มรสุมรักร้าย

8.3

เขียนโดย ดาวจรัด

วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 03.00 น.

  8 บท
  0 วิจารณ์
  8,545 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561 03.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) บทที่๑ ความจริงที่น่าละอาย (4)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 “พรุ่งนี้หมอก็บอกว่าออกได้แล้วค่ะ”ประภาวีบอกเล่าแก่ เศรษฐาที่มานั่งป้อนข้าวเธอแต่เช้า ว่าพรุ่งนี้หล่อนก็จะออกโรงพยาบาลได้แล้ว

เศรษฐาขานรับในลำคอส่งยิ้มให้คนป่วยเสียเต็มประดา ทว่าในใจกลับร้อนลนกลับปัญหาที่กำลังจะเกิด

                “หนูเฟื่องวันนี้ไม่ไปเรียนหรือไง”  ชายวัยกลางคนหันไปถามลูกเลี้ยงสาวที่นั่งอยู่โซนหนึ่งบนโซฟาตัวยาว เขาพอจะรู้จากประภาวีมาบ้างว่าปัญรินทร์ยังเรียนไม่จบ

                  “เอ่อ..คือเฟื่องโทรไปลาแล้วค่ะ”  จะให้เธอไปเรียนสบายใจทั้งที่มารดานอนเจ็บอยู่โรงพยาบาลที่มีสาเหตุมาจากเธอได้ยังไง

                  “หือ..หนูไปเรียนเถอะทางนี้ฉันจะจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลเอง ไม่ต้องห่วง”

                   “อย่าลำบากเลยค่ะ เฟื่องดูแลแม่เองได้”

เศณษฐายกมือห้ามก่อนจะพูดเสียงอ่อนโยนให้สาวรุ่นลูกเบาใจ “ไม่ต้องห่วงหรอก หนูไปเรียนเถอะเห็นว่าเรียนใกล้จบแล้วขาดเรียนบ่อยเดี๋ยวจบไม่ทันเพื่อนนะ”

                     “ไปเถอะยายเฟื่องแม่อยู่ได้ ลูกไปเรียนเถอะ”

เหตุผลร้อยแปดของชายที่ขึ้นชื่อว่าพ่อเลี้ยงหยิบยกมาอ้างทำเอาเธอลำบากใจไหนจะเสียงเสริมทัพของแม่อีกปัญรินทร์จำต้องพยักหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ปัญรินทร์ออกไปตามหลังด้วยเศรษฐาออกไปทำงานก็มีพยาบาลพิเศษเข้ามาดูแลเธอ ประภาวีจึงไล่ออกไปเพราะไม่ชอบมานั่งจ้องตลอดเวลา เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่วางข้างเตียงดังขึ้นถึงจะหงุดหงิดที่ถูกรบกวนการนอนมือก็จำต้องเอื้อมไปรับ แต่ก็ต้องตกใจเพราะชื่อที่โชว์โทรเข้ามา

                         “ไอ้บ้านี้ อย่าหวังว่าฉันจะรับเลย”  ว่าจบก็กระแทกโทรศัพท์ลงที่เดินจนสายตัดไป พร้อมเสียงข้อความที่ดังตามมา ถึงใจจะสั่งห้ามไม่ให้เปิดดูแต่มือเจ้ากรรมกลับไม่ฟัง

            [ได้ผัวรวย หนีหน้ากูเลยนะมึง]

            [รับสายกูซะ ถ้าไม่อยากซวยก่อนจะสบาย ]

            “ไอ้เลวมึงนะมึง อีกไม่นานหลอกกูจะเอาคืนให้สาสม”

ดวงตาเครียดแค้นจ้องจอโทรศัพท์สายเรียกเข้าก่อนจะปรับอารมณ์โกรธให้ผ่อนลง

             “เล่นตัวนักนะมึง ตั้งแต่ได้ผัวรวย”  เสียงปลายสายเยาะเย้ยอยู่ในที คนฟังได้แต่กำหมัดอย่างแค้นเคือง

             “ฉันไม่ทำ”  น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวกระแทกสวนไม่แพ้กัน ก่อนเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายจะดังตามมาให้ขุนมัว

           “จุๆๆ....ว่าอะไรอย่างนั้นไม่ทำไรกัน คุณหญิงประภาวีคนเก่งอะไรกันแต่ก่อนไม่เคยเห็นพูดแบบนี้นี้ เดี๋ยวนี้น้องภาคนเก่งผู้ไม่เคยเกี่ยงงานหายไปไหนนะ”

            “ไอ้เลว หยุดพูดเลยนะ เก็บปากเน่าๆของแกไปซะ”  ประภาวีรู้สึกว่าตอนนี้อารมณ์มันพุ่งจนปรอทแตกจนไม่กลัวอะไรอีกแล้วถึงแม้แต่ก่อนเธอจะไม่เคยต่อปากต่อคำไอ้ชั่วนี้ก็เถอะ ไม่ใช่ว่าไม่กล้า แต่ความปลอดภัยหลายอย่างมันทำให้เธอเลือกที่จะไม่ทำต่างหาก แต่ตอนนี้เธอจะไม่ขอทน

                         “หว้า ฮ่าๆๆ ปากเน่าๆอะไรกัน เอาละเลิกพูดเล่นกันได้แล้วฉันต้องการให้แกมาช่วยทำงาน”ท้ายประโยคคล้ายสั่งกรายๆ

                         “ฉัน ไม่ ทำ”

                         “เฮอ...เอาละฉันชักจะขี้เกียจเล่นลิ้นกับแกเต็มทนแล้ว แต่เอ้ลูกสาวคนสวยแกนี้ได้ข่าวว่าขยันใช่ย่อย จะเกี่ยงงานเหมือนแม่ไหมนะ”

                          “แกอย่าแตะต้องลูกฉันนะ ไอ้ชั่ว ถ้าแกทำอะไรลูกฉันแม้แต่ปลายก้อยฉันจะฆ่าแก” หล่อนไม่ได้ขู่หากแต่เอาจริง ถ้าเกิดว่ามีวันนั้นลูกสาวหล่อนเกิดเป็นอะไร เธอจะไม่ยั้งมือเลยตายกันไปข้าง

                          “หือ...ทำไงดีละก็คนของฉันมันขาดจะหาคนซื่อสัตย์ทำงานดีก็ยาก ทำไงดีน่า เห็นจะมีแต่แกหรือไม่ก็ลูกแกในตัวเลือกฉัน”  ประโยคท้ายถูกเน้นเสียงรอดไรฟันจนหญิงวัยสี่สิบต้นๆขนลุกซู่

                   “ไม่นะห้ามทำอะไรลูกฉันเด็ดขาด”

                   “งั้นแกก็เลือกสิวะ”

                  “ได้ฉันจะทำ แต่มีข้อแม้ห้ามยุ่งกับลูกสาวฉัน”

                  “ได้ แกก็อย่าเล่นตุกติกละ รู้ใช่ไหมถ้าแกทำ ไม่ใช่แค่ฉันที่ซวยแกองก็เหมือนกัน”

สายถูกตัดไปแล้วหากแต่ความโกรธความเครียดมันยังสุมในอก สิ่งที่หล่อนปกป้องมาตลอดถูกยกขึ้นมาขู่จนได้ทั้งที่ตลอดเวลาเธอยอมทำทุกทางที่ทำได้ให้ปัญรินทร์ปลอดภัย ทำลาครอบครัวคนอื่นเพื่อให้มีที่พักพิงที่แข็งแรงแต่มันกลับไม่ช่วยอะไรเลย หลังเสือมันลงยากอย่างนี้นี่เอง

                   “ดูแกจะสบายดีนะ ขนาดป่วยยังได้นอนพักห้องที่แพงที่สุดในโรงพยาบาล”

และดูเหมือนประภาวีจะเหม่อเพ้อคิดเรื่องนั้นจนมันทันได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคนที่ยืนข้างเตียง ก่อนจะบางออในใจเพราะเคยเห็นรูปหญิงสาวคนนี้ที่บ้านศิลิวงษ์คงจะเป็นลูกสาวของบ้าน

ใบหน้างามราวกับนางเอกละครไร้ที่ติขาวใสออร่าจับตามแบบฉบับลูกผู้ดีมีเงิน ทว่าวาจากลับสวนทางร้ายกาจจนหล่อนรู้ทันทีกับการมาเยือน เลยส่งยิ้มฝาดเฝื่อนตอบรับคำทักทายอันไม่อภิรมณ์

                      “หึ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าแกตกแล้วตาย”  น้ำข้าว ศิลาวงษ์ เบ้ปากเยาะเย้ยจ้องมองเมียน้อยของพ่อสุดแสนชัง หลังจากเมื่อคืนที่ได้คุยกลับมารดาถึงได้รู้ว่าท่านพบเจอกับอะไรตัวหล่อนแทบจะวิ่งมาตามสายตั้งแต่เมือคืน

                       “คุณคงเป็นลูกสาวของคุณภาทสินะ”

                       “รู้นิ่ ว่าเขามีลูกยังจะเข้ามาแทรกกลางอยู่ทำไม”  ตะคอกสุดเสียง อารมณ์ขุนยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อยายเมียน้อยยังนั่งยิ้มไมสะทกสะท้าน

                        “ถึงยังไงฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงเธอ เธอควรจะให้เกียจฉันมากกว่านี้นะ”  ในเมื่อสาวรุ่นลูกแก่แดดแก่ลมยืนค้ำหัวประกาศความเป็นศัตรูถึงเพียงนี้ หล่อนก็ไม่ขอรักษามารยาทที่แทบจะไม่มีเหมือนกัน

                       “นี้ยังไม่ทันไรก็ยังจ้องหองขนาดนี้ อยากให้คุณพ่อมาเห็นจังเลยว่า เมียน้อย ตัวเองสันดารเป็นยังไง”

ประภาวีนับหนึ่งในใจระงับอารมณ์โกรธที่เคยมีให้พุ่งกระฉูดขึ้นมาอีกรอบ กลัวจะพลั้งมือจนห้ามไม่อยู่

                     “ที่มาวันนี้ฉันมีข้อเสนอดีๆมาให้แก ฉันจะให้เงินแกสิบล้านบ้านพร้อมรถแลกกับการออกไปจากบ้านฉันแล้วก็เลิกยุ่งกับคุณพ่อทุกทาง”

                     “ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงรับ แต่มาตอนนี้เหนื่อยกับการใช้เงิน”

                     “นี้แกจะไม่รับใช่ไหม คงจะหวังใหญ่กับมรดกพ่อฉันจนมองเห็นเงินที่ฉันให้น้อย”  สาววัยเบญจเพศแทบจะกระโจนตบผู้หญิงต่ำช้าตรงหน้า “หน้าด้าน” เธอบอกได้อย่างนี้จริงๆ

                      “ฉันง่วงมากค่ะ เชิญ”  ผายมือเชิญไม่คิดไว้หน้า ทำเอาน้ำข้าวกำหมัดเต้นตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าทำกับเธอขนาดนี้ เว้นเสียแต่หญิงตรงหน้า

                       “แก่หนังเหี่ยวหนังยานขนาดนี้แทนที่จะไปอยู่สบายๆไม่ชอบ รั้นจะเกาะครอบครัวคนอื่นเป็นกาฝากอยู่ได้หน้าไม่อาย”

เพี้ยยย

                      “นี้แกตตบฉันหรอ” น้ำข้าวดี้ดด๊าดสุดชีวิตที่ถูกหญิงชั่วตบจนหน้าหัน ก่อนจะฟาดฝ่ามือคืนจนอีกฝ่าย สงครามตบตีดังไปด้านนอกพอดับที่พยาบาลเข้ามาพอดี กว่าห้ามทั้งคู่ได้แทบหอบ

                      “ปล่อยฉัน อย่ามาจับ” หญิงสาวเอาแต่ใจสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมคุณพยาบาล จนพยาบาลต้องปล่อยเพราะสู้แรงไม่ไหว

                      “ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบ้านฉันล่ะ”

                                                            

 

               หัวอกคนเป็นพ่อที่เห็นลูกร้องไห้ในใจเจ็บปวดเพียงใดเขารับรู้ดีแต่จะให้ไล่ผู้หญิงอีกคนออกไปอยู่ข้างนอกเขาก็ทำไม่ได้ในเมื่อเขารักทั้งสองอยากเก็บไว้ทั้งสองคน

ลำขาแกร่งก้าวไปนั่งบนเตียงนอนสีแดงสดของลูกสาวเอื้อมมือมีริ้วรอยของกาลเวลาลูบหัวยอดดวงใจแผ่วเบาคนขี้น้อยใจขยับกายหนี

                "พ่อขอโทษข้าว”

เสียงร้องไห้ที่ผะแผ่วยิ่งดังสะท้านขึ้นจากคำของบิดาที่ทำสิ่งใดผิดก็เอาแต่ขอโทษแต่มิเคยกระทำตนให้ดีขึ้น

                “ลูกจะว่าจะด่าอะไรพ่อก็ได้ แต่อย่าเมินพ่อแบบนี้ได้ไหม” น้ำเสียวอ่อนโยนสุดเสียใจที่ตนเป็นสาเหตุของน้ำตา มันตอกย้ำในใจจนปวดหนึบ

                “งั้นพ่อก็ไล่มันออกไปจากบ้านเราสิคะ ทำได้ไหม” น้ำข้าวยันตัวลุกขึ้นนั่งมาเผชิญหน้าคนเป็นพ่อ

                 “พ่อ..ทำอย่างนั้นไม่ได้...พ่อรักเขาอย่าใจร้ายกับพ่อนักเลยนะลูก”

                 “นี้พ่อไม่ละอายใจบ้างเลยหรือไง ที่มาพูดว่ารักเมียน้อยต่อหน้าลูกเมียหลวง...ที่สำคัญพ่อยังไม่คิดจะให้เกียจคุณแม่อีก”  เธอรู้สึกผิดหวังในตัวบิดามากกว่าทุกครั้งที่รู้ว่าพ่อมีบ้านเล็ก นี้หรือคือผู้ให้กำเนิดช่างเห็นแก่ตัวยิ่งนัก บอกรักเมียอีกคนทั้งที่เมียอีกคนยังนั่งหัวโด่อยู่ในบ้าน

                  “ถึงพ่อจะพาใครมาอยู่ในบ้าน ไม่ได้แปลว่าพ่อจะไม่ได้รักแม่ของลูกนะ”

                  “พอเลยค่ะ ข้าวไม่อยากฟังออกไปจากห้องข้าวได้แล้ว คุณพ่อมันเห็นแก่ตัว”  หญิงสาวส่ายหน้าร้องไห้จนเศรษฐาใจเสียกับกิริยานั้น

                  “ข้าว”

“ออกไป กรี๊ด”สาวเจ้าลุกขึ้นเดินดันร่างพ่อให้ออกไปสุดแรง จนเศรษฐายอมยกธงขาว

 

 

 

 

กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ555  

พากันเม้นหน่อย เม้นได้หน๊าไรท์ไม่กัด 

ทำไมคนอ่านน้อยจัง  เค้าน้อยใจนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา