The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
139) ดวงตาที่เย็นชา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
ทุกคนในที่นั้นต่างพากันเงียบกริบ ภายในใจประสบแต่ความสงสัย สับสนและหวาดกลัว ถึงกระนั้น โอคุยาสุก็ต้องสะกดทุกอารมณ์ เพื่อกล่าวต่อมาวินด้วยเสียงอันดัง
“ ยังลุกขึ้นมาได้อีก อึดไม่ใช่เล่นนะ แต่ยอมแพ้เถอะ ร่างกายของเจ้าน่าจะบอบช้ำถึงขีดสุดแล้ว ”
มาวินจ้องโอคุยาสุอยู่ตลอดเวลา ดวงตาเรียวช่างดูว่างเปล่า ซักพักเขาก็เริ่มตั้งกระบวนท่าต่อสู้ พร้อมรอยยิ้มที่ดูโฉดชั่ว ปากก็ตอบสั้นๆด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
“ เข้ามา….”
คิ้วเรียวของโอคุยาสุกระตุกเล็กน้อย เพราะในช่วงที่ผ่านมา เขาแทบไม่เคยเจอคำท้าทายจากผู้ใด ด้วยถูกจัดอยู่ในทำเนียบนักสู้อันดับสองของดินแดนมาตลอด แต่คราวนี้ กลับถูกเด็กหนุ่มแปลกหน้าเชื้อเชิญให้ต่อสู้ มันทำให้รู้สึกหัวเสีย ทว่าเมื่อประเมินจากสถานการณ์ หนุ่มหล่อก็ชักไม่แน่ใจว่าควรจะรุกไล่ต่อดีหรือไม่
“ เอ่อ.....ดูเหมือนมันจะท้าทายอาจารย์รองนะครับ ” ศิษย์รุ่นน้องคนนึงกล่าว น้ำเสียงสั่นเทา
“ อืม..... ใจจริงข้าไม่อยากทำร้ายเจ้าหนูนี่เลย เพราะมันได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจนักสู้ที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม แต่สงสัยคงจะเลี่ยงไม่ได้ ” โอคุยาสุกระชับดาบไม้ที่อยู่ในมือ เพื่อเตรียมประจัญบาน
ดวงตาเรียวของหนุ่มหล่อเหลือบมองมาวิน ครู่หนึ่ง เขาก็ย่อตัวลงต่ำ พร้อมเอี้ยวกายในท่าชักดาบ ทำให้ทุกคนรู้ว่าการดวลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น จึงถอยห่าง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทั้งสองต่อสู้
คู่ประลองทั้งสองสงบนิ่งอยู่กับที่ พวกเขาประสานตากัน ทำให้หนุ่มหล่อรู้สึกแปลกใจ เพราะดวงตาของมาวินช่างดูว่างเปล่าและไร้ความรู้สึก อันห่างไกลจากคำว่า....มนุษย์ปกติ
“ ทำไม เจ้าหนูนั่นถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แปลกมาก ” โอคุยาสุนึกกังวล เหงื่อไหลไปทั่วใบหน้าเนียน อึดใจต่อมา เขาก็ละทิ้งทุกสิ่ง แล้วตัดสินใจเด็ดขาด
“ ช่างมันเถอะ เราอัดมันให้น็อคด้วยเพลงดาบ ทุกอย่างก็จบแล้ว ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น โอคุยาสุก็พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วที่สูงจนแทบมองไม่เห็น เขาฟาดดาบไม้ไปที่ใบหน้า หวังปิดเกมในทีเดียว แต่ก่อนที่ศาสตราจะกระทบเป้าหมาย มาวินก็ถอยหลังเล็กน้อย เพื่อหลบอาวุธ
“ เอ๊ะ! มันหลบได้ ” โอคุยาสุตกใจนิดนึง ก่อนจะระดมเพลงดาบเข้าไปอีกหลายสิบกระบวน
พายุดาบพุ่งเข้าใส่มาวินในทุกทิศทาง แต่เด็กหนุ่มสามารถโยกหลบได้ทุกคราว ไม่ใช่ว่าเขาว่องไวจนโจมตีไม่ทัน แต่เป็นเพราะการคาดการณ์ที่ค่อนข้างเทพ เลยทำให้หลีกได้ง่าย อันคล้ายคลึงกับวิธีที่โอคุยาสุเคยใช้
“ เอ๊ะ! นี่เป็นวิธีที่เราใช้นี่นา….. เจ้าหนูนั่นทำได้ยังไง ”
โอคุยาสุโจมตีอย่างหนักหน่วง แต่ละดอกล้วนรุนแรงและรวดเร็ว ก่อให้เกิดเสียงแหวกอากาศ
“ เฟี้ยว ฟ้าว เฟี้ยว ”
แต่ไม่ว่าโจมตีได้ดีเพียงใด มาวินก็โยกหลบได้ทุกครั้ง ถึงตอนนี้ สองเท้าของเด็กหนุ่มแทบไม่ขยับจากจุดที่ยืน
เทพศาสตราและอากิเนะมองการต่อสู้นี้ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน ด้านหลานสาวดูจะตื่นเต้นมาก เพราะมาวินหลบเพลงดาบได้แบบเฉียดฉิวมาตลอด ทำให้เธอนึกหวาดเสียว ด้วยไม่อยากให้เด็กหนุ่มเจ็บตัวไปมากกว่านี้
ส่วนทางฝ่ายเทพศาสตรา เขาสงสัยเหลือเกินว่ามาวินไปฝึกวิชาหลบหลีกมาจากที่ไหน ไม่ง่ายเลยที่นักสู้จะบรรลุถึงขั้นนี้ เพราะมันคือสเต็ปที่สมบูรณ์แบบ
“ ย่ะ ย่ะ ย่ะ ” โอคุยาสุปล่อยกระบวนท่าสุดฝีมือ ทว่าดาบไม้ก็ยังไม่อาจกระทบผิวกายของมาวิน ขณะที่เขากำลังโจมตีเพลินๆ ก็ปรากฏว่ามีหมัดขวาวิ่งสวนเข้ามาที่ใบหน้า มันรวดเร็วจนหนุ่มหล่อตั้งตัวไม่ทัน
“ เฮ้ย! ” โอคุยาสุอุทานดัง ด้วยปฏิกิริยาที่ว่องไว เขาจึงยกดาบไม้ขึ้นป้องกัน ทว่าหมัดข้างนั้นกลับรุนแรงกว่าที่คิด
“ เปรี้ยง ”
ดาบไม้ถึงกับหักสะบั้นในทีเดียว ส่วนกำปั้นยังพุ่งใส่หน้าผากของโอคุยาสุต่อ แน่นอนว่าเขาหลีกไม่ได้
“ อั๊ก ” โอคุยาสุกระเด็นไปข้างหลังตามแรงหมัด จากนั้นก็ร่วงล้มและไถลไปตามพื้นอีกหลายตลบ
ทุกคนนิ่งอึ้งไปตามๆกัน เพราะเจ้าของกำปั้นที่ทรงพลังก็คือ……มาวิน
“ โห…นะ…..นี่มันอะ….อะไรกัน ขะ…..ขนาดอาจารย์รองยังล้มในหมัดเดียว ” ลูกศิษย์บางคนอุทานดัง ท่าทางหวาดกลัว แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ มาวินเดินเข้าไปหาโอคุยาสุ พอหยุดยืนอยู่เหนือร่างที่นอนยาวเหยียด เขาก็ง้างหมัดขวาขึ้นสูง เพื่อเตรียมซ้ำ แต่ไม่ทันได้ต่อย เทพศาสตราก็ประกาศชัยชนะ
“ จบการต่อสู้แล้ว เจ้าหนูหัวเขียวเป็นฝ่ายชนะ ”
มาวินหยุดชะงักไปอึดใจ ก่อนจะส่งยิ้มกว้างที่ดูโฉดชั่วให้เทพศาสตรา พร้อมกับคำตอบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม
“ การต่อสู้ยังไม่จบ เพราะโอคุยาสุยังไม่ตาย ข้าต้องฆ่ามันก่อน เหอๆ ”
คำตอบนั้น ทำให้เทพศาสตรารู้ทันทีว่าบุรุษที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่มาวินอีกต่อไป แต่ปรมาจารย์สูงวัยยังคงนิ่งเฉย ส่วนอากิเนะถึงกับเหวอ เพราะตกใจกับความโหดเหี้ยมที่เด็กหนุ่มแสดงออกมา
“ ทำไม เจ้าหน้าลิงถึง…..”
เมื่อมาวินพูดจบ เขาก็คลายรอยยิ้ม แล้วง้างหมัดขวาขึ้นสูงอีกครั้ง เป้าหมายคือใบหน้าของโอคุยาสุ แต่ไม่ทันได้ต่อย เขาก็รู้สึกถึงแรงลมที่ฟาดเข้ามายังขมับ
“ เปรี้ยง ”
ดาบไม้กระแทกขมับของมาวินเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ร่างเล็กบางถอยหลังไปหลายก้าวและโงนเงนไปมา เพราะมันเป็นการโจมตีที่หนักหน่วง ครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมองคู่ต่อสู้คนใหม่ ซึ่งก็คือ…….ลูกศิษย์หนุ่มนายหนึ่งพร้อมเพื่อนร่วมสำนักอีกนับสิบ
“ พอได้แล้ว เจ้าชนะอาจารย์รองไปแล้ว ยังต้องเอาชีวิตกันอีกเหรอ ” ศิษย์หนุ่มผู้นั้นตวาดใส่อย่างดุดัน
มาวินมองกลุ่มคนพวกนั้นอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง ก็ฉีกยิ้มกว้าง พร้อมตอบกลับด้วยเสียงที่แหบพร่าจนดูไม่เหมือนมนุษย์
“ ยังไม่พอ ข้ายังไม่ได้ฆ่ามันเลย ”
ลูกศิษย์หนุ่มทุกคนล้วนตกใจไปตามๆกัน เพราะสิ่งที่มาวินพูดออกมา มันดูโฉดชั่วและโหดเหี้ยมจนเกินจะรับ ทว่าชายฉกรรจ์ที่จู่โจมใส่ ก็ข่มใจให้สงบ แล้วกล่าวต่อ
“ งั้นเจ้าคงต้องผ่านพวกข้าทั้งหมดก่อน ถึงจะฆ่าอาจารย์รองได้ ”
แม้จะต้องเผชิญยอดนักดาบมากมาย ทว่าเด็กหนุ่มหัวเขียวกลับไม่อนาทรร้อนใจ เขาส่งรอยยิ้มประหลาดที่ดูโรคจิต พร้อมเปล่งประกาศิตที่เฉียบขาด
“ ได้ ถ้างั้นข้าจะฆ่าพวกแกให้หมด ”
“ หน็อย..... เจ้าคิดว่าพวกข้าเป็นเด็กทารกรึไงฟะ ” ชายฉกรรจ์ผู้นั้นกัดฟันกรอดใหญ่ด้วยโกรธ พร้อมกระชับดาบไม้ในมือ แล้วพุ่งเข้าใส่มาวินสุดกำลัง จวบจนเข้าสู่ระยะดาบ เขาก็ฟาดอาวุธร้ายลงไปที่กระบาล
“ เปรี้ยง ”
เสียงปะทะดังสะท้านไปทั่วบริเวณ พร้อมดาบไม้เนื้อแข็งที่หักกระจุย เนื่องจากมาวินยกแขนขวาขึ้นมาป้องกัน จากนั้นเด็กหนุ่มก็ถีบสวนเข้าไปที่ลำตัวของชายฉกรรจ์
“ อุ้ก ”
ชายฉกรรจ์ผู้นั้นร้องดัง พร้อมกระเด็นไปข้างหลัง ด้วยถูกลูกถีบที่แรงน้องๆช้าง ร่างสูงสมส่วนลอยละลิ่วไปหาพี่น้องร่วมสำนัก ก่อนจะร่วงล้มลงไปนอนวัดพื้น
“ เฮ้ย! ริวจิ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ” ศิษย์ร่วมสำนักหลายคนก้มลงไปดูอาการ ดูเหมือนว่าชายฉกรรจ์ผู้นี้จะมีนามว่า......ริวจิ
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ