The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.
แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย
114) ความในใจของเด็กสาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเครดิตภาพจาก https://www.peakpx.com
หลังสิ้นคำว่าแต่งงาน สามสาวก็แสดงอาการตื่นเต้นยินดี พร้อมวี้ดว้ายกระตู้วู้ไปตามประสา โดยเฉพาะมากิและมาโกะ พวกเธอถึงกับกระโดดกอดกันจนตัวกลม
“ ว้าย ข่าวดีจริงๆ ใกล้ถึงวันเมื่อไหร่ อย่าลืมมาบอก พวกเราจะไปช่วยงานเอง ร้ายกาจมาก เห็นเงียบๆแบบนี้ ชิงแต่งงานก่อนพวกเราเลยนะ ” ทั้งมากิและมาโกะกล่าวแซวเพื่อนสาวผู้โชคดี ส่วนอากิเนะ เธอได้แต่ยืนยิ้มอยู่ห่างๆ
“ ฮะๆ สรุปแล้ว พวกเราก็มีความรักกันหมด หลงเข้าใจผิดว่ายังโสดอยู่ตั้งนาน ” ดวงตาของมาโกะเริ่มเคลิ้มฝัน เพราะกำลังมโนถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มที่เธอมอบหัวใจให้
“ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ เหมือนพวกเราจะลืมอะไรไปบางอย่าง ” มากิกล่าวขัดอย่างฉับพลันจนสามสาวสะดุด
“ มีอะไรที่พวกเราลืมเหรอ มากิ ” อารุยะผู้กำลังจะเป็นเจ้าสาว เอ่ยถาม
“ พวกเรายังไม่รู้ว่า……..” มากิพูดค้างไว้แค่นั้น ทำให้ทุกคนในกลุ่มเริ่มลุ้น
“ อะไร ” สามสาวพูดพร้อมกันด้วยอาการร้อนรน ทว่ามากิยังไม่ตอบในทันที เธอเงยหน้าขึ้นมองอากิเนะ พร้อมไถ่ถามตรงๆ
“ พวกเรายังไม่รู้เลยว่าอากิเนะ มีความรักแล้วรึยัง ”
“ จริงด้วย ” อารุยะกับมาโกะร้องพร้อมกัน ส่วนอากิเนะผู้ถูกยิงคำถาม ถึงกับสะอึกอย่างฉับพลัน
เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าอากิเนะถูกผองเพื่อนรุมไปโดยปริยาย สามสาวรีบกรูกันเข้ามาล้อม พร้อมเขย่าตัวด้วยอาการคาดคั้น
“ บอกมาเดี๋ยวนี้นะ เธอแอบชอบใคร ”
อากิเนะโดนทั้งดึง ทั้งทึ้งและเขย่าจากสามเพื่อนซี้ แม้ว่าเธอจะเป็นคนใจเย็นดุจน้ำแข็ง แต่เมื่อเจออะไรที่ชวนหงุดหงิด น่ารำคาญอยู่นานสองนาน ก็เริ่มมีน้ำโห ในที่สุด เด็กสาวก็ตบะแตก จึงโวยดัง พร้อมผลักผองเพื่อนให้ถอยห่าง
“ ชั้นยังไม่ได้ชอบใครทั้งนั้น พวกเธอหยุดบ้ากันได้แล้ว ”
สามเพื่อนสาวนิ่งอึ้งไปตามๆกัน เพราะไม่บ่อยนักที่คนใจเย็นอย่างอากิเนะจะเกิดอาการสติแตก ครั้งสุดท้ายที่เห็น น่าจะประมาณสิบปีที่แล้ว ถึงกระนั้น มากิก็ยังไม่วายแซะ เธอหรี่ตาใส่ คล้ายจ้องจับผิด
“ เธอแน่ใจนะว่าไม่มี……ใครในใจจริงๆ ”
“ ก็ใช่น่ะสิ ตั้งแต่เกิดมา ชั้นไม่เคยนึกชอบใครเลย เอ.....แต่ถ้ามี ก็น่าจะเป็นท่านปู่ ” อากิเนะคิดนิดนึง ก่อนตอบกลับ
“ อืม....... ” สามสาวล้วนอยู่ในท่วงท่าเดียวกัน นั่นก็คือยืนกอดอก แล้วขมวดคิ้วนิ่วหน้า พวกเธอจ้องมาที่อากิเนะเป็นตาเดียว ปากก็พึมพำในลำคอเบาๆเป็นเชิงไม่ไว้ใจ
เมื่อหัวหน้าทีมล่าหาความจริงอย่างมากิละทิ้งการคาดคั้น เธอก็อ่อนท่าทีลง แล้วกล่าวกับอากิเนะเบาๆ
“ จริงๆแล้ว อากิเนะเป็นคนสวยที่สุดในดินแดน แถมยังมีผู้ชายหลายคนลอบหมายปอง เมื่อเป็นเช่นนี้ เธอควรจะมีคนรักก่อนพวกเราเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงยังไม่มองใคร เพราะอะไร….”
พอสิ้นคำถาม อากิเนะก็ถึงกับกระตุกเบาๆเป็นเชิงตกใจ เพราะสิ่งที่มากิพูดมาล้วนเป็นความจริง เธอนึกสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่คิดรักใครซักที จะว่ารังเกียจผู้ชายที่เข้ามาจีบ ก็ไม่ใช่ มันหาคำตอบไม่ได้ จึงทำให้กลัดกลุ้ม เวลาต่อมา เด็กสาวก็ทรุดกายลงนั่งเท้าคาง พร้อมจ้องมองสระน้ำใสด้วยแววตาที่ดูเศร้าสร้อย
มากิและผองเพื่อนรู้สึกเป็นห่วงอากิเนะอย่างจับใจ หัวโจกจึงรีบรุดมานั่งเคียง พร้อมโอบกายบาง ปากก็กล่าวปลอบประโลมด้วยกระแสเสียงที่หวานใส
“ แม้วันนี้ อากิเนะจะไม่เข้าใจว่าความรักคืออะไร แต่ชั้นเชื่อว่าซักวัน เธอจะรู้จักมันและพบใครซักคนอย่างแน่นอน ”
อากิเนะยิ้มรับ น้ำน้อยๆเริ่มปรากฏที่ใต้ดวงตาคู่งาม ปากก็กล่าวขอบคุณด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“ ขอบใจมากจ้ะ มากิและทุกคน พวกเธอเป็นเพื่อนที่ดี ”
“ ไม่เป็นไรจ้ะ ” มากิโอบกอดอากิเนะแน่นขึ้นด้วยความรักฉันเพื่อน โดยมีอารุยะและมาโกะยืนรีวิวประกอบฉาก ทั้งสี่สาวล้วนตกอยู่ในอาการซาบซึ้งจนน้ำตาซึมไปตามๆกัน
ระหว่างนั้นเอง ได้ปรากฏกายของชายหนุ่มร่างสูงสมส่วน เขาเดินตรงมายังกลุ่มสี่สาวด้วยท่วงท่าที่ดูมาดมั่น ใบหน้าเรียวดูขาวผ่องจนหญิงสาวบางคนนึกอาย จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบ เมื่อนำมาประกอบกับดวงตาคมซึ้งที่เรียวยาวราวนกการเวก ยิ่งเสริมให้ดูหล่อเหลาปานเทพบุตรที่จุติจากชั้นฟ้า
“ อ้าว.....นั่น โอคุยาสุนี่นา ” อารุยะกับมาโกะเริ่มออกอาการกรี๊ดกร๊าด ด้วยบุรุษผู้นี้สมบูรณ์ทั้งรูปร่าง หน้าตาและองค์ความรู้ เขาเป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั่วแดนดิน ทว่าโอคุยาสุกลับมิได้สนใจผู้ใด เพราะจิตใจมุ่งหมายแต่……อากิเนะ
“ อ้าว พี่โอคุยาสุ วันนี้ไม่ไปฝึกเพลงดาบเหรอ ” อากิเนะกล่าวทัก เพราะในยามนี้เป็นเวลาที่โอคุยาสุต้องฝึกเพลงดาบกับท่านปู่
“ ท่านอาจารย์อนุญาตให้หยุดหนึ่งวัน ข้าเลยนึกถึงน้องหญิงน่ะ ” โอคุยาสุตอบกลับด้วยท่าทางที่ดูสุขุม เขาก้าวเข้ามาในศาลาหิน รอยยิ้มจากใบหน้าหล่อเหลาชวนให้สาวๆเคลิ้มฝันจนใจละลายไปตามๆกัน
“ กรี๊ด....... ปากหวานจริงเลย โอคุยาสุ ” อารุยะและมาโกะถึงกลับกรี๊ดแตก เมื่อเห็นลีลาการฝากรักของหนุ่มหล่อ ทว่าอากิเนะกลับสงบนิ่ง ส่วนมากิก็รู้สึกว่าจะแอบอมยิ้มเล็กน้อย คล้ายมีบางอย่างอยู่ในใจ
“ อืม.... ก็แล้วแต่พี่นะ ถ้าไม่รังเกียจที่จะสนทนา ข้าก็ไม่ขัดหรอก ” อากิเนะยิ้ม เธอต้อนรับด้วยน้ำใสใจจริง ทันใดนั้นเอง มากิก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ดูระริกระรี้
“ ไม่นะ ใครบอกว่าจะอยู่ที่นี่ พวกเรามานั่งเล่นที่ศาลาหินจนเบื่อแล้ว ขอตัวกลับก่อน โชคดี อากิเนะ ”
อารุยะที่น่าจะเซ่อที่สุดในกลุ่ม พาซื่อจนหลุดปากออกมาว่า………
“ เดี๋ยวนะ พวกเราเพิ่งมานั่งเล่นที่ศาลาหินได้แค่สิบนาทีเอง ไม่เห็นนานอย่างเธอว่า.....อุ้บ ” ไม่ทันที่อารุยะจะพูดจบ เธอก็ถูกมาโกะกระทุ้งศอกเข้าไปที่สีข้าง พร้อมจุ๊ปากเป็นเชิงบอกให้เงียบ
“ เอาล่ะ ไปแล้วนะ โอคุยาสุช่วยดูแลเพื่อนชั้นให้ดีด้วย ” มากิออกปาก พร้อมขยิบตาให้หนุ่มหล่อ เป็นนัยว่า….ชั้นเปิดโอกาสให้แล้วนะ ที่เหลือขึ้นอยู่กับตัวนาย
หลังจากนั้น มากิและมาโกะก็พากันหิ้วปีกอารุยะไปจากที่เกิดเหตุ โดยที่สาวจอมเซ่อยังโวยวายไม่เลิก
“ ปล่อยนะ ชั้นเพิ่งมาถึงศาลาหินได้แค่สิบนาทีเอง ”
พอสามสาวลาลับไปแล้ว ศาลาริมน้ำก็เหลือเพียงโอคุยาสุกับอากิเนะเท่านั้น ทางด้านหนุ่มหล่อดูประหม่าเล็กน้อย เพราะเด็กสาวยังคงสงบนิ่งและยิ้มสดใสตลอดเวลา อันเป็นกิริยาที่แตกต่างจากหญิงทุกนางโดยสิ้นเชิง
หนุ่มหล่อขั้นเทพขยับปกเสื้อให้เข้าที่ พร้อมกระแอมเบาๆสองสามที ส่วนอากิเนะได้แต่หันมองสามเพื่อนสาวที่เดินจากไปด้วยแววเอ็นดู พร้อมส่ายหัวเบาๆ
โอคุยาสุยืนกระสับกระส่าย โดยไม่ได้พูดอะไรอยู่พักใหญ่ อากิเนะจึงส่งยิ้มให้ พร้อมร้องบอกเสียงใส เพื่อประสงค์ให้อีกฝ่ายคลายความประหม่า
“ พี่โอคุยาสุยืนอยู่อย่างนั้น ไม่เมื่อยขารึไงคะ มานั่งที่เก้าอี้หินก่อนสิ ” อากิเนะผายมือเชื้อเชิญ ให้หนุ่มหล่อรุ่นพี่มานั่งที่ม้านั่งหินข้างๆเธอ
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดารค์ไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ