โอม ตอนที่ 1 แรงอาฆาต(เวอร์ชั่น 70 เปอร์เซ็นต์)

9.3

เขียนโดย Jalando

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.48 น.

  111 บท
  20 วิจารณ์
  131.62K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2566 00.44 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตามหาหมอโอม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

เครดิตภาพจาก https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2

 

     

       หลังจากจิตหราได้รับชื่อและที่อยู่ เธอก็รีบบึ่งรถออกไปในทันที เพื่อตามหาบุรุษผู้ถูกขนานนามว่า "หมอโอม" เนื่องจากตอนนี้ยังมีมหันตภัยลึกลับคอยจ้องเล่นงานอยู่ ถ้ามัวแต่ชักช้า คงไม่รอดพ้นจากความตาย

        

 

        สาวสวยสำรวจเส้นทางที่จะไป ที่อยู่ของหมอโอมนั้นค่อนข้างหายาก เพราะมันเป็นบ้านที่ไม่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ทำให้ต้องเลี้ยวรถเข้าไปในซอยและขับต่อไปอีกหลายกิโล         

       

 

         จิตหราใช้สูตรเดิม นั่นก็คือ....ถามทางผู้คนและดูจุดหมายที่ปักหมุดในเนวิเกเตอร์ไปเรื่อยๆ ดวงตาคู่งามสำรวจข้างทางเป็นระยะ ในที่สุดเธอก็มาถึงหมู่บ้านของหมอโอม

        

 

        ทางสัญจรในหมู่บ้านเป็นถนนสองเลนที่วิ่งสวนกัน พื้นผิวของมันค่อนข้างขรุขระ บ่งบอกถึงความกันดาร ริมทางซ้ายมือเป็นทุ่งนาเขียวขจีที่กว้างจนสุดลูกหูลูกตา มีบ้านเล็กๆแทรกเป็นระยะ ส่วนขวามือเป็นคลองขนาดกะทัดรัดที่กว้างประมาณ 15 เมตร ทำให้พอมองเห็นฝั่งตรงข้ามซึ่งมีสภาพดุจเดียวกัน

        

 

        ภาพที่เห็นเป็นวิวธรรมชาติที่ชวนให้เย็นใจ แต่สำหรับหญิงสาว บรรยากาศดังกล่าวไม่ได้ทำให้ใจสงบลงเลย ตรงกันข้าม มันกลับร้อนรุ่มราวกับไฟสุมทรวง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมูที่กำลังจะขึ้นเขียง และสิ่งที่จะมาเชือดเฉือนก็คือ......มรณภัยจากสิ่งที่ไม่มีตัวตน สิ่งที่จับต้องไม่ได้ สิ่งที่คนธรรมดาไม่อาจต้าน

 

……………………..

 

" อืม.....น่าจะใช่ที่นี่มั้ง " จิตหราแลเศษกระดาษซึ่งระบุที่อยู่ จากนั้นก็เหลือบมองเคหสถานที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า

         

 

       จิตหรานึกฉงนเล็กน้อย เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงบ้านปูนสองชั้น ด้านหน้าปลูกเป็นร้านขายของชำเล็กๆ มีหญิงชราอายุประมาณ 70 ปีประจำการอยู่ ผู้อาวุโสไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม พร้อมซ่อนร่างกะทัดรัดในเสื้อคอกระเช้าและผ้าถุง

 

" เอ.....หรือว่าจะไม่ใช่ที่นี่ เพราะไม่เห็นตำหนักของพ่อหมอโอมเลย " จิตหรานิ่งงัน พร้อมปรึกษากับตัวเอง จากนั้นก็ตัดสินใจ

 

" ยังไงลองถามคุณยายที่หน้าร้านก่อนดีกว่า "

 

" สวัสดีค่ะ คุณยาย " สาวสวยเดินเข้ามาทักทาย พร้อมยกมือไหว้ด้วยมารยาทอันดี

         

 

        ทว่าคุณยายร่างเล็กกลับนิ่งเงียบ ดวงตาขาวขุ่นจับจ้องมาที่จิตหรา เวลาต่อมาปากที่ไร้ฟันก็เริ่มเปิดกว้างและส่งยิ้มอบอุ่น แต่ในความคิดของหญิงสาว มันเป็นยิ้มที่ชวนสยอง

 

" เอ.....หรือว่าแกจะเป็นวิญญาณเหมือนคุณลุงคนนั้น " จิตหราเริ่มระแวง เธอถอยหลังออกมาตั้งหลัก หัวสมองพยายามคิดคำนวณว่าจะเอายังไงต่อไป

      

 

         ระหว่างเธอละล้าละลังอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงยานคางของหญิงชราดังขึ้นมาที่ด้านหลัง

 

" ซื้อของหรือจ๊ะ หนู " 

 

" ว้าย! " จิตหราผวาสุดตัว เธอรีบหันกลับไปดูเจ้าของเสียง นั่นทำให้พบกับ......

         

 

        คุณยายวัยประมาณ 60 ปีเศษ เรือนหน้าของหญิงชรานางนี้ดูละม้ายคล้ายกับคุณยายผมทรงดอกกระทุ่ม เธอซ่อนร่างเล็กจิ๋วในเสื้อคอกระเช้าสีชมพูและผ้าถุงขมวดเป็นปมแบบโจงกระเบน

 

" ตาเถรตก โอ๊ย ตายแล้ว ยายขอโทษจ้ะ ตกใจมากมั้ยจ๊ะ " คุณยายร้องเสียงหลง สีหน้าท่าทางดูสำนึกผิด

 

" อ้อ.....ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณยายย่องมาเงียบๆ หนูเลยตกใจนิดหน่อย " หญิงสาวเอามือทาบอก เธอค่อนข้างมั่นใจว่ายายคนนี้น่าจะเป็นคนธรรมดา

 

" โล่งอกไปที ว่าแต่หนูมาซื้ออะไรหรือจ๊ะ " คุณยายถอนหายใจ พลางทวนคำถามเดิม

 

" ไม่ได้ซื้อของหรอกจ้ะ หนูตั้งใจมาตามหาคนค่ะ " จิตหราตอบยิ้มๆ

 

" เอ๋ หาใครอยู่หรือ บอกที่อยู่มาสิจ๊ะ ยายจะบอกทางให้ " คุณยายขันอาสา

 

" คนที่หนูตามหา เขาชื่อหมอโอม และตามที่อยู่ซึ่งได้รับมาก็คือบ้านหลังนี้ค่ะ " หญิงสาวก้มลงมองรายละเอียดที่อยู่ในเศษกระดาษ พลางเงยหน้าขึ้นตอบ

 

" เอ.......หมอที่หมู่บ้านนี้ก็มีอยู่คนหนึ่งนะ แต่ไม่ได้ชื่อหมอโอม เขาชื่อหมอเดชต่างหาก หนูได้ชื่อมาผิดรึเปล่าจ๊ะ " หญิงชราถามต่อ

 

" ไม่น่าผิดนะ หนูได้ยินกับหูตัวเองเลยว่าเขาชื่อ "หมอโอม" เออ...ว่าแต่คุณหมอเดช ท่านอาศัยอยู่ที่ไหนหรือคะ " หญิงสาวสอบถามต่อ ในใจเริ่มสับสน เธอมาถูกที่รึเปล่า

 

" อ้อ.....หมอเดชอยู่ที่บ้านพักหลังอนามัยของหมู่บ้านเองจ้ะ หนูต้องขับตรงไปที่สะพานข้างหน้า จากนั้นก็เลี้ยวขวาขึ้นสะพาน พอลงมาหนูก็จะเจออนามัย " คุณยายแจงโดยละเอียด พร้อมชี้นิ้วบอกทางให้เสร็จสรรพ

         

 

         จิตหรายิ่งมึนขึ้นไปอีกระดับ ทุกสิ่งที่รับรู้ มันผิดไปจากที่คิด ทีแรกเธอนึกว่าจะเจออาศรม หรือไม่ก็ตำหนักที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย แต่สิ่งที่เจอกลับเป็นเพียงร้านขายของชำเล็กๆ นอกจากนี้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอหนึ่งเดียวในหมู่บ้าน ดันอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังอนามัย ซึ่งไม่สมฐานะของหมอไสยศาสตร์มือหนึ่งเลยซักนิด

 

" เออ ถ้าหนูไปหา...หมอเดชในเวลานี้ ท่านจะอยู่มั้ยคะ " หญิงสาวถามต่อ เธอนึกในใจว่าตนอาจฟังชื่อของพ่อหมอผิดไปก็ได้ หรืออีกนัยหนึ่งหมอเดชอาจมีชื่อเล่นว่า "โอม" ในโลกนี้จะมีซักกี่คนที่ใช้ชื่อประหลาดแบบนี้

 

" อยู่ซิจ๊ะ หมอแกประจำอยู่ที่อนามัยตลอดแหละ ไม่เคยไปไหนหรอก " หญิงชราตอบยิ้มๆ

 

" อ้อ ดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ " จิตหรายกมือไหว้นอบน้อม แต่ในขณะที่หันหลังกลับ เธอก็ต้องผงะอีกครั้ง เมื่อพบกับ......หญิงชราผมทรงดอกกระทุ่ม

        

 

         หญิงชราผมทรงดอกกระทุ่มแสยะยิ้มกว้าง ทว่าสิ่งที่ทำให้จิตหราขนลุกจริงๆก็คือ……คำถามที่เปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและยานคาง

 

" ไอ้หนู เอ็งเป็นลูกใครวะ "

       

 

          ทันใดนั้นเอง หญิงชราที่สนทนากับเธอเมื่อครู่ ก็แจงกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูขบขันเล็กน้อย

 

" ฮ่าๆ หนูไม่ต้องกลัวแกหรอก ยายคนนั้นเป็นแม่ของชั้นเอง แกหลงๆลืมๆแล้ว ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ "

 

" หา! เหรอคะ " จิตหราร้องเสียงสูง เธอออกอาการเหวอจนอ้าปากค้าง

 

" ใช่แล้วจ้ะ " หญิงชราพยักหน้ารับคำ

 

" ฮะๆ งั้นก็ลาล่ะค่ะ " หญิงสาวหัวเราะแห้งๆ พร้อมยกมือไหว้คุณยายทั้งสอง จากนั้นก็จรลาอย่างรวดเร็ว ภายในใจแอบคิด....เธอไม่น่าหลงกลัวหญิงชราผมทรงดอกกระทุ่มเลย ที่เป็นอย่างนี้ เพราะดันไปเจอเรื่องหลอนๆที่บ้านแม่หมอจนเกิดอาการประสาทเสีย

 

…………………….

          

          ทันทีที่จิตหราเดินทางมาถึงอนามัยหมู่บ้าน เธอก็จอดรถคันงามไว้ที่ด้านหน้า

          

 

         อนามัยแห่งนี้เป็นตึกสองชั้น ชั้นล่างแบ่งเป็นห้องยาวจำนวนสองห้อง ประตูห้องเป็นบานเลื่อนที่ทำมาจากกระจก เผยให้เห็นสภาพข้างในที่อุดมไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ส่วนชั้นบนแบ่งซอยเป็นห้องเล็กๆจำนวนสามห้อง ทุกห้องปิดประตูเอาไว้ เลยไม่เห็นข้างใน         

       

 

         จิตหราเหลือบมองไปรอบๆ เลยพบว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลยซักคน ด้วยความร้อนใจ เธอจึงเสี่ยงกระทำบางอย่างที่ไม่เข้ากับนิสัยของตนเอง นั่นก็คือ.......การตะโกน

 

" มีใครอยู่มั้ยคะ "

         

 

         ในการตะโกนครั้งแรก สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบ ในขณะที่ตั้งท่าจะตะโกนรอบสอง ก็มีเสียงชายวัยกลางคนดังแทรกเข้ามา เสียงนั้นส่อแววเซ็งอย่างสุดซึ้ง

 

" เอะอะโวยวายอะไรกันวะ คนจะหลับจะนอน "

        

 

          ดวงตาหญิงสาวเบิกโพลงด้วยความดีใจ เพราะเจ้าของเสียงอาจเป็นหมอไสยศาสตร์คนดังที่ตามหา หรือถ้าไม่ใช่ ก็อาจจะสอบถามว่าหมอเดชซึ่งเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวอยู่ที่ไหน

 

" ขอโทษที่มารบกวน หนูมาหาหมอเดชค่ะ " จิตหราตอบกลับไป แม้ยังไม่เห็นโฉมหน้าเจ้าของเสียงก็ตามที

 

" อ้อ มาหาชั้นหรือ แพล็บนะ ขอลงไปก่อน " เสียงชายวัยกลางคนตอบกลับ

 

" เอ่อ.....ได้ค่ะ " หญิงสาวเริ่มสงสัยแล้ว หมอเดชอยู่ที่ไหนกันแน่

        

 

          เพียงไม่นานจิตหราก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อมีมือหยาบกร้านมาแตะมาที่หัวไหล่ของเธอ

 

" ว้าย! " เธออุทานดัง พร้อมหันหลังกลับไปเผชิญกับบุคคลที่แตะเนื้อต้องตัว

         

 

          เจ้าของมือปริศนาเป็นชายวัยกลางคนร่างสันทัด เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงสแล็คสีดำ คลุมชั้นนอกด้วยเสื้อกาวน์สีขาว หน่วยก้านคล้ายแพทย์ แต่ที่ขัดกับเครื่องแบบที่สวมใส่ก็คือหน้าตาที่รกรุงรังไปด้วยหนวดเครา ผมบนศีรษะยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง ปลายเส้นผมมีสีขาวแซมอยู่เล็กน้อย ดวงตาที่ซ่อนภายใต้แว่นตาทรงกลมก็ดูขวางๆคล้ายคนสติไม่ค่อยดี มองไปมองมา คลับคล้ายกับนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องมากกว่าที่จะเป็นหมอไสยเวทชื่อดัง

 

" ขอโทษที แอบหนีไปนอนบนแท็งก์น้ำมาน่ะ เธอมาหาชั้นทำไม " ชายสติเฟื่องตอบ พร้อมชี้ให้ดูหอสูงที่ใช้เก็บแท็งก์น้ำขนาดใหญ่

 

" คุณ...คือ....หมอเดช.." จิตหราอ้าปากค้าง เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าชายวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าคือบุคคลที่ตามหา

 

" ใช่ ชั้นเอง ตกลงมีอะไรกันแน่ " หนุ่มใหญ่สติเฟื่องเริ่มเน้นคำหนักขึ้น

 

" เออ.....พอดีแม่หมอมาลีแนะนำให้หนูมาหาหมอเดช นี่คือที่อยู่ซึ่งได้รับจากแม่หมอค่ะ " จิตหราหยิบกระดาษจดที่อยู่ให้หมอเดช แต่เจ้าตัวโบกมือเป็นเชิงไม่รับ พร้อมสวนกลับโดยเร็ว

 

" แม่หมอมาลีอะไร ชั้นไม่รู้จักหรอก ว่าแต่เธอเป็นอะไร ป่วยรึไง "

 

" เอ่อ....ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ " หญิงสาวยิ่งงงหนักกว่าเดิม เพราะดูท่าทางหมอเดชคงจะไม่รู้จักแม่หมอมาลีจริงๆ แต่ภายในก็นึกหมั่นไส้เล็กน้อยกับความไม่เอาใครของหนุ่มใหญ่สติเฟื่อง

 

" อ้าว....แล้วตกลงเป็นอะไร รอบเดือนมารึไง " หนุ่มใหญ่ปากปีจอเริ่มหาเรื่อง      

       

 

          ความปากร้ายของหนุ่มใหญ่ ทำให้จิตหรารู้สึกโกรธ แต่เธอก็พยายามข่มอารมณ์ร้าย พร้อมบอกธุระที่มาอย่างรวดเร็วและตรงประเด็นที่สุด

 

" ไม่ใช่ค่ะ ที่ชั้นมานี่ เพราะอยากจะให้พ่อหมอช่วยจัดการวิญญาณร้ายที่คอยติดตาม "

 

" ว่ะ จะบ้าหรือ ชั้นไม่ใช่หมอผีนะ ชั้นเป็นหมอรักษาคน มาทางไหนไปทางนั้นเลย ก่อนที่จะเรียกรถมาจับเธอไปส่งโรงพยาบาลบ้า " หมอสติเฟื่องโวยลั่น

 

" ค่ะ สวัสดีค่ะ ชั้นลาล่ะ " จิตหราโกรธจัดถึงขีดสุด เธอกล่าวลาเสียงแข็ง พร้อมหันหลังกลับโดยไม่ยกมือไหว้

        

 

          ระหว่างที่จิตหรากำลังก้าวขึ้นรถ ก็พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอเลยรีบหันกลับไปสอบถามหมอสติเฟื่องอีกครั้ง

 

" เอ่อ.....พี่คะ หมู่บ้านนี้มีคนชื่อ "โอม" หรือเปล่า "

 

" อ้าว....แล้วเธอมาหา “โอม” ทำไม เธอเป็นเพื่อนเขา.....หรือว่าเป็น....แฟน " ชายวัยกลางคนถามละลาบละล้วงแบบไม่เกรงใจใคร น้ำเสียงดูอ่อนลงอย่างชัดเจน

       

 

           ในขณะที่จิตหราจะปฏิเสธ ไหวพริบปฏิภาณในสมองก็สั่งให้ตอบกลับ

 

" อ้อ..ไม่ใช่แฟนค่ะ หนูเป็นเพื่อนของเขา " สิ้นคำตอบ จิตหราก็แสร้งทำเป็นอายเล็กน้อย เพื่อหลอกให้หมอเดชคิดลึก

 

" ฮี่ๆ ไอ้หนูนั่น ฝีมือไม่ใช่ย่อยเลยนี่หว่า หาแฟนได้สวยซะขนาดนี้ ฮี่ๆ " ชายสติเฟื่องกอดอก เขาพึมพำเบาๆสลับกับหัวเราะแปลกๆ

 

" เอ่อ.....ว่าแต่ นายโอม เพื่อนของหนู เขาอยู่ที่ไหนหรือคะ " หญิงสาวแกล้งตีเนียน เพื่อไถ่ถามต่อ

 

" ฮ่าๆ มันก็อยู่หลายที่นะ บางทีก็อยู่กับเพื่อนฝูงในซอยถัดไป บางทีก็อยู่บ้านตัวเอง บางทีก็แอบหนีเข้ากรุงเทพ บางทีก็หายตัวไปอย่างลึกลับ แต่เอ....เวลานี้ "

        

 

           ชายสติเฟื่องก้มลงมองนาฬิการูปร่างประหลาดที่ดูคล้ายสิ่งประดิษฐ์ต่างโลก ก่อนเงยหน้าขึ้นมาตอบ

 

" มันน่าจะอยู่ที่สนามบอลหลังวัด "

 

" ขอบคุณมากค่ะ " หญิงสาวยิ้มใส พร้อมไหว้ลาเสียงหวาน

 

" จ๋า..... ไม่เป็นไรหรอก แล้วมาหาอาจารย์อีกนะ แม่หนูคนสวย " ชายวัยกลางคนยกมือรับไหว้ ใบหน้ายิ้มระรื่น อันเป็นกิริยาที่ผิดกับเมื่อครู่ราวฟ้ากับดิน บ่งบอกว่าชายเพี้ยนที่อยู่ตรงหน้า คงจะถูกชะตากับคนที่ชื่อ "โอม" มิใช่น้อย

 

…………………….

         

         หญิงสาวเดินทางมาถึงวัดประจำหมู่บ้าน พอมาถึงเธอก็สอบถามชาวบ้านทุกคนที่เดินผ่าน เพื่อหาข้อมูลก่อนที่จะเจอตัวจริง ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายโอมคือเด็กหนุ่มอายุ 20 เขาเป็นลูกเจ้าของสวนส้มโอ เรียนมหาลัยเอกชนที่กรุงเทพ เป็นคนอัธยาศัยดี มีน้ำใจ และเป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้าน

        

 

          จิตหรารู้สึกงงงวยหนักกว่าเดิม เพราะลักษณะท่าทางที่ได้รับทราบจากชาวบ้าน มันดูไม่ใกล้เคียงกับการเป็นหมอไสยศาสตร์ชื่อดังเลย

        

 

          จิตหราเดินมาถึงจุดหมาย มันเป็นลานปูนขนาดเท่าสนามฟุตซอล บนลานกว้างมีเด็กชาย เด็กหญิงประมาณ 10 กว่าคนวิ่งไล่เตะลูกกลมๆกันอย่างสนุกสนาน กลางวงปรากฏกายเด็กหนุ่มร่างสันทัด เขากำลังง่วนอยู่กับการเตะบอลกับเด็กๆ ดูไปแล้วหญิงสาวไม่น่าจะพบกับ "นายโอม" ในสถานที่แห่งนี้

 

" เฮ้อ......หายากหาเย็นจังเลยนะ นายโอม " จิตหราถอนหายใจ เธอกำลังครุ่นคิดว่าจะทำยังไงต่อไป             

        

 

         สายลมพัดโชยแผ่ว ให้ความเย็นใจเย็นกายแก่จิตหรา ซึ่งบัดนี้กำลังนั่งเอนหลังอยู่ที่ม้านั่งหินหลังสนาม เธอคิดว่าจะพักผ่อนชั่วครู่แล้วออกตามหานายโอมต่อ ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้ม โสตประสาทก็แว่วเสียงของพวกเด็กๆ

 

" ฮ่าๆ พี่โอมแพ้แล้ว ไปเก็บบอลมาซะดีๆ "

 

" เอ๊ะ " เธอหลุดออกจากภวังค์โดยพลัน ทันใดนั้นเอง ลูกบอลสีกระดำกระด่างก็กลิ้งมากระทบขาเรียว

        

 

         จิตหราเหลือบมองไปข้างหน้า เธอเห็นเด็กหนุ่มผิวคล้ำวิ่งตรงมายังเธอ ใบหน้าของเขาดูซื่อๆ มีแว่นทรงกลมประดับที่ดวงตา ดูไปแล้วไม่ใช่คนหล่อเหลาอะไร อันที่จริงค่อนข้างจะขี้เหร่เสียด้วยซ้ำ

 

" พี่ครับ ขอโทษที ขอลูกบอลด้วยครับ " เด็กหนุ่มพูดยิ้มๆ ท่าทางจะเป็นคนอารมณ์ดี

 

" ได้จ้ะ " หญิงสาวยิ้มตอบ เธอหยิบบอลขึ้นมาแล้วโยนให้ ซึ่งเด็กหนุ่มก็ใช้เท้ารับบอลลงพื้นอย่างง่ายดาย บ่งบอกว่าเขาน่าจะเล่นลูกกลมๆได้เก่งพอตัว

 

" ขอบคุณครับ " เด็กหนุ่มยิ้มเปิดเผย พร้อมกล่าวขอบคุณ

 

" เร็วๆดิ พี่โอม กำลังมันเลย ช้าจริง คนแก่เนี่ย " เด็กชายหญิงวัยสะรุ่นเริ่มบ่นที่เห็นเด็กโค่งชักช้า

 

" เออ โว้ย ทำอย่างกะพวกเอ็งอ่อนกว่าข้าเยอะนักนี่ ห่างกันแค่สิบปีเอง " เด็กหนุ่มหันกลับไปโวยและเตรียมตั้งท่าเตะบอลกับพวกเด็กๆต่อ

        

 

         จิตหราได้ยินอย่างชัดเจนว่าเด็กน้อยกลุ่มนี้เรียกเด็กหนุ่มว่า "พี่โอม" เธอจึงร้องทักเสียงดัง

 

" เดี๋ยวก่อน น้อง "

      

 

          เด็กหนุ่มผิวคล้ำหยุดวิ่ง ก่อนหันกลับมาถามด้วยสีหน้าที่ดูสงสัย

 

" ครับ มีอะไรหรือครับ "

 

" น้องชื่ออะไรนะ " หญิงสาวถามรัวเร็ว

 

" ผมชื่อ.....โอม มีอะไรรึเปล่า พี่ " เด็กหนุ่มตอบกลับ สีหน้าของเขาดูงงหนักกว่าเดิม ด้วยอยู่ๆมีสาวสวยวัยรุ่นพี่มาถามชื่อ 

 

ลิงค์นิยาย โอม แรงอาฆาต (เวอร์ชั่น 100 เปอร์เซ็นต์)

เว็บ MEB

เล่มที่ 1  https://www.mebmarket.com/ebook-160354-โอม-แรงอาฆาต-เล่มที่-1

เล่มที่ 2  https://www.mebmarket.com/ebook-160355-โอม-แรงอาฆาต-เล่มที่-2

เล่มที่ 3  https://www.mebmarket.com/ebook-160356-โอม-แรงอาฆาต-เล่มที่-3

 

เว็บ PINTOBOOK

เล่มที่ 1  https://pintobook.com/ebooks/60f6b8d7073b71001bbe8acb

เล่มที่ 2  https://pintobook.com/ebooks/60e4115f1c4428001c2ada2c

เล่มที่ 3  https://pintobook.com/ebooks/60f6c444cceb70001babd0b6

 

 

เว็บ HONGSAMUT

เล่มที่ 1  https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=3140

เล่มที่ 2  https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=3141

เล่มที่ 3  https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=3142

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณอ่านเรื่องนี้แล้วฟินมากแค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา