The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
9.7
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
174 LV
22 วิจารณ์
166.63K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
157) เล่ห์รักปีศาจร้าย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.nawpic.com
พอจันเห็นอากิเนะยื่นมือออกมา ก็ยิ้มมุมปาก ดวงตาวาวโรจน์ประดุจแสงเพลิงที่ปะทุในกองไฟ ไม่ถึงอึดใจ เธอก็เตรียมจะจับมือบาง
" หึ หึ หึ ขอให้เธอสมหวังนะ อากิเนะ "
แต่ก่อนที่ทั้งสองจะได้สัมผัสกัน อากิเนะก็เป็นฝ่ายชักมือกลับอย่างฉับพลัน ทำให้จันลุแก่โทสะจนตวาดใส่เสียงดัง
" ชักมือกลับทำไม ยัยกระต่ายน้อย เธอไม่อยากให้ฝันเป็นจริงเหรอ "
แม้เสียงของจันจะแข็งกร้าวและดุดันจนห่างไกลจากคำว่ามนุษย์ แต่อากิเนะกลับไม่แสดงอาการหวาดกลัวออกมา ใบหน้าสงบนิ่ง ส่วนดวงตาก็จับจ้องสาวร่างสูงอยู่ตลอด เพื่อจับอากัปกิริยาของอีกฝ่าย ไม่นาน ก็สวนกลับด้วยคำถาม
" ก่อนจะจับมือกัน เรามีสิ่งที่อยากจะถามคุณจัน "
" ว่ามา " จันตอบห้วนๆ อันบ่งบอกถึงอารมณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดี
อากิเนะประสานมือ แล้วนำมาเท้าคาง จากนั้นก็ชะโงกหน้าเล็กน้อย ดวงตาหรี่ต่ำเป็นเชิงตรึกตรอง ปิดท้ายด้วยการเปิดประเด็นที่ยังติดใจ
" ข้อที่ 1 ถ้าที่นี่เป็นโลกจริง แล้วจะทำให้เราสมหวังได้อย่างไร ในเมื่อคุณจันเป็นแค่คนธรรมดา "
จันสะอึกเล็กน้อย เธอไม่นึกว่าเด็กสาวตรงหน้าจะมีสติยั้งคิดถึงประเด็นนี้ เพราะส่วนใหญ่ที่ประสบมา ก็มีแต่คนที่รีบรับข้อเสนอในทันที โดยไม่มีการไตร่ตรอง แต่ด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับ จึงจำต้องเถให้ถึงที่สุด
" แล้วอากิเนะรู้ได้ยังไงว่าชั้นเป็นคนธรรมดา ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ ยังไงซะก็ขอให้เชื่อมั่นว่าชั้นอยากช่วยจริงๆ " จันพูดจบ ก็ยื่นมือออกมา เพื่อชักชวนให้อีกฝ่ายมาสัมผัส แต่เด็กสาวยังคงใจแข็ง เพื่อส่งคำถามที่สอง
" งั้นข้อสอง คุณจันรู้ชื่อจริงของเราได้อย่างไร ไหนจะล่วงรู้ถึงชีวิตส่วนตัวของเราอีก "
" ก็ขอตอบแบบข้อแรกว่าชั้นมีพลังพิเศษบางอย่าง และต้องการให้คนดีๆอย่างเธอประสบแต่ความสุข " จันยิ้มอบอุ่น แต่นัยน์ตากลับแฝงแววฆ่าฟัน ประมาณจะบอกว่า.....เมื่อไหร่จะจับมือซักทียะ ลีลาเกินไปแล้ว
ท่าทีของอากิเนะดูผ่อนคลายลง มือบางเริ่มสั่นเล็กน้อย เป็นนัยว่าลังเลใจ ทว่าเด็กสาวยังคงแข็งขืน แล้วตามติดด้วยประเด็นสุดท้าย
" ข้อสุดท้าย จากที่รู้มา คุณจันกับนายลิง เอ๊ะ มาวินนั้นรักกันมาก แล้วคุณจันจะยกนายหัวเขียวให้เราได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งสุดๆ "
คำถามนี้นับเป็นไม้เด็ดที่ทำให้จันแอะไม่ออก เพราะคงไม่มีคนสติดีที่ไหนจะยกคนรักของตัวเองให้ผู้อื่น ท่าทางอ้ำอึ้งดังกล่าว ทำให้อากิเนะมั่นใจอีกเท่าตัว
" ตกลง จะว่ายังไง ถ้าตอบไม่ได้ ก็ไม่น่าใช่คุณจันตัวจริง คำถามต่อมาก็คือ......เธอเป็นใคร " อากิเนะพูดถึงตรงนี้ ก็กำมือขวาแน่น ดวงตากลมโตที่มองมายังจันดูกร้าวแกร่งและมุ่งมั่นอย่างประหลาด แต่ที่น่าพิศวงมากกว่านั้นคือ.....ออร่าสีขาวที่แผ่ออกมารอบกายบาง สิ่งนั้นคือพลังวิญญาณที่แรงกล้าจนถึงขั้นมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
" เฮ้ย.....เดี๋ยวก่อน ใจเย็นๆ อากิเนะ คุยกันก่อน " จันรีบร้องห้าม สีหน้าดูลนลานและร้อนรน คล้ายคนที่มีความผิดติดตัว แต่ไม่ทันพูดจบ อากิเนะก็ยกฝ่ามือขวาขึ้นสูง แล้วฟาดลงมาที่สาวร่างสูง พร้อมปล่อยคาถาเด็ด
" จงเปล่งแสงสว่างออกมา แล้วมุ่งตรงไปยังสิ่งชั่วร้าย "
ลำแสงรูปลูกศรจำนวนสามดอกพุ่งออกมาจากมือขวา แล้ววิ่งมาปักกายของจัน ทำให้ร่างสูงเพรียวกระเด็นไปชนกำแพง
" โครม....."
สิ่งที่เกิดเบื้องหน้า ยิ่งทำให้อากิเนะมั่นใจมากขึ้น เพราะคาถาที่เพิ่งใช้คือ....ศรแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีผลต่อสิ่งชั่วร้ายเท่านั้น เธอจึงตะโกนดัง
" ทีนี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าเป็นใคร แสดงตัวออกมาเลย มารร้าย " อากิเนะมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือมารร้ายที่อาละวาดในโลกข้างนอก มันเองก็ถอดจิตเข้ามาในโลกแห่งจิตใจเช่นกัน
จันหรือสิ่งที่เหมือนจันค่อยๆลุกขึ้นยืน โดยปัดเศษซากกำแพงที่ถล่มลงมาทับกาย มุมปากยังคงแสยะยิ้ม แม้ทั่วร่างจะชุ่มโชกไปด้วยเลือด
" หึ หึ หึ ไม่เลวนี่ นังหนู ในที่สุด ก็รู้จนได้ว่าข้าคือใคร "
" ก็เกือบจะเสียรู้เหมือนกัน ว่าแต่เจ้าเข้ามาในโลกแห่งจิตใจได้ด้วยหรือ " อากิเนะถ่อมตัวและถามกลับ ในใจนึกหวาดหวั่น เพราะมารตนนี้มีฤทธิ์ไม่ใช่เล่น อันผิดกับวิญญาณบาปทั้งหลายที่เคยเผชิญ
" หึ หึ หึ เข้ามาได้สิ เพราะข้าและเจ้าหนูหัวเขียวนั้นหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันไปแล้ว " มารร้ายหัวเราะร่า พร้อมปาดเลือดแดงสดที่อาบสองแก้มขึ้นมาเลีย อันเป็นภาพที่ชวนสยองอยู่ในที
" เอ๊ะ งั้นก็หมายความว่าเจ้าได้เข้าสิงนายลิงมานานแล้ว " อากิเนะเริ่มเอะใจ เพราะการที่วิญญาณนอกจะหลอมรวมกับวิญญาณเจ้าของร่างได้ ต้องแฝงกายอยู่นานพอสมควร
" อืม....จะว่าไป ก็นานจริงๆ เพราะข้าอยู่ในร่างนี้มาตั้งแต่มันเกิดนั่นแหละ " มารร้ายตอบด้วยเสียงที่แข็งขึ้น พร้อมจ้องเด็กสาวตาเขม็ง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ทว่าอากิเนะไม่กลัว กลับมีแต่ความสงสัยอยู่ในใจ
" ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมถึงไม่ยึดร่างของนายลิงเป็นการถาวรล่ะ มารร้ายระดับเจ้าสามารถทำได้อย่างสบายอยู่แล้ว "
ถึงตรงนี้ มารร้ายดูกระสับกระส่ายเล็กน้อย ไม่นาน มันก็ตวาดกลับอย่างดุเดือด ท่าทางเหมือนคนที่กลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่
" หนวกหูน่า ใช่ว่าข้าไม่อยากยึดร่างนี้ แต่......"
" แต่เจ้าทำไม่ได้ ใช่มั้ยล่ะ " อากิเนะต่อให้จนจบ ซึ่งก็เป็นความจริงทุกประการ เพราะมารร้ายเริ่มสงบปากสงบคำ ใบหน้าแลกระด้างและบูดเบี้ยว
อากิเนะรอให้มารร้ายพูดต่อ แต่มันเอาแต่นิ่งเงียบ สุดท้าย เด็กสาวก็เป็นฝ่ายเปิดปากเสียเอง
" แล้วทำไม ถึงทำไม่ได้ เพราะไม่ว่ามองมุมไหน เจ้าก็เป็นมารร้ายชั้นสูงที่บำเพ็ญเพียรมาอย่างยาวนาน การกดจิตของมนุษย์เพียงคนเดียว น่าจะเป็นเรื่องง่าย "
มารร้ายยังคงนิ่ง สีหน้าดูปั้นยาก เพราะตัวมันเองก็นึกสงสัยเหมือนกัน ด้วยพยายามสะกดจิตของมาวินอยู่หลายปี จะได้ยึดร่างนี้โดยสมบูรณ์ แต่ไม่ว่าทำยังไง ก็ประสบแต่ความล้มเหลว สุดท้าย ก็เกือบครอบงำได้สำเร็จในตอนที่นายลิงพ่ายแพ้จนเสียศูนย์ ทว่านั่นก็ยิ่งทำให้อมนุษย์มุมานะมากกว่าเดิม
" อึ่ม....ยอมไม่ได้ อีกนิดเดียว ก็เกือบจะยึดร่างนี้ได้แล้ว จะให้แกดึงมาวินกลับไปไม่ได้ มันต้องถูกฝังอยู่ในโลกแห่งจิตใจตลอดกาล "
" แล้วจะทำยังไง เพราะในโลกแห่งนี้ไม่สามารถใช้พลังกายได้ ต้องสู้กันด้วยจิตเท่านั้น ซึ่งเจ้าสู้เราไม่ได้ " อากิเนะพูดจบ ก็แผ่ออร่าสีขาวออกมาอีก คราวนี้ คลื่นของมันดูเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม แถมยังมีประกายไฟแลบออกมาเป็นระยะ บ่งบอกถึงพลังจิตที่กล้าแกร่งเกินมนุษย์
" หึ หึ หึ ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง ข้าในสภาพนี้มีพลังจิตด้อยกว่าเจ้า สู้ยังไงก็คงแพ้อยู่ดี แต่.......ถ้าเรื่องปัญญาและความเจ้าเล่ห์ ข้าไม่เป็นสองรองใครแน่ " มารร้ายในคราบจันแสยะยิ้มนิดนึง ดวงตาคมเปล่งประกายแวววาว
ถึงตรงนี้ อากิเนะตามไม่ทัน เพราะพื้นฐานเป็นคนซื่อ ดังนั้นเรื่องชิงไหวชิงพริบจึงเป็นสิ่งที่เธอไม่ค่อยถนัด แต่ไม่ถึงอึดใจ เด็กสาวก็รู้ซึ้งถึงคำตอบ
" อ้าว.....เกิดอะไรขึ้น ทำไมบ้านถึงยับเยินแบบนี้ "
เสียงทักที่เล็กแหลมนั้นดูคุ้นหู มันเป็นของมาวินที่เดินตรงเข้ามาด้วยกางเกงบอลตัวเดียว เพราะกำลังติดพันอยู่กับการอาบน้ำ และทันทีที่เห็นจันโชกเลือด เขาก็ร้องเสียงหลง
" เฮ้ย จันเป็นอะไร ใครทำเธอ "
จันหันมายิ้มเย้ยใส่อากิเนะแวบนึง ก่อนแสร้งล้มตัวลงนอน แล้วร้องโอยด้วยกระแสเสียงที่ฟ้องถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
" โอย.....เจ็บจะตายอยู่แล้ว ช่วยด้วย นายวิน ชั้นถูกทำร้าย "
มาวินรีบวิ่งเข้ามาประคองภรรยาสาวหน้าคมที่นอนอาบเลือด จากนั้นก็ร้องถามละล่ำละลัก
" เป็นแบบนี้ได้ไง ใครทำเธอ "
จันยังไม่ตอบทันที ดวงตาที่เหม่อมองมายังมาวินเริ่มฉายประกายอ่อนโยน ไม่นาน มือบางก็เอื้อมมาสัมผัสใบหน้าของแฟนหนุ่ม พร้อมยิ้มจางๆแบบคนที่ใกล้สิ้นลม
" อย่าสะ....เสียใจไปเลย นะ....นายวิน ชะชั้นไม่เป็นอะไร "
มาวินรู้สึกเจ็บปวดเหลือประมาณ เพราะเห็นหญิงคนรักเจ็บปวดเจียนตาย เขารู้ดีว่ายอดดวงใจน่าจะสิ้นชีวิตในไม่ช้า สิ่งที่ตามมาในสำนึกก็คือ.....ความแค้น จึงกัดฟันกรอดใหญ่ แล้วเค้นคำเสียงขุ่น
" กร็อด.....ใครเป็นคนทำร้ายเธอ บอกชั้นมา "
" ยะ....อย่าหะ...ให้ชั้นบอกเลย พะ...เพราะนายจะไปทำร้ายคนผู้นั้น จะ...จงอย่าลืม วะ....เวรย่อมระงับด้วยการจองเวร เฮ้ย ไม่ใช่ ระงับด้วยการไม่จองเวร " จันตัวปลอมแกล้งทำเป็นคนดี (แต่ไม่เนียนนัก) กระแสเสียงที่ร้องห้ามดูขาดห้วง คล้ายคนใกล้ตายอยู่หลายส่วนจนน่ามอบรางวัลตุ๊กตาทองให้หนึ่งชุดใหญ่
" ไม่ได้ เลือดต้องล้างด้วยเลือด " มาวินตะโกนกร้าว คิ้วขมวดนิ่ว ใบหน้าของเขาในยามนี้ แลไม่ต่างจากรูปปั้นยักษ์ในวัดญี่ปุ่น
แม้อากิเนะจะเป็นคนซื่อ แต่ก็พอเดาออกว่ามารร้ายในคราบจันจะเดินเกมยังไง ซึ่งก็คงไม่พ้นแกล้งตาย เพื่อปั่นให้มาวินเล่นงาน และคนที่ซวยแน่ๆก็คือ....เธอ เพราะรู้ดีว่านายลิงผู้นี้เป็นคนจริงกว่าที่เห็นภายนอก
" ทำไงดีนะ หรือว่าเราจะต้องสู้กับนายลิง "
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ