กุ่ยสิงเทียนเซี่ย หนึ่งหนู หนึ่งแมว ผ่าคดีปริศนา (ลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ เรือนหอมหมื่นลี้ B2S)
10.0
เขียนโดย จอมยุทธ์หญิงนักแปล
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.00 น.
19 บท
2 วิจารณ์
27.40K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 16.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) บทที่ 1 ตอนที่ 1.7 ตำนานหม่าฟู่แห่งแม่น้ำอี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความใช่แล้ว หัวไหล่ของเขาถูกฝ่ายตรงข้ามสัมผัสเข้าให้แล้ว หากว่าเป็นดาบจริง ตัวเขาเองคงจะไม่ได้มีชีวิตรอดแล้ว แล้วยังจะต้องฟัง ไป๋อวี้ถังพูดจาเสียดสีอีก “เช่นนี้แล้วเจ้ายังจะกล้าออกมาเพียงลำพังอีกหรือ”
จั่นเจาไม่ตอบ ไป๋อวี้ถังก็ไม่ต่อความ ประจวบกับเวลานี้ มีเสียงหัวเราะดังมาจากหลังคาฝั่งตรงข้าม “ฮ้าๆๆ ข้าหลงคิดว่าเจ้าจะเป็นยอดฝีมือ ที่แท้ก็เป็นแค่เพียงคนตาบอดคนหนึ่งเท่านั้น”
ที่กำลังพูดอยู่นั่นก็คือชายชุดขาวตัวปลอมที่ยังไม่ละความพยายามตามมาอีกจนได้ สิ้นเสียงของชายชุดขาว แขนเสื้อของไป๋อวี้ถังก็สะบัดเล็กน้อยแกว่งไปตบหน้าชายชุดขาวตัวปลอม โดยที่เจ้าคนนั้นยังไม่ทันรู้ตัว ก็พลันรู้สึกร้อนวูบขึ้นที่ใบหน้า “เย้ยยย” เขาร้องขึ้นเมื่อร่างของเขายังทรงตัวอยู่บนเท้าที่เหยียบอยู่บนกระเบื้องหลังคาไม่ได้ แล้วยังโดนตบหน้าแบบไม่ทันตังตัว ทำให้ตกลงมาจากหลังคา ยังดีที่เขาพอจะมีวรยุทธ์อยู่บ้าง เมื่อตอนที่ตกลงมาจึงตั้งตัวได้ เพียงแค่ก้นกระแทกนั่งแช่อยู่ที่พื้น โชคดีที่ ยังไม่บาดเจ็บถึงขั้นพิการ แต่ก็ทำให้เขาเจ็บปวดเหลือทน “โอ้ยย !”
“นายน้อย”
ไม่ไกลจากที่ชายชุดขาวตัวปลอมคนนั้นตกลงมา ชายชราพาหญิงสาวชุดขาวสองคนวิ่งเข้ามายื่นมือออกไปช่วยพยุงชายชุดขาว “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง
“ข้าไม่เป็นอะไร” ชายชุดขาวรู้สึกขัดเขินจึงรีบพูดขึ้นแก้เก้อว่า “เมื่อสักครู่ข้าไม่ทันระวังตัวจึงได้ตกลงมา”
ชายชราชำเลืองมองใบหน้าของเขาเห็นชัดๆว่ามีรอยมือประทับอยู่ เนี่ยนะ ไม่ทันระวังตัว ตกลงมา !!?
ไป๋อวี้ถังหันกลับมาดูก็เห็นว่าจั่นเจานั้นกระโดดลงมาจากหลังคาแล้ว
“เมี้ยวเมี้ยว” เสี่ยวซื่อจึวิ่งมายื่นอยู่ข้างจั่นเจา จั่นเจาลูบหัวเสี่ยวซื่อจึเบาๆ แล้วเดินออกจากตรอกเล็กๆ ด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ข้างทางนั้นมีเศษซากกองไม้ผุพังวางกองระเกะระกะอยู่ จั่นเจาเดินไปแล้วยกขาขึ้นมา เขี่ยกองไม้ที่วางเกลื่อนอยู่ข้างทางออกแล้ว ปัดๆกางเกงเบาๆ จากนั้นจึงเดินต่อไป
เสี่ยวซื่อจึหันไปสบตากับเซียวเหลียงก็เห็นเขานั้นหน้าตาบูดบึ้งและอารมณ์ไม่ดี เซียวเหลียงรีบวางเสี่ยวซื่อจึลงแล้วรีบวิ่งตามจั่นเจาไป
ในเวลานี้ ไป๋อวี้ถังก็ตามมาถึงแล้ว เสี่ยวซื่อจึจ้องเขม่งไปที่เขา เขามองไปที่เสี่ยวซื่อจึก็พบว่าโดนเสี่ยวซื่อจึแลบลิ้นปริ้นตาใส่ “หึ ไป๋ไป๋น่าเกลียดที่สุดรังแก เมี้ยวเมี้ยวที่มองไม่เห็น” พูดจบเสี่ยวซื่อจึก็สะบัดหน้าวิ่งหนีไป ไป๋อวี้ถังทำอะไรไม่ถูกได้แต่ถอนหายใจ ส่วนที่เท้าของเขานั้น ก็โดนสือโถวสะบัดหางมาคลอเคลียเขาอยู่
เพิ่งจะเดินพ้นตรอกเล็กๆออกมา กลับต้องมาปะทะกับพวกนักเลงหลายคน นักเลงพวกนั้นชี้ไปที่จั่นเจาแล้วพูดกับไป๋อวี้ถังว่า “นายท่าน หาเจอแล้วขอรับ”ไป๋อวี้ถังไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่ส่งเหรียญทองให้กับพวกนักเลง แล้วก็รีบตามจั่นเจาไป..วันนี้ทุกๆเรื่องล้วนไม่มีอะไรเหมาะสมเลยสักเรื่องเดียว
จั่นเจาถูกเสี่ยวซื่อจึกับเซียวเหลียงลากเข้าไปในโรงน้ำชา เสี่ยวซื่อจึสั่งอาหารอร่อยๆ มามากมายเพื่อเอาอกเอาใจอยากจะให้จั่นเจาอารมณ์ดีขึ้น ไป๋อวี้ถังเดินขึ้นมาชั้นบนของโรงน้ำชาก็เห็นพวกจั่นเจานั่งอยู่ก่อนแล้วจึงเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆพวกเขา จั่นเจายกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบ
ไป๋อวี้ถังหันมาถามเสี่ยวซื่อจึ “ท่านพ่อของเจ้าปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่”
“ท่านพ่อของข้าบอกว่าสามารถทำได้ แต่ยาถอนพิษชนิดนี้ต้องใช้เวลาผสมยานานถึงครึ่งเดือน”
ไป๋อวี้ถังเหลือบตาขึ้นมองไปที่ดวงตาของจั่นเจาอย่างระมัดระวัง คนปกติถ้าดวงตาได้รับบาดเจ็บบริเวณรอบๆเบ้าตาจะสามารถดูออก แต่ที่จั่นเจาได้รับบาดเจ็บกลับดูแปลกประหลาดพิลึก ไม่รู้ใจพี่ชายของจั่นเจาคิดอย่างไรถึงได้ทำร้ายผู้เป็นน้องชายได้ลงคอ
ขณะที่ไป๋อวี้ถังที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้น จั่นเจาก็หันหน้ามา เพียงแค่มองหน้าจั่นเจา ไป๋อวี้ถังก็ยิ่งรู้สึกอึ้งตะลึงงั้น ดวงตาของจั่นเจาปัจจุบันยังคงเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่เลย ยังคงดูสะอาดและใสแจ๋ว ที่อยู่ข้างๆนั่นเสี่ยวซื่อจึกับเซียวเหลียงรีบขยิบตาส่งสัญญาณให้กับเขาประมาณว่า รีบขอโทษจั่นเจาสิ !
ไป๋อวี้ถังพูดไม่ออก ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินจั่นเจาเอ่ยถามขึ้น “เจ้ามาได้อย่างไร”
“กงซุนเขียนจดหมายมา” ไป๋อวี้ถังถามต่อ “เกิดอะไรขึ้นหรือ”
จั่นเจายกมือขึ้นเท้าคางแล้วค่อยค่อยเล่าถึงต้นสายปลายเหตุ
“ภาพละ” ไป๋อวี้ถังยื่นมือออกมาเพื่อรอรับ จั่นเจาล้วงลงไปที่อกเสื้อของเสี่ยวซื่อจึแล้วหยิบภาพที่คัดลอกไว้ออกมา ส่งให้กับไป๋อวี้ถัง
ไป๋อวี้ถังรับม้วนภาพมาแล้วเปิดออกดู คิ้วของเค้าก็ขมวดเข้าหากันทันที “นี่มันคล้ายสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง แต่ข้าก็ไม่เคยเห็นมาก่อน”
จั่นเจานั่งจิบชาด้วยท่าทีเบื่อหน่าย ”เจ้ามาที่นี่นานแค่ไหนแล้ว”
“ตั้งแต่สองวันก่อน”
“อ่า” งั้นเรื่องหม่าฟู่ฆ่าคนเจ้าก็ได้ยินแล้วใช่หรือไม่ ?
ไป๋อวี้ถังเพิ่งจะได้ลงเรือก็ได้รับฟังเรื่องนี้เข้าพอดีจั่นเจาขมวดคิ้ว เสี่ยวซื่อจึกับเซียวเหลียงตกใจร้องขึ้นมากว่า “ตายจริงๆหรือ”
“ตายต่อหน้าเลยหรือ” ไป๋อวี้ถังพยักหน้า “ถ้าไม่ใช่โดนยาพิษมาก่อน ก็คงไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์เป็นแน่”
“แล้วทำไมพี่ใหญ่ถึงอยากให้ข้ามาที่นี่ ? หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับหม่าฟู่ ? ใบหน้าของจั่นเจาบ่งบอกถึงความสับสนไม่เข้าใจในขณะที่พูดกับตัวเอง
“นายท่าน อาหารว่างมาแล้วขอรับ” ตอนนี้เอง เสี่ยวเอ้อก็ยกถาดอาหารว่างมาวางบนโต๊ะ เมื่อจัดวางอาหารเสร็จแล้วสี่ยวเอ้อผู้นี้ก็ยังไม่ยอมไป กลับยืนชำเลืองไปมองที่จั่นเจา
ไป๋อวี้ถังใช้สายตาเหลือบไปมองเสี่ยวเอ้อที่ยืนสั่นอยู่ข้างๆ แล้วก็ยกมือโบกให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสียที เสี่ยวเอ้อเห็นไป๋อวี้ถังมองมาถึงกับตัวสั่นก็เลยโบกมือปฏิเสธทันทีว่าไม่ได้ตั้งใจจะมอง แล้วรีบพูดขึ้นมา “ โอ้ ! นายท่านผู้นี้กำลังหาห้าว号 อยู่ใช่หรือไม่ขอรับ” (คำว่า ห้าว号 ในภาษาจีนแปลว่า เลข)
“หาห้าว号” เสี่ยวซื่อจึกับเซียวเหลียงเอียงหัวมามอง
จั่นเจาเลิกคิ้วแล้วในใจก็คิดว่าห้าว号 คือคำที่ออกเสียงเดียวกันกับชื่อของ จั่นห้าว昭晧 จั่นเจาพยักหน้า “เสี่ยวเอ้อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าห้าว号 อยู่ที่ไหน?”
“เขาให้เจ้าบอกอะไร” ไป๋อวี้ถังพูดขัดขึ้นมา
“อ่า เขาบอกว่าห้าว 号 คือ หก กับ เจ็ด “ เสี่ยวเอ้อรีบตอบ
“หก กับ เจ็ด?“ จั่นเจาฟังแล้วรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก “อะไรคือ หก กับ เจ็ด บอกเพียงเท่านี้หรือ ?“
“เท่านี้ขอรับ” เสี่ยวเอ้อพยักหน้า “ไม่มีข้อความอื่นแล้วขอรับ” พูดจบเสี่ยวเอ้อก็รีบวิ่งไปทักทายแขกที่โต๊ะอื่นทันที
+++โปรดติดตามตอนต่อไป อัพตอนใหม่ทุกวัน จันทร์ พฤหัส และเสาร์ ตอน 2 ทุ่มครึ่งค่ะ+++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ