มนต์ดำ อาถรรพ์ อารมณ์
เขียนโดย Jalando
วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 18.49 น.
แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน พ.ศ. 2566 14.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) อาจารย์หนุ่มผู้ลึกลับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เครดิตภาพจาก https://www.pexels.com
คุณนายสายสมรเงยหน้าขึ้นไปมอง จึงพบว่าเจ้าของเสียงเป็นเด็กวัยรุ่นที่ซ่อนร่างเล็กๆในเสื้อคอกระเช้าสีชมพูและผ้าถุงสีส้มลายดอก ใบหน้าทรงกลมของเธอเนียนใสและบริสุทธิ์จนคล้ายสาวแรกรุ่นที่ยังโตไม่เต็มที่ อันค้านกับทรวงอกคัพ D ที่บวมเป่งอยู่ในอาภรณ์
“ อ้าว…..น้องจุ๋มเองหรอกเหรอ ขอบใจนะที่ออกมาต้อนรับ วันนี้พี่พาเพื่อนมาหาอาจารย์ เธอมีปัญหาครอบครัวนิดหน่อย ” ซิ้มตอบกลับ พร้อมขยิบตาให้คุณนายสาวรู้ว่าเด็กคนนี้คือ….….ลูกศิษย์ของหมอไสยศาสตร์มือดี
“ อ่อ หวัดดี น้อง ” สายสมรทักทายลูกศิษย์สาวแบบเสียไม่ได้ เพราะคุณนายไฮโซเย่อหยิ่งเกินกว่าจะพูดดีๆกับคนที่คิดว่าต่ำกว่า
“ อ้อ สวัสดีค่ะ คุณพี่สายสมร ยินดีต้อนรับนะคะ ” สาวน้อยนางนั้นยกมือขึ้นไหว้ด้วยอาการนอบน้อม ดูเธอไม่ใส่ใจกับท่าทางไร้มารยาทของคุณนายไฮโซ
แรกเริ่มสายสมรยกมือรับไหว้แบบเนือยๆ แต่ต่อมา เธอก็ฉุกคิด จึงตกตะลึงจนตาค้าง ปากก็ร้องถามเสียงหลง
“ เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เรียกชั้นว่า………คุณนายสายสมรใช่หรือเปล่า รู้ชื่อชั้นได้ไง จำได้ว่ายังไม่ได้บอกให้เธอรู้เลย ” สายสมรพูดจบ เธอก็หันกลับไปมองเพื่อนรักหน้าหมวยที่ยืนข้างๆ ซึ่งซิ้มก็ส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงบอกว่าตนเองไม่เคยประกาศนามของคุณนายคนสวยเลย
“ สาเหตุที่รู้ชื่อ เพราะเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว อาจารย์แจ้งว่าคุณนายสายสมรกำลังจะมา ให้หนูออกไปต้อนรับค่ะ ” สาวน้อยทรงโตตอบเสียงใส พร้อมรอยยิ้มกว้างที่คล้ายเด็กประถม
สายสมรค่อนข้างมั่นใจว่าเพื่อนสาวหน้าหมวยต้องเผลอเอ่ยชื่อของเธอให้คนกลุ่มนี้ได้ยินเป็นแน่ แต่ถ้าสิ่งที่เด็กสาวนางนี้พูดคือความจริง มันก็แปลว่าอาจารย์ไสยศาสตร์ที่กำลังเข้าพบ น่าจะดีพอจนแก้ไขปัญหาผัวหนีได้ไม่ยาก คุณนายสาวจึงตกลงใจอย่างเด็ดเดี่ยว
“ ไปก็ไป จุ๋มพาพวกพี่ไปหาอาจารย์ของเธอเลย ”
…………………….
สองสาววัยสะคราญพาร่างอวบอัดที่ชวนขยี้ขึ้นสู่บ้านทรงไทย ทันทีที่เหยียบเรือน สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาก็คือ…..ห้องโถงกว้างขวางที่อนุรักษ์ความเป็นไทยอย่างยิ่งยวด เครื่องเรือนทุกชิ้นถูกดีไซน์ออกมาเป็นแนวไทยโบราณจนเหมือนจะหลุดเข้ามาในโรงละครแนวพีเรียดก็ไม่ปาน
“ อาจารย์ชอบสะสมอะไรที่ดูเป็นไทยๆค่ะ ของพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นมรดกตกทอดจากต้นตระกูล ” ลูกศิษย์สาวใบหน้าจิ้มลิ้มอธิบาย ซึ่งก็ตรงกับคำถามที่คุณนายสายสมรนึกสงสัย ราวกับว่าสาวน้อยนางนี้จะล่วงรู้ความคิดของเธอ ทว่าส่วนหนึ่งในสมองกลับไม่หยุดใคร่ครวญ
“ ท่าทางตระกูลของอาจารย์คนนี้จะรวยมาก แค่ตัวเรือนก็สร้างมาจากไม้สักทั้งหลัง มิหนำซ้ำของแต่ละชิ้นก็เก่าแก่และราคาแพงไม่ใช่น้อย อย่างเช่นชุดถ้วยชามสลักลายไทยที่วางบนโต๊ะมุกตัวนั้นก็มีราคาร่วมสองหมื่นแล้ว ”
ขณะที่สาวใหญ่วัยสะคราญกำลังคำนวณราคาข้าวของเครื่องใช้อยู่นั้นเอง เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาและมั่นคง เลยหันมองตามทิศทางของเสียง จึงพบกับ…..หนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง
หนุ่มคนนี้มีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเรียวยาวได้รูป จมูกโด่งเป็นสันคล้ายว่าผ่านมีดหมอ ปากเรียวบางสีแดงระเรื่อดุจชาดแต้ม เส้นผมยาวสลวยสีดำขลับถูกมวยอย่างเป็นระเบียบ ไม่ว่าใครได้ชม ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าบุรุษผู้นี้รูปงามจนเข้าขั้นเทพบุตร ทว่าด้วยดวงตาเรียวที่เย็นชาประดุจน้ำแข็งกับบุคลิกที่เคร่งขรึม จึงทำให้ไร้ความอบอุ่นและสดใสอย่างที่เด็กหนุ่มวัยนี้ควรจะมี
“ สวัสดีค่า…… อาจารย์ ” สาวหมวยร่างอวบยกมือไหว้อ่อนช้อย พร้อมสะกิดให้สายสมรคารวะ ซึ่งคุณนายคนสวยก็กระทำตามแบบแกนๆ เพราะยังนึกดูแคลนอยู่ในใจ
“ เฮอะ นี่น่ะหรืออาจารย์ เธอเป็นแค่หนุ่มน้อยร่างบาง ขนาดอยู่ในชุดขาว ยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นหมอไสยศาสตร์ได้เลย นังซิ้มคงจะเพี้ยนแล้วล่ะมั้งที่มาหลงเชื่อเด็กเมื่อวานซืนแบบนี้ ” คุณนายสายสมรส่งสายตาจิกกัดให้อาจารย์หนุ่มอย่างเปิดเผย แต่ไม่ทันคิดไกลกว่านั้น เธอก็ได้ยินเสียงร้องทักจากผู้ถูกดูแคลน
“ อีกเดี๋ยว ก็รู้ว่าเด็กเมื่อวานซืนอย่างข้าจะมีน้ำยามั้ย ”
คุณนายสาวสะดุ้งเฮือก พร้อมอุทานดังด้วยความตกใจ
“ ว้าย ไอ้เด็กคนนี้ แกรู้ความคิดของชั้นได้ไงยะ ”
“ เฮ้ ยัยหมอน เบาๆหน่อย นั่นอาจารย์ของชั้นนะ ” ซิ้มเริ่มหน้าเสีย เพราะเพื่อนสาวเริ่มแสดงกิริยาก้าวร้าวกับบุคคลที่ไม่ควรล่วงเกิน แต่ไม่ทันที่คุณนายสุดเซ็กซี่จะได้ด่าทอ อาจารย์หนุ่มมาดนิ่งก็เบิ่งตาขึ้นมาวูบหนึ่ง พร้อมตวาดด้วยกระแสเสียงที่กังวานไกล
“ หุบปาก ”
สาวใหญ่วัยสะคราญสะดุ้งเฮือกอีกวาระ เธอรู้สึกเหมือนมีสายลมอ่อนๆพุ่งกระทบใบหน้า ทำให้นึกสงสัยและหวาดกลัว แต่ก็ยังพยายามโต้ตอบด้วยการตวาดกลับ ตามประสาคนสู้ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้ ทว่า…….กระแสเสียงกลับไม่หลุดออกจากริมฝีปาก
คุณนายสาวหน้าตื่น เหงื่อแตกโทรมกายด้วยความตื่นกลัว เธอหันไปมองซิ้ม แต่เพื่อนสาวกลับเอาแต่ส่ายหน้า พร้อมผายมือกว้าง เป็นนัยจะบอกว่า…..ช่วยไม่ได้ อยากปากเสียเองนี่นา
เมื่อไร้ที่พึ่ง คุณนายสาวก็หันกลับไปมองเด็กหนุ่มเยาว์วัยผู้ตั้งตัวเป็นอาจารย์ สีหน้าออกอาการวิงวอน แต่หนุ่มน้อยผู้ลึกลับกลับส่งสายตาเยือกเย็นให้ พร้อมกล่าวเฉียบขาด
“ อยู่เงียบๆแบบนั้นซักพัก ข้ารู้ทุกสิ่งที่เกิดกับเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแฟนหนุ่มที่ชื่อนัท ธุรกิจและชีวิตความเป็นอยู่ ส่วนรู้ได้ไง ไม่ใช่เรื่องของเจ้า ถ้ามาถึงขนาดนี้ ยังไม่เชื่อและศรัทธาในตัวข้า ก็ลงบันไดไปซะ แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก แต่ถ้าจะให้ช่วย จงพยักหน้าสามที ”
สายสมรนิ่งคิดอยู่อึดใจ ก่อนจะพยักหน้ารับคำรัวเร็วจนลืมนับจำนวน เมื่อเห็นว่าแม่เสือสาวสิ้นลาย ซิ้มและจุ๋มก็แย้มยิ้มออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เวลาต่อมา อาจารย์หนุ่มก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบและเยือกเย็น
“ เอาล่ะ ทีนี้เจ้าจงกลับมาเป็นปกติ ”
สิ้นคำกล่าว คุณนายสายสมรรู้สึกว่าร่างกายกลับมาเป็นปกติ สาวใหญ่วัยสะคราญจึงรีบก้มลงไปกราบแทบเท้าของอาจารย์หนุ่ม พร้อมร่ำไห้ขอโทษเป็นการใหญ่
“ ขอโทษค่ะ หนูมีตาหามีแววไม่จริงๆ หนูไม่คิดว่าอาจารย์จะมีมนต์ขลังขนาดนี้ ”
สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ