงฟ้าคำราม แม้กระทั่งแผ่นดินก็เริ่มสั่นไหว ดูราวกับโลกจะแตกสลาย แต่มารร้ายในคราบมาวินกลับแสยะยิ้ม
" หึ หึ หึ พลังเวทของเจ้ากล้าแข็งมากถึงขนาดทำให้โลกแห่งจิตใจสั่นสะเทือน แต่ข้าในยามที่สมบูรณ์เต็มร้อยก็ไม่ธรรมดา ฮ้า......." มารร้ายร้องตะโกน กระแสเสียงนั้นก้องไปรอบด้าน แถมยังดังไม่ต่างจากโทรโข่งซักสิบล้านตัว แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า กลับเป็นออร่าสีดำเข้มข้นและสายลมแรงที่พัดกระพือรอบกาย
" คลืน.....เปรี้ยง....."
ฟ้าแลบแปล๊บๆอย่างไม่หยุดหย่อน นภาสดใสแปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม ปฐพีสั่นสะเทือนประมาณว่าถูกแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เข้าจู่โจม ทุกอย่างดูบ้าคลั่ง มีเพียงอากิเนะและมารร้ายที่แลสงบ
สองคู่ประลองจ้องหน้ากัน เพราะรู้ดีว่าถ้าใครคลาดสายตา ก็คงไม่แคล้วจากความตาย แต่แล้ว อากิเนะก็เป็นฝ่ายโชคร้าย เพราะมีใบไม้ปลิวลงมาปิดดวงตาขวา
" เสร็จข้าล่ะ " มารร้ายคำรามดัง ก่อนพุ่งเข้าไปต่อยสุดแรง หวังทะลวงอกของอีกฝ่าย แต่กำปั้นนั้นกลับพุ่งผ่านร่างของเด็กสาว ราวกับอากิเนะเป็นเพียงอากาศธาตุที่ไร้ตัวตน
" ตูม......" พื้นดินแตกกระจุยเป็นหลุมลึกประมาณ 1 คนนอน เพราะโดนแรงอัดจากกำปั้นของปีศาจ แต่มารร้ายยังหวาดวิตก ด้วยศัตรูสุดฉกาจยังคงอยู่
เงาร่างที่เหลืออยู่ของอากิเนะค่อยๆเลือนรางและหายไป ทำให้มารร้ายต้องหันซ้ายแลขวา เพื่อมองหา
" เฮ้ย นังเด็กนั่นหายไปไหน ข้าจับคลื่นพลังของมันไม่ได้เลย "
มารร้ายนึกแปลกใจที่จับสัมผัสของอากิเนะไม่ได้ ทั้งที่ตัวเด็กสาวแผ่พลังวิญญาณออกมามากขนาดนั้น มันดูราวกับว่าเธอได้สูญสลายไปจากโลกแห่งจิตใจเป็นการถาวร ระหว่างที่อมนุษย์จนปัญญา ก็ปรากฏเสียงหวานใสที่ด้านขวา
" ว่าไง เจ้าหาเราอยู่เหรอ "
มารร้ายรีบหันขวับไปยังทิศทางที่เกิดเสียง เพียงชั่วพริบตาที่เห็นเป็นอากิเนะ มันก็ยิงพลังเวทใส่
" พินาศ "
ลำแสงสีดำพุ่งออกจากฝ่ามือ พร้อมวิ่งเข้าใส่อากิเนะด้วยความเร็วที่สูงกว่าเสียง แต่พอกระทบเป้าหมาย กลับทะลุร่างของเด็กสาวไปอย่างง่ายดาย คล้ายแล่นผ่านมวลหมู่อากาศที่ว่างเปล่า
" ตูม........"
เสียงระเบิดกัมปนาทดังขึ้นมาอีกครั้ง พื้นดินสั่นสะเทือน เสมือนถูกมือยักษ์ที่มองไม่เห็นคอยเขย่า และผลจากพลังเวทที่รุนแรงก็คือฝุ่นควันที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ พอเขม่าดำถูกสายลมพัดกระจาย ก็เผยให้เห็นหลุมลึกขนาดรถสิบล้อ แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ....เด็กสาว ผู้ยืนอยู่ข้างหลุม
" เฮ้ย เป็นไปได้ไง พลังเวทของข้าพุ่งผ่านเจ้าไปอีกแล้ว " มารร้ายกัดฟันแน่น มันยอมรับว่าเริ่มหัวเสียนิดๆ แต่อากิเนะกลับส่งยิ้มเยือกเย็นให้ จากนั้นก็เลือนหายไป
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ