กุ่ยสิงเทียนเซี่ย หนึ่งหนู หนึ่งแมว ผ่าคดีปริศนา (ลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ เรือนหอมหมื่นลี้ B2S)

10.0

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.00 น.

  19 บท
  2 วิจารณ์
  27.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 16.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) บทที่ 1 ตอนที่ 1.5 ตำนานหม่าฟู่แห่งแม่น้ำอี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          เสี่ยวซื่อจึตัวเล็กขนาดนั้น จะต้านทานแรงปะทะนั้นได้อย่างไรกัน จึงถลาล้มลงข้างหน้า จั่นเจายืนอยู่ด้านหน้าของเขาแค่ก้าวเดียว จึงทันหันหลังกลับมาโอบคว้าเอวไว้ได้ทันพอดี จั่นเจาถอนใจโล่งอก ถ้าหากเจ้าลูกรักคนนี้บาดเจ็บแล้วล่ะก็ จะมีหน้าไปอธิบายกับกงซุนได้อย่างไรกันเล่า ? !
เสี่ยวซื่อจึเห็นชุดขาวพริ้วปลิวแว้บๆ อยู่ข้างกาย ก็รู้สึกดีใจ แหงนหน้าขึ้นมอง สุดท้ายกลับรู้สึกผิดหวัง
 
          เบื้องหน้าที่ยืนอยู่ คือชายหนุ่มที่สวมชุดขาว แต่กลับไม่ใช่ไป๋อวี้ถัง —— ไป๋ไป๋ของเขารูปงามกว่านี้มากนัก !
 
          เซียวเหลียงรีบเข้าไปช่วยพยุงเสี่ยวซื่อจึให้ลุกขึ้น “เด็กน้อย เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ?”
 
          เสี่ยวซื่อจึส่ายหัว คนชุดขาวนั่นหันกลับมาดูทีหนึ่ง ไม่กล่าวคำขอโทษสักคำ กลับขมวดคิ้วแสดงท่าทีว่าเสี่ยวซื่อจึมายืนขวางทางทำไม จากนั้นก็เดินจากไป ได้ยินเพียงเสียงขู่คำรามไล่ตามมาว่า “เดี๋ยว แทงแม่งเลย !”
 
          แต่สุดท้ายชุดขาวของชายคนนั้นก็กลับถูกกรงเล็บของสือโถวตะครุบไว้ กรงเล็บของมันแหลมคมไม่ต่างจากคมมีด ปกติสือโถวจะเก็บซ่อนมันไว้ภายใต้อุ้งเท้าอันอวบนิ่ม เมื่อยามที่จะต้องขุดหลุมหรือต่อสู้เท่านั้นมันถึงจะปล่อยกรงเล็บออกมา ครั้งนี้มีคนมาชนเสี่ยวซื่อจึ จึงทำให้มันแสดงท่าทีดุร้ายใส่ทันที
 
          ชายชุดขาวหันกลับมาทันควัน ก็เห็นว่าด้านหลังของเสื้อถูกตะครุบไว้ คิ้วขมวดจ้องเขม็งไปที่สือโถว
 
“สือโถว” เสี่ยวซื่อจึเห็นชายคนนั้นกำลังจะง้างดาบ จึงรีบปรี่เข้าไปหยุดสือโถวไว้ “ไม่เป็นไร อย่าสร้างปัญหาให้เมี้ยวเมี้ยวเลยนะ”
 
สือโถวหันไปมองเสี่ยวซื่อจึทีหนึ่ง หุบกรงเล็บกลับเข้าไปในอุ้งเท้า แล้วลงไปนั่งหมอบอยู่ข้างๆ เขา เหลือบมองชายชุดขาวแล้วแสดงท่าทีเหมือนจะเป็นการบอกว่า —— ช่างเถอะ เจ้าไปซะ
 
          แต่ทว่าชายชุดขาวคนนั้นกลับไม่ยอมลดละ ยกเท้าขึ้นทำท่าจะถีบสือโถว พลางปากก็ตะโกนด่า “ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ตาบอดรึไง……”
เท้าของเขายังไม่ทันจะสัมผัสโดนตัวของสือโถวด้วยซ้ำ ก็ถูกเท้าของจั่นเจาสกัดไว้ จั่นเจาบิดข้อเท้าของเขาเบาๆ ชายชุดขาวนั่นก็กระเด็นไปทันที จนเขาต้องหันกลับมามองจั่นเจาด้วยสายตาที่ตกใจสุดขีด !
 
          จั่นเจายิ้ม “เจ้ายังเทียบกับสัตว์เดรัจฉานนี่ไม่ได้เลยนะ”
 
          “เจ้า……” ชายชุดขาวโกรธมาก
 
          ในเวลานี้ ภายในโรงน้ำชามีคนจำนวนไม่น้อยที่มองเข้ามา ที่นี่เป็นที่รวมของชาวยุทธ์จำนวนมาก ดูแล้วทั้งอึกทึก ทั้งเสียงดัง ทั้งวุ่นวาย
 
          ชายชุดขาวจ้องจั่นเจาตาเขม็ง “เจ้าเป็นใคร ?”
 
          จั่นเจายิ้มหึ “ถามชื่อเสียงเรียงนามคนอื่น ควรจะรายงานชื่อตนเองก่อนนะท่าน”
 
          “เฮอะ” คนนั้นยิ้มเยาะอย่างเย็นชา “ถ้าบอกไปท่านจะตกใจตายเสียเปล่าๆ ตั้งสติฟังให้ดีล่ะ ปู่ข้าแซ่ไป๋ หนูขนทองไป๋อวี้ถังเคยได้ยินหรือไม่”
          ทันทีที่ชายผู้นี้เอ่ยออกมา เหล่าชาวยุทธ์ภายในโรงน้ำชาต่างเงยหน้าขึ้นมอง เสียงซุบซิบดังอื้ออึงขึ้น ทุกคนต่างก็พากันชะโงกหน้าเข้ามาดู
จั่นเจาชะงักงงงัน สีหน้าแสดงความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด ชายชุดขาวผู้นั้นเข้าใจว่าเขากลัว จึงรู้สึกได้ใจ
 
          “ผุ๊……”
 
          หลังจากความเงียบผ่านไปชั่วครู่ ก็ได้ยินเสียงเสี่ยวซื่อจึหลุดหัวเราะออกมาดังผุ๊ “เสี่ยวเหลียง คนนี้แอบอ้างเป็นไป๋ไป๋ !”
 
          เซียวเหลียงยิ้มเยาะๆ เอ่ยว่า “โอ้ยโหย๋ว ! เจ้าเลิกหลอกคนได้แล้ว ไป๋อวี้ถังน่ะพวกข้ารู้จัก !”
 
          ชายชุดขาวตัวปลอมชะงัก อึ้งไปเล็กน้อย เริ่มทำหน้าไม่ถูก ผู้คนภายในโรงน้ำชายิ่งเกิดความสนอกสนใจ หนังเรื่องนี้ชักจะสนุกแล้วสิ
 
          “เด็กน้อยอย่างพวกเจ้าจะรู้อะไร อย่ามาพูดจาเหลวไหล……”
 
          “พูดจาเหลวไหลที่ไหนกัน” เสี่ยวซื่อจึพูดเสียงดังชัดเจน ชี้ไปที่ชายผู้นั้น “ข้ารู้จักไป๋ไป๋ ไป๋ไป๋รูปร่างสูงกว่าเจ้า ผมดำกว่าเจ้า เสื้อผ้าดูดีกว่าของเจ้า ดาบยาวกว่าของเจ้า มีมารยาทมากกว่าเจ้า ที่สำคัญที่สุดคือเขารูปงาม กว่าเจ้านัก !”
 
……
 
          “ฮัดชิ้ว……”
          ไป๋อวี้ถังออกจากโรงเตี๊ยมเจ็ดสิบสาม รู้สึกอยู่ดีๆ ก็คันจมูกเลยจามออกมาหนึ่งที ถ้าเป็นไปตามที่สองพี่น้องนั่นบอกว่าพวกของจั่นเจาเข้าเมืองมาแล้ว ทำไมโรงเตี๊ยมทุกแห่งที่เขาเข้าไปถามต่างบอกว่าไม่เคยเห็นคนกลุ่มนี้ผ่านมา ? คงจะไม่ใช่ว่า……มีโรงเตี๊ยมใดโรงเตี๊ยมหนึ่งพูดโกหกนะ ?
เขาถอนหายใจขึ้นเฮือกหนึ่ง ไป๋อวี้ถังเริ่มรู้สึกว่าวิธีนี้ชักจะไม่ได้ผลเสียแล้ว………
 
          นึกขึ้นมาถึงตอนนี้ เขาก็เดินเข้าไปในตรอกแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีพวกนักเลงกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นพนันกันอยู่
 
          “แกร๊ง กรุ๊งกริ๊งง” ดังขึ้นหนึ่งครั้ง เหรียญร่วงหล่นลงหมุนกลิ้งไปกองอยู่ด้านหน้าของเหล่านักเลง
 
          บรรดานักเลงพวกนี้ล้วนอายุยังไม่มาก พอหันมาเห็นเงินจำนวนมากขนาดนั้น ต่างพร้อมใจหันมามองกันเป็นตาเดียว
 
          ในมือของไป๋อวี้ถังถือทองคำแท่งไว้ บอกกับพวกนักเลงว่า “ไปช่วยหาคนห้าสิบคนมาให้ข้าที”
 
          เหล่านักเลงหันมองหน้ากัน “ท่านรอสักครู่” พูดจบก็วิ่งไปทันที ไม่นานเท่าไหร่ ก็หาคนมาได้สี่ห้าสิบคนจริงๆ ไป๋อวี้ถังหยิบทองคำหนึ่งก้อนยื่นให้นักเลงคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า แล้วก็หยิบก้อนที่ใหญ่กว่าออกมาอีกหนึ่งก้อน “พวกเจ้าช่วยข้าตามหาคนๆ หนึ่งหน่อย”
 
          เหล่านักเลงเมื่อเห็นทองคำก็ดวงตาเป็นประกาย “นายท่าน สั่งมาเลยขอรับ ! ”
 
          ไป๋อวี้ถังบรรยายถึงลักษณะของจั่นเจา พวกมันพยักหน้ารับรู้ “ไป ลงมือตามหากันให้ทั่ว”
 
          ไป๋อวี้ถังถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าว่า “โรงน้ำชาที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ อยู่ที่ไหน ?”
 
          “เดินตรงไปข้างหน้าแล้วเลี้ยวไปทางตะวันตกหลังที่สอง ชื่อโรงน้ำชาฝู”
 
          ไป๋อวี้ถังผงกหัวรับรู้ “ข้าจะไปรอพวกเจ้าอยู่ที่นั่น ได้ข่าวอย่างไรรีบมารายงานข้าด่วน” พูดจบก็เดินผละจากไป ในใจก็พลางคิดว่า ‘น่าจะใช้วิธีนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ดูซิว่าข้าจะหาเจ้าเจอหรือไม่ เจ้าแมวตัวนี้’
 
 
+++++โปรดติดตามตอนต่อไป อัพตอนใหม่ทุกวัน จันทร์ พฤหัส และเสาร์ ตอน 2ทุ่มครึ่ง ค่ะ+++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา