Dear Smorn จดหมายถึงสมร จากโรงละคร ณ 40,000 ฟุต
-
เขียนโดย PAAll
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.31 น.
14 ตอน
2 วิจารณ์
14.09K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2561 13.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ฉบับที่สาม เที่ยวกลางคืน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความถึงสมร
เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจดหมายทั้งหมดฉันเขียนถึงแต่ประสบการณ์บนไฟล์ททั้งนั้นเลย ฉบับนี้ฉันเลยขอเล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของฉันนิดนึง (‘ความเป็นอยู่’ ของคนประเภทฉันแปลว่าการเที่ยวกลางคืน 55555)
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าประเทศตะวันออกกลางกันดาร ขี่อูฐไปตลาด (เหมือนกับที่ฉันเคยโดนฝรั่งถามว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียนจริงรึเปล่า ฉันตอบว่าแต่ก่อนเคยขี่แต่ที่จอดไม่พอและช้างก็ขรี้เยอะเต็มลานจอดช้างไปหมด เราเลยเลิกขี่ 555555 ) อะไรประมาณนี้ แต่ความจริงไม่ใช่เลยนะยะ ความศิวิไลซ์ถือว่าโอเคเลยแหละ ตึกรามบ้านช่องใหญ่โตทันสมัย (รวยน้ำมัน) สังคมก็หลากหลาย อาจเป็นเพราะประชากรของประเทศเค้าน้อยเลยต้องจ้างชาวต่างชาติมา และเพราะเป็นประเทศมุสลิมเหล้ายาเลยเป็นของหายากและมีราคาแพง แต่แกคิดว่าคนติดเหล้าอย่างฉันจะยอมให้เรื่องแค่นี้เป็นอุปสรรคเหรอยะ เนื่องจากเพิ่งเริ่มบินก็เบี้ยน้อยหอยน้อย แต่ฉันก็หาได้ท้อแท้ไม่ (รักจะเป็นคนติดเหล้า ต้องรู้จักดื่มอย่างฉลาด จากลำยองเอง 55555)
แต่ละผับที่นี่จะมี ladies’ night แตกต่างกันไปในแต่ละวัน นั่นก็คือผู้หญิงเข้าฟรี ดื่มฟรี แต่ผู้ชายจ่ายตังค์ วันไหนที่ไม่ได้บินแกก็จะเจอฉันได้ตามผับตามบาร์ต่าง ๆ ที่มีเหล้าให้กินฟรี (แม่คงภูมิใจ 5555) ฉันไม่ค่อยได้เสียเงินไปกับแอลกอฮอล์เท่าไหร่ แต่! สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง วันหนึ่งฉันออกไปดื่มกับเพื่อนสาวตามปกติ เราตั้งปณิธานว่าวันนี้เราจะไม่ยอมเสียเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากดื่มของฟรีไปจนหมดแล้ว พวกฉันเลยทำเป็นนั่งสวย ๆ เผื่อจะมีคนมาซื้อเครื่องดื่มเลี้ยง (//me ขยับฟองน้ำเพื่อดันนม)
ได้ผลไวยิ่งกว่าครีมผิวขาวผสมปรอท ไม่กี่นาทีก็มีลุงคนหนึ่งมานั่งข้าง ๆ เราและเริ่มชวนคุย ปกติแล้วแกก็รู้ว่าฉันจะไม่คุยเจ๊าะแจ๊ะกับคนแปลกหน้า (ยกเว้นตอนเมา) โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ถูกสเปก แต่วันนี้ได้ตั้งใจมาแล้วว่าจะมากินฟรี ทำอะไรได้ก็ต้องทำ ลุงมีภาพพจน์ของคนหน้าหม้ออยู่ครบถ้วน ถึงแม้จะอายุห้าสิบกว่าแล้วแต่ตายังมีประกายแพรวพราว ลุงเริ่มถามพวกเรา
“สวัสดีสาว ๆ พวกเธอมาจากไหนกันล่ะ”
“เวียดนาม” ฉันตอบอย่างไว ลุงหลิ่วตาแบบที่คิดว่าเท่ที่สุด ตีนกาที่หางตาลุงสั่นริก ๆ
“ให้ฉันเลี้ยงเครื่องดื่มสักแก้วได้มั้ย” ลุงตกหลุมพรางพวกฉันอย่างรวดเร็ว
“แหม จะดี....” เพื่อนฉันแสร้งแสดงความเกรงใจยังไม่ทันจะจบ ฉันก็รีบหันไปสั่งคอกเทลที่แพงที่สุดกับบาร์เทนเดอร์ จนได้เหล้ามาพวกฉันก็กระหยิ่มยิ้มย่อง แหม่ นี่มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก พอได้เหล้าฟรีแล้วเราเลยต้องคุยกับลุงนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“พวกเธอเพิ่งมาอยู่เหรอ ทำงานที่ไหนล่ะ” ลุงยิงคำถามเพิ่ม
“พวกฉันเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ลูลู่ ซุปเปอร์มาร์เกต” ฉันตอบอย่างลื่นไหล ลุงเลิกคิ้วนิดนึง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร โดยไม่ต้องรอให้เสียเวลา ลุงเข้าประเด็นทันที
“เอาอย่างงี้ดีไหม คราวหน้าถ้าพวกเธออยากออกไปเที่ยวอีกให้โทรหาฉัน เรามาแลกเบอร์กัน”
ฉันกับเพื่อนมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วนใจ แต่ก็กลัวลุงสงสัย ฉันเลยรีบตอบไปว่า
“ฉันจำเบอร์ตัวเองไม่ได้น่ะ แล้วก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย เอางี้ ลุงเขียนเบอร์ให้ฉันเดี๋ยวฉันโทรหาตอนถึงบ้านนะ”
เด็กป.หนึ่งยังโกหกได้เนียนกว่าฉันเลยย่ะ แต่ไม่น่าเชื่อลุงกลับเขียนเบอร์ตัวเองให้อย่างไม่สงสัยอะไร ฉันหันไปหาเพื่อนสาวแล้วบอกนางเป็นภาษาไทยว่า
“นาง ความกระอักกระอ่วนใจนี้มันไม่เห็นจะคุ้มเลยกับเหล้าฟรีสองแก้ว เรารีบออกไปจากนี่กันเถอะ”
เพื่อนฉันก็เห็นด้วย ก่อนจะพากันหันไปขอบใจลุงแล้วรีบเก็บของออกมาจากบาร์ พอออกมาพ้นประตูฉันกับเพื่อนก็นั่งลงบนโซฟาและเริ่มหัวเราะให้กับการโกหกที่สุดจะไม่เนียนของเรา แต่ที่ทึ่งกว่าคือลุงไม่สงสัยอะไรเลยได้ไง
ขณะที่ฉันง่วนกับการหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อจะโทรเรียนแทกซี่มารับกลับบ้าน ก็มีมือหนึ่งมาจับข้อมือของฉันเอาไว้ ฉันเงยหน้าขึ้นไปเจอลุงกำลังยืนมองทำหน้าเหี้ยมอยู่
“เธอคิดว่าเธอแน่นักเหรอ เห็นฉันเป็นคนโง่หรือไง”
แกเอ๊ยยยย วินาทีนั้นฉันคิดว่าฉี่เล็ดออกมานิดนึงด้วยความกลัว
“ปละ เปล่านะ...” ฉันรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน ส่วนเพื่อนก็นั่งอึ้งอยู่ไม่แพ้กัน
“กล้าโกหกได้นะว่าไม่ได้เอาโทรศัพท์มา แล้วที่ถืออยู่อะไร!!” ลุงตะคอก ฉันสาบานว่าลุงดูโหดขึ้นร้อยเท่า
“ฉัน....” พูดไม่ออก ขรี้จะแตกแล้วโว้ยยยยย
“ฉันรู้นะว่าเธอเป็นลูกเรือ...” ลุงสะบัดมือฉันออก “ทริกราคาถูกแบบนี้อย่าเอาไปใช้ที่ไหนอีกล่ะ” แล้วลุงก็จะเดินหนีไป แต่ยังไม่วายหันมาด่าอีกเป็นครั้งสุดท้าย
“แล้วอีกอย่าง มันคือ ลูลู่ไฮเปอร์มาเก็ต จะโกหกอะไรก็หาข้อมูลซะบ้าง”
แล้วลุงก็เดินจากไปทิ้งฉันไว้กับความกลัวและความหน้าแตกยับเยิน จากเหตุการณ์ในวันนั้นฉันก็กลายมาเป็นสายเปย์อย่างเต็มตัว ฉันจะไม่หลอกใครมาซื้อเหล้าให้ฉันอีกแล้ว เข็ดแล้วจ้า 555555
ความประหลาดของที่นี่ยังไม่จบ คืนหนึ่งฉันออกไปดื่มที่บาร์กับเพื่อนผู้ชายคนสเปน ขณะที่เรากำลังเม้ามอยกันอย่างออกรสชาติ ก็มีผู้ชายฝรั่งคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณสี่สิบปี เดินเข้ามาหาพวกเราด้วยท่าทางตื่นเต้น
“เธอชอบกินเบียร์นี้ด้วยเหรอ” เขาชี้มาที่ฉัน ซึ่งกำลังถือเบียร์ของเยอรมันยี่ห้อหนึ่งที่ฉันชอบกินมาตั้งแต่สมัยเรียน
“ใช่ ฉันชอบมากเลย” ฉันตอบอย่างจริงใจ
“จริงเหรอ!” เขาดูดีใจมาก “ฉันมาจากเมืองที่ผลิตเบียร์นี้ ไม่เคยเห็นคนนอกยุโรปชอบกินมาก่อนเลย ฉันภูมิใจมาก ถ้าเธอไม่รังเกียจฉันขอถ่ายรูปเธอคู่กับขวดเบียร์ได้ไหม ฉันจะส่งให้เพื่อน ๆ ดู”
ฉันกับเพื่อนมองหน้ากันขำ ๆ แต่ฉันก็ยอมโพสท่าให้ฮีถ่ายรูปโดยดี ถ่ายเสร็จเขาก็ขอบคุณและเดินจากไป ฉันกับเพื่อนก็หันกลับไปคุยกันต่อ เหมือนเหตุการณ์จะผ่านไปอย่างปกติสุข
สามเดือนผ่านไป เพื่อนฉันได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่สเปน วันหนึ่งอยู่ดี ๆ มันก็ส่งข้อความหาฉันทางโทรศัพท์
“อลิสา ทายซิว่าฉันไปเจออะไรมา...” เพื่อนถาม แต่ฉันยังไม่ทันจะตอบฮีก็ส่งข้อความมาอีก “เช็คอีเมลล์เธอด่วนเลย”
แกต้องเข้าใจว่าฉันไม่มีโปรแกรมแชทใด ๆ ทุกอย่างเลยล้าหลังนิดนึง คนรอบตัวก็ด่ามาเยอะมากแต่ฉันจะไม่ยอมยกเลิกอุดมการณ์ตัวเอง 55555 หลังจากได้ข้อความนั้นฉันก็รีบเปิดคอม เข้ากล่องข้อความของตัวเองทันที ปรากฎว่าเพื่อนฉันส่ง screen shot มา เป็นรูปฉันโพสท่ากับขวดเบียร์ รูปที่ผู้ชายเยอรมันขอถ่ายในวันนั้น แต่มันจะเป็นรูปธรรมดาถ้ามันไม่ได้อยู่ในเวบหนังโป๊ของเยอรมัน!!!! 55555555 อิบ้านั่นมันเอารูปฉันไปเป็นแบนเนอร์ในเวบหนังโป๊แล้วเขียนโฆษณาประมาณว่า
‘Asian porn...click HERE’
ฉันรีบโทรไปหาเพื่อนทันทีเพื่อเม้ามอย เราสองคนหัวเราะจนเป็นบ้าไปเลย เนื่องจากประเทศมุสลิมของฉันบล็อกเวบโป๊ทุกชนิด ฉันเลยวานให้เพื่อนกดไปดู (เพื่อนอยู่สเปน) เพื่อนบอกว่าข้างในไม่ใช่ฉัน (ก็แน่สิยะ) เป็นผู้หญิงอวบ ๆ อาจจะเป็นจีนหรือญี่ปุ่น หลังจากกดเข้าไปดูก็เหมือนเพื่อนฉันจะโดนสแปมหรือไวรัสอะไรสักอย่างด้วย 55555555 โอ๊ยยยย ความซวย
ฉันขอจบจดหมายฉบับนี้แค่นี้ก่อน ต้องไปบินเยอรมันเพื่อเช็คเรทติ้ง (ซ้อมเซ็นต์ลายเซ็นต์แล้วเรียบร้อย 5555555)
คิดตึ๋งนะ
สา ดาวโป๊ ณ เมืองเบียร์
เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจดหมายทั้งหมดฉันเขียนถึงแต่ประสบการณ์บนไฟล์ททั้งนั้นเลย ฉบับนี้ฉันเลยขอเล่าเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของฉันนิดนึง (‘ความเป็นอยู่’ ของคนประเภทฉันแปลว่าการเที่ยวกลางคืน 55555)
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าประเทศตะวันออกกลางกันดาร ขี่อูฐไปตลาด (เหมือนกับที่ฉันเคยโดนฝรั่งถามว่าคนไทยขี่ช้างไปเรียนจริงรึเปล่า ฉันตอบว่าแต่ก่อนเคยขี่แต่ที่จอดไม่พอและช้างก็ขรี้เยอะเต็มลานจอดช้างไปหมด เราเลยเลิกขี่ 555555 ) อะไรประมาณนี้ แต่ความจริงไม่ใช่เลยนะยะ ความศิวิไลซ์ถือว่าโอเคเลยแหละ ตึกรามบ้านช่องใหญ่โตทันสมัย (รวยน้ำมัน) สังคมก็หลากหลาย อาจเป็นเพราะประชากรของประเทศเค้าน้อยเลยต้องจ้างชาวต่างชาติมา และเพราะเป็นประเทศมุสลิมเหล้ายาเลยเป็นของหายากและมีราคาแพง แต่แกคิดว่าคนติดเหล้าอย่างฉันจะยอมให้เรื่องแค่นี้เป็นอุปสรรคเหรอยะ เนื่องจากเพิ่งเริ่มบินก็เบี้ยน้อยหอยน้อย แต่ฉันก็หาได้ท้อแท้ไม่ (รักจะเป็นคนติดเหล้า ต้องรู้จักดื่มอย่างฉลาด จากลำยองเอง 55555)
แต่ละผับที่นี่จะมี ladies’ night แตกต่างกันไปในแต่ละวัน นั่นก็คือผู้หญิงเข้าฟรี ดื่มฟรี แต่ผู้ชายจ่ายตังค์ วันไหนที่ไม่ได้บินแกก็จะเจอฉันได้ตามผับตามบาร์ต่าง ๆ ที่มีเหล้าให้กินฟรี (แม่คงภูมิใจ 5555) ฉันไม่ค่อยได้เสียเงินไปกับแอลกอฮอล์เท่าไหร่ แต่! สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง วันหนึ่งฉันออกไปดื่มกับเพื่อนสาวตามปกติ เราตั้งปณิธานว่าวันนี้เราจะไม่ยอมเสียเงินแม้แต่บาทเดียว หลังจากดื่มของฟรีไปจนหมดแล้ว พวกฉันเลยทำเป็นนั่งสวย ๆ เผื่อจะมีคนมาซื้อเครื่องดื่มเลี้ยง (//me ขยับฟองน้ำเพื่อดันนม)
ได้ผลไวยิ่งกว่าครีมผิวขาวผสมปรอท ไม่กี่นาทีก็มีลุงคนหนึ่งมานั่งข้าง ๆ เราและเริ่มชวนคุย ปกติแล้วแกก็รู้ว่าฉันจะไม่คุยเจ๊าะแจ๊ะกับคนแปลกหน้า (ยกเว้นตอนเมา) โดยเฉพาะกับคนที่ไม่ถูกสเปก แต่วันนี้ได้ตั้งใจมาแล้วว่าจะมากินฟรี ทำอะไรได้ก็ต้องทำ ลุงมีภาพพจน์ของคนหน้าหม้ออยู่ครบถ้วน ถึงแม้จะอายุห้าสิบกว่าแล้วแต่ตายังมีประกายแพรวพราว ลุงเริ่มถามพวกเรา
“สวัสดีสาว ๆ พวกเธอมาจากไหนกันล่ะ”
“เวียดนาม” ฉันตอบอย่างไว ลุงหลิ่วตาแบบที่คิดว่าเท่ที่สุด ตีนกาที่หางตาลุงสั่นริก ๆ
“ให้ฉันเลี้ยงเครื่องดื่มสักแก้วได้มั้ย” ลุงตกหลุมพรางพวกฉันอย่างรวดเร็ว
“แหม จะดี....” เพื่อนฉันแสร้งแสดงความเกรงใจยังไม่ทันจะจบ ฉันก็รีบหันไปสั่งคอกเทลที่แพงที่สุดกับบาร์เทนเดอร์ จนได้เหล้ามาพวกฉันก็กระหยิ่มยิ้มย่อง แหม่ นี่มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก พอได้เหล้าฟรีแล้วเราเลยต้องคุยกับลุงนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“พวกเธอเพิ่งมาอยู่เหรอ ทำงานที่ไหนล่ะ” ลุงยิงคำถามเพิ่ม
“พวกฉันเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ลูลู่ ซุปเปอร์มาร์เกต” ฉันตอบอย่างลื่นไหล ลุงเลิกคิ้วนิดนึง แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร โดยไม่ต้องรอให้เสียเวลา ลุงเข้าประเด็นทันที
“เอาอย่างงี้ดีไหม คราวหน้าถ้าพวกเธออยากออกไปเที่ยวอีกให้โทรหาฉัน เรามาแลกเบอร์กัน”
ฉันกับเพื่อนมองหน้ากันอย่างกระอักกระอ่วนใจ แต่ก็กลัวลุงสงสัย ฉันเลยรีบตอบไปว่า
“ฉันจำเบอร์ตัวเองไม่ได้น่ะ แล้วก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย เอางี้ ลุงเขียนเบอร์ให้ฉันเดี๋ยวฉันโทรหาตอนถึงบ้านนะ”
เด็กป.หนึ่งยังโกหกได้เนียนกว่าฉันเลยย่ะ แต่ไม่น่าเชื่อลุงกลับเขียนเบอร์ตัวเองให้อย่างไม่สงสัยอะไร ฉันหันไปหาเพื่อนสาวแล้วบอกนางเป็นภาษาไทยว่า
“นาง ความกระอักกระอ่วนใจนี้มันไม่เห็นจะคุ้มเลยกับเหล้าฟรีสองแก้ว เรารีบออกไปจากนี่กันเถอะ”
เพื่อนฉันก็เห็นด้วย ก่อนจะพากันหันไปขอบใจลุงแล้วรีบเก็บของออกมาจากบาร์ พอออกมาพ้นประตูฉันกับเพื่อนก็นั่งลงบนโซฟาและเริ่มหัวเราะให้กับการโกหกที่สุดจะไม่เนียนของเรา แต่ที่ทึ่งกว่าคือลุงไม่สงสัยอะไรเลยได้ไง
ขณะที่ฉันง่วนกับการหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเพื่อจะโทรเรียนแทกซี่มารับกลับบ้าน ก็มีมือหนึ่งมาจับข้อมือของฉันเอาไว้ ฉันเงยหน้าขึ้นไปเจอลุงกำลังยืนมองทำหน้าเหี้ยมอยู่
“เธอคิดว่าเธอแน่นักเหรอ เห็นฉันเป็นคนโง่หรือไง”
แกเอ๊ยยยย วินาทีนั้นฉันคิดว่าฉี่เล็ดออกมานิดนึงด้วยความกลัว
“ปละ เปล่านะ...” ฉันรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน ส่วนเพื่อนก็นั่งอึ้งอยู่ไม่แพ้กัน
“กล้าโกหกได้นะว่าไม่ได้เอาโทรศัพท์มา แล้วที่ถืออยู่อะไร!!” ลุงตะคอก ฉันสาบานว่าลุงดูโหดขึ้นร้อยเท่า
“ฉัน....” พูดไม่ออก ขรี้จะแตกแล้วโว้ยยยยย
“ฉันรู้นะว่าเธอเป็นลูกเรือ...” ลุงสะบัดมือฉันออก “ทริกราคาถูกแบบนี้อย่าเอาไปใช้ที่ไหนอีกล่ะ” แล้วลุงก็จะเดินหนีไป แต่ยังไม่วายหันมาด่าอีกเป็นครั้งสุดท้าย
“แล้วอีกอย่าง มันคือ ลูลู่ไฮเปอร์มาเก็ต จะโกหกอะไรก็หาข้อมูลซะบ้าง”
แล้วลุงก็เดินจากไปทิ้งฉันไว้กับความกลัวและความหน้าแตกยับเยิน จากเหตุการณ์ในวันนั้นฉันก็กลายมาเป็นสายเปย์อย่างเต็มตัว ฉันจะไม่หลอกใครมาซื้อเหล้าให้ฉันอีกแล้ว เข็ดแล้วจ้า 555555
ความประหลาดของที่นี่ยังไม่จบ คืนหนึ่งฉันออกไปดื่มที่บาร์กับเพื่อนผู้ชายคนสเปน ขณะที่เรากำลังเม้ามอยกันอย่างออกรสชาติ ก็มีผู้ชายฝรั่งคนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณสี่สิบปี เดินเข้ามาหาพวกเราด้วยท่าทางตื่นเต้น
“เธอชอบกินเบียร์นี้ด้วยเหรอ” เขาชี้มาที่ฉัน ซึ่งกำลังถือเบียร์ของเยอรมันยี่ห้อหนึ่งที่ฉันชอบกินมาตั้งแต่สมัยเรียน
“ใช่ ฉันชอบมากเลย” ฉันตอบอย่างจริงใจ
“จริงเหรอ!” เขาดูดีใจมาก “ฉันมาจากเมืองที่ผลิตเบียร์นี้ ไม่เคยเห็นคนนอกยุโรปชอบกินมาก่อนเลย ฉันภูมิใจมาก ถ้าเธอไม่รังเกียจฉันขอถ่ายรูปเธอคู่กับขวดเบียร์ได้ไหม ฉันจะส่งให้เพื่อน ๆ ดู”
ฉันกับเพื่อนมองหน้ากันขำ ๆ แต่ฉันก็ยอมโพสท่าให้ฮีถ่ายรูปโดยดี ถ่ายเสร็จเขาก็ขอบคุณและเดินจากไป ฉันกับเพื่อนก็หันกลับไปคุยกันต่อ เหมือนเหตุการณ์จะผ่านไปอย่างปกติสุข
สามเดือนผ่านไป เพื่อนฉันได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่สเปน วันหนึ่งอยู่ดี ๆ มันก็ส่งข้อความหาฉันทางโทรศัพท์
“อลิสา ทายซิว่าฉันไปเจออะไรมา...” เพื่อนถาม แต่ฉันยังไม่ทันจะตอบฮีก็ส่งข้อความมาอีก “เช็คอีเมลล์เธอด่วนเลย”
แกต้องเข้าใจว่าฉันไม่มีโปรแกรมแชทใด ๆ ทุกอย่างเลยล้าหลังนิดนึง คนรอบตัวก็ด่ามาเยอะมากแต่ฉันจะไม่ยอมยกเลิกอุดมการณ์ตัวเอง 55555 หลังจากได้ข้อความนั้นฉันก็รีบเปิดคอม เข้ากล่องข้อความของตัวเองทันที ปรากฎว่าเพื่อนฉันส่ง screen shot มา เป็นรูปฉันโพสท่ากับขวดเบียร์ รูปที่ผู้ชายเยอรมันขอถ่ายในวันนั้น แต่มันจะเป็นรูปธรรมดาถ้ามันไม่ได้อยู่ในเวบหนังโป๊ของเยอรมัน!!!! 55555555 อิบ้านั่นมันเอารูปฉันไปเป็นแบนเนอร์ในเวบหนังโป๊แล้วเขียนโฆษณาประมาณว่า
‘Asian porn...click HERE’
ฉันรีบโทรไปหาเพื่อนทันทีเพื่อเม้ามอย เราสองคนหัวเราะจนเป็นบ้าไปเลย เนื่องจากประเทศมุสลิมของฉันบล็อกเวบโป๊ทุกชนิด ฉันเลยวานให้เพื่อนกดไปดู (เพื่อนอยู่สเปน) เพื่อนบอกว่าข้างในไม่ใช่ฉัน (ก็แน่สิยะ) เป็นผู้หญิงอวบ ๆ อาจจะเป็นจีนหรือญี่ปุ่น หลังจากกดเข้าไปดูก็เหมือนเพื่อนฉันจะโดนสแปมหรือไวรัสอะไรสักอย่างด้วย 55555555 โอ๊ยยยย ความซวย
ฉันขอจบจดหมายฉบับนี้แค่นี้ก่อน ต้องไปบินเยอรมันเพื่อเช็คเรทติ้ง (ซ้อมเซ็นต์ลายเซ็นต์แล้วเรียบร้อย 5555555)
คิดตึ๋งนะ
สา ดาวโป๊ ณ เมืองเบียร์
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ