The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  165.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

139) ดวงตาที่เย็นชา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

     ทุกคนในที่นั้นต่างพากันเงียบกริบ ภายในใจประสบแต่ความสงสัย สับสนและหวาดกลัว ถึงกระนั้น โอคุยาสุก็ต้องสะกดทุกอารมณ์ เพื่อกล่าวต่อมาวินด้วยเสียงอันดัง

 

“ ยังลุกขึ้นมาได้อีก อึดไม่ใช่เล่นนะ แต่ยอมแพ้เถอะ ร่างกายของเจ้าน่าจะบอบช้ำถึงขีดสุดแล้ว ”

         

 

      มาวินจ้องโอคุยาสุอยู่ตลอดเวลา ดวงตาเรียวช่างดูว่างเปล่า ซักพักเขาก็เริ่มตั้งกระบวนท่าต่อสู้ พร้อมรอยยิ้มที่ดูโฉดชั่ว ปากก็ตอบสั้นๆด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

 

“ เข้ามา….”

         

 

       คิ้วเรียวของโอคุยาสุกระตุกเล็กน้อย เพราะในช่วงที่ผ่านมา เขาแทบไม่เคยเจอคำท้าทายจากผู้ใด ด้วยถูกจัดอยู่ในทำเนียบนักสู้อันดับสองของดินแดนมาตลอด แต่คราวนี้ กลับถูกเด็กหนุ่มแปลกหน้าเชื้อเชิญให้ต่อสู้ มันทำให้รู้สึกหัวเสีย ทว่าเมื่อประเมินจากสถานการณ์ หนุ่มหล่อก็ชักไม่แน่ใจว่าควรจะรุกไล่ต่อดีหรือไม่

 

“ เอ่อ.....ดูเหมือนมันจะท้าทายอาจารย์รองนะครับ ” ศิษย์รุ่นน้องคนนึงกล่าว น้ำเสียงสั่นเทา

 

“ อืม..... ใจจริงข้าไม่อยากทำร้ายเจ้าหนูนี่เลย เพราะมันได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจนักสู้ที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยม แต่สงสัยคงจะเลี่ยงไม่ได้ ” โอคุยาสุกระชับดาบไม้ที่อยู่ในมือ เพื่อเตรียมประจัญบาน

         

 

       ดวงตาเรียวของหนุ่มหล่อเหลือบมองมาวิน ครู่หนึ่ง เขาก็ย่อตัวลงต่ำ พร้อมเอี้ยวกายในท่าชักดาบ ทำให้ทุกคนรู้ว่าการดวลกำลังจะเริ่มต้นขึ้น จึงถอยห่าง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ทั้งสองต่อสู้

          

 

      คู่ประลองทั้งสองสงบนิ่งอยู่กับที่ พวกเขาประสานตากัน ทำให้หนุ่มหล่อรู้สึกแปลกใจ เพราะดวงตาของมาวินช่างดูว่างเปล่าและไร้ความรู้สึก อันห่างไกลจากคำว่า....มนุษย์ปกติ

 

“ ทำไม เจ้าหนูนั่นถึงได้กลายเป็นแบบนี้ แปลกมาก ” โอคุยาสุนึกกังวล เหงื่อไหลไปทั่วใบหน้าเนียน อึดใจต่อมา เขาก็ละทิ้งทุกสิ่ง แล้วตัดสินใจเด็ดขาด

 

“ ช่างมันเถอะ เราอัดมันให้น็อคด้วยเพลงดาบ ทุกอย่างก็จบแล้ว ”

          

 

       เมื่อคิดได้ดังนั้น โอคุยาสุก็พุ่งเข้าใส่ด้วยความเร็วที่สูงจนแทบมองไม่เห็น เขาฟาดดาบไม้ไปที่ใบหน้า หวังปิดเกมในทีเดียว แต่ก่อนที่ศาสตราจะกระทบเป้าหมาย มาวินก็ถอยหลังเล็กน้อย เพื่อหลบอาวุธ

 

“ เอ๊ะ! มันหลบได้ ” โอคุยาสุตกใจนิดนึง ก่อนจะระดมเพลงดาบเข้าไปอีกหลายสิบกระบวน

         

 

       พายุดาบพุ่งเข้าใส่มาวินในทุกทิศทาง แต่เด็กหนุ่มสามารถโยกหลบได้ทุกคราว ไม่ใช่ว่าเขาว่องไวจนโจมตีไม่ทัน แต่เป็นเพราะการคาดการณ์ที่ค่อนข้างเทพ เลยทำให้หลีกได้ง่าย อันคล้ายคลึงกับวิธีที่โอคุยาสุเคยใช้

 

“ เอ๊ะ! นี่เป็นวิธีที่เราใช้นี่นา….. เจ้าหนูนั่นทำได้ยังไง ”

          

 

      โอคุยาสุโจมตีอย่างหนักหน่วง แต่ละดอกล้วนรุนแรงและรวดเร็ว ก่อให้เกิดเสียงแหวกอากาศ

 

“ เฟี้ยว ฟ้าว เฟี้ยว ”

         

 

       แต่ไม่ว่าโจมตีได้ดีเพียงใด มาวินก็โยกหลบได้ทุกครั้ง ถึงตอนนี้ สองเท้าของเด็กหนุ่มแทบไม่ขยับจากจุดที่ยืน

          

 

       เทพศาสตราและอากิเนะมองการต่อสู้นี้ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน ด้านหลานสาวดูจะตื่นเต้นมาก เพราะมาวินหลบเพลงดาบได้แบบเฉียดฉิวมาตลอด ทำให้เธอนึกหวาดเสียว ด้วยไม่อยากให้เด็กหนุ่มเจ็บตัวไปมากกว่านี้

       

 

      ส่วนทางฝ่ายเทพศาสตรา เขาสงสัยเหลือเกินว่ามาวินไปฝึกวิชาหลบหลีกมาจากที่ไหน ไม่ง่ายเลยที่นักสู้จะบรรลุถึงขั้นนี้ เพราะมันคือสเต็ปที่สมบูรณ์แบบ

 

“ ย่ะ ย่ะ ย่ะ ” โอคุยาสุปล่อยกระบวนท่าสุดฝีมือ ทว่าดาบไม้ก็ยังไม่อาจกระทบผิวกายของมาวิน ขณะที่เขากำลังโจมตีเพลินๆ ก็ปรากฏว่ามีหมัดขวาวิ่งสวนเข้ามาที่ใบหน้า มันรวดเร็วจนหนุ่มหล่อตั้งตัวไม่ทัน

 

“ เฮ้ย! ” โอคุยาสุอุทานดัง ด้วยปฏิกิริยาที่ว่องไว เขาจึงยกดาบไม้ขึ้นป้องกัน ทว่าหมัดข้างนั้นกลับรุนแรงกว่าที่คิด

 

“ เปรี้ยง ”

        

 

       ดาบไม้ถึงกับหักสะบั้นในทีเดียว ส่วนกำปั้นยังพุ่งใส่หน้าผากของโอคุยาสุต่อ แน่นอนว่าเขาหลีกไม่ได้

 

“ อั๊ก ” โอคุยาสุกระเด็นไปข้างหลังตามแรงหมัด จากนั้นก็ร่วงล้มและไถลไปตามพื้นอีกหลายตลบ

          

 

      ทุกคนนิ่งอึ้งไปตามๆกัน เพราะเจ้าของกำปั้นที่ทรงพลังก็คือ……มาวิน

 

“ โห…นะ…..นี่มันอะ….อะไรกัน ขะ…..ขนาดอาจารย์รองยังล้มในหมัดเดียว ” ลูกศิษย์บางคนอุทานดัง ท่าทางหวาดกลัว แต่เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ มาวินเดินเข้าไปหาโอคุยาสุ พอหยุดยืนอยู่เหนือร่างที่นอนยาวเหยียด เขาก็ง้างหมัดขวาขึ้นสูง เพื่อเตรียมซ้ำ แต่ไม่ทันได้ต่อย เทพศาสตราก็ประกาศชัยชนะ

 

“ จบการต่อสู้แล้ว เจ้าหนูหัวเขียวเป็นฝ่ายชนะ ”

            

 

        มาวินหยุดชะงักไปอึดใจ ก่อนจะส่งยิ้มกว้างที่ดูโฉดชั่วให้เทพศาสตรา พร้อมกับคำตอบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของเด็กหนุ่ม

 

“ การต่อสู้ยังไม่จบ เพราะโอคุยาสุยังไม่ตาย ข้าต้องฆ่ามันก่อน เหอๆ ”

            

 

       คำตอบนั้น ทำให้เทพศาสตรารู้ทันทีว่าบุรุษที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่มาวินอีกต่อไป แต่ปรมาจารย์สูงวัยยังคงนิ่งเฉย ส่วนอากิเนะถึงกับเหวอ เพราะตกใจกับความโหดเหี้ยมที่เด็กหนุ่มแสดงออกมา

 

“ ทำไม เจ้าหน้าลิงถึง…..”

          

 

      เมื่อมาวินพูดจบ เขาก็คลายรอยยิ้ม แล้วง้างหมัดขวาขึ้นสูงอีกครั้ง เป้าหมายคือใบหน้าของโอคุยาสุ แต่ไม่ทันได้ต่อย เขาก็รู้สึกถึงแรงลมที่ฟาดเข้ามายังขมับ

 

“ เปรี้ยง ”

             

 

      ดาบไม้กระแทกขมับของมาวินเข้าอย่างจัง ส่งผลให้ร่างเล็กบางถอยหลังไปหลายก้าวและโงนเงนไปมา เพราะมันเป็นการโจมตีที่หนักหน่วง ครู่หนึ่ง เด็กหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมองคู่ต่อสู้คนใหม่ ซึ่งก็คือ…….ลูกศิษย์หนุ่มนายหนึ่งพร้อมเพื่อนร่วมสำนักอีกนับสิบ

 

“ พอได้แล้ว เจ้าชนะอาจารย์รองไปแล้ว ยังต้องเอาชีวิตกันอีกเหรอ ” ศิษย์หนุ่มผู้นั้นตวาดใส่อย่างดุดัน

          

 

       มาวินมองกลุ่มคนพวกนั้นอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง ก็ฉีกยิ้มกว้าง พร้อมตอบกลับด้วยเสียงที่แหบพร่าจนดูไม่เหมือนมนุษย์

 

“ ยังไม่พอ ข้ายังไม่ได้ฆ่ามันเลย ”

           

 

       ลูกศิษย์หนุ่มทุกคนล้วนตกใจไปตามๆกัน เพราะสิ่งที่มาวินพูดออกมา มันดูโฉดชั่วและโหดเหี้ยมจนเกินจะรับ ทว่าชายฉกรรจ์ที่จู่โจมใส่ ก็ข่มใจให้สงบ แล้วกล่าวต่อ

 

“ งั้นเจ้าคงต้องผ่านพวกข้าทั้งหมดก่อน ถึงจะฆ่าอาจารย์รองได้ ”

           

 

       แม้จะต้องเผชิญยอดนักดาบมากมาย ทว่าเด็กหนุ่มหัวเขียวกลับไม่อนาทรร้อนใจ เขาส่งรอยยิ้มประหลาดที่ดูโรคจิต พร้อมเปล่งประกาศิตที่เฉียบขาด

 

“ ได้ ถ้างั้นข้าจะฆ่าพวกแกให้หมด ”

 

“ หน็อย..... เจ้าคิดว่าพวกข้าเป็นเด็กทารกรึไงฟะ ” ชายฉกรรจ์ผู้นั้นกัดฟันกรอดใหญ่ด้วยโกรธ พร้อมกระชับดาบไม้ในมือ แล้วพุ่งเข้าใส่มาวินสุดกำลัง จวบจนเข้าสู่ระยะดาบ เขาก็ฟาดอาวุธร้ายลงไปที่กระบาล

 

“ เปรี้ยง ”

         

 

      เสียงปะทะดังสะท้านไปทั่วบริเวณ พร้อมดาบไม้เนื้อแข็งที่หักกระจุย เนื่องจากมาวินยกแขนขวาขึ้นมาป้องกัน จากนั้นเด็กหนุ่มก็ถีบสวนเข้าไปที่ลำตัวของชายฉกรรจ์

 

“ อุ้ก ”

       

 

      ชายฉกรรจ์ผู้นั้นร้องดัง พร้อมกระเด็นไปข้างหลัง ด้วยถูกลูกถีบที่แรงน้องๆช้าง ร่างสูงสมส่วนลอยละลิ่วไปหาพี่น้องร่วมสำนัก ก่อนจะร่วงล้มลงไปนอนวัดพื้น

 

“ เฮ้ย! ริวจิ อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ” ศิษย์ร่วมสำนักหลายคนก้มลงไปดูอาการ ดูเหมือนว่าชายฉกรรจ์ผู้นี้จะมีนามว่า......ริวจิ

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา