The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
146) เด็กสาวผู้มาใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://wallpapercave.com
เทพศาสตราถึงกับผงะถอยหลัง เพราะมีคลื่นลมแรงพุ่งกระทบกาย ทว่าใบหน้าของชายชรายังคงสงบนิ่ง
มาวินด้านมืดแสยะยิ้มชั่วร้าย ดวงตาแดงก่ำพุ่งเป้ามาที่เทพศาสตราไม่วางวาย ประดุจหมาป่ากระหายเลือดที่จ้องตะครุบเหยื่อ ชั่วพริบตา ร่างของเด็กหนุ่มก็หายไป
“ เอ๊ะ! เจ้ามารร้ายหายไปแล้ว ” คิ้วเรียวของเทพศาสตรากระตุกเล็กน้อย วินาทีต่อมา ชายชราร่างสูงก็รู้สึกถึงความดำมืดที่ด้านหลัง เขาเลยหันกลับมายกท่อนไม้ขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ ซึ่งประจวบเหมาะกับสันมือที่ฟาดลงมา
“ เปรี้ยง ”
เสียงปะทะดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ พร้อมการกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวของเทพศาสตรา ชายชราร่างสูงเซเล็กน้อย ก่อนตั้งหลักได้อย่างมั่นคงในเวลาต่อมา
ทันทีที่โจมตีพลาด มาวินด้านมืดดูจะอึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเยือกเย็น พร้อมกล่าวชมเชย
“ โอ้โห.......สำหรับมนุษย์ธรรมดา ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว เจ้าฝึกฝนจนสามารถข้ามขีดจำกัดของเผ่าพันธุ์ ทำเอาข้าทึ่งเลยนะเนี่ย เหอ เหอ เหอ ”
เหงื่อของเทพศาสตราหลั่งไหลออกมา เพราะถึงเขาจะเป็นนักสู้ระดับปรมาจารย์ที่ฝึกฝนมาอย่างยาวนาน แต่ก็ดูไม่ออกว่าการโจมตีเมื่อครู่คืออะไร
“ มันหายตัวได้ยังไง จะว่าเป็นเวทมนตร์ เราก็ไม่เห็นพลังวิญญาณ จะว่าเป็นพลังยุทธ์ก็ไม่น่าจะใช่ มันใช้วิธีอะไร ” เทพศาสตรานิ่งตรึกตรอง คิ้วขาวที่เรียวยาวเริ่มขมวดนิ่ว
“ เหอ เหอ เหอ ไม่ใช่ทั้งเวทมนตร์หรือออร่า แต่เป็นการเคลื่อนไหวธรรมดาต่างหาก ” มาวินด้านมืดตอบในสิ่งที่เทพศาสตราคิด พร้อมหัวเราะห้าวๆ ท่าทางโหดเหี้ยม
“ อืม……ถ้านั่นเป็นแค่การเคลื่อนไหวธรรมดา เจ้าก็ไม่ใช่มารทั่วไป ” ท่วงท่าของเทพศาสตรายังดูสุขุม เขาไม่แปลกใจที่มาวินด้านมืดอ่านความคิดได้ เพราะความสามารถเหล่านี้นับเป็นเรื่องปกติของหมู่มาร
“ หึๆ ก็อาจจะใช่ ” มาวินด้านมืดยิ้มน้อยๆ
เทพศาสตราเริ่มตั้งท่าต่อสู้ ท่อนไม้ถูกยกขึ้นสูงในระดับใบหน้า กายย่อต่ำลงเล็กน้อย ด้วยท่วงท่าที่รัดกุมและบุคลิกที่สุขุม ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนเขาคือกำแพงเหล็กที่ไม่มีทางถูกทำลาย ทว่ามาวินด้านมืดก็เป็นถึงมารร้ายระดับมหากาฬ จึงไม่อาจคาดเดาผลของการต่อสู้ อึดใจต่อมา เด็กหนุ่มก็หายวับไปอีก
เทพศาสตราหลับตานิ่ง เขารวบรวมสมาธิ เพื่อจับความรู้สึก ไม่นาน ก็รับรู้ถึงดวงจิตที่กล้าแข็ง มันกำลังพุ่งมาทางซ้ายมือ ปรมาจารย์เฒ่าจึงกู่ก้องร้องตะโกน แล้วปลดปล่อยกระบวนท่าเด็ดไปยังจุดที่สัมผัส
“ พันเข็มทิ่มแทง ”
“ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ” เสียงปะทะจากพายุดาบไม้ของเทพศาสตราดังถี่รัว พร้อมเสียงโหยหวนของมารร้าย
“ อ้าก…..”
สิ้นเสียงร้องที่ลากยาว มาวินด้านมืดก็ปรากฏกาย เขากระเด็นถอยหลังไปหลายตลบ ก่อนจะไถลไถเถือกไปกับพื้นอีกสามเมตร แล้วนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง อาการคล้ายจะสิ้นชีวาในบัดดล
เทพศาสตรายังคงตั้งกระบวนท่าต่อสู้อย่างรัดกุม แม้พันเข็มทิ่มแทงจะถูกมารร้ายแบบเต็มๆ แต่เขาก็ไม่ประมาท
“ แค่นี้ไม่น่าล้มมารร้ายตนนี้ได้ เดี๋ยวมันก็ลุกขึ้นมาอีก ”
ในที่สุด สิ่งที่เทพศาสตราคิดก็เป็นจริง มาวินด้านมืดค่อยยกสองขาขึ้นสูง แล้วสปริงตัวลุกขึ้นมานั่งชันเข่า ดูเหมือนว่าการโจมตีเมื่อครู่ จะไม่สามารถทำให้มันบาดเจ็บ ทว่าสีหน้าของมารร้ายกลับดูโกรธเกรี้ยว
“ ไอ้แก่ เจ้าเป็นแค่มนุษย์ แต่กลับหยามหมิ่นข้าถึงหลายครั้ง คราวนี้ แกตายแน่ ”
พอมารร้ายพูดจบ ร่างของมันก็หายลับไปอีกครั้ง จิตชั่วร้ายที่เทพศาสตราจับได้คือทางขวา แต่ในจังหวะที่ชายชราเตรียมปล่อยกระบวนท่าเด็ดเข้าต้านทาน สิ่งที่พุ่งมากลับเป็นบอลพลังงานสีดำ
“ เฮ้ย! ” ชายชราอุทานดัง ด้วยความที่บอลพลังงานพุ่งเข้ามาในระยะประชิด เลยหลบไม่ทัน จึงยกท่อนไม้ขึ้นป้องกัน ทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่
“ ตูม...... ”
เทพศาสตราถึงกับลอยถลาไปกลางอากาศ ทว่าเขาก็ม้วนตัวกลับลงมายืนสองเท้าได้อย่างรวดเร็ว ดวงตาแหลมคมจับจ้องมารร้าย ซึ่งกำลังยืนแสยะยิ้มอยู่ไม่ห่าง
“ เหอ เหอ เหอ สุดท้าย แกก็ยังรอดได้อีก แต่ดูเหมือนว่าอาวุธคู่ใจจะไปก่อนแล้ว ” มารร้ายกล่าวเบาๆ กระแสเสียงแหบห้าวและดังกังวาน
จริงตามคำกล่าว มนต์ดำที่มาวินด้านมืดยิงใส่ ส่งผลให้ท่อนไม้ยาว ซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจถึงกับเเห้งกรอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็สลายคามือ ทว่าเทพศาสตราก็ยังคงนิ่ง ท่าทางเยือกเย็นดุจเดิม
“ เหอ เหอ เหอ ขนาดโดนไม้นี้เข้าไป ก็ยังเก็บอาการได้ เยี่ยมมาก ในบรรดามนุษย์ทุกคนที่ข้าเคยประมือ เจ้าน่าจะเก่งที่สุด ถึงกระนั้น ถ้าโดนมนต์บทนี้เข้าไปเต็มๆ เจ้าก็ต้องตาย ” พอมาวินด้านมืดพูดจบ บอลพลังงานสีดำก็ผุดขึ้นมาจากฝ่ามือขวา
เทพศาสตรารู้ทันทีว่าสิ่งที่มาวินด้านมืดพูด ไม่เกินเลยจากความจริง เพราะเวทเมเทโอเป็นมนต์ดำที่ทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องสูญสลาย ต่อให้เขามีพลังยุทธ์มากแค่ไหน ก็ไม่อาจต้านทาน แต่ไม่ทันจะได้คิดแผนการ บอลพลังงานสีดำก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
“ ตูม ”
เสียงระเบิดดังสนั่น แน่นอนว่าเทพศาสตรายังคงพริ้วหลบอย่างง่ายดาย ทว่าสิ่งที่ทำให้ชายชราร่างสูงตกใจ หาใช่บอลพลังงาน แต่เป็นการหายไปของมารร้าย
“ มันหายตัวไปอีกแล้ว เผลอละสายตาไปนิดเดียวเอง ” เทพศาสตรานิ่งคิด พร้อมแผ่จิตออกไปจับตำแหน่งของมารร้าย แต่ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะบอลพลังงานกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาจากทางด้านหลัง
“ อึบ...... ” เทพศาสตราฉากหลบไปทางซ้ายโดยไม่มอง ทำให้หลบได้อย่างหวุดหวิด นับว่าเป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่ว่องไว สมกับเป็นยอดยุทธ์อันดับหนึ่ง
“ ตูม ”
เสียงระเบิดจากเวทมนตร์ดำยามกระทบพื้นดังสนั่นอีกครั้ง ชายชราร่างสูงค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งชันเข่าและพยายามแผ่จิต เพื่อจับทิศทางของมารร้าย แต่มันกับปรากฏกายตรงหน้าของเทพศาสตรา พร้อมใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม
“ เหอ เหอ เหอ คราวนี้ถึงกับล้มลุกคลุกคลานเลยเหรอ อีกนิดเดียว เจ้าก็จะเน่าด้วยเวทมนตร์ของข้าแล้ว ”
เทพศาสตราไม่ยอมคลาดสายตาจากมารร้าย เพราะรู้ดีว่าถ้าพลั้งเผลอเพียงนิดเดียว อาจสิ้นลมหายใจ ด้วยมารร้ายตนนี้มีการเคลื่อนไหวที่เร็วมากจนมองตามไม่ทัน
“ เหอ เหอ เหอ ถึงเจ้าจะหลบได้ แต่อย่าคิดนะว่าการโจมตีของข้าจะมีเพียงเท่านี้ ที่ผ่านมา มันแค่อุ่นเครื่องเท่านั้น ” มารร้ายคำรามดัง พร้อมปล่อยบอลพลังงานนับสิบออกมาลอยรอบกาย
คิ้วเรียวของเทพศาสตรากระตุก สีหน้าดูตึงเครียด ไม่สงบเยือกเย็นดุจเดิม เพราะรู้ดีว่ามารร้ายเริ่มเอาจริง การโจมตีครั้งต่อไปย่อมจะรุนแรงมากกว่าเดิมเป็นเท่าทวี และมันก็จริงตามคาด บอลพลังงานนับสิบพุ่งเข้าใส่ชายชราร่างสูงอย่างฉับพลัน
“ ย่ะ ” เทพศาสตราพลิกหลบบอลพลังงานที่พุ่งเข้าใส่ได้อย่างหวุดหวิด และเมื่อกระโดดหลบมนต์ดำลูกสุดท้าย เขาก็สัมผัสถึงบางสิ่งที่แสนชั่วช้า มันอยู่ทางด้านซ้าย
“ เอ๊ะ! ” ชายชราร่างสูงหันไปมอง เขาก็พบกับมาวินด้านมืด ที่บัดนี้กำลังลอยตัวอยู่ทางซ้าย พร้อมกับง้างกำปั้นที่ห่อหุ้มไปด้วยออร่าสีดำ
“ ตายซะ เจ้าแก่ ” มาวินด้านมืดตวาดลั่น พร้อมปล่อยหมัดขวาใส่เทพศาสตรา ทว่าปรมาจารย์ร่างสูงยังคงไวพอจะยกสองแขนขึ้นมาป้องกัน
“ เปรี้ยง ”
เสียงระเบิดดังสะท้าน พร้อมแสงสว่างที่แผดจ้าออกมาแวบหนึ่ง ร่างสูงเพรียวของชายชรากระเด็นไกล จากนั้นก็ไถลไปกับพื้นอีกหลายเมตร นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่แผ่นหลังของเทพศาสตราสัมผัสผืนดิน
เทพศาสตรารีบลุกขึ้นมานั่งชันเข่า เขาพยายามจับความรู้สึกของมารร้าย เพื่อเตรียมตั้งรับ ทว่ากลับสัมผัสจิตชั่วร้ายได้ถึงสี่จุด
“ เอ๊ะ! นี่มันอะไรกัน มันไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเหรอ ” เทพศาสตราอุทานดัง วินาทีต่อมา ชายชราก็ประจักษ์ว่ามีมาวินด้านมืดถึงสี่ตน พวกมันรายล้อมรอบตัว แล้วกู่ร้องพร้อมกัน
“ เหอ เหอ เหอ เจ้าแก่ เตรียมตัวตายได้แล้ว รับไป…….เมเทโอจตุรทิศ ”
สี่มาวินด้านมืดปล่อยบอลพลังงานหลายสิบลูกใส่เทพศาสตราที่อยู่ตรงกลาง ดูเหมือนว่าจะไม่มีช่องทางให้ชายชราร่างสูงหลบหนี
“ กร็อด..... ” เทพศาสตรากัดฟันกรอดใหญ่ อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้แสดงความรู้สึก ด้วยถูกบอลพลังงานปิดล้อมจนไม่มีทางถอย แต่ก่อนมนต์ดำจะเข้าถึงตัว ก็ปรากฏแสงสว่างสีขาวที่ข้างกาย
“ ตูม ตูม ตูม………”
เสียงระเบิดหลายสิบลูกคำรามดังจนปฐพีแถวนั้นสั่นสะเทือน คล้ายเกิดแผ่นดินไหวห่าใหญ่ โดยมีสี่มาวินด้านมืดยืนชมความพินาศอยู่เบื้องหน้า พร้อมแสยะยิ้มที่บ่งบอกว่าสาแก่ใจ เมื่อทุกอย่างสงบลง เขาก็หัวเราะในลำคอ แล้วกล่าวเย้ยหยัน
“ ก็แค่มนุษย์ หึ หึ หึ ”
ในขณะที่สี่มาวินด้านมืดกำลังหันหลัง ควันจากแรงระเบิดก็เริ่มจางหาย พร้อมการปรากฏกายของเทพศาสตราที่ยืนนิ่งโดยไร้บาดแผล มีเด็กสาวหน้าสวยในชุดกิโมโนสีชมพูยืนเคียง ไม่นาน เธอก็ร้องเรียกมารร้าย
“ หยุดก่อน เจ้าจะไปไหน ”
สี่มาวินด้านมืดหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองเทพศาสตราและเด็กสาวผู้มาใหม่ มารร้ายดูอึ้งนิดๆ แต่พอปรับอารมณ์ได้ มันก็คำรามดังด้วยเสียงที่สั่นเทา
“ นั่นมัน....เจ้ากระต่ายน้อยนี่นา แกทำได้ยังไง ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ