ผมน่ะไม่ใช่ผู้กล้าแต่เเป็นหัวหน้าต่างหาก
-
เขียนโดย Kaneken0
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 11.57 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
5,354 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 12.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ถึงเมืองซักทีนะ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ชื่อของฉันคือมิร่า มิร่า เบเรน”
“เอ๋!!!!! คุณหนูที่มาเดินเล่นคือเธอเองหรอ ฉันนึกว่าเธอเป็นผู้ค้มกันของคุณหนูซะอีก”อะไรกันนึกว่าจะเป็นคุณหนูตัวเล็ก ๆซะอีกพวกชาวบ้านนั้นต่อให้เจอเธอก็คงจะโดนซัดหน่วมแน่ โดนหลอกเข้าเต็ม ๆเลย
“ตกใจขนาดนั้นมันอะไรกัน ฉันดูไม่เหมือนพวกคุณหนูรึไงกัน”เมื่อเห็นปฎิกริยาที่เกินพอดีของเซซิลก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงละนะ
“อ๊ะ! ไม่ใช่ ๆไม่ได้หมายความอย่างนั้น กลับกันผมยังคิดอยู่เลยว่าผู้หญิงสวย ๆอย่างเธอทำไมถึงมาเป็นคนคุ้มกัน กันนะอยู่เลย”ผมลนลานจนตอบออกไปตามที่คิดโดยไม่ได้คิดให้ดีก่อน
“สะสะสะสวยงั้นหรอ อืม ๆอย่างนั้นสินะ ฮิฮิ”เมื่อมิร่าได้คิดคำตอบของเซซิลก็รู้สึกยินดีแล้วก็เหมือนจะเขินอายอยู่ด้วยเหมือนกัน เพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอประดับไปด้วยรอยยิ้มที่แก้มของเธอก็มีสีแดงอ่อนเหมือนกัน
<เหหหหหหหห>เสียงของเอเลเนียดังขึ้นมาในหัวของผม
“อะ อะไรจะล้อเลียนกันรึไง”
<เปล่าซะหน่อยแค่คิดว่านายเองก็รู้วิธีพูดกับผู้หญิงเหมือนกันนะ ฮะ ๆๆ>
“หนอยยัยเทพธิดาไร้ประโยชน์นี่ เอาเถอะครั้งนี้จะทำเป็นไม่ได้ยินก็แล้วกัน”ผมตัดบทสนทนากับเอเลเนียทันทีเพราะตอนนี้มิร่า มองมาที่ผมที่จู่ ๆก็ไปด้วยท่าทีงุนงง
“อา..ขอโทษทีพอดีผมคิดอะไรอยู่น่ะ อาจจะช้าไปหน่อย แต่ผมชื่อ เซซิล แคมเบล”
ผมยิ้มให้เธอขอโทษและแนะนำตัวไปรวดเดียว
“เซซิล แคมเบล งั้นหรอ”เธอทวนชื่อผมอีกครั้งแล้วมองมาที่ผมแล้วพูดต่อ”เซซิล ขอขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้นะพอกลับไปที่เมืองแล้วขอให้ฉันได้ตอบแทนอะไรบ้างเถอะนะ”
“โอ้ ถ้างั้นขอรบกวนช่วยนำทางด้วยก็แล้วกัน พอดีผมต้องไปเข้าเรียนที่เมืองเบเรนน่ะ”ใช่แล้วถ้าไปเดินหาเองละก็คงใช้เวลานานน่าดูเลยละ
“นายไม่ใช่คนที่นี้งั้นหรอ ตกใจเลยนะคะเนี่ย แต่แบบนี้ฉันก็กลายเป็นรุ่นพี่ของนายสินะ ฮิฮิ”มิร่าเองก็เป็นนักศึกษาจากสถาบันเบเรน ที่เซซิลกำลังจะเข้าไปเรียนเหมือนกัน ถ้าบอกว่าจะเรียนที่เมืองนี้ก็คงหนีไม่พ้นสถาบันเบเรนแน่นอน จึงได้เรียกตัวเองว่าเป็นรุ่นพี่ได้อย่างมั่นใจนั่นเอง
“โฮ่ มีรุ่นพี่สวย ๆคอยนำทางให้นี่ก็ฟังดูดีจังเลยน้าา ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากด้วยนะครับ รุ่นพี่มิร่า”
คุณมิร่าเองพอถูกเรียกวารุ่นพี่แล้วก็กอดอกเชิดหน้ายิ้มอย่างภูมิใจที่สำคัญคือมันไม่ดูหยิ่งยโสเลยแม้แต่น้อย
<ท่าทางเหมือนเด็กที่ถูกชมเลย น่ารักจังเลยนะ>
“อื้ม เป็นรุ่นพี่ที่ดีเลยละ”
“นี่แล้วนายตัดสินใจเรื่องที่พักแล้วรึยังถึงทางโรงเรียนจะมีหอพักให้ แต่ในช่วงดำเนินการนายจะยังเข้าไปพักไม่ได้นะ”
อ่า พอพูดแล้วเรื่องที่พักไม่ได้อยู๋ในหัวเลยซักนิด เพราะถูกส่งมากะทันหันเลยยังไม่ได้วางแผนเตรียมตัวไว้เลย
“แหะ ๆ ผมยังไม่ได้คิดเอาไว้เลยละ พอจะที่แนะนำบ้างมั้ยครับ”
“ฮืมม แบบนี้เอง ๆ”ุมิร่าเมื่อได้ยินคำตอบของผมก็ก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง เหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ถ้าอย่างนั้น จนกว่าจะทำเรื่องเข้าโรงเรียนเสร็จมาพักที่บ้านของฉันก่อนก็ได้นะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ช่วยฉันเอาไว้ ตั้งสองครั้งไงละ”
เอาไงดีละที่พูดว่าบ้านน่ะยังไงก็คงเป็นคฤหาสน์ตระกูลเบเรนแน่นอน แต่จะปฎิเศษรอยยิ้มที่เจิศจ้าขนาดนั้นน่ะ ทำไมได้หรอก เป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่ว่า
“ขอบคุณมากครับ”ตอบไปซะแล้ว ใช่แล้วเพราะเราไม่มีทางเลือกยังไงละ ไม่จำเป็นต้องคิดมากไป
“ฮิฮิ ไว้ใจได้เลยรุ่นน้อง”
อ่าการที่เธอมีความสุขก็ดีแล้วละ
ฮัดชิ้ว
<จามได้น่ารักมาก สมเป็นคุณหนู>
“เห้ ๆตัวจริงของเทพธิดาเป็นพวกคุณลุงหรือไง”
<นายเองก็เป็นผู้ชายที่ไปนอนบ้านของผู้ด้วยท่าทางมีความสุขไม่ใช่หรือไง>
“ไม่ได้มีความสุขซักหน่อย!”ใช่แล้วผมน่ะไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอนแค่ไม่มีทางเลือกเท่านั้น
“นี่~”
อ๊ะ เผลอคุยกับยัยนั้นนานไป
“ครับ ขอโทษด้วยครับคงจะหนาวสินะครับก่อนกลับเมืองมาทำตัวให้แห้งกันก่อนดีมั้ยครับ”
“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน แต่มีเรื่องอยากจะถามหน่อยนะ”ดูเหมือนคุณมิราจะสงสัยที่มาของผมสินะก็แน่อยู่แล้ว
“ครับ เชิญถามได้เลย”เตรียมบทพูดที่จะไม่ดูแปลกเอาไว้แล้วเอาละเข้ามาเลย
“ทำไมนายต้องถือดาบหัก ๆนั้นด้วยละ แล้วอีกอยากทั้งที่ลงน้ำเหมือนกันแต่ทำไมชุดของนายถึงไม่เปียกเลยละ”
เอ๋! ดาบพังไปตอนไหนกัน แล้วทำไมถึงไม่เปียกเลยละ แย่แล้วไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้เลย ไม่ ๆความจริงผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนี้
“นี่เอเลเนีย พอรู้อะไรบ้างมั้ย”คงต้องถามที่พึ่งสุดท้ายแล้ว
<เรื่องดาบน่ะ ตอนที่นายใช่ท่านั้นออกไปมันก็พังแล้วดาบธรรมดารับพลังขนาดนั้นไม่ไหวหรอกนะ>ตอนนี้ได้คำตอบเรื่องดาบแล้วต่อไปละ
<เรื่องเสื้อของเจ้าเราไม่รู้หรอกนะ เราก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกัน>
“ปกติแค่เดินตอน ฝนโปรย ๆก็เปียกแล้วอย่าว่าแต่ลงน้ำเลย ทำไมกันนะ”
<แล้วตอนนี้เจ้ามีอะไรที่ผิดปกติแตกต่างไปจากเดิมบ้างละ อะไรที่ไม่ใช่เราน่ะเพราะเราตอนนี้ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ>
อืม อะไรที่เพิ่งจะมี ๆ อ่อ จะว่าไปก็มีอยู่อยางนึง
“นี่เธอคิดว่าจะเกี่ยวกับผ้าพันคอนี่มั้ย ก่อนจะมาที่นี้หัวหน้าให้ผมมาน่ะ”
<ก็ไม่รู้หรอกน่ะแต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่ ยังไงก็ลองบอกไปก่อนเถอะ>
เอาเป็นว่าตามนั้น
“คือดาบนี่มัน พึ่งจะพังตอนสู้กับพวกคนเมื่อกี้นี้ แล้วที่ผมไม่เปียกเลยก็น่าจะเป็นผ้าพันคอนี่ละครับ”อาา พอพูดไปแล้วเรื่องผ้าพันคอนี้ยังไงก็น่าสงสัย แต่ยกโทษให้ด้วยครับผมไม่รู้จริง ๆขอโทษด้วยครับที่โกหก
“อ๋อ แบบนี้เองผ้านี่เป็นอุปกรณ์เวทสินะเข้าใจละ”คุณมิร่าผยักหน้ารับโดยไม่สงสัยเลยซักนิด
เอ๊ะ อุปกรณ์เวทผ้าพันคอนี้ก็เป็นอุปกรณ์เวทได้ด้วยหรอ ถึงจะส่งสัยแต่ก็ดีแล้วละที่ไม่ถามไปมากกว่านี้
“ใช่ครับแบบนั้นแหละครับ เฮะ ๆ”ตอนนี้ก็ได้เวลาเปลี่ยนเรื่อง
“เดี่ยวผมไปหาฝืนมาก่อกองไฟก่อนนะครับ จะปล่อยให้คุณตัวเย็นแบบนี้ก็ไม่ดีซะด้วย”พูดด้วยรอยยิ้มแบบธรรมชาติแล้วหันหลังเดินเข้าป่าทันที แต่เสียงของคุณมิร่าก็หยุดผมเอาไว้ซะก่อน
“ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไรหรอกฉันใช้เวทไฟได้น่ะ”พอพูดจบมิร่าก็เริ่มร่ายเวทแล้วลูกไฟเล็ก ๆก็ลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเธอ เธอปล่อยลูกไฟไปบนพื้นแน่นอนว่าลูกไฟไม่ได้หายไปแต่ยังคงลุกไหม้อยู่ถึงจะไม่แรงมาก แต่ถ้าโยนกิ่งไม่ลงไปก็จะทำให้ไฟแรกขึ้นซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มากเลย เพราะไม่ต้องเดินหาไม้แห้ง ๆ ของแค่ไม้ก็สามารถให้เป็นฟืนได้ทันที
“ถ้าใช้เวทได้คงสบายกว่านี้จริง ๆด้วย”ผมได้แต่บ่นกับตัวเองละนะยังไงก็ทำอะไรไม่ได้
“นี่นายใช้เวทไม่ได้งั้นหรอ?”มิร่าเหมือนจะได้ยินที่ผมบ่นเมื่อกี้เลยถามออกมา
“อืมม จะว่าอย่างงั้นก็ได้นะ”อ่าดูอ่อนไปเลยสินะแต่ถ้าบอกความจริงคงจะต้องอธิบายยาวเพราะงั้นเอาแบบนี้แหละ
แต่เมื่อได้ยินที่ผมตอบกลับทำตาโตแบบว่าเหมือนจะแปลกใจมากละนะ
“นี่นายสู้กับงูนั้นกับพวกคนชุดดำทั้ง ๆที่ใช้เวทไม่ได้เนี่ยนะ นี่นายเป็นผู้ถูกเลือกจากประเทศอื่นใช่มั้ยเนี่ย”
“ไม่ ๆผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกนะหัวหน้ายังบอกอยู่บ่อย ๆว่าผมอ่อนแอเกินไป”ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไปสู้ด้วยไม่ได้อีกเยอะ
หลังจากที่เซซิลตอบกลับไปแล้วทันใดนั้นเสียงฝีเท้าจำนวนมาดังออกมาจากป่า
“มีคนกำลังมาทางนี้”พูดเสร็จเซซิลก็มองไปทางป่าเตรียมพร้อมรับมือเผื่อว่าอาจจะเป็นพวกชายชุดดำนั่น
ไม่นานก็มีคนออกมาจากป่า แต่ไม่ใช่พวกคนชุดดำนั้นแต่ดูแล้วน่าจะเป็นทหารของเมือง ชุดที่พวกนั้นใส่เป็นเกราะหนังแนานอนว่าไม่ใช่พวกละดับสูง
“เจอแล้วครับ”ทหารคนนึงตะโกนขึ้นมาเพื่อบอกกับคนอื่น ๆก่อนที่จะวิ่งมาทางพวกเรา
คุกเข่าลงข้างนึงให้กับมิร่า
“ท่านมิร่าปลอดภัยดีนะครับ”
“อะ อืม พอดีได้เด็กคนนี้ช่วยไว้น่ะ”
พวกทหารเหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่ามีผมอยู่ด้วยจึงมองสำรวจมาที่ผมแต่ก็นะ ผมก็เป็นแค่เด็กคนนึงเท่านั้นแหละ
แต่พอเขาทำท่าจะพูดอะไรบางย่างทหารคนอื่น ๆก็มาถึงพอดีในกลุ่มทหารเกราะหนัง
มีชายคนนึงที่ขี่ม้าตัวใหญ่ที่มีเขาสองอันขดพันกันจนมีรูปร่างคล้ายสว่านอยู่ ชุดเกราะของชายคนนั้นแตกต่างจากคนอื่นมากวัสดุของเกราะเองก็น่าเหมือนของ มิร่า ดูแล้วคงเป็นพวกอัศวินที่มีระดับค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากเขาใส่หมวกเกราะอยู่จึงมองไม่เห็นหน้าแต่ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นชายหน้าตาดี
“ท่านมิร่า ดูเหมือนจะไม่เป็นไรสินะครับ”
“ค่ะ ฉันปลอดภัยดี ขอขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ท่านลุค แบลร์โรว แต่พอดีได้เด็กคนนี้ช่วยเอาไว้นะคะ”มิร่าตอบกลับโดยที่ชี้มาที่ผม
“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้วครับ”คนที่ชื่อลุคมองมาทางผมก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องตัวเอง”คุ้มกันท่านมิร่ากลับเมือง แล้วควบคุมตัวไอเด็กนั้นไว้ซะ”
“นี่คิดจะทำอะไรกันแน่คะ ถึงได้คิดจะจับตัวผู้ช่วยชีวิตของฉันไปแบบนี้”
คุณมิร่าที่ได้ยินคำสั่ง ก็เดินมาด้านหน้าผมแล้วถามจุดประสงค์ของการกระทำที่พยายามควบคุมตัวผมแต่อัศวินที่ชื่อว่าลุคนั้นก็ดูจะไม่สะทกสะท้านกับท่าทีของคุณมิร่า
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ก็แค่เด็กสามัญชนคนนึงเท่านั้น แล้วอีกอย่างเด็กนั่นจะไปช่วยเหลือท่านได้อย่างไร มันอาจจะเป็นหนึ่งในแผนการก็ได้นะครับ”
เห้ย ปากดีใช้ได้เลยนิ
<นี่เซซิลเราไม่ชอบเจ้านั้นเลย อัดมันเลย อัดมันให้เละเลย>
“โอ๊ย ๆนี่แน่ใจนะว่าเป็นเทพธิดา ทำไมถึงคิดอะไรโหดนักละความเมตตาหายไปไหนหมดแล้วเนี่ย”
<ก็เจ้านั่นมันพูดจาว่าร้ายเจ้านี่ เจ้าไม่โกรธบ้างเลยหรอ>
“แน่นอน แต่การที่เธอโกรธเพื่อผมนี่ก็น่าดีใจอยู่นะ”
<แน่นอนอยู่แล้วก็เราเป็นเทพธิดาผู้ช่วยเหลือมนุษย์นี่ ฮิฮิ>
“คร้าบ ๆท่าเทพธิดา”เอาละจะจัดการยังไงดี
“นี่นายจะบอกว่า รุ่นน้องของฉันเป็นสามัญชนหรือยังไง”ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรคุณมิร่าก็ออกตัวมาซะก่อน
“ท่านมิร่า ผมเข้าใจที่คุณอยากจะปกป้องไอเด็กนั้น แต่ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยจะ บอกว่ามันก็เรียนที่เดียวกับผมนี่จะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรอครับ”
“ไม่ว่านายจะเช่อหรือไม่ก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้หรอก เพราะเขากำลังจะเข้าเรียนปีนี้ถึงแม้ว่านายจะไม่ชอบก็ตาม”คุณมิร่าเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เหมือนกันท่าทางจะมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
“ถึงแบบนั้นผมก็ต้องทำตามหน้าที่ครับ จับตัวมันมา”ลุค แบลร์โรวออกคำสั่งกับลูกน้องโดยที่ไม่สนใจคำพูดของคุณมิร่าเลย แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“นี่นาย!”
ก่อนที่คุณมิร่าจะพูดอะไรต่อผมก็จับไหล่เธอแล้วดึงเธอมาไว้ด้านหลัง
“เรื่องนี้ให้ผมจัดการเองก็แล้วกันนะครับ”
“ไม่ได้หรอกนะ พวกนั้นมีตระกลูแบลร์โรวที่มีอำนาจสูงสุดทางการทหารหนุนหลังอยู่ ถ้านายไปทำให้พวกนั้นไม่พอใจละก็...”
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แค่จะท่าสู้กันเท่านั้นเอง ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ คุณอัศวิน”
“กล้าหาญดีนี่ ถ้าฉันชนะคงต้องขอจับตัวแกเอาไว้ในฐานะผู้ต้องสงสัยละนะ”พูดจบเขาก็ถอดหมวกเกราะออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูเหมือนพวกลูกคนรวยที่เอาแต่ใจแต่ผมสีทองสลวยนั่นคงดึงดูดพวกผู้หญิงได้มากทีเดียว
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าคุณแพ้คงต้องขอให้ล้มเลิกความคิดที่จะจับตัวผมไปซะนะครับ เพราะผมคงยอมให้พวกเศษขยะอย่างคุณจับตัวไม่ได้ไม่อย่างนั้นคงอายจนไม่มีหน้าไปเจอผู้คนแน่”ผมยิ้มขณะที่พูดออกไป แน่นอนว่าเพื่อกวนประสาทอีกฝ่ายเท่านั้น
“เซซิล จะไม่เป็นอะไรจริง ๆหรอ”
“แน่นอนครับผมไม่แพ้ให้คนจระจอกอย่างนั้นแน่ กฎเองก็ง่าย ๆจะไม่มีการหยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสลบไปหรือยอมแพ้ ไม่มีใครตายแน่นอนครับ”
เมื่อได้ยินบทสนทนาของผมกับคุณมิร่าก็แน่นอนว่าฝ่ายนั้นก็เลือดขึ้นหน้าจนตระโกนใส่ผมแบบไม่คิด
“แก ปากดีนักนะไอสามัญชน ฉันจะหุบปากเน่า ๆของแกซะ ชักดาบออกมาซะไอเวร”
“แหม ๆใจร้อนจังเลยนะครับ แต่ผมถือคติไม่ใช้อาวุธกับคนอ่อนแอน่ะครับคงจะทำตามที่บอกไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ”ผมพูดตอบกลับโดยที่ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้าการทำแบบนี่เป็นการปั่นประสาทอีกฝ่ายได้ดีที่สุดละนะแล้วผมเองก็ชอบซะด้วย
“แกกกกกกก ตายซะ”พอพูดจบเขาก็กระโดดลงจากม้าแล้วชักดาบออกมาดาบของเขานั้นทำมาจากช่างดีเหล็กชั้นดีแถมยังสวยงามและแข็งแรงกว่าดาบของพวกคนชุดดำนั้นจนเทียบไม่ติด
“ถ้าอย่างนั้นคุณมิร่าช่วยประกาศเริ่มให้หน่อยนะครับ”ผมยิ้มให้คุณมิร่าเพื่อแสดงความมั่นใจและคุณมิร่าเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจจึงพยักหน้าให้ผม
“เอาล่ะ กฎง่าย ๆคือสู้จนกว่าจะมีใครยอมแพ้หรือไม่อยู่ในสภาพที่ต่อสู้ได้ เหล่าทหารทั้งหลายเป็นพยานในการแข่งครั้งนี้ การะประลองเริ่มได้! ”
สิ้นเสียงของคุณมิร่าลุค แบลร์โรวก็พุ่งเข้ามาทางผมทันทีคงทนไม่ไหวแล้วละนะ แต่ว่า
พลั่ก!
ดาบของเขาพลาดและถูกหมัดของเซซิลอัดเข้าใบหน้าเต็ม ๆแต่เซซิลเองก็กำหนดแรงเอาไว้ไม่ให้จบในทีเดียว จากนั้นเซซิลก็ระดมหมัดใส่หน้าของเขาจนมีเลือดกระเด็นออกมาทุกครั้งที่ปล่อยหมัด สำหรับเหล่าทหารแล้วเป็นภาพที่หน้ากลัวมาก
เพราะว่านั่มันไม่ใช่การประลองแต่เป็นการกระทำของฝ่ายเดียวแถมยังไม่เว้นจังหวะให้ยอมแพ้หรือพูดออกมาเลยซักคำ
ทางด้านมิร่านั้นก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นเหมือนกันแต่เมื่อนึกไปถึงงูยักษ์นั่นแล้วก็เริ่มเข้าใจความแข็งแกร่งที่เซซิลมีมากขึ้น
พลุก พลั่ก
การต่อยยังดำเนินต่อไปจนกระทั่งมองเห็นฟันซี่นึงกระเด็นออกมาเซซิลก็ยอมหยุดในที่สุด
“ก...กะแก”เขาพยายามจะพูดแต่ความเจ็บปวดก็คอยขัดขวามเขาเอาไว้
“อะไรกันครับพูดไม่รู้เรื่องเลย ให้ผมช่วยจบการต่อสู้นี้ให้ดีกว่านะครับ”พอสิ้นคำเซซิลก็เพิ่มแรงเข้าไปในหมดแล้วปล่อยไปที่ไปหน้าของเขาเพียงแต่หมัดนี้ทรงพลังกว่าที่ผ่าน ๆมา
ปัง! ตูมมมม!
เมื่อหมัดปะทะเข้ากับใบหน้าก็ส่ง อัศวินผมทองกระเด็นออกไปชนต้นไม้ด้านหลังแตไม่มีเสียงร้องใด ๆทั้งสิ้นเนื่องจากมันหมดสติไปแล้ว เมื่อเห็นภาพนี้เหล่าทหารที่เคยพยายามจะเข้ามาจับตัวเซซิลก็หน้าซีดตัวสั่นกันไปตาม ๆกัน
“เอาละโชว์จบแล้วที่นี้ก็กลับเมืองกันได้แล้ว ผมเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”ผมหันไปหาคุณมิร่าพลางบิดตัวไปมา ส่วนคนอื่น ๆก็ได้แต่นิ่งเงียบ
“ผ..ผู้ชนะเซซิลแคมเบลจบการประลอง”คุณมิร่ากล่าวจบการประลอง
หลังจากนั้นคนอื่นก็พาร่างไรสติของ ลุค แบลร์โรวจากไปส่วนคนที่เหลือก็นำทางพวกผมไปที่รถยนต์เวทที่เตรียมเอาไว้
ใช้เวลาไม่นานผมก็มองเห็นกำแพงและประตูขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า เรามาถึงประตูเมืองแล้ว
“เฮ้ออออ ถึงเมืองซักทีนะ”
“เอ๋!!!!! คุณหนูที่มาเดินเล่นคือเธอเองหรอ ฉันนึกว่าเธอเป็นผู้ค้มกันของคุณหนูซะอีก”อะไรกันนึกว่าจะเป็นคุณหนูตัวเล็ก ๆซะอีกพวกชาวบ้านนั้นต่อให้เจอเธอก็คงจะโดนซัดหน่วมแน่ โดนหลอกเข้าเต็ม ๆเลย
“ตกใจขนาดนั้นมันอะไรกัน ฉันดูไม่เหมือนพวกคุณหนูรึไงกัน”เมื่อเห็นปฎิกริยาที่เกินพอดีของเซซิลก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงละนะ
“อ๊ะ! ไม่ใช่ ๆไม่ได้หมายความอย่างนั้น กลับกันผมยังคิดอยู่เลยว่าผู้หญิงสวย ๆอย่างเธอทำไมถึงมาเป็นคนคุ้มกัน กันนะอยู่เลย”ผมลนลานจนตอบออกไปตามที่คิดโดยไม่ได้คิดให้ดีก่อน
“สะสะสะสวยงั้นหรอ อืม ๆอย่างนั้นสินะ ฮิฮิ”เมื่อมิร่าได้คิดคำตอบของเซซิลก็รู้สึกยินดีแล้วก็เหมือนจะเขินอายอยู่ด้วยเหมือนกัน เพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอประดับไปด้วยรอยยิ้มที่แก้มของเธอก็มีสีแดงอ่อนเหมือนกัน
<เหหหหหหหห>เสียงของเอเลเนียดังขึ้นมาในหัวของผม
“อะ อะไรจะล้อเลียนกันรึไง”
<เปล่าซะหน่อยแค่คิดว่านายเองก็รู้วิธีพูดกับผู้หญิงเหมือนกันนะ ฮะ ๆๆ>
“หนอยยัยเทพธิดาไร้ประโยชน์นี่ เอาเถอะครั้งนี้จะทำเป็นไม่ได้ยินก็แล้วกัน”ผมตัดบทสนทนากับเอเลเนียทันทีเพราะตอนนี้มิร่า มองมาที่ผมที่จู่ ๆก็ไปด้วยท่าทีงุนงง
“อา..ขอโทษทีพอดีผมคิดอะไรอยู่น่ะ อาจจะช้าไปหน่อย แต่ผมชื่อ เซซิล แคมเบล”
ผมยิ้มให้เธอขอโทษและแนะนำตัวไปรวดเดียว
“เซซิล แคมเบล งั้นหรอ”เธอทวนชื่อผมอีกครั้งแล้วมองมาที่ผมแล้วพูดต่อ”เซซิล ขอขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้นะพอกลับไปที่เมืองแล้วขอให้ฉันได้ตอบแทนอะไรบ้างเถอะนะ”
“โอ้ ถ้างั้นขอรบกวนช่วยนำทางด้วยก็แล้วกัน พอดีผมต้องไปเข้าเรียนที่เมืองเบเรนน่ะ”ใช่แล้วถ้าไปเดินหาเองละก็คงใช้เวลานานน่าดูเลยละ
“นายไม่ใช่คนที่นี้งั้นหรอ ตกใจเลยนะคะเนี่ย แต่แบบนี้ฉันก็กลายเป็นรุ่นพี่ของนายสินะ ฮิฮิ”มิร่าเองก็เป็นนักศึกษาจากสถาบันเบเรน ที่เซซิลกำลังจะเข้าไปเรียนเหมือนกัน ถ้าบอกว่าจะเรียนที่เมืองนี้ก็คงหนีไม่พ้นสถาบันเบเรนแน่นอน จึงได้เรียกตัวเองว่าเป็นรุ่นพี่ได้อย่างมั่นใจนั่นเอง
“โฮ่ มีรุ่นพี่สวย ๆคอยนำทางให้นี่ก็ฟังดูดีจังเลยน้าา ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากด้วยนะครับ รุ่นพี่มิร่า”
คุณมิร่าเองพอถูกเรียกวารุ่นพี่แล้วก็กอดอกเชิดหน้ายิ้มอย่างภูมิใจที่สำคัญคือมันไม่ดูหยิ่งยโสเลยแม้แต่น้อย
<ท่าทางเหมือนเด็กที่ถูกชมเลย น่ารักจังเลยนะ>
“อื้ม เป็นรุ่นพี่ที่ดีเลยละ”
“นี่แล้วนายตัดสินใจเรื่องที่พักแล้วรึยังถึงทางโรงเรียนจะมีหอพักให้ แต่ในช่วงดำเนินการนายจะยังเข้าไปพักไม่ได้นะ”
อ่า พอพูดแล้วเรื่องที่พักไม่ได้อยู๋ในหัวเลยซักนิด เพราะถูกส่งมากะทันหันเลยยังไม่ได้วางแผนเตรียมตัวไว้เลย
“แหะ ๆ ผมยังไม่ได้คิดเอาไว้เลยละ พอจะที่แนะนำบ้างมั้ยครับ”
“ฮืมม แบบนี้เอง ๆ”ุมิร่าเมื่อได้ยินคำตอบของผมก็ก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง เหมือนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ถ้าอย่างนั้น จนกว่าจะทำเรื่องเข้าโรงเรียนเสร็จมาพักที่บ้านของฉันก่อนก็ได้นะ ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ช่วยฉันเอาไว้ ตั้งสองครั้งไงละ”
เอาไงดีละที่พูดว่าบ้านน่ะยังไงก็คงเป็นคฤหาสน์ตระกูลเบเรนแน่นอน แต่จะปฎิเศษรอยยิ้มที่เจิศจ้าขนาดนั้นน่ะ ทำไมได้หรอก เป็นไปไม่ได้แน่นอน แต่ว่า
“ขอบคุณมากครับ”ตอบไปซะแล้ว ใช่แล้วเพราะเราไม่มีทางเลือกยังไงละ ไม่จำเป็นต้องคิดมากไป
“ฮิฮิ ไว้ใจได้เลยรุ่นน้อง”
อ่าการที่เธอมีความสุขก็ดีแล้วละ
ฮัดชิ้ว
<จามได้น่ารักมาก สมเป็นคุณหนู>
“เห้ ๆตัวจริงของเทพธิดาเป็นพวกคุณลุงหรือไง”
<นายเองก็เป็นผู้ชายที่ไปนอนบ้านของผู้ด้วยท่าทางมีความสุขไม่ใช่หรือไง>
“ไม่ได้มีความสุขซักหน่อย!”ใช่แล้วผมน่ะไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอนแค่ไม่มีทางเลือกเท่านั้น
“นี่~”
อ๊ะ เผลอคุยกับยัยนั้นนานไป
“ครับ ขอโทษด้วยครับคงจะหนาวสินะครับก่อนกลับเมืองมาทำตัวให้แห้งกันก่อนดีมั้ยครับ”
“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน แต่มีเรื่องอยากจะถามหน่อยนะ”ดูเหมือนคุณมิราจะสงสัยที่มาของผมสินะก็แน่อยู่แล้ว
“ครับ เชิญถามได้เลย”เตรียมบทพูดที่จะไม่ดูแปลกเอาไว้แล้วเอาละเข้ามาเลย
“ทำไมนายต้องถือดาบหัก ๆนั้นด้วยละ แล้วอีกอยากทั้งที่ลงน้ำเหมือนกันแต่ทำไมชุดของนายถึงไม่เปียกเลยละ”
เอ๋! ดาบพังไปตอนไหนกัน แล้วทำไมถึงไม่เปียกเลยละ แย่แล้วไม่ได้คิดเรื่องนี้ไว้เลย ไม่ ๆความจริงผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันนี้
“นี่เอเลเนีย พอรู้อะไรบ้างมั้ย”คงต้องถามที่พึ่งสุดท้ายแล้ว
<เรื่องดาบน่ะ ตอนที่นายใช่ท่านั้นออกไปมันก็พังแล้วดาบธรรมดารับพลังขนาดนั้นไม่ไหวหรอกนะ>ตอนนี้ได้คำตอบเรื่องดาบแล้วต่อไปละ
<เรื่องเสื้อของเจ้าเราไม่รู้หรอกนะ เราก็ว่าจะถามอยู่เหมือนกัน>
“ปกติแค่เดินตอน ฝนโปรย ๆก็เปียกแล้วอย่าว่าแต่ลงน้ำเลย ทำไมกันนะ”
<แล้วตอนนี้เจ้ามีอะไรที่ผิดปกติแตกต่างไปจากเดิมบ้างละ อะไรที่ไม่ใช่เราน่ะเพราะเราตอนนี้ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ>
อืม อะไรที่เพิ่งจะมี ๆ อ่อ จะว่าไปก็มีอยู่อยางนึง
“นี่เธอคิดว่าจะเกี่ยวกับผ้าพันคอนี่มั้ย ก่อนจะมาที่นี้หัวหน้าให้ผมมาน่ะ”
<ก็ไม่รู้หรอกน่ะแต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่ ยังไงก็ลองบอกไปก่อนเถอะ>
เอาเป็นว่าตามนั้น
“คือดาบนี่มัน พึ่งจะพังตอนสู้กับพวกคนเมื่อกี้นี้ แล้วที่ผมไม่เปียกเลยก็น่าจะเป็นผ้าพันคอนี่ละครับ”อาา พอพูดไปแล้วเรื่องผ้าพันคอนี้ยังไงก็น่าสงสัย แต่ยกโทษให้ด้วยครับผมไม่รู้จริง ๆขอโทษด้วยครับที่โกหก
“อ๋อ แบบนี้เองผ้านี่เป็นอุปกรณ์เวทสินะเข้าใจละ”คุณมิร่าผยักหน้ารับโดยไม่สงสัยเลยซักนิด
เอ๊ะ อุปกรณ์เวทผ้าพันคอนี้ก็เป็นอุปกรณ์เวทได้ด้วยหรอ ถึงจะส่งสัยแต่ก็ดีแล้วละที่ไม่ถามไปมากกว่านี้
“ใช่ครับแบบนั้นแหละครับ เฮะ ๆ”ตอนนี้ก็ได้เวลาเปลี่ยนเรื่อง
“เดี่ยวผมไปหาฝืนมาก่อกองไฟก่อนนะครับ จะปล่อยให้คุณตัวเย็นแบบนี้ก็ไม่ดีซะด้วย”พูดด้วยรอยยิ้มแบบธรรมชาติแล้วหันหลังเดินเข้าป่าทันที แต่เสียงของคุณมิร่าก็หยุดผมเอาไว้ซะก่อน
“ขอบคุณนะ แต่ไม่เป็นไรหรอกฉันใช้เวทไฟได้น่ะ”พอพูดจบมิร่าก็เริ่มร่ายเวทแล้วลูกไฟเล็ก ๆก็ลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเธอ เธอปล่อยลูกไฟไปบนพื้นแน่นอนว่าลูกไฟไม่ได้หายไปแต่ยังคงลุกไหม้อยู่ถึงจะไม่แรงมาก แต่ถ้าโยนกิ่งไม่ลงไปก็จะทำให้ไฟแรกขึ้นซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มากเลย เพราะไม่ต้องเดินหาไม้แห้ง ๆ ของแค่ไม้ก็สามารถให้เป็นฟืนได้ทันที
“ถ้าใช้เวทได้คงสบายกว่านี้จริง ๆด้วย”ผมได้แต่บ่นกับตัวเองละนะยังไงก็ทำอะไรไม่ได้
“นี่นายใช้เวทไม่ได้งั้นหรอ?”มิร่าเหมือนจะได้ยินที่ผมบ่นเมื่อกี้เลยถามออกมา
“อืมม จะว่าอย่างงั้นก็ได้นะ”อ่าดูอ่อนไปเลยสินะแต่ถ้าบอกความจริงคงจะต้องอธิบายยาวเพราะงั้นเอาแบบนี้แหละ
แต่เมื่อได้ยินที่ผมตอบกลับทำตาโตแบบว่าเหมือนจะแปลกใจมากละนะ
“นี่นายสู้กับงูนั้นกับพวกคนชุดดำทั้ง ๆที่ใช้เวทไม่ได้เนี่ยนะ นี่นายเป็นผู้ถูกเลือกจากประเทศอื่นใช่มั้ยเนี่ย”
“ไม่ ๆผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกนะหัวหน้ายังบอกอยู่บ่อย ๆว่าผมอ่อนแอเกินไป”ผมเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันเพราะยังมีอีกหลายอย่างที่ผมยังไปสู้ด้วยไม่ได้อีกเยอะ
หลังจากที่เซซิลตอบกลับไปแล้วทันใดนั้นเสียงฝีเท้าจำนวนมาดังออกมาจากป่า
“มีคนกำลังมาทางนี้”พูดเสร็จเซซิลก็มองไปทางป่าเตรียมพร้อมรับมือเผื่อว่าอาจจะเป็นพวกชายชุดดำนั่น
ไม่นานก็มีคนออกมาจากป่า แต่ไม่ใช่พวกคนชุดดำนั้นแต่ดูแล้วน่าจะเป็นทหารของเมือง ชุดที่พวกนั้นใส่เป็นเกราะหนังแนานอนว่าไม่ใช่พวกละดับสูง
“เจอแล้วครับ”ทหารคนนึงตะโกนขึ้นมาเพื่อบอกกับคนอื่น ๆก่อนที่จะวิ่งมาทางพวกเรา
คุกเข่าลงข้างนึงให้กับมิร่า
“ท่านมิร่าปลอดภัยดีนะครับ”
“อะ อืม พอดีได้เด็กคนนี้ช่วยไว้น่ะ”
พวกทหารเหมือนจะพึ่งรู้สึกตัวว่ามีผมอยู่ด้วยจึงมองสำรวจมาที่ผมแต่ก็นะ ผมก็เป็นแค่เด็กคนนึงเท่านั้นแหละ
แต่พอเขาทำท่าจะพูดอะไรบางย่างทหารคนอื่น ๆก็มาถึงพอดีในกลุ่มทหารเกราะหนัง
มีชายคนนึงที่ขี่ม้าตัวใหญ่ที่มีเขาสองอันขดพันกันจนมีรูปร่างคล้ายสว่านอยู่ ชุดเกราะของชายคนนั้นแตกต่างจากคนอื่นมากวัสดุของเกราะเองก็น่าเหมือนของ มิร่า ดูแล้วคงเป็นพวกอัศวินที่มีระดับค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากเขาใส่หมวกเกราะอยู่จึงมองไม่เห็นหน้าแต่ก็พอจะเดาได้ว่าเป็นชายหน้าตาดี
“ท่านมิร่า ดูเหมือนจะไม่เป็นไรสินะครับ”
“ค่ะ ฉันปลอดภัยดี ขอขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ ท่านลุค แบลร์โรว แต่พอดีได้เด็กคนนี้ช่วยเอาไว้นะคะ”มิร่าตอบกลับโดยที่ชี้มาที่ผม
“เป็นเช่นนั้นก็ดีแล้วครับ”คนที่ชื่อลุคมองมาทางผมก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องตัวเอง”คุ้มกันท่านมิร่ากลับเมือง แล้วควบคุมตัวไอเด็กนั้นไว้ซะ”
“นี่คิดจะทำอะไรกันแน่คะ ถึงได้คิดจะจับตัวผู้ช่วยชีวิตของฉันไปแบบนี้”
คุณมิร่าที่ได้ยินคำสั่ง ก็เดินมาด้านหน้าผมแล้วถามจุดประสงค์ของการกระทำที่พยายามควบคุมตัวผมแต่อัศวินที่ชื่อว่าลุคนั้นก็ดูจะไม่สะทกสะท้านกับท่าทีของคุณมิร่า
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ก็แค่เด็กสามัญชนคนนึงเท่านั้น แล้วอีกอย่างเด็กนั่นจะไปช่วยเหลือท่านได้อย่างไร มันอาจจะเป็นหนึ่งในแผนการก็ได้นะครับ”
เห้ย ปากดีใช้ได้เลยนิ
<นี่เซซิลเราไม่ชอบเจ้านั้นเลย อัดมันเลย อัดมันให้เละเลย>
“โอ๊ย ๆนี่แน่ใจนะว่าเป็นเทพธิดา ทำไมถึงคิดอะไรโหดนักละความเมตตาหายไปไหนหมดแล้วเนี่ย”
<ก็เจ้านั่นมันพูดจาว่าร้ายเจ้านี่ เจ้าไม่โกรธบ้างเลยหรอ>
“แน่นอน แต่การที่เธอโกรธเพื่อผมนี่ก็น่าดีใจอยู่นะ”
<แน่นอนอยู่แล้วก็เราเป็นเทพธิดาผู้ช่วยเหลือมนุษย์นี่ ฮิฮิ>
“คร้าบ ๆท่าเทพธิดา”เอาละจะจัดการยังไงดี
“นี่นายจะบอกว่า รุ่นน้องของฉันเป็นสามัญชนหรือยังไง”ยังไม่ทันที่ผมจะได้ทำอะไรคุณมิร่าก็ออกตัวมาซะก่อน
“ท่านมิร่า ผมเข้าใจที่คุณอยากจะปกป้องไอเด็กนั้น แต่ผมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยจะ บอกว่ามันก็เรียนที่เดียวกับผมนี่จะไม่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรอครับ”
“ไม่ว่านายจะเช่อหรือไม่ก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้หรอก เพราะเขากำลังจะเข้าเรียนปีนี้ถึงแม้ว่านายจะไม่ชอบก็ตาม”คุณมิร่าเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้เหมือนกันท่าทางจะมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน
“ถึงแบบนั้นผมก็ต้องทำตามหน้าที่ครับ จับตัวมันมา”ลุค แบลร์โรวออกคำสั่งกับลูกน้องโดยที่ไม่สนใจคำพูดของคุณมิร่าเลย แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“นี่นาย!”
ก่อนที่คุณมิร่าจะพูดอะไรต่อผมก็จับไหล่เธอแล้วดึงเธอมาไว้ด้านหลัง
“เรื่องนี้ให้ผมจัดการเองก็แล้วกันนะครับ”
“ไม่ได้หรอกนะ พวกนั้นมีตระกลูแบลร์โรวที่มีอำนาจสูงสุดทางการทหารหนุนหลังอยู่ ถ้านายไปทำให้พวกนั้นไม่พอใจละก็...”
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ แค่จะท่าสู้กันเท่านั้นเอง ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องคงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ คุณอัศวิน”
“กล้าหาญดีนี่ ถ้าฉันชนะคงต้องขอจับตัวแกเอาไว้ในฐานะผู้ต้องสงสัยละนะ”พูดจบเขาก็ถอดหมวกเกราะออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ดูเหมือนพวกลูกคนรวยที่เอาแต่ใจแต่ผมสีทองสลวยนั่นคงดึงดูดพวกผู้หญิงได้มากทีเดียว
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าคุณแพ้คงต้องขอให้ล้มเลิกความคิดที่จะจับตัวผมไปซะนะครับ เพราะผมคงยอมให้พวกเศษขยะอย่างคุณจับตัวไม่ได้ไม่อย่างนั้นคงอายจนไม่มีหน้าไปเจอผู้คนแน่”ผมยิ้มขณะที่พูดออกไป แน่นอนว่าเพื่อกวนประสาทอีกฝ่ายเท่านั้น
“เซซิล จะไม่เป็นอะไรจริง ๆหรอ”
“แน่นอนครับผมไม่แพ้ให้คนจระจอกอย่างนั้นแน่ กฎเองก็ง่าย ๆจะไม่มีการหยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะสลบไปหรือยอมแพ้ ไม่มีใครตายแน่นอนครับ”
เมื่อได้ยินบทสนทนาของผมกับคุณมิร่าก็แน่นอนว่าฝ่ายนั้นก็เลือดขึ้นหน้าจนตระโกนใส่ผมแบบไม่คิด
“แก ปากดีนักนะไอสามัญชน ฉันจะหุบปากเน่า ๆของแกซะ ชักดาบออกมาซะไอเวร”
“แหม ๆใจร้อนจังเลยนะครับ แต่ผมถือคติไม่ใช้อาวุธกับคนอ่อนแอน่ะครับคงจะทำตามที่บอกไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ”ผมพูดตอบกลับโดยที่ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้าการทำแบบนี่เป็นการปั่นประสาทอีกฝ่ายได้ดีที่สุดละนะแล้วผมเองก็ชอบซะด้วย
“แกกกกกกก ตายซะ”พอพูดจบเขาก็กระโดดลงจากม้าแล้วชักดาบออกมาดาบของเขานั้นทำมาจากช่างดีเหล็กชั้นดีแถมยังสวยงามและแข็งแรงกว่าดาบของพวกคนชุดดำนั้นจนเทียบไม่ติด
“ถ้าอย่างนั้นคุณมิร่าช่วยประกาศเริ่มให้หน่อยนะครับ”ผมยิ้มให้คุณมิร่าเพื่อแสดงความมั่นใจและคุณมิร่าเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจจึงพยักหน้าให้ผม
“เอาล่ะ กฎง่าย ๆคือสู้จนกว่าจะมีใครยอมแพ้หรือไม่อยู่ในสภาพที่ต่อสู้ได้ เหล่าทหารทั้งหลายเป็นพยานในการแข่งครั้งนี้ การะประลองเริ่มได้! ”
สิ้นเสียงของคุณมิร่าลุค แบลร์โรวก็พุ่งเข้ามาทางผมทันทีคงทนไม่ไหวแล้วละนะ แต่ว่า
พลั่ก!
ดาบของเขาพลาดและถูกหมัดของเซซิลอัดเข้าใบหน้าเต็ม ๆแต่เซซิลเองก็กำหนดแรงเอาไว้ไม่ให้จบในทีเดียว จากนั้นเซซิลก็ระดมหมัดใส่หน้าของเขาจนมีเลือดกระเด็นออกมาทุกครั้งที่ปล่อยหมัด สำหรับเหล่าทหารแล้วเป็นภาพที่หน้ากลัวมาก
เพราะว่านั่มันไม่ใช่การประลองแต่เป็นการกระทำของฝ่ายเดียวแถมยังไม่เว้นจังหวะให้ยอมแพ้หรือพูดออกมาเลยซักคำ
ทางด้านมิร่านั้นก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นเหมือนกันแต่เมื่อนึกไปถึงงูยักษ์นั่นแล้วก็เริ่มเข้าใจความแข็งแกร่งที่เซซิลมีมากขึ้น
พลุก พลั่ก
การต่อยยังดำเนินต่อไปจนกระทั่งมองเห็นฟันซี่นึงกระเด็นออกมาเซซิลก็ยอมหยุดในที่สุด
“ก...กะแก”เขาพยายามจะพูดแต่ความเจ็บปวดก็คอยขัดขวามเขาเอาไว้
“อะไรกันครับพูดไม่รู้เรื่องเลย ให้ผมช่วยจบการต่อสู้นี้ให้ดีกว่านะครับ”พอสิ้นคำเซซิลก็เพิ่มแรงเข้าไปในหมดแล้วปล่อยไปที่ไปหน้าของเขาเพียงแต่หมัดนี้ทรงพลังกว่าที่ผ่าน ๆมา
ปัง! ตูมมมม!
เมื่อหมัดปะทะเข้ากับใบหน้าก็ส่ง อัศวินผมทองกระเด็นออกไปชนต้นไม้ด้านหลังแตไม่มีเสียงร้องใด ๆทั้งสิ้นเนื่องจากมันหมดสติไปแล้ว เมื่อเห็นภาพนี้เหล่าทหารที่เคยพยายามจะเข้ามาจับตัวเซซิลก็หน้าซีดตัวสั่นกันไปตาม ๆกัน
“เอาละโชว์จบแล้วที่นี้ก็กลับเมืองกันได้แล้ว ผมเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”ผมหันไปหาคุณมิร่าพลางบิดตัวไปมา ส่วนคนอื่น ๆก็ได้แต่นิ่งเงียบ
“ผ..ผู้ชนะเซซิลแคมเบลจบการประลอง”คุณมิร่ากล่าวจบการประลอง
หลังจากนั้นคนอื่นก็พาร่างไรสติของ ลุค แบลร์โรวจากไปส่วนคนที่เหลือก็นำทางพวกผมไปที่รถยนต์เวทที่เตรียมเอาไว้
ใช้เวลาไม่นานผมก็มองเห็นกำแพงและประตูขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้า เรามาถึงประตูเมืองแล้ว
“เฮ้ออออ ถึงเมืองซักทีนะ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ