ตลกร้ายใต้สะดือ
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) โอ๊ย...เบาๆหน่อย บุญกอบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 25 โอ๊ย...เบาๆหน่อย บุญกอบ
………………..
บุญกอบเดินคอตกไปตลอดทาง เขารู้สึกผิดหวังที่พลาดเกมกีฬามันๆไปอีกครั้ง แต่เขาก็จำต้องเอาชายเสื้อมาปิดที่เป้ากางเกง เนื่องจากซิปเจ้ากรรมยังคงค้างคาอยู่ตรงกลางจนส่งผลให้เห็นกางเกงในสีแดงที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
“ เฮ้อ…..ต้องปิดแหนมเมืองเอาไว้ให้ดีๆ ของมันยิ่งใหญ่โตซะด้วย ”
บุญกอบนึกภาคภูมิใจในอาวุธร้ายของตนเอง ซึ่งเขาก็คิดไม่ผิด เพราะถ้าจะให้จัดอันดับขึ้นมาจริงๆ ก็นับว่าใหญ่คับซอยเลยทีเดียว
บุญกอบเดินมาถึงหน้าภัตตาคารหรู เขาก็พบกับสหายหนุ่มจากบ้านเกิดผู้มีนามว่า “นายโมทย์” แน่นอนว่านายโมทย์ยังคงยืนตีหน้าถมึงทึงอยู่ดังเดิม
“ อึ้ย…นั่น ไอ้โมทย์นี่หว่า ” บุญกอบสะดุ้งโหยง ภาพความผิดที่เขาได้กระทำเมื่อคืนหลั่งทะลักเข้าสู่มโนทวาร จนเขานึกกลัวบาทามหาภัยของเพื่อนซี้ผิวหมึก
ทว่าทุกสิ่งที่เกิดล้วนผิดไปจากที่เขาคาด เพราะในจังหวะที่นายโมทย์เข้าถึงตัว เพื่อนซี้ผิวหมึกก็ก่นด่าในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้อง
“ เฮ้ย! มึงนอนตื่นสายรึไงวะ มึงมาช้าไปตั้งยี่สิบนาที ”
“ อะ…เออ กะ…กูเผลอนอนตื่นสายไปหน่อยน่ะ ” บุญกอบตอบตะกุกตะกัก พร้อมเหลือบมองใบหน้ามะลื่อทื่อของเพื่อนซี้ เพื่อค้นหาความผิดปกติที่น่าจะปรากฏ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เห็นประกายขุ่นเคืองใดๆ
“ เฮ้ย! มึงเป็นอะไรไปวะ ทำไมมองหน้ากูแบบนั้น ” นายโมทย์นึกสงสัย นั่นทำให้บุญกอบรีบตอบปฏิเสธ
“ เอ๊ะ….เปล่า ไม่มีอะไร ถึงกะกูแล้วใช่มั้ยวะ ”
“ เออ….มึงรีบเข้าไปเลย กูจะได้กลับไปนอนพักที่ห้อง กูไม่ได้นอนทั้งคืน ง่วงฉิบหายเลยว่ะ ” นายโมทย์พูดจบ เขาก็หาวออกมาหนึ่งที
“ อะ…เออ ตายสบายเลย เพื่อน ” บุญกอบตอบสั่นๆ ภายในนึกคลายใจเล็กน้อยที่เพื่อนซี้ผิวหมึกยังไม่รู้ความจริง
ในขณะที่สองหนุ่มกำลังจากลา นายโมทย์ก็หันกลับมาร้องทักอีกครั้ง
“ เอ๊ะ! เกือบลืมแหนะ กูมีบางอย่างจะบอกมึง ”
เสียงร้องทักนั้น ทำให้บุญกอบสะดุ้งสุดตัว แต่เพราะความรีบร้อนที่จะกลับบ้านของนายโมทย์ จึงทำให้เพื่อนซี้ผิวหมึกไม่ได้สังเกตเห็น
“ กูจะบอกมึงว่า…..นายหญิงสั่งให้มึงไปพบในทันทีที่มึงมาถึง น่าจะมีเรื่องด่วนให้มึงทำ ”
นายโมทย์สั่งความเสร็จ เขาก็หยีตาลงเล็กน้อยเป็นเชิงสงสัย ด้วยบุญกอบถูกนายหญิงคนสวยเรียกตัวบ่อยครั้งจนผิดสังเกต ทว่าบุญกอบกลับตอบเพียงสั้นๆว่า……
“ เออ….ขอบใจที่บอกว่ะ ”
บุญกอบจรลาไปหลายอึดใจ แต่นายโมทย์ยังคงหยัดยืนอยู่ที่เดิม ใบหน้ามะลื่อทื่อราวผีดิบดูขมวดนิ่ว เขานึกประหลาดใจเป็นที่สุด แต่เขาไม่มีเวลาว่างทั้งวันให้สงสัย เขาจึงละทิ้งความรู้สึกดังกล่าว พร้อมเดินทางกลับสู่เคหสถานที่ถวิลหาในทันที
“ เฮ้อ….กลับไปนอนดีกว่า สงสัยไปก็เท่านั้นแหละ ”
……………….
แม้บุญกอบจะรู้สึกเบาใจที่นายโมทย์ยังไม่รู้ว่าเขาได้ทำอะไรเอาไว้เมื่อคืน แต่ถ้าเพื่อนซี้ผิวหมึกกลับถึงห้องพัก นายโมทย์ต้องรู้แน่ว่า…..เขาได้กระทำชำเราน้องแหวว เมียสาวของนายโมทย์เมื่อคืนนี้ นั่นทำให้เขารู้สึกหนักใจเป็นอย่างยิ่ง
“ กูจะทำยังไงดีวะ น้องแหววต้องบอกทุกอย่างให้ไอ้โมทย์ฟังแน่ กูไม่น่ากินเหล้าเข้าไปเลย บ้าจริงๆ ”
บุญกอบเดินไป ก็นึกด่าตัวเองไป ไม่นานนักเขาก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องทำงานส่วนตัวของเมย่า “ผู้จัดการสาวคนสวย”
“ ก๊อกๆ”
“ ผมบุญกอบ ผมมาหาตามคำสั่งของคุณเมย่าครับ ”
บุญกอบยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง พร้อมส่งเสียงเรียกตามมารยาท เขารออยู่นานพอดู ก่อนจะได้ยินเสียงตอบกลับที่หวานหยดย้อย
“ นายบุญกอบมาแล้วหรือจ๊ะ เข้ามาได้เลยจ้ะ ”
เพียงได้ยินเสียงหวานใส บุญกอบก็แทบจะหลงลืมความกลัดกลุ้มทุกสิ่งอย่าง ภายในใจระลึกนึกถึงแต่สวรรค์ชั้นฟ้าที่กำลังจะมาถึง
“ เหอ เหอ เหอ เสียงหวานซะขนาดนี้ น่ากลัวว่าจะเสียเหงื่อมิใช่น้อย ”
“ แอ๊ด…..”
บุญกอบเปิดประตูออกอย่างช้าๆ และในทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปข้างใน เขาก็พบกับผู้จัดการสาวสวยผู้มีนามว่า “เมย่า” ที่กำลังหยัดยืนอยู่กลางห้อง ในวันนี้เธอซ่อนร่างสูงเพรียวในชุดแซกสีแดงที่รัดแนบเนื้อจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งที่ทรงสัดส่วนสมบูรณ์
“ ว้าว…..วันนี้ คุณเมย่าแต่งตัวได้ยั่วอารมณ์ดีเหลือเกิน ”
บุญกอบมองเรือนร่างงามของผู้จัดการสาวไม่วางตา ภาพเย้ายวนใจที่อยู่ตรงหน้ากระตุ้นต่อมหื่นอย่างรุนแรงจนทำให้อาวุธร้ายผงาดล้ำขึ้นมาอีกครั้ง
“ โอ้ว…..มันสุดยอดซะจนกูขึ้นมาอีกรอบแล้ว ทำไมถึงได้น่ารับประทานขนาดนี้ ”
เมย่าเหลือบไปเห็นบริเวณเป้าที่ปูดโปนของบุญกอบ แต่ด้วยบุญกอบดึงชายเสื้อลงมาปิด จึงไม่อาจเห็นถึงเนื้อใน เธอเลยออกคำสั่งต่อบุญกอบด้วยเสียงกระเส่าที่ชวนขนลุก
“ อื้อ….แล้วทำไมเธอถึงเอาชายเสื้อขึ้นไปล่ะ ดึงมันขึ้นไปเดี๋ยวนี้นะ ”
“ อะ….เอ่อ….มะ….ไม่ดีมั้งครับ ” บุญกอบตอบตะกุกตะกัก เพราะเขารู้ดีว่าถ้าดึงชายเสื้อขึ้น แล้วจะเป็นยังไง ทว่าเมย่าไม่พร้อมรับคำปฏิเสธ
“ ถ้านายไม่ดึงมันขึ้น ชั้นจะเข้าไปดึงซะเอง แล้วจะหาว่าชั้นโหดไม่ได้นะ ” ทันทีที่พูดจบ ผู้จัดการสาวคนสวยก็ชะม้ายชายตาให้ ร.ป.ภ.หนุ่มเป็นเชิงยั่วเย้า
“ มะ…..ไม่ดีมั้งครับ คะ…คุณเมย่าอย่าทำแบบนั้นเลย ” ถึงนาทีนี้ ยางอายก็กลับคืนสู่จิตสำนึกของบุญกอบอีกครั้ง
แน่นอนว่าผู้จัดการสาวสวยย่อมไม่ฟังคำทัดทานของบุญกอบ วินาทีต่อมาเมย่าก็ย่างเท้าเข้ามาหาบุญกอบอย่างช้าๆ ทุกก้าวที่รุกคืบล้วนทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำต้องกลืนน้ำลายอยู่หลายเฮือก ด้วยชุดแซกที่เธอสวมใส่มันแนบเนื้อซะจนเผยให้เห็นเรือนกายที่สะบัดไปมายามเคลื่อนตัว
“ ว้าว…..ทำไมถึงได้เซ็กซี่ขนาดนี้ แม่คุณเอย….”
เมื่อเมย่าก้าวถึงตัว เธอก็เอื้อมมือไปจับที่ชายเสื้อ และทันทีที่สัมผัสถูก บุญกอบก็เกิดขัดขืนเล็กน้อยด้วยการเกาะกุมที่ข้อแขนของผู้จัดการสาว
“ อย่าดึงมันขึ้นเลยครับ คุณเมย่า ”
ทว่ายิ่งห้าม เหมือนยิ่งยุ เมย่าไม่คิดจะรับฟังหนุ่มอีสานร่างล่ำเลยแม้แต่น้อย เธอสะบัดมือที่เกาะกุมออก พร้อมดึงชายเสื้อขึ้นสูง เมื่อชายเสื้อนั้นโผล่พ้นเอว สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็พลันให้เมย่าตาค้างในบัดดล
“ โอ้ว…..มายก็อด ”
สิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาของสาวสวยก็คือ…..มังกรร้ายที่อวบใหญ่ มันทรงพลังซะจนสามารถแทรกตัวผ่านกางเกงในแดงและซิปกางเกงที่เปิดค้างอยู่ครึ่งหนึ่ง
“ โห….นี่เธอแข็งแรงขนาดทำให้มันทะลักผ่านเป้ากางเกงเลยหรือเนี่ย ” เมย่าปิดปากพูด ใบหน้าคมงามสไตค์ลูกครึ่งแดงก่ำ ดวงตาจับจ้องไปที่อาวุธร้ายอยู่ตลอด
“ ปะ..เปล่าครับ พอดีซิปกางเกงมันดันค้างอยู่ครึ่งหนึ่ง มันเลยลอดผ่านรูออกมานั้นน่ะครับ ” บุญกอบตอบอายๆ แต่ดวงตายังคงจับจ้องที่ทรวงอกเต่งตึงที่บิดส่ายไปมาอย่างไม่วางวาย
“ อื้อหือ แข็งแรงซะจนทำให้ซิปกางเกงค้างเลยหรือนี่ ดูท่าทางจะต้องลองลูบคลำซะหน่อยแล้ว ”
บุญกอบพยายามบอกว่าสิ่งที่สาวสวยคิดนั้นผิด แต่ไม่ทันได้อ้าปาก บุญกอบก็ถึงกลับครวญครางออกมา เมื่อถูกมือบอบบางที่เรียวงามลูบคลำที่กลางลำของอาวุธร้าย
“ อู้วๆ…..คุณเมย่า เบาๆ….ครับ ”
“ หึ หึ หึ ทำไม เสียวมากรึจ๊ะ ” เมย่าหัวเราะคิกคัก อุ้งมือขวาเริ่มรูดที่กลางลำตัวอาวุธร้ายด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น
“ กะ….ก็ใช่ครับ อู้ว…ทนไม่ไหวแล้ว ขอซักทีเถอะ ” บุญกอบคำรามดัง ก่อนถลาเข้าไปผลักผู้จัดการสาวสวยให้ถลันเข้าไปที่โต๊ะทำงาน ด้วยกำลังกายของชนชั้นแรงงาน ร่างงามก็กระแทกเข้ากับเป้าหมายโดยแรง
“ โครม ”
“ โอ๊ย…บุญกอบ นายจะทำอะไรน่ะ ชั้นเจ็บนะ ” ผู้จัดการสาวสวยร้องโอดโอย เนื่องจากในจังหวะที่กระแทก บั้นท้ายงามของเธอได้อัดกับขอบโต๊ะแข็งๆเข้าอย่างจัง
ทว่าบุญกอบกลับไม่รับฟังน้ำคำของสาวสวย เขาใช้สองแขนแกร่งโอบอุ้มร่างงามของเมย่าขึ้นไปนั่งที่โต๊ะไม้ตัวใหญ่ จากนั้นเขาก็ผลักเมย่าให้ล้มลงไปนอน
“ ว้าย! บุญกอบ เธอบ้าไปแล้วหรือ เบาๆหน่อยซิ ” สาวสวยร้องอุทธรณ์ แน่นอนว่ามันไร้ผลโดยสิ้นเชิง เพราะบุญกอบได้เข้าสู่โหมดบ้าคลั่งไปเรียบร้อยแล้ว
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ