วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ
เขียนโดย Hermione001
วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.
แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย
12) ฉันไม่คิดว่าจะเป็นเธอ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฤดูกาลของการซ้อมโชว์ที่จะแสดงที่ประเทศไทย การอัดเพลงในอัลบั้มใหม่ของพวกเขา การถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงซึ่งค่อนข้างเป็นงานหนักสำหรับพวกเขาเลยทีเดียว
หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาTrust5 แทบไม่ได้พักผ่อนเลยและยิ่งฉันบอกเรื่องรายการใหม่ที่พวกเขาต้องไปออกในวันพรุ่งนี้ ทำให้พวกเขาต้องรีบซ้อมและเคลียร์งานเพื่อให้ว่างพร้อมออกรายการ ช่วงออกอัลบั้มใหม่พวกเขาก็คงจะเหนื่อยกันแบบนี้ทุกรอบ ต้นปีหน้าเป็นช่วงที่พวกเราต้องเดินทางไปที่ประเทศไทย
ฉันไม่ได้ไปดูพวกเขาซ้อมมาหลายวันแล้วเพราะคิดว่าไปก็ไม่ได้ดูอยู่ดี ไปก็ทำได้แค่นั่งหลับและรอพวกเขาจนกว่าจะซ้อมเสร็จ น่าน้อยใจนัก อยู่ดีๆพวกเขาก็ทำเป็นมีความลับเฉยเลย ฉันเป็นคนออกไอเดียเรื่องนี้เองแท้ๆ
"ซารังเพื่อนรัก วันนี้ไปดูพวกเราซ้อมไหม" เสียงฮยอนจุนที่เดินลงมาจากบันไดพร้อมกับคนอื่นๆถามฉันที่กำลังนั่งดูทีวีพร้อมกับหยิบขนมเข้าปาก
"ไม่ไปอ่ะ ฉันไปก็ไม่ได้ดูพวกนายอยู่ดี นั่งอยู่คนเดียวเหงาจะตาย" ฉันทำเสียงไร้อารมณ์ใส่ฮยอนจุนและตอบเขาโดยที่ไม่ได้หันไปมอง
"โหว ก็พวกพี่บอกว่ามันเป็นความลับไง เธอก็เป็นแฟนคลับเราเหมือนกันเราก็ต้องเซอร์ไพรส์เธอด้วยสิ" พี่จุนโฮเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆ ฉัน และหยิบขนมเข้าปาก
"ไม่เอาอ่ะ ฉันเหงาฉันเบื่อ" ฉันที่ยังดูทีวีอยู่ตอบกลับไปสั้นๆ
"พี่ยองวอน ดูผู้จัดการพี่ดิ" คราวนี้เป็นซีโน่พูดขึ้นบ้าง
"กินๆนอนๆอยู่นี่เดี๋ยวก็อืดตายหรอก ไปแต่งตัวแล้วก็ไปกับเรา เผื่อพวกเรามีอะไรจะขอความคิดเห็นจากเธออีก" ยองวอนทำเสียงดุใส่ ฉันขอว่างบ้างไม่ได้หรือไงเดี๋ยวหลังจากอัลบั้มใหม่ออกไปพวกนายก็ออกงานออกคอนเสิร์ตรับงานอีกเยอะแยะมากมาย ฉันก็คงไม่ได้กินๆนอนๆแบบนี้อีกแล้ว แต่ฉันก็ต้องทำตามที่เขาบอกอยู่ดี ก็เขาเป็นเจ้านายนี่
"รู้แล้วๆ ไปก็ได้" ฉันทำหน้างอเดินขึ้นไปที่ห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัวทันที
"ให้เวลา10นาที" ยองวอนตะโกนตามหลังมา
10นาทีเนี่ยนะ นี่เขาจะไม่ให้ฉันอาบน้ำแต่งหน้าบ้างหรือไงเนี้ย ฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าแบบลวกๆ ดีนะที่เมื่อเช้าฉันอาบน้ำแล้ว
ช่วงนี้พี่มีรันกับพี่อึนจูไม่ค่อยว่างเนื่องจากต้องไปวางแผนงานที่บริษัทอยู่บ่อยๆ เพราะอัลบั้มใหม่ของTrust5 ใกล้เปิดตัวจึงต้องเคลียร์คิวงานไม่ให้มันซ้อนและหนักจนเกินไป
พวกเขาเลือกวันจัดงานเป็นวันเดียวกับวันจัดคอนเสิร์ตเมื่อ2ปีที่แล้วเลย ซึ่งมันเป็นวันเกิดของฉันและเป็นวันที่ฉันเสียครอบครัวไปด้วย
ฉันคิดไว้แล้วว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านเกิดซักหน่อย หลังจากงานของฉันเสร็จก็จะไปทันที
@ห้องซ้อม Trust5
เหมือนเช่นเคยที่ฉันต้องมานั่งรอพวกเขาในห้องซ้อมเงียบๆ นอกจากออกไปซื้อของให้พวกเขากินฉันก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย
"ซารัง เธอไม่ได้กลับประเทศไทยมาก็2ปีแล้วสิ" พี่จุนโฮและคนอื่นที่นั่งอยู่ในห้องเพราะพวกเขากำลังทะยอยกันเข้าห้องอัดตามคิวเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้เป็นคิวของยองวอน วันนี้พวกเขาต้องอัดเพลงนี้ให้เสร็จเพราะพรุ่งนี้และอาจจะยาวไปหลายวันที่พวกเขาต้องถ่ายรายการใหม่แล้ว งานทุกอย่างเริ่มใกล้เข้ามาTrust5 ทุกคนจึงต้องทำงานหนักกันมากๆ
"ใช่ค่ะ ก็ตั้งแต่ฉันย้ายมาก็ไม่เคยกลับไปเลย" ฉันหันไปตอบพี่จุนโฮ พวกเขากำลังนั่งเล่นนั่งคุยกันเสียงดังลั่นห้องไปหมด
"แล้วไม่คิดถึงครอบครัวหรอ" ฮยอนจุนถามขึ้น ครอบครัวคำนี้ทำให้ฉันรู้สึกหน่วงๆนิดหน่อย ฉันควรจะตอบพวกเขาว่าอะไรดีล่ะ
"ครอบครัวฉันเสียไปหมดแล้วค่ะ" ทุกคนอึ้งกับคำตอบของฉัน
"ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย" เสียงยองวอนที่ดังขึ้นมาจากทางประตู เขาเข้ามาพอดีและก็บังเอิญได้ยินที่ฉันพึ่งพูดไปด้วย “ซีโน่ ตานายแล้ว"
"โอเค" ซีโน่ตอบรับและรีบวิ่งออกไปทันที
"เธออยู่คนเดียวมาตลอดเลยหรอ" พี่ซองมินหันมาถามฉันต่อ
"เปล่าค่ะ ฉันมีเพื่อนฟีฟ่าไงคะ" ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะจำฟีฟ่าได้น่ะ
"อ่อ เธอคงลำบากน่าดู ยิ่งรู้แบบนี้พี่ยิ่งรู้สึกว่าเธอเก่งมากๆเลย แถมยังโตมาได้อย่างดีเลยด้วย" พี่ซองมินเอามือมาลูบหัวของฉัน ความจริงแล้วมันทำให้ฉันคิดถึงพี่ดลมากๆ ถ้าเขายังอยู่ก็คงอายุเท่ากับพี่ซองมิน และเขาก็ชอบลูบหัวของฉันเหมือนฉันเป็นเด็กๆเหมือนกันด้วย
"พี่ถามได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น" พี่จุนโฮที่ตอนนี้ทำหน้าสงสัยจนเห็นได้ชัด
ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่าจะปิดบังอะไรและไม่ได้เสียหายที่จะเล่า เมื่อพวกเขายังเล่าเรื่องของพวกเขาหลายๆอย่างให้ฉันฟัง
"อุบัติเหตุทางรถยนต์ค่ะ" ฉันหันไปตอบพี่จุนโฮเมื่อคิดได้แบบนั้นทุกคนก็เงียบไปนิดหน่อย นี่ฉันคิดถูกแล้วใช่ไหมเนี่ยที่เล่าเรื่องนี้ออกมาให้พวกเขาฟัง
"ลุกขึ้น ฉันจะไปข้างนอก" ยองวอนพูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปนาน
ตอนนี้ฉันอยู่บนรถกับยองวอนสองคน อยู่ดีๆเขาก็อยากออกมาข้างนอกแถมวันนี้ยอมให้ฉันขับรถดีๆโดยไม่ต้องเถียงกันด้วย ฉันขับมาเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะไปไหนด้วยซ้ำ
"นายจะไปไหน" ฉันหันไปถามเขาเมื่อเราออกมาจากบริษัทได้ไกลพอสมรวร
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"เอ้า แล้วนายชวนฉันออกมาทำไม ฉันนึกว่านายหิวข้าวอะไรแบบนี้สะอีก" ฉันตอบยองวอนที่นั่งทำหน้ามึนอยู่ข้างๆ
"เธอหิวข้าวไหม?" อยู่ดีๆเขาก็ถามฉันขึ้นมาเฉยเลย
"ก็หิวนะ"
"ไปกินข้าวกัน เธอเคยบอกว่ามีร้านอาหารอร่อยๆที่อยากไปกินนี่ ไปร้านนั้นกัน"
"แต่เราบอกว่าจะไปด้วยกันทุกคนนี่"
"ก็เดี๋ยวค่อยพาพวกนั้นไปทีหลังก็ได้ อีกอย่างนะ ฉันกินอาหารไทยเก่งที่สุดลองจากซีโน่ ถ้าฉันไปกินแล้วไม่อร่อยพวกนั้นก็คงกินไม่ได้แล้ว"
“ก็ได้ๆ" ฉันขับรถไปยังร้านอาหารไทยที่เคยบอกพวกเขาทันทีซึ่งมันค่อนข้างจะไกลจากบริษัท ฉันเคยไปกินกับฟีฟ่าอยู่สองสามครั้งแต่ก็จำทางได้ดี
"เธอโอเคหรือเปล่า" นี่ยองวอนชวนฉันออกมาข้างนอกเพราะเรื่องนี้หรอ
"ฉันไม่ได้เป็นอะไร นี่อย่าบอกว่าชวนฉันออกมาเพราะเรื่องนี้"
"ฉันแค่กลัวเธอคิดมากถ้าพวกเขาถามอะไรมากกว่านั้น" อยู่ดีๆก็เป็นห่วงเป็นใยฉันขึ้นมาเฉยเลย
"ฉันไม่เป็นอะไร เรื่องมันผ่านมานานแล้วตอนนี้ฉันก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้วด้วย"
"ถ้าเธอไม่โอเคก็บอกฉันได้นะ ฉันอยากจะลองเป็นคนปลอบใจเธอบ้าง เผื่อจะได้ลองเขียนจดหมายสารภาพบ้าง" ยองวอนพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ นี่เขาล้อเลียนฉันอีกแล้ว
"นี่ อย่ามาล้อเลียนฉันนะ"
"5555+" เขาหัวเราะออกมาจนเสียงดังลั่นรถ ความจริงแล้วยองวอนก็เป็นคนที่สดใสร่าเริงคนหนึ่ง ยิ่งเขาอยู่กับทุกคนในTrust5 ยิ่งมีแต่เสียงหัวเราะจริงๆ
"นายแสดงละครเรื่องอะไร" ฉันถามด้วยความอยากรู้
"บอกไม่ได้ มันเป็นความลับของฉันแค่คนเดียว" เป็นอย่างที่คิดเขาไม่บอกแน่ๆ
"ตามสัญญาข้อที่21 ห้ามพโยยองวอนมีความลับต่อพโยซารัง" ดีนะที่ฉันคิดเรื่องสัญญาระหว่างเราขึ้นมาได้
"นี่ เธออย่าเอาสัญญามาใช้ผิดวิธีแบบนี้สิ" เขารีบโวยวายขึ้นมาทันทีเมื่อสัญญาที่เขาทำขึ้นกลับมาทำร้ายตัวเขาเอง
"ผิดวิธีตรงไหน นายอย่ามาขี้โกงดีกว่า"
"แต่เรื่องนี้ฉันบอกไม่ได้จริงๆ" ยองวอนยังยืนยันหนักแน่นที่จะไม่บอกฉัน
"ก็ได้ งั้นถ้านายมีความลับกับฉัน1เรื่อง ฉันก็จะมีความลับกับนาย1เรื่อง" นายจะมาเอาเปรียบฉันไม่ได้พโยยองวอน
"โหว เธอจะเล่นแบบนี้เลยหรอ" คราวนี้ยองวอนโวยวายหนักกว่าเดิม
"ทำไมล่ะ ออกจะยุติธรรมทั้งสองฝ่าย"
"ก็ได้ งั้นเธอก็ห้ามถามเรื่องการแสดงของฉันอีก"
ไม่นานฉันก็ขับรถมาถึงร้านอาหารไทยที่ฉันอยากจะกินมาเนิ่นนาน
"นายกินเผ็ดได้หรือเปล่า" ฉันถามยองวอนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
"สบายมาก" ตอนนี้เขากำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์อย่างสบายใจ
"งั้นเอา ต้มยำกุ้ง ผัดไทย €$&#%#€*¥#¥" ฉันเริ่มสั่งอาหารที่ฉันอยากกินทีละอย่าง
"นายเลี้ยงใช่ไหม" สั่งมาสะเยอะพึ่งนึกได้เรื่องคนจ่ายเงิน
"ใครบอกว่าฉันจะจ่าย" เขาเงยหน้าจากมือถือมาตอบฉันหน้าตาเฉย
"เอ้า! ก็นายเป็นคนพามา"
"เธอต่างหากที่พามา เธอเป็นคนขับรถพาฉันมานะอย่าลืม"
"แต่ว่า.."
"ฉันเคยเลี้ยงเธอแล้วเธอก็เลี้ยงฉันคืนบ้างสิ อย่างกน่าเงินก็มีแล้ว ได้เงินเดือนเยอะด้วยนี่เดือนนี้อะ" ชิ้! นายเลี้ยงรามยอนแต่จะให้ฉันเลี้ยงข้าวมื้อโตเนี่ยนะ
พโยยองวอน
หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็อาสาขับรถกลับเอง ซารังกินทุกอย่างจนหมดเรียบตอนนี้ก็นอนตีพุงฟังเพลงอยู่บนรถ ยัยนี่ทำเหมือนไม่ได้กินอาหารไทยมาเป็นร้อยปี ผมเองก็ชอบอาหารไทยเหมือนกันตอนที่ไปประเทศไทยก็ชอบไปซื้อของกินกับซีโน่อยู่บ่อยๆ
วันนี้ที่พาเธอออกมาเพราะคิดว่าเธอคงจะไม่โอเคกับเรื่องที่จุนโฮถามถึงครอบครัวของเธอ ถึงซารังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรและถึงผมจะไม่ได้เจอเรื่องแย่ๆแบบเธอ แต่ก็คิดว่าที่ผ่านมาซารังคงจะเหงามากแน่ๆ
แต่เธอก็ยังร่าเริงและชอบปลอบใจผมด้วยคำพูดและการกระทำอันแสนจะน่ารักติ้งต๊องอยู่บ่อยๆ ทำให้ผมอยากจะทำแบบนั้นให้บ้าง แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรให้เธอรู้สึกดีขึ้นจริงๆ
ตอนนี้ยัยลูกหมานั่งหลับอยู่บนรถข้างๆ พร้อมกับโทรศัพท์และหูฟังเหมือนเดิม ผมเห็นยัยนี่หลับทีไรต้องมีเพลงของTrust5 และหูฟังตลอดเลย เธอคงจะชอบมากจริงๆ ผมยื่นมือไปหยิบหูฟังข้างหนึ่งของเธอมาใส่หูของตัวเอง อยากรู้จริงว่าเธอชอบฟังเพลงอะไรของพวกเราบ้าง
" เกือบทั้งวันของผมนั้น มันช่างว่างเปล่า พื้นที่หัวใจนั้นแสนอ้างว้าง มันเริ่มจะใหญ่ขึ้น ลึกและกว้างขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้ก็เหมือนก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้น..."
เพลงนี่เป็นเพลงจากอัลบั้มแรกๆของพวกเราเลยนี่นา ผมเองก็ชอบเพลงนี้เหมือนกัน
นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายและได้นั่งฟังเพลงสบายใจแบบนี้ หลายปีที่ผ่านมาเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมากมายรวมถึงเรื่องงานที่ค่อนข้างแน่นจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
แต่เวลาอยู่กับซารังกลับรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องอะไรเพราะมีเธอเหมือนมีคนที่คอยเฝ้าดูผม ผมชอบที่เธอเล่าเรื่องแฟนคลับให้ฟังเหมือนได้รับรู้ว่ามีคนคอยให้กำลังใจอยู่มากมาย เหมือนได้นั่งดูหนังเหมือนกำลังนั่งฟังเพลงซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ จนอยากจะทำให้เธอได้รู้สึกแบบนี้บ้าง
ผมถอดเสื้อคลุมเพื่อมาคลุมตัวของซารังขณะที่รถกำลังติดไฟแดงพร้อมกับเอื้อมไปปรับเอนเบาะให้เธอได้นอนสบายๆ เธอคงจะรีบตามออกมาจนไม่ได้ใส่เสื้อคลุมมาแน่ๆ
ตอนนี้รถของผมมาจอดที่ใต้คอนโดเรียบร้อยแล้ว พอหันไปมองยัยลูกหมาก็พบว่าเธอกำลังหลับสนิทอยู่จนไม่กล้าปลุก คงไม่ได้พักผ่อนเพราะต้องตามพวกเรามาซ้อมกัน ซีโน่ก็ชอบตื้อให้เธอตามมาสะด้วย
ผมปรับเบาะให้เท่ากับเธอและพิงตัวลงนอน หูฟังอีกข้างก็ยังอยู่ที่หูของผมเพลงก็ยังรันไปตามลำดับรายการเพลงของซารังมีแต่เพลงของTrust5 สมแล้วที่เป็นแฟนคลับอันดับ1 มีตั้งแต่เพลงอัลบั้มแรกที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักจนตอนนี้คนอื่นๆคงจะลืมเพลงของอัลบั้มแรกไปหมดแล้ว แต่ยัยนี่ยังมีครบทุกเพลง
ผมนอนจ้องหน้าของซารังและคิดเรื่องต่างๆมากมาย ตอนเธอนอนก็น่ารักเหมือนกันนะ เหมือนได้เห็นซารังอีกคนไม่พูดมากไม่ขี้โวยวายไม่ชอบเถียงผมไปซะทุกเรื่อง
ตึกตึก ตึก ตึก…อยู่ๆหัวใจของผมมันเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ทำไมหัวใจเต้นแรงแบบนี้นะ
ผมอดคิดไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเธอจะต้องเจออะไรมาบ้าง เธอเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยแล้วผ่านมันมาได้ยังไงกัน ยิ่งได้รู้เรื่องนี้ทำให้รู้สึกผิดมากที่ทำไม่ดีไว้กับเธอทั้งๆที่ซารังเป็นคนที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจผมมาตลอด แต่เธอก็โตมาเป็นผู้หญิงที่เข็มแข็งและก็ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองมาก
เวลาที่อยากจะพูดอะไรเธอก็จะพูดออกมา เมื่อเธออยากจะหัวเราะก็จะหัวเราะจนเสียงดัง และเมื่อเธออยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาดื้อๆ ผมก็อยากจะเป็นแบบนั้นบ้างแต่ด้วยงานและหน้าที่ของผมทำให้บางครั้งไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ไม่สามารถแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าคนอื่นได้ แต่พอมีซารังเธอรู้ทุกอย่างที่ผมรู้สึก เธอมักจะดูออกว่าผมรู้สึกอะไรและปลอบใจผมเสมอ โดยที่ไม่ต้องพูดอะไรสักคำมันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมนอนจ้องหน้าของซารังและเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากในกระเป๋า ตอนนี้ยัยนี่ก็ยังไม่ตื่นเหมือนกัน ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูที่หน้าจอซึ่งเป็นชื่อของพี่ซองมิน
“ฮัลโหล” ผมกดรับสายพี่ซองมินทันที
“นี่นายสองคนอยู่ไหน ทำไมเมื่อคืนไม่กลับคอนโดวันนี้มีถ่ายรายการนะลืมแล้วหรอ” พี่ซองมินตะโกนใส่ผม
แย่แล้วลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องถ่ายรายการ เมื่อคืนผมไม่กล้าปลุกซารังได้แต่นอนจ้องหน้าเธอแล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมืออีก 30 นาทีจะถึงเวลาถ่ายรายการแล้ว
“แล้วพวกพี่อยู่ไหน” ผมถามพี่ซองมินกลับทันทีที่เรียบเรียงเหตุการณ์ได้
“พวกฉันอยู่ที่สตูดิโอแล้ว รีบตามมาล่ะห้ามสายเด็ดขาด”
“ครับ”
• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
โอ๊ยยยย! ตายแล้วซารังพึ่งกลับมาทำงานได้ไม่นานก็ก่อเรื่องซะแล้ว ยองวอนเขาคิดอะไรถึงไม่ปลุกฉันเนี้ย ตื่นมาก็ต้องเจอกับสภาพของตัวเองที่นอนหลับอยู่ตรงเบาะข้างๆคนขับ ยองวอนเองก็ดูเหมือนพึ่งจะตื่นเขาท่าทางตกใจมากจนลนลานไปหมด ก็แน่ล่ะสิเพราะไม่ใช่แค่ไม่ปลุกฉันแต่กลับมานอนหลับอยู่ข้างๆ อีก30นาทีจะต้องถ่ายรายการแล้วด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ซารัง เสร็จหรือยัง” เสียงยองวอนเคาะประตูลั่นด้วยแสดงถึงความรีบร้อนระดับสูงสุด
“เสร็จแล้วๆ” ฉันที่กำลังแต่งหน้าอยู่ตะโกนออกไปและรีบเก็บของใส่กระเป๋าเดินออกไปทันที
วันนี้เจ้าอสูรร้ายขับรถเร็วมากดีที่เป็นตอนเช้าไม่งั้นเราต้องสายแน่ๆ ไม่นานเราก็มาถึงสตูดิโอถ่ายรายการ
“เมื่อคืนพวกนายไปไหนมา? หายกันไป2คนด้วย อย่าบอกนะว่า.....” พี่จุนโฮรัวคำถามใส่พวกเราทันทีที่เราเดินเข้ามาในห้องเตรียมตัว
“พี่จะเสียงดังทำไม เดี๋ยวคนอื่นได้ยินก็เป็นเรื่องหรอก” ฉันขัดขึ้นก่อนที่พี่จุนโฮจะพูดจบ ก็มันจริงนี่ถ้ามีคนอื่นมาได้ยินคำพูดประโยคเมื่อกี้อาจจะเป็นเรื่องได้เลยนะ
“เรื่องมันยาวเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง” ยองวอนพูดตัดบทสั้นๆ
“ยองวอนมาหรือยังคะ” ทีมงานคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาถามพวกเขาคงรอยองวอนอยู่ ยังดีที่มาทันโล่งอกไปที
“มาแล้วครับ พวกเราพร้อมแล้ว” พี่ซองมินทำหน้าที่หัวหน้าวงทันที
“โอเคค่ะ งั้นเชิญทุกคนออกมาเตรียมตัวข้างหน้าได้เลย”
“โอเคครับ” พี่ซองมินพูดจบก็พาทุกคนเดินออกไปข้างนอกทันที ฉันก็เดินตามเขาออกมาด้วยเพราะต้องคอยดูความเรียบร้อยของพวกเขา
“เธอมีอะไรปิดบังฉันห้ะ? ซารังเพื่อนรัก” ซีโน่เดินอ้อมมาข้างหลังและจับที่แขนของฉันพร้อมกับพูดเป็นภาษาไทย
“นี่ ไปทำงานเลย” ฉันค้อนใส่ซีโน่และหยิกไปทีมือของเขาสะเลย
ตอนนี้พวกเขากำลังคุยกันถึงเรื่องรายละเอียดการสัมภาษณ์ในเรื่องต่างๆ และเป็นช่วงที่รอพิธีกรหญิงเตรียมตัวอยู่ด้วย ไม่นานพิธีกรหญิงก็เดินออกมาทักทายทุกคนแต่พวกเขาดูแปลกใจและอึ้งไปนิดหน่อยซึ่งมันก็ทำให้ฉันแปลกใจด้วย พิธีกรหญิงที่มาในวันนี้น่าจะเป็นคนที่ชื่อโกอึนบีที่ฉันเคยดูในทีวีวันนั้น
ใช่จริงๆด้วยเธอคือโกอึนบีจริงๆ ตัวจริงสวยกว่าในทีวีมากๆเลยถึงจะตัวเล็กพอๆกับฉันแต่กลับดูดีมาก เท่าที่รู้มาเธอเป็นนักแสดงดาวรุ่งที่เคยหยุดงานแสดงและไปเรียนต่อเมื่อ2ปีที่แล้วที่เมืองนอก และตอนนี้ก็พึ่งจะกลับมา ดีจริงๆเลยนะ เรียนเสร็จก็มีงานรอให้มาทำ คนสวยก็โชคดีแบบนี้แหละ
ตอนนี้ยองวอนยืนนิ่งไม่พูดอะไรเลยสีหน้าเขาดูตกใจมากเหมือนวันนั้นที่ดูทีวีกับฉันแล้วเห็นข่าวของโกอึนบีไม่มีผิดมันยิ่งทำให้ฉันสงสัย หรือว่ายองวอนจะชอบโกอึนบี แต่ฉันก็แปลกใจที่เป็นเธอนะ เพราะในรายละเอียดที่ฉันอ่านมาเป็นพิธีกรหญิงอีกคนที่ชื่อ ยุนอา
“สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีที่ได้พยกันอีกนะคะ” พิธีกรหญิงเดินมาทักทายTrust5 พร้อมกับส่งสดใสน่าหลงไหลสุดๆให้ ยินดีที่ได้พบอีกหรอ หมายถึงพวกเขารู้จักกันมาก่อนหน้านี้แล้วสินะ ก็เป็นไปได้ที่อาจจะเคยร่วมงานกันเพราะทั้งคู่ก็ทั้งโด่งดังและมีชื่อเสียง
“สวัสดีครับอึนบี พี่ยินดีด้วยนะ กับการเรียนจบของเธอ” พี่ซองมินที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดทักทายเธอกลับด้วยคำพูดที่ดูเป็นกันเองมากๆ คนอื่นๆก็ยิ้มตอบรับคำทักทายของเธอตามมารยาท
“พี่ยองวอนสบายดีหรือเปล่าไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” คราวนี้เธอหันไปทักทายยองวอนบ้าง
“ก็ดีกว่าเมื่อก่อน” ยองวอนตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์อีกแล้ว เจ้าอสูรร้ายอารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรอีกนะ
“ทุกคนพร้อมแล้วนะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลา” พิธีกรชายอีกคนเดินเข้ามาเรียกให้พวกเขาเริ่มถ่ายรายการ ทำลายบรรยากาศอันแสนน่าอึดอัดนี้ได้พอดี
การถ่ายทำรายการดำเนินไปอย่างราบรื่น จะมีก็แต่ยองวอนที่เอาแต่นั่งเงียบอยู่ที่ริมสุดปกติพวกเขาจะนั่งเรียงกันตามอายุตลอดแต่วันนี้ดูนั่งกันแปลกๆ รายการก็ดูสนุกดี พิธีกรถามถึงเรื่องทั่วไปของTrust5 และเรื่องอัลบั้มใหม่ที่กำลังจะออกมาให้แฟนคลับได้ชื่นชมในเร็วๆนี้ พิธีกรก็ทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพทำให้รายการดูไม่น่าเบื่อเลย
“มาถึงคำถามที่สาวๆทั้งประเทศนี้และในหลายๆประเทศอยากจะรู้กันมาก ดิฉันเองก็อยากรู้เหมือนกัน555+” พิธีกรหญิงทำท่าเขินอายกับคำถามที่กำลังจะถาม “แน่นอนว่าจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องหัวใจของหนุ่มๆทุกคน ตอนนี้ทุกคนมีหวานใจหรือมีสาวๆที่ทำให้ใจเต้นแรงบ้างไหมคะ” ก็จริงที่เป็นคำถามที่สาวๆทุกคนอยากรู้
“เอาเป็นเริ่มจากน้องเล็กของTrust5 ก่อนบ้างดีกว่า” คราวนี้เป็นพิธีกรผู้ชายพูดขึ้นมาบ้าง
“หวานใจของผมแน่นอนว่ายังไม่มี555+ แต่ถ้าจะมีผู้หญิงที่ทำให้ผมใจเต้นแรงก็คงเป็นผู้หญิงที่น่ารักและก็สดใจมากๆครับ” ฮยอนจุนตอบคำถามแบบเขินอาย พวกเขาเริ่มตอบคำถามทีละคนๆจนมาถึงคนที่นั่งเงียบตั้งแต่เริ่มรายการจนมาถึงตอนนี้ พโยยองวอน
“ผมก็ไม่มีหวานใจเหมือนกันครับ ส่วนผู้หญิงที่ทำให้ผมใจเต้นแรง” เขาหยุดคำพูดไว้แค่นั้น ตอนนี้ฉันก็กำลังนั่งดูการถ่ายรายการอยู่ที่หน้าจอมอนิเตอร์ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆเมื่ออยู่ดีๆยองวอนที่กำลังตอบคำถามอยู่ก็หยุดพูดไปดื้อๆและเหมือนกำลังมองมาที่กล้อง ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าแต่พอเงยขึ้นไปมองที่ยองวอน สายตาของเรากลับประสานกันพอดีเหมือนว่าเจ้าอสูรร้ายนั่นกำลังมองจ้องมาที่ฉันอยู่ แต่เขาจะมาจ้องฉันทำไมกัน ตึก ตึก ตึก ตอนนี้หัวใจของฉันเริ่มทำงานหนักอีกแล้ว และเป็นฉันที่ก้มหน้าลงมามองที่จอต่อ ฉันจะทนมองหน้าเขานานๆได้ยังไงก็เมื่อคืนเรานอนอยู่ในรถกัน2คนทั้งคืน แถมตอนนี้ยังมาจ้องหน้าฉันโดยไม่มีสาเหตุอีก
“เป็นคนที่ภายนอกก็ดูไม่พิเศษอะไรมากแต่ใจผมกลับรู้สึกว่าเธอพิเศษกว่าคนอื่น” ตอนนี้เขาหันกลับไปมองที่พิธีกรหญิงเหมือนเดิม ฉันที่เหมือนลืมหายใจไปชั่วขณะตอนนี้ก็เริ่มหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย
“งั้นคุณก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วหรอครับ” พิธีกรชายพูดขึ้นหลังจากที่เห็นว่าโกอึนบีเอาแต่จ้องหน้าของยองวอนไม่พูดอะไร
“อืม!! อย่าเรียกว่าชอบเลยครับมันก็ไม่ถึงขนาดนั้น” ทำไมทุกอย่างมันเริ่มแปลกมากขึ้นหลังยองวอนให้สัมภาษณ์แบบนั้น ไม่นานรายการก็ตัดเข้าช่วงโฆษณา ฉันรีบเดินเข้าไปหาพวกเขาทันทีโดยที่เลี่ยงการสบตายองวอนเพราะกลัวว่าหัวใจของฉันจะต้องทำงานหนักอีก สถานการณ์นี้มันคืออะไรเนี้ย! ทันทีที่เราเดินเข้ามาในห้องเตรียมตัวฮยอนจุนก็รัวถามใส่ฉันทันที
“ทำไมเป็นโกอึนบี เธอไม่เห็นบอกพวกเราเลยว่าเป็นโกอึนบี” ฉันก็แปลกใจพอๆกับนายนั่นแหละฮยอนจุนเพื่อนรัก
“นั่นดิ ผมตกใจหมดเลยตอนที่เห็นเธอ ทำไมตอนที่ซารังบอกว่าพิธีกรหญิงเป็นพี่ยุนอาคนสวยของผมล่ะ” ซีโน่เสริมขึ้น
“ซารังเกิดอะไรขึ้น อย่าบอกนะว่าบริษัทสั่งให้เธอโกหกพวกเราแบบนี้” พี่ซองมินก็เอากับเขาด้วย นี่กะจะไม่ปล่อยให้ฉันตอบหรอ
“ฉันไม่รู้ ในรายละเอียดเขียนว่าพิธีกรหญิงคือคุณยุนอาจริงๆ แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะมีการเปลี่ยนกระทันหันแบบนี้” ฉันเข้าไปใกล้เพื่อกระซิบประโยคที่กำลังจะพูด
“พวกพี่ไม่อยากทำงานกับโกอึนบีหรอ?” เท่าที่ฉันสรุปจากคำถามและปฏิกริยาของพวกเขาน่าจะเป็นอย่างที่ฉันคิด
“นายโอเคหรือเปล่า?” พี่จุนโฮหันไปถามยองวอนที่ยืนเงียบตั้งแต่เข้ามา วันนี้ตั้งแต่เจอหน้าโกอึนบีเขาก็เอาแต่นั่งเงียบทำตัวแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มรายการยังไม่พูดอะไรเลยนอกจาก ครับ!!
“ฉันโอเค งานก็คืองาน” ยองวอนหันมาตอบพี่จุนโฮ
“พี่ว่าเพราะท่านประธานแน่ๆ เขาคงเห็นว่ารายการกำลังเป็นกระแสแถมปีที่แล้วได้รับรางวัลอีก เลยอยากให้เรามา” พี่ซองมินพูดกับยองวอนพร้อมกับเอามือจับที่ไหล่ของเขา
ตอนนี้ฉันงงไปหมด ทั้งอยากรู้ทั้งไม่กล้าถาม แล้วบรรยากาศแบบนี้มันจะอยู่อีกนานไหมเนี้ย นี่แค่เป็นการถ่ายเปิดตอนของพวกเขานะ ยังไม่ได้ถ่ายกิจกรรมในตอนเลย ซึ่งเท่าที่อ่านมามันมีทั้งไปถ่ายรายการที่ต่างจังหวัด ทำกิจกรรมอีกเยอะแยะมากมายโดยมีโกอึนบีเป็นผู้ดำเนินรายการแบบนี้จะไหวไหม ทำไมบริษัทชอบโยนงานแบบนี้ให้ฉันทำตลอด ฉันต้องตกอยู่ในความอึดอัดอีกนานแค่ไหน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ