ตลกร้ายใต้สะดือ
เขียนโดย Jalando
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
20) ย่องเข้าห้องสาว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 20 ย่องเข้าห้องสาว
…………………
( ณ.ซอยใหญ่แห่งหนึ่ง )
ขณะนี้เป็นเวลาหัวค่ำ แต่ในกรุงเทพถือว่าเพิ่งเข้าสู่ช่วงเย็น มีผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาอยู่เต็มซอย แต่คนที่เราจะกล่าวถึงในตอนนี้ก็คือสาวร่างเล็กนางหนึ่ง เธอซ่อนกายาอยู่ในชุดเสื้อ กางเกงสีเทาอันเป็นยูนิฟอร์มของสาวโรงงาน ใบหน้าเธอดูจิ้มลิ้ม น่ารักสไตค์ญี่ปุ่น เมื่อนำมาประกอบกับผิวที่ขาวละเอียด ก็ทำให้เธอใกล้เคียงกับเน็ตไอดอลจากแดนซามูไรได้โดยง่าย
สาวน่ารักนางนี้เดินผ่านวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยด้วยท่วงท่าที่มาดมั่น เธอไม่แยแสต่อสายตานับสิบคู่ของหนุ่มวินเลยแม้แต่น้อย เหตุเพราะเธอ…..มีผัวแล้ว
สาวน้อยหน้าใสเดินไปตามทางเรื่อยๆ จวบจนถึงท้ายซอย เธอก็พบกับตึกแถวชั้นเดียวที่แบ่งย่อยเป็นหลายสิบห้อง ตึกแถวแห่งนี้คือเคหสถานที่เธอพักอาศัย
“ เฮ้อ…ถึงห้องพักซักที วันนี้รู้สึกเหนื่อยจัง ”
สาวน้อยร่างเล็กเดินไปยังห้องเลขที่……(ไม่บอกครับ ป้องกันคนชอบเล่นหวย ถ้าแทงผิดขึ้นมา เขาอาจจะมาด่าผมได้) เธอใช้เวลาไม่นาน เธอก็พาตัวเองมาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง
“ ฟู่…..” หญิงสาวเป่าปากระบายลม มือขวาก็ยกคอเสื้อขึ้นสะบัดเบาๆอยู่หลายที เพื่อขับไล่ความร้อนอบอ้าวซึ่งสุมอยู่ในภายใน และในจังหวะที่คอเสื้อสะบัด มันก็เหมือนจะเผยให้เห็นชั้นในสีชมพูอยู่รำไร
“ เอ…..ถ้าห้องล็อคแบบนี้ สงสัยว่าพี่โมทย์น่าจะยังไม่กลับ ” สาวน้อยหน้าใสเหลือบมองสายยูขนาดใหญ่ที่คล้องประตู ก่อนคาดการณ์
เมื่อเป็นดังนั้น เธอจึงควานหากุญแจในกระเป๋าถือ และใช้มันไขทุกแม่กุญแจที่ปิดผนึกห้องพัก จากนั้นก็ก้าวเข้าไปข้างในโดยลืมที่จะล็อคประตู
ภายในนั้นค่อนข้างคับแคบตามแบบฉบับห้องแถวทั่วไป ดีอย่างที่มีห้องน้ำส่วนตัว เธอมองไปยังกรอบรูปถ่ายที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูก ในภาพนั้นปรากฏร่างของผู้ชายสูงกำยำที่ยืนเคียงคู่เธอ ใบหน้าของฝ่ายชายดูทื่อมะลื่อและดำปานนิล จะว่าไปการที่ทั้งสองคบกันได้ นับเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโดยแท้
แม้ว่าแฟนหนุ่มของเธอจะไม่ได้เป็นคนรูปหล่อ ฐานะการเงินก็ไม่ดี แถมยังมีหน้าที่การงานเป็นแค่ ร.ป.ภ.ธรรมดาที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง แต่เธอก็ภาคภูมิใจในผัวคนนี้เอามากๆ เพราะเขาเป็นคนจริงใจ ขยันขันแข็ง ที่สำคัญไม่ดื่มเหล้า ไม่เจ้าชู้และ…..โคตรอึด
“ อืม…เมื่อไหร่ พี่โมทย์จะกลับมาซักทีนะ ชักเริ่มคันหัวใจขึ้นมาแล้วสิ ” เพียงแค่คิดถึงความอึดของแฟนหนุ่ม ใจของเธอก็เริ่มหวั่นไหวแล้ว
เพื่อเป็นการระบายความรุ่มร้อนในจิตใจ เธอจึงตัดสินใจที่จะอาบน้ำชำระร่างกาย เธอปลดเสื้อออกช้าๆ ทันทีที่เสื้อเทาหลุดจากกาย ก็เผยให้เห็นร่างเพรียวที่ขาวผ่องแบบเต็มสองตา บนทรวงอกอวบใหญ่ประดับประดาด้วยชั้นในสีชมพูที่บางเบา
เจ้าของผิวงาช้างเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ช่วงล่างอย่างไม่รีบร้อน เมื่อกางเกงขายาวหลุดออกจากกาย ก็ทำให้เรือนร่างที่ได้สัดส่วนปรากฏออกมา แน่นอนว่าจุดขายแรกก็คือความขาวระดับโอโม่ ส่วนจุดขายที่สองก็คือ…..เนินนาแปลงโตอันอวบอูมที่ซ่อนตัวตนอยู่ในอันเดอร์แวร์สีชมพู
ถึงจุดนี้ เจ้าของเรือนร่างสีงาช้างเหลือเพียงชั้นในบางที่ปิดบังกาย เธอจึงหยิบผ้าถุงส้มขึ้นมาคลุม เมื่อขมวดรัดผ้าถุงให้เข้าที่ เธอก็ทำการปลดเปลื้องชั้นในบางทั้งสองชิ้น
ทั้งยกทรงและกางเกงในค่อยๆหลุดออกจากกายหญิงสาวอย่างช้าๆ และเมื่อทุกชิ้นถูกปลดออก หญิงสาวก็เหลือเพียงผ้าถุงบางคลุมกาย
หญิงสาวกอบเศษชิ้นส่วนที่ปลดเปลื้องขึ้นมาไว้ที่วงแขน เธอเตรียมเอามันใส่ตะกร้า แต่ในจังหวะที่กำลังหย่อนอาภรณ์ลงไป เธอก็พลันรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
“ เอ๊ะ!.....นั่นใครน่ะ ”
หญิงสาวตวาดดัง สายตาเหลือบมองไปรอบๆ เธอรู้สึกเหมือนมีใครบางคนแอบดูเธออยู่ แต่ไม่ว่าเธอส่งสายตาสำรวจไปยังทิศทางใด เธอก็พบเพียง……ความว่างเปล่าเท่านั้น
“ เอ……หรือว่าเราจะคิดมากไปเองนะ ”
หญิงสาวถอนหายใจแรง ก่อนผ่อนคลายอาการเกร็ง จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระล้างร่างกาย
“ ปัง….”
เสียงปิดประตูห้องน้ำดังไปทั่วบริเวณ ด้วยเธอไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร เพราะนี่คือห้องน้ำส่วนตัว หลังจากประตูห้องน้ำปิดไปได้ซักพัก ก็บังเกิดเสียงน้ำไหล ตามมาด้วยเสียงฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ของหญิงสาว
“ ซู่ๆ……”
“ ลาๆ…ล้าๆ…ลาๆ...ลัลๆ….”
การอาบน้ำดำเนินไปได้ครู่หนึ่ง ประตูห้องพักก็ค่อยๆแง้มเปิด
“ แอ๊ดๆ…..”
เสียงแง้มประตูดังแผ่วเบาและยาวนาน เพราะบานประตูค่อนข้างที่จะฝืด หลังจากประตูเปิดได้ครึ่งบาน ก็ปรากฏกายล่ำสันของหนุ่มหน้ามนคนหนึ่ง หนุ่มคนนั้นก็คือ…..บุญกอบ
ใบหน้าเหลี่ยมของบุญกอบแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราที่เพิ่งเสพ ดวงตาแลดูขวางและแข็งกร้าวราวสัตว์ป่า แน่นอนว่าคนที่ลอบมองหญิงสาวในตอนผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก็คือเขา และจุดที่แอบมองก็คือรอยแยกเล็กๆตรงขอบหน้าต่าง นับว่าหญิงสาวร่างเล็กนางนี้มีสัมผัสที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“ หึ หึ หึ กำลังอาบน้ำอยู่หรือ ดีจริงๆ ” บุญกอบหัวเราะในลำคอ สายตากร้าวจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำ
เสียงฮัมเพลงยังคงดังอย่างต่อเนื่อง สาวร่างเล็กไม่รู้เลยซักนิดว่ามหันตภัยครั้งใหญ่กำลังมาเยือนเคหสถานของเธอ
บุญกอบย่างเท้าเข้าไปที่ห้องน้ำ เมื่อถึงหน้าประตู เขาก็เอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างแผ่วเบา
“ แกร๊ก….”
จากเสียงและสัมผัสที่ได้รับ ทำให้บุญกอบรู้ว่า….ประตูนั้นล็อค และนั่นทำให้หนุ่มอีสานร่างล่ำรู้สึกหัวเสีย
“ ฮึ่ม…แม่งจะมาล็อคทำไมวะ ”
บุญกอบอยากจะกระแทกประตูให้พัง แล้วบุกเข้าไปปลุกปล้ำสาวสวยให้สมใจ แต่เขาก็ยังพอมีสติยั้งคิดอยู่เล็กน้อย เขาจึงปัดความคิดนั้นทิ้งแล้วหันเหความสนใจไปยังสิ่งอื่น และสิ่งที่เขาสนใจในลำดับถัดมาก็คือ……เสื้อผ้าของหญิงสาว
เขาเดินตรงมายังตะกร้าผ้าที่วางตรงมุมห้อง เขาค่อยๆหยิบเสื้อและกางเกงขึ้นเชยชม เขาพบว่ามันชื้นเล็กน้อย อันบ่งบอกได้ว่าสาวนางนี้น่าจะเป็นคนที่มีเหงื่อเยอะ
“ หึ หึ หึ ถ้าเปียกแฉะขนาดนี้ ก็แปลว่าน่าจะหลงเหลือกลิ่นอยู่มิใช่น้อย ”
คิดได้ดังนั้น เขาจึงยกมันขึ้นดอมดม โสตนาสิกแว่วกลิ่นอับที่เหมือนจะหอมนิดๆ
“ อืมๆ…..มีกลิ่นตามคาด ”
บุญกอบดอมดมอยู่ได้ระยะหนึ่ง เขาก็เริ่มรู้สึกร้อนผ่าว และเมื่อมันร้อนถึงจุดทะยานอยาก เขาก็เกิดความคิดใหม่
“ แค่กลิ่นจากเสื้อและกางเกงยังแรงขนาดนี้ ถ้ากลิ่นจากชั้นในจะแรงขนาดไหน เพราะสองชิ้นนั้นมันแนบชิดกับโฟกัสสำคัญของร่างกาย ”
ด้วยความคิดที่ชั่วช้าลามก ทำให้เขาตัดสินใจที่จะหยิบชั้นในบางสีชมพูขึ้นมาดอมดม
“ ฟื้ดๆ…..อ้าๆ…..กลิ่นสาบสาวนี่มันหอมชื่นใจดีจริงๆ ” บุญกอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆจนรูจมูกทั้งสองบานสุดตัว
กลิ่นอับผสมกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วโสตนาสิกของบุญกอบ สิ่งนี้ทำให้อารมณ์ร้อนของหนุ่มอีสานร่างล่ำยิ่งปะทุแรง จนในที่สุดเขาก็เริ่มจะทนไม่ไหว
“ อู้ว….ทนไม่ไหวแล้วโว้ย ขอระเบิดซักทีเถอะวะ ”
สิ้นเสียงคำรามของหนุ่มอีสานร่างล่ำ เขาก็ใช้มือขวาล้วงลงไปหยิบกางเกงในตัวจิ๋วในตะกร้าผ้า ส่วนมือซ้ายยังคงกระชับยกทรงไว้แน่น เพื่อดอมดมอย่างต่อเนื่อง
บุญกอบใช้เวลาไม่นาน ก็หากางเกงในตัวจิ๋วเจอ ดวงตาเเข็งกร้าวจับจ้องไปที่สิ่งนั้นนิ่งด้วยประกายแวววาวราวเห็นขุมทรัพย์ก้อนโต เขามองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยกระทำ
บุญกอบปลดกางเกงออกจากกายและนำกางเกงในผืนบางมาคลุมแก่นกลางกายที่แกร่งเกร็ง จากนั้นก็สาวมันด้วยอุ้งมือ เพื่อบำเรอความสุขให้ตัวเอง
“ อู้วๆ….สุดยอดไปเลย น้องแพรว พี่อยากสนุกกับเธอมานานแล้ว ” บุญกอบพล่ามรำพันเป็นภาษาท้องถิ่น มือขวาก็เร่งระรัวในการรูดท่อนลำอวบใหญ่ เพื่อตะกายให้ถึงสวรรค์ที่ควานหา
“ อ้าๆ….ซีดๆ….ดีจริงๆ น้องแหววของพี่….”
บุญกอบเร่งจังหวะในการรัวอุ้งมือให้เร็วขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมือซ้ายก็ประคองชั้นในบางไว้ที่จมูกเพื่อสูดดม สมองจินตนาการไปต่างๆนาๆ ซึ่งก็คงไม่พ้นฉากการเสพสวาทกับสาวแหววด้วยท่วงท่าต่างๆ
“ อ้าๆ…..ซี้ดๆ…..จะไม่ไหวแล้ว จะไม่ไหวแล้ว ” กายของบุญกอบสั่นแรง อุ้งมือขวารัวเร็วจนแทบมองไม่ทัน และเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดแตกหัก น้ำป่าก็ทะลักออกจากเขื่อน
“ โอ้วๆ…..” บุญกอบอ้าปากครางยาว พร้อมกระตุกกายแรง เพื่อปลดปล่อยความทะยานอยากออกมาให้เต็มเหยียด แน่นอนว่าสายน้ำขาวขุ่นที่พุ่งพ่นออกมาค่อนข้างรุนแรง โชคยังดีที่มีกางเกงในผืนบางห่อหุ้มเอาไว้ มันเลยไม่กระเซ็นออกมามากนัก
บุญกอบเกร็งกาย กระตุกแรงอยู่หลายวาระ ปากก็พล่ามพูดเป็นภาษาพื้นบ้าน
“ ข้อยทนบ่ไหวแล้ว อิแหววสุดจะแซบอีหลีเด้อ…..”
บุญกอบระเบิดความบ้าคลั่งอยู่นับสิบครั้ง พอเลยครั้งที่สิบ เขาก็เริ่มเกร็งกายน้อยลง สุดท้ายก็คลายตัว
“ แฮ่ก…..”
บุญกอบหอบเหนื่อย สายตาเหลือบมองไปที่กางเกงในซึ่งฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำขาวขุ่นด้วยความรู้สึกพึงพอใจ
“ เหอ เหอ เหอ สาแก่ใจดีจริงๆ รู้งี้ ทำอย่างนี้ตั้งนานแล้ว ”
ขณะที่บุญกอบกำลังชื่นชมผลงานของตัวเอง เขาก็ต้องพบกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาว
“ กรี๊ด….พี่บุญกอบ พี่กำลังทำอะไรน่ะ ทุเรศที่สุดเลย ”
ถ้าเป็นปกติ บุญกอบคงกลัวลนลานและรีบกล่าวขอโทษขอโพย แต่บุญกอบในเวอร์ชั่นนี้กลับไม่นึกเกรงกลัว มิหนำซ้ำยังหันมาจ้องเจ้าของเสียงด้วยแววตาถมึงทึง ซึ่งเจ้าของเสียงก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจาก….น้องแหวว สาวร่างเล็กทรงโต
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ