มาร่วมเดินทางไปกับฉันในโลกที่ไม่ธรรมดา

-

วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.45 น.

  11 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 08.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) จุดเริ่มต้นในครั้งสุดท้าย4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

  ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของมนุษย์อีกหนึ่งอย่างคือ การสูญเสียคนที่สำคัญไปร่างของชายหนุ่มที่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตรียงผู้ป่วยที่กำลังถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน บุคคลสำคัญที่วิ่งตามมาด้วยอย่างมีความหวังไม่มีสิ่งใดยืนยันว่า ชายหนุ่มจะฟื้นกลับมา มีเพียงความเป็นจริงที่จะต้องยอมรับว่า ..เขาอาจไม่รอด..มิโอะผู้เป็นแม่ กำลังโศกเศร้าเสียใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นลูกชายคนที่สองของเธอ กำลังจะจากไปบรรยากาศที่ส่งออกมารอบๆ ความโศกเศ้รา คือความหวังบนความสิ้นหวังเมื่อได้เห็นร่างลูกชายนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นที่ละเลงไปด้วยเลือดสันนิษฐานได้อย่างเดียวว่า ..เขากำลังจะตาย..เหลาลูกชายอีกสองคนและลูกสาวเข้ามากอดเธอเพื่อให้กำลังใจกันทั้งน้ำตาไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ความเสียใจในครั้งนี้อาจจะกลายเป็นความทุกข์ในวันข้างหน้า

 
*****
''...อึก....''
 
''ที่ไหนอีกละเนี่ย......''มึดไปหมด''…..''
 
''คิวต่อไป!''
 
          เมื่อทัศนวิสัยที่มืดมิด ค่อยๆปรากฏร่างชายที่ดูท่าทางกำยำนั้งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ดูมีอำนาจ และข้างๆของเขาก็มีชายที่ดูลึกลับมีจมูกยาวผิวสีเขียวที่ท่าทางจะเหมือนเป็นบุคคลสำคัญของเขายืนอยู่ เขากำลังถือสมุดบันทึกทั้งหนาทั้งใหญ่ไว้ในมือ โดยที่กำลังเปิดอยู่ในหน้ากลางๆเล่ม
 
          ''ชายผู้นี้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุนะขอรับ ''ฮิฮิ''
 
          ''อืม..ชื่อละ''
 
          ''ชายผู้นี้มีชื่อว่า ทานากะ โชอิจิ ''ฮิฮิ''
 
          บรรยากาศดูไม่ชอบมาพากลเอาซ่ะเลย สายตาของชายผู้ที่กำลังถือสมุดเล่มมหึมาเหมือนกำลังมีจิตคิดอะไรเจ้าเล่ห์อยู่
 
          โชอิจิที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าตัวเองกำลังจะได้เจอกับอะไร ก็ทำได้แค่ตั้งสติแล้วดูว่าตัวเองจะได้เจอเหตุการณ์อะไรขึ้นมาอีก ติ๊ด! ติ๊ด! ''ว่าไง! ''...อืม..อืม '' ได้จะส่งไปให้!''
 
          จู่ๆบรรยากาศที่ดูมืดมน ก็เกิดเสียงสัญญาณอะไรบางอย่างดังขึ้นมาสองที ชายรูปร่างกำยำที่ได้รับสัญญาณนั้น เอามือขวาขึ้นมาแตะที่หูของเขา แล้วพูดคุยอะไรบางอย่างที่คนนอกไม่สามารถรับรู้ใจความได้ ชายรูปร่างกำยำนั้งมองโชอิจิด้วยสายตาที่ไร้อารมณ์ เหมือนจะกำลังค้นหาอะไรบางอย่างโชอิจิที่ไม่รู้อะไรก็พยายามตั้งสติกับตัวเอง ให้ระมัดระวังตัวตนที่ไม่น่าจะปลอดภัยที่อยู่ตรงหน้า แล้วชายที่ท่าทางกำยำก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่ทุ่มใหญ่ ''เจ้า...''ไปได้!'' เมื่อสิ้นเสียงของชายผู้นั้น ทัศนวิสัยที่มืดมิดก็เหมือนโดนลมพัดปริวออกไป ผมกำลังยืนอยู่ในหมู่บ้านธรรมดาๆแห่งหนึ่ง ผมพยายามมองดูทุกๆอย่างรอบๆให้อย่างแน่ใจ มันคือหมู่บ้านธรรมดาๆที่มีบรรยากาศอบอุ่น และเงียบสงบ
 
          มีคนแต่งชุดสีขาวอยู่เต็มไปหมด บ้างก็กำลังทำกิจวัตประจำวัน บางก็กำลังคุยกัน บ้างก็วิ่งเล่นกัน
 
          ''ที่นี่......   ''มันคืออะไรกันน่ะ ''
 
          ''พี่ชายๆ ''
 
          ผมกำลังมองไปรอบๆด้วยความสงสัย จู่ๆก็มีเด็กผู้ชายตัวน้อยใส่ชุดขาวเข้ามาทักทายเด็กน้อยคนนั้นยิ้ม ''พี่ชายมาใหม่เหรอ คับบ'' ผมได้แต่สงสัยว่ามาใหม่นี่คืออะไร 
 
          ''เอ่ออ.... พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน''
 
         ''อะพี่ชาย..ผมให้ ''แล้วมาเล่นด้วยกันน่ะคับ......''
 
 
 
         เด็กคนนั้นส่งดอกไม้มาให้แล้ววิ่งออกไป ผมที่กำลังงงกับสถานะการณ์ต่างๆก็เอาดอกไม้ที่ได้รับมาจากเด็กน้อยคนนั้นขึ้นมาดู มันเป็นดอกไม้ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ''หืมม....หอมจัง''
 
         พอคนที่รู้ว่าผมกำลังมองอยู่ เขาก็หันมายิ้มให้ ทุกคนดูใจดี แล้วก็อบอุ่นมากๆ บ้านเรือนแต่ละหลังแต่มันดูหลังเล็กและตกแต่งแบบง่ายๆ เสือผ้าที่ทุกคนใส่มันเป็นชุดสีขาวยาว แบบไม่มีกางเกง 
 
          ''เจ้าหนุ่มว่าไงมาใหม่เหรอ''
 

          ''คะ...คับ..''
 

          ''แล้วเจอกันน่ะ ''
 
          มีผู้ชายวัยกลางคนเดินผ่านมาทางผมแล้วก็ทักทาย บรรยากาศมันดูสงบ จนสมองมันโล่งแบบไม่มีอะไรเข้ามาให้หนักในหัว ผมเดินไปข้างหน้าพลางมองสิ่งรอบๆไปด้วย มันมีบรรไดทอดยาวให้ขึ้นไปข้างบนอยู่ด้านหน้าผม ผมไม่รู้ว่าถ้าผมขึ้นไปมันจะพาผมไปที่ไหน ผมจึงตัดสินใจเดินขึ้นบรรไดไป 
 
     เมื่อผมเดินขึ้นบรรใดไปก็มองเห็น ผู้ชายสองคนกำลังยืนรออะไรอยู่ด่านบนที่ไกลออกไปนิดนึง พอผมเดินเข้าไปจนใกล้ ก็ได้พบกันชายชราตัวสูงประมาณ 150 ซม. ข้างๆมีชายหนุ่มรูปงามท่าทางใจดีที่สูงประมาณ 190-200 ซม. 
 
          ''มาแล้วเรอะ มาถึงซักทีน่ะ พ่อหนุ่มม''
 
 
 
          ชายชรากับชายตัวสูงท่าทางใจดีเดินพาผมขึ้นบรรไดไป โดยไม่รู้ว่าบรรไดจะไปสิ้นสุดที่ไหน
 
         ''เจ้ารู้รึเปล่า...''ว่าเจ้ากำลังอยู่ที่ไหนน''
 
          ''ไม่รู้คับ จู่ๆผมก็มาโผล่ที่นี่''
 
          ''อืม...ที่นี่นะ เป็นสถานที่ ที่พวกมนุษย์ชอบเรียกกันว่าสวรรค์นะน่ะ''
 
          ''งั้นเหรอคับ ''ผมคงตายแล้วสิน่ะคับ''
 
           ''โฮะ โฮะ ''
 
            ชายชรารู้ว่าผมได้เข้าใจสถานะของตัวเองก็ส่งเสียงหัวเราะแบบพอใจ พลางเอามือมาลูบเคราที่คาง
          ''ท่านคับ''
 
          ''มีอะไรเรอะ ''
 
          ''มีข่าวความคืบหน้าของเทพแห่งความซื้อสัตว์เข้ามาคับ แล้วกำลังจะขอเข้ามารายงานด้วยตัวเองคับท่าน''
 
          ''อย่างงั้นเองหลอกเรอะ ''งั้นไปกันเลยเนอะ ฝากดูแลพ่อหนุ่มคนนี้แทนหน่อยน่ะ''
 
          ''ได้คับท่าน''
 
          จู่ๆชายตัวสูงก็เรียกชายชราด้วยความเร้งรีบ แล้วชายตัวสูงก็เดินเข้ามาใกล้ๆผมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม 
 
 
          ''เอาละ...''ช่วยหลับตาไว้ซักห้าวินาทีน่ะ โชอิจิ''
 
 
 
          เขาเอามือเข้ามาโอบที่ไหล่ของผม แล้วจู่ๆตัวผมก็มาโผล่ที่ห้องโถงกว้างๆ ผมไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แต่มันดูจะเป็นทางการสุดๆมันมีที่นั้งอยู่กลางห้องเป็นเหมือนบัลลังก์พระราชา แต่ที่นี่ดูจะยิ่งใหญ่กว่านั้นมีคนตัวสูงๆยืนกันเป็นระเบียบอยู่หน้าบัลลัง และมีคนมากมายท่าทางจะดูไม่ธรรมดาเต็มไปหมด
 
          ''โชอิจินายมายืนตรงนี้''
 
          ชายที่พาผมมาที่นี่ บอกให้ผมมายืนกับเขา ตรงข้างๆเสาภายในห้องโถงขนาดใหญ่ของที่นี่
 
****มาแล้วๆ ท่านมาแล้ว*****
 
          เมื่อทุกคนส่งเสียงเอะอะกัน ชายชราที่พบกับผมเมื่อเขาเดินขึ้นไปนั้งบัลลังก์เขากระโดดขึ้นไปบนบัลลังแล้วนั้งลง''เอ่อ! เอาละน่ะ''
 
 
 
          ''ไหนมีอะไรเชิญเขาเข้ามาได้เลย โฮะ โฮะ'' 
 
          เมื่อชาราพูดเสร็จประตูบานใหญ่ก็เปิดออกสองด้าน ไม่นานก็มีชายท่าทางที่ดูเข้มแข็งบินเข้ามาด้วยความรีบร้อน มันเป็นปีกนกสีขาวสวยงามมากๆ เขาบินเข้ามานั้งคุกเข่าหน้าบัลลังก์ ''มีรายงานความคืบหน้าคับ''
 
          ''มีอะไรว่ามาสิ''
 
 
 
          ผมที่กำลังยืนดูรอบๆ ผมไม่เข้าใจเลยว่าคนอื่นเขาคือใครแล้วมาทำไม ผมจึงถามคนที่พาผมมาที่นี่ ''พวกนี้คือ ลูกน้องของชายที่กำลังนั้งคุกเข่าอยู่ตรงนั้นไงละ'' 
 
          ''ความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นในโลกที่ข้ากำลังดูแลอยู่ชั่วคราว จะต้องยืดออกไปอีก เพราะปัญญาที่ฉลาดหลากแหล่มของมนุษย์ในโลกนั้นเพิ่มขึ้น จึงทำให้เกิดความระแวดระวังกับสิ่งต่างๆที่ดูจะเป็นภัยกับพวกเขา การแก้ไขความวุ่นวายที่ก่อตัวขึ้นในโลกที่ข้าพเจ้าได้รับหน้าที่ดูแลชั่วคราวจึงต้องปฏิบัติควบคู่ไปกับกฏวินัยต่างๆที่พวกมนุษย์สร้างกันขึ้นมา ไม่อย่างงั้น จะเกิดการก่อสงครามทำให้ทุกอย่างแย่ลงมากขึ้น''
 
          ''อย่างงั้นเองหลอกเรอะ...พวกเขาก็มีวิธีการคิดเพื่อเอาตัวรอดขึ้นเองงั้นสินะ''คงจะทำอะไรตามใจชอบไม่ได้ละสิน่ะ''
 
 
         ผมไม่สามารถเข้าใจถึงเรื่องราวของบทสนทนานั้นได้เลย แต่ผมรู้สึกว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ที่วุ่นวายมากๆ อืมสิ่งที่ผมได้เห็นก่อนหน้านี้ที่มีหมู่บ้านมีผู้คนแต่งชุดขาวทุกอย่างดูสงบและอบอุ่น แต่เบื้องของสิ่งเหล่านั้นมันคือเรื่องที่ดูจะใหญ่โตแบบนี้เองเหรอ นี่สินะที่พวกเราคิดว่าคือสวรรค์ ขนาดสวรรค์ที่ได้ยินว่า ยังไงก็คือสถานที่แห่งความสุขใครๆก็อยากมาแต่ตอนนี้ ผมรู้แล้วละ 
 
          ''ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้กล้าได้จัดการทุกอย่างเองเถอะน่ะ..''พวกเรามีกฏว่าห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายของโลกนะน่ะ''
 
          ''คับท่าน….''
 
          ''อืม อืม.. ข้าเชื่อว่า ทุกอย่างจะต้องแก้ไขได้ ''ยังไงข้าจะบอกว่าให้ทำอย่างไรต่อไปเนอะ โฮะ โฮะ''
 
         ''คับทาน...''
 
          ''ไปได้แล้วละน่ะ ขอบใจเจ้ามาก โฮะ โฮะ ''
 
          ''คับท่าน...''
 
          เมื่อพูดคุยกันเสร็จ ชายที่มารายงานเรื่องราวก็บินออกจากประตูไปด้วยความรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
 
***เฮ่ออออ ฉันว่าหัวหน้าคงจะลำบากมากๆเลยละ***
 
***ใช่ๆ เจองานแบบนี้ เป็นใครก็ต้องเหนื่อยทั้งกันนั้น***
 
ผมที่ได้ยินพวกพี่ชายที่อยู่ในห้องโถงพูดคุยกัน ก็เดินเข้าไปถาม
 
          ''งานนี่มันคืออะไรเหรอคับ''
 
          ''หืม......''นายพึ่งจะมาใหม่สิน่ะ''
 
          ''เอ่ออ นายเด็กใหม่อย่างงั้นเหรอ...''แปลกจังแฮะ... เด็กใหม่ไม่น่าจะเข้ามาที่นี่ได้นินา''
 
          ''ใช่ๆ.....''แปลกจังแฮะ''
 
          ''งานที่ว่าก็คือ งานที่ต้องกำจัดภัยพิบัติในโลกต่างๆที่พวกเราได้รับหน้าที่คอยดูแลปัญหาพวกนี้มันก่อตัวขึ้นจากความผิดปกติของสภาพแวดล้อมของโลกและจิตใจของมนุษย์ จิงๆแล้วมันก็เกิดจากมนุษย์ในโลกใบนั้นนั่นแหละ บางโลกก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง บางโลกก็สามารถแก้ไขด้วยความพยายามของมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกนั้นแต่โลกที่กำลังมีปัญหานี้อยู่นะ….มันหนักหนา จนไม่อาจแก้ไขได้ด้วยอะไรเลยมีแต่ต้องลบโลกนั้นทิ้ง ถึงจะแก้ไขได้''
 
          ''ละ..ลบทิ้ง..''
 
        ผมได้แต่ตกใจกับคำพูดของชายที่มาจากไหนไม่รู้เขาตัวสูงและแต่งกายเหมือนกับชายที่มากับผม
 
          ''ฉันคือเทพแห่งความรู้...''ยินดีที่ได้รู้จักน่ะ โชอิจิ''
 
           ''คะคับ.....''
 
          ''แล้วฉันก็เป็นเทพแห่งความเมตตา ขอโทษทีน่ะที่ไม่ได้แนะนำตัว โชอิจิ''
 
           ''ค....คับบ ''
 
           ผมที่ทำอะไรไม่ถูกก็ได้เข้าใจแล้วว่า ชายที่พาผมมาคือเทพนี่เอง
 
***คนที่มารายงานความคืบหน้าเมื่อกี้ คือหัวหน้าพวกเราเองแหล่ะ เขาคือ เทพแห่งความซื้อสัตย์นะ***
 
****จริงๆแล้ว หัวหน้าของพวกเรามีโลกที่ประจำการอยู่แล้วนะ แต่เป็นเพราะโลกใบนั้นมันมีปัญหากระทันหันนะ ท่านเทพ zeus เลยไหว้วานให้ไปประจำการก่อนชั่วคราว****
 
****ใช่ๆๆ****
 
****พวกเราเลยต้องมาช่วยดูแลโลกที่หัวหน้าประจำการอยู่แทน*****
 
****ใช่ๆ ในเวลาที่หัวหน้าต้องไปทำหน้าที่ ดูแลโลกอีกใบนึงนะ*****
 
หรือว่าชายชราที่นั้งอยู่บนบัลลังคือ เทพ ZEUR! 
 
*****
 
          เมื่อได้มาฟังการรายงานของท่านเทพบนสวรรค์แล้ว ผมก็ถูกพามาที่บ้านหลังเล็กๆ ที่มีคนคอยดูแลทำความสะอาดตลอดเวลา มันเหมือนจะเป็นสถานที่พูดคุยกันแบบสังสรรค์ ของพวกเทพบนสวรรค์ ''ท่านคับ '' มีคนเอาขนมมาเสิร์ฟให้ท่านเทพ Zeus 

          ''อ่าา ...ขอบใจเจ้ามากๆๆ ''มีคนเอาขนมมาเสิร์ฟให้ท่านเทพ Zeus 
 
          ''อาวละนะ.....''พ่อหนุ่มมม''
 
          ''คะ...คับ''
 
          ''เจ้าจะต้องไปเกิดที่โลกนั้นที่กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้นะน่ะ''
 
          ''หะ.....หาาาาาา!!!! แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยละ''
 
          ''โฮะ โฮะ ''พ่อของเจ้าก็อยู่ที่นั่นนะน่ะ โฮะ โฮะ''
 
          ''ไม่จริงใช่ไหม….''
 
          ''โฮะ โฮะ เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนเลยละ โฮะ โฮะ''
 
          ชายชราที่กำลังพูดกับผมด้วยอารมณ์ชอบใจได้บอกว่าพ่อของผมอยู่ในโลกที่กำลังมีปัญหาอยู่ในตอนนี้ ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลย แล้วทำไมผมต้องไปเกิดใหม่ที่โลกไม่ปลอดภัยแบบนั้นด้วยถ้าได้ไปแล้วเกิดโดนหลอกผมก็แย่สิ ตาแก่นี่ดูเจ้าเล่ห์ชอบกล
 
          ''โฮะ โฮะ ข้าจะพาเจ้าไปดูอะไร พ่อหนุ่ม''
 
เมื่อชายชราพูกจบ จู่ๆ ตัวผมและท่านเทพอีกสองคนก็มาโผล่ในสถานที่ที่หนึ่ง ที่ดูเหมือนบนยานอวกาศในหนังเลย ''ตามข้ามาสิ โฮะ โฮะ''
 
          ท่านเทพ ZEUS ได้เดินพาผมมาที่กลางห้องที่มีต้นไม้ต้นใหญ่ตั้งอยู่ บนต้นไม้ไม่มีอะไรเลยนอกจากใบไม้ ผลหรือดอกไม่มีเลย แต่มันดูอุดมสมบูรณ์มากๆ ชายชราเดินพาผมมาอีกด้านหนึ่งแล้วชี้นิ้วไปที่ที่มีเถาวัลพันอยู่มากมาย
 
         ''นั่นไง ร่างของพ่อของเจ้านะ ''อยู่ที่ต้นไม้ต้นนั้น โฮะ โฮะ''
 
 
        สิ่งที่ผมเห็น คือร่างผู้ชายที่ดูมีอายุ ตัวของเขานั้นโดนเถาวัลมากมายรัดติดเอาไว้กับต้นไม้
 
        เมื่อผมมองไปที่ใบหน้าของชายที่ตรงนั้น นั่นเหมือนพ่อที่อยู่อัลบั้มรูปของผม แล้วจู่ๆ ก็มีเรื่องราวเป็นภาพและเสียงมากมายมันทะลักเข้ามาในหัวของผมจนหัวผมแทบจะระเบิด ''อ่าาาาาาาาาา!!!!!! ''หัวฉัน!!! หัวของฉันมันนน!!!!!!''
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา