Note Tale Project : Heart & Both
เขียนโดย IdoLized
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2561 เวลา 20.39 น.
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2561 04.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Note Tale Project : Heart & Both Special 1 "เรื่องมันมีอยู่ว่า....."
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เป็นเวลาพักกลางวันพอดี ซึ่งเป็นเวลาที่นักเรียนจะพลุกพล่านไปทั่วบริเวณโรงอาหารเต็มทั้งสองชั้น และเป็นเรื่องปรกติที่นักเรียนส่วนใหญ่ก็ต้องเลือกที่จะไปทานอาหารกับเพื่อนพ้องกันกลุ่ม เว้นซะแต่....
.....เฮ้อ.....
ทางด้านอิริยาเองที่โดยปกติจะอยู่บนห้องคนเดียวในเวลาพักเที่ยงเพื่อทานอาหารกลางวันก็ดูจะมีท่าทางกังวลบางอย่างซึ่งก็ไม่รู้จะทำเช่นไร ในเมื่อวันนี้ตัวเธอนั้นดันลืมเอาอาหารกลางวันมาทานเหมือนที่ทำประจำแต่ก็เกรงใจแม่บ้านที่จะต้องรบกวนหากว่าเธอจะโทร.เรียกเธอมาส่งให้
"เอ๊ะ!? อิริยา มีอะไรงั้นหรอ"
แนนที่เข้ามาในห้องอีกครั้งเพราะนึกได้ว่าเธอดันลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ในห้องก็สังเกตเห็นท่าทางดูไม่สบายใจของเธอก็ทำหน้าแปลกใจ
"อะ....เออ....คือว่า...."
เธอมองมาทางแนนราวกับว่ามีบางอย่างอยากพูดออกไปแต่ก็เลือกที่จะเงียบไว้เนื่องจากลังเลอยู่
ในขณะที่แนนที่กำลังยืนแปลกใจอยู่นั้นก็สังเกตเห็นความผิดปกติบนโต๊ะของเธอ
"รึว่า...เธอลืมเอาข้าวกล้องมางั้นหรอ"
แนนถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงสุดๆอย่างกับว่าเป็นแม่ที่เป็นห่วงลูกไม่มีผิด
"เอ๊ะ!?"
"มาๆ ไปกินด้วยกันอยู่โรงอาหารดีกว่า ฟิล์มกับเบลก็รออยู่ อิริยายังไม่เคยไปเลยใช่ไหมล่ะ โรงอาหารน่ะ"
"ฉะ...ฉัน ไม่ค่อยชอบ....ที่ที่คนเยอะน่ะ"
"เอาเถอะๆ ไม่เป็นไรหรอก"
แนนก็รบเร้าอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะนำอิริยาที่กำลังไม่แน่ใจให้ไปทานอาหารด้วยให้ได้
โรงอาหาร
.....ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันนะ......
ในขณะที่ที่ถูกแนนจับมือดึงแขนมายังโรงอาหารด้วยสีหน้าระรื่นอยู่นั้น อิริยาที่เป็นกังวลอยู่ก่อนหน้าแล้วก็ได้ที่ทำสีหน้าคิดไม่ตกบวกต่อด้วยความสงสัยต่างๆนานาๆ ในทุกอย่างที่เธอพบเห็น
อย่างเช่นว่าเขาคุยกันได้อย่างไรโดยที่ไม่รู้สึกแปลกๆเลยที่มีคนมากมายอยู่รายล้อม หรือนั่งใกล้กันแออัดอย่างนั้นมันจะมีความสุขขณะทานอาหารได้อย่างไร หรือแม้กระทั่งคำถามที่ว่าตัวเธอเองมาทำอะไรที่นี่ก็ล้วนวนอยู่ในหัวเธออยู่ตลอดเช่นกัน
"อ้าว! แนน มาช้าจัง ที่นั่งจะเต็มหมดแล้วเนี่ย"
ฟิล์มที่นั่งรออยู่บนโต๊ะกลมข้างๆร้านขายอาหารตามสั่งที่เธอและเพื่อนๆจะมาทานด้วยกันบ่อยๆก็หันมาเห็นแนนพอดีจึงได้เรียกเธอเข้ามาหลังจากที่รอเธอมานานเป็นเวลาพอสมควร
"เอ๋!? อิริยาก็มาด้วยหรอ"
"ใช่ๆ วันนี้เธอไม่ได้เอาข้าวมากินน่ะ เลยชวนมาด้วย"
ฟิล์มมีท่าทีตกใจนิดหน่อย ในขณะที่อิริยาได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆไม่เข้าใจว่าตนเองมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรเช่นกัน
"แล้วเบลล่ะ?"
"เห็นบอกไปซื้อเยลลี่ร้านป้านีน่ะ แล้วจะกินอะไรกันล่ะ ไปซื้อกันสิ"
ตอนนี้ที่โต๊ะมีแค่ฟิล์มและกระเพราหมูสับไข่ดาวของเธอเท่านั้น โชคยังดีที่เธอยังไม่ได้ทานจนหมดเพราะรอเพื่อนๆมาครบซะก่อน
"งะ...งั้น เดี๋ยวฉันไปซื้อให้อิริยาด้วยก็ได้ ไม่ชอบคนเยอะๆสินะ ความผิดฉันด้วยแหละ อิริยาจะทานอะไรหรอ"
"เอ๋!?...งะ....งั้นก็ขอรบกวนเป็นแซนวิช รสอะไรก็ได้เลยค่ะ"
เธอสั่งด้วยท่าทางสำรวมสุดๆทั้งน้ำเสียงเเละกริยาการกระทำแม้จะรู้สึกเกรงใจที่ไม่ได้ไปซื้อเองแต่ก็จะดีกว่าที่ให้แนนทำตามความต้องการของตัวเองเลยไม่ได้ขัด
"นี่อิริยา บอกแล้วไงว่ากับพวกเราไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้น่ะ"
ฟิล์มที่เห็นงั้นก็รู้สึกตะหงิดๆมานานแล้วจึงได้พูดขึ้นมา
"อะ...เอ๊ะ!? กะ....ก็ได้"
อิริยามีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อยๆพูดและก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิดราวกับได้ทำผิดอะไรไปซึ่งอาจเป็นเพราะเธอกำลังคิดว่าพวกเขาไม่ชอบที่เธอพูดแบบนี้อยู่
"ดะ....เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน! ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ที่สื่อคือ แค่จะบอกว่าคุยกับเราแบบปกติก็ได้แค่นั้นเอง"
ฟิล์มแค่ดูจากท่าทางของเธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าตนพูดอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีออกไปเข้าซะแล้วจึงรีบพยายามพูดแก้ความเข้าใจผิดนั้น
"พูด...ปกติ?"
เธอพูดเว้นคำไว้สักพักและเอียงคอมองหญิงสาวที่มีท่าทีหนักอกหนักใจด้วยความสงสัย
"อ่ะ....เอ่อ.....ว่าไงดีล่ะ...."
เจอสีหน้าแบบนั้นเข้าไป ฟิล์มก็ได้แต่เกาหัวอย่างจนปัญญาที่จะอธิบายให้เธอเข้าใจไปซะแล้ว
ซึ่งนั่นทำให้เธอเข้าใจได้ทันทีกับไอ้คำว่าเลี้ยงดูมาต่างกันมันเป็นอย่างไร
"อ้าวไงฟิล์ม!"
เสียงเรียกทักทายของเด็กหนุ่มท่าทางอารมณ์ดีคุ้นๆหูดังขึ้นจากโต๊ะข้างๆที่ถูกขั้นไว้ด้วยกำแพงเล็กๆสูงประมาณ 1 เมตร
"วันนี้มีซ้อมนะ โค้ชฝากมาบอกนะ"
"จูนหรอ? โอเคขอบคุณที่บอกนะ แล้วลีกหน้านายได้ลงแข่งด้วยรึเปล่า"
"เออ...คิดว่าไม่นะ ฉันมีธุระพอดีน่ะ....."
ทันใดนั้นจูนที่บังเอิญหันมาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งก็รู้สึกแปลกใจ แต่ก่อนจูนจะเห็นอิริยาเข้าเธอก็ไหวตัวทันจึงได้เอาหมวกของเสื้อฮูดกันหนาวของเธอคลุมหัวไว้และเอาหน้าม้าของเธอลงมาปิดหน้าพร้อมก้มหัวลงไปกับโต๊ะเพื่อไม่ให้จูนรู้ ผมที่ยาวนั้นก็หนาพอที่จะปิดบังหน้าเธอได้พอดิบพอดี ฟิล์มที่เห็นดังนั้นก็เข้าใจได้ทันทีแต่เธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก
"แล้วนี้มากับใครน่ะไม่คุ้นเลย....เอ....แต่ก็รู้สึกคุ้นๆแฮะ"
จูนเอียงคอมองเพื่อให้เห็นเด็กสาวคนนั้นได้ชัดๆด้วยความสงสัย ซึ่งอิริยาที่ก้มอยู่นั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ
"นี่ฟิล์ม เพื่อนเธอเป็นอะไรรึเปล่า เงียบแปลกๆนะ"
"นั่นสิน้า~"
จู่ๆฟิล์มก็พูดขัดขึ้นพร้อมทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ดูท่าทางแปลกๆแล้วก็ทานอาหารบนจานของเธอต่อไป ซึ่งนั้นยิ่งกระตุ้นความอยากอยู่อยากเห็นของจูนเข้าไปใหญ่
ไม่รอช้า เขาเดินอ้อมมาหาโต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่แล้วเข้ามามองๆดูอิริยาที่กำลังก้มหน้าอยู่
"นี่เธอ ไม่เคยเห็นมาที่โรงอาหารเลย ปกติอยู่แต่บนห้องหรอ"
....ระ....รู้งั้นหรอ....
อิริยาเองก็มีความรู้สึกบางอย่างว่าอีกฝ่ายจะรู้แล้วว่าเป็นเธอ
จูนค่อยๆเข้ามามองใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ใกล้ชนิดที่ว่าอีกเพียงไม่กี่เซนหน้าก็แทบจะติดแก้มเธอแล้ว จนอิริยาที่ก้มหน้าอยู่ก็เริ่มทนไม่ไหว
"คุณนี่มันโรคจิตชัดๆเลยค่ะ!"
เธอตัดสินใจเงยหน้าขึ้นปัดหน้าม้าที่บังอยู่ออกแล้วมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจสุดๆพร้อมว่าใส่การกระทำที่บุ่มบ่ามของเขา
"อะ!.....อิริยา!?"
จูนมีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัด
"...มะ...ไม่รู้ว่าเป็นฉันงั้นหรอคะ?"
"อะ....เออ....เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย! ที่เห็นเธอมาโรงอาหารน่ะ คนเยอะดีนะ! ฮ่า ฮ่า.... นี่ๆทานอะไรรึยัง เดี๋ยวฉันเลี้ยง ระ...หรือว่า....."
จูนเกร็งทำตัวไม่ถูกจนไม่รู้ตัวว่าตนร่ายบ้าบออะไรออกไปขณะนั้นบ้างก็ไม่รู้ ซึ่งอิริยาก็มองดูอยู่
"อะ...เออ ขะ...ขอโทษ"
เมื่อตั้งสติได้บ้างแล้ว จูนก็หดตัวลีบขอโทษเธอกับเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างสำนึกผิด
"....เอาเถอะค่ะ ฉันก็ไม่ได้คิดมากอะไรนักหรอก"
จูนที่ยืนตัวหดอยู่ก็ดีใจจนฟื้นกลับมาอีกครั้ง ฟิล์มที่กำลังมองดูทั้งคู่สนทนาอยู่ด้วยความบันเทิงใจก็เกิดนึกแปลกใจขึ้นมา เมื่อคำพูดน้ำเสียงอิริยาที่กำลังคุยกับจูนนั้นช่างดูเป็นธรรมชาติซะเหลือเกิน
....อะ...เออ...พูดแบบปรกติก็ได้นี่นา.....
เธอคิดในใจ
ทันใดนั้นเอง ก็มีรุ่นพี่ผู้ชายตัวใหญ่ที่กำลังถือถาดอาหารเดินมาชนเข้ากับอิริยาจนล้มลง
"โอ๊ย!"
อาหารที่ถือมานั้นเลอะเสื้อของเขารวมไปถึงแก้วน้ำที่ล้นแตกกระจายเต็มพื้นทำให้มีบางส่วนได้บาดแขนของเธอเข้า
"อิริยา!"
ฟิล์มและจูนที่อยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นมาดูอาการของเธอ
"อะไรเนี่ย! คนกำลังเดิน มายืนขวางซะงั้น ดูซิเนี้ย หกหมดเลอะชุดชั้นหมดแล้ว!"
ชายร่างโตโมโหหนัก แม้จะเป็นความผิดของเขาเองที่เดินไม่ดูทาง เพราะอิริยาก็ยืนอยู่ข้างๆเก้าอี้ของเธอซึ่งมีทางเดินว่างสำหรับเดินผ่านไปอยู่แล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะโทษคนอื่นเอาไว้ก่อน
"ขะ....ขอโทษค่ะ ฉะ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ..."
"ขอโทษ!? ขอโทษแล้วเสื้อมันจะขาวขึ้นไหม เงินมันจะกลับมาไหม จะชดใช้ยังไง! "
คำขอโทษนั้นไม่ได้ช่วยอะไร ชายร่างโตยังคงตะโกนโหวกเหวกจนคนทั้งโรงอาหารหันมามองดู อิริยาก็ได้แต่ก้มหน้าตัวสั่นเอามือปิดปากเอาไว้ด้วยความกลัวและตกใจกับสิ่งที่เธอทำไปขณะที่มือขวานั้นก็กำลังปิดแขนตรงส่วนที่โดนบาดเอาไว้ ความรู้สึกผิดเหล่านั้นยิ่งบวกกับการที่คนเริ่มมาสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทำให้สถานการณ์มันยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่
"อะไรกัน! แค่ข้าวหกเอง โวยวายอะไรใหญ่โตนักหนา ผู้ชายรึเปล่านี่! แล้วก็ที่ผิดเองมันก็พี่ไม่ใช่หรอ เดินไม่ดีตาม้าตาเรือเองน่ะ ทางเดินดีๆก็มี"
"ว่าไงนะ!?"
ฟิล์มที่ทนไม่ไหวก็ลุกขึ้นมาว่าให้การกระทำอันไร้ยางอายของเขาอย่างไม่เกรงกลัวแต่นั่นทำให้รุ่นพี่เลือดร้อนโมโหขึ้นกว่าเดิม
"เอาหน่าๆ พี่ชาย เพื่อนผมก็ไม่ได้ตั้งใจหรอกครับ งั้นเอางี้ ผมจะให้นี่นะ"
จูนที่เหมือนจะนึกอะไรออกก็รีบเข้ามาตีเนียนกอดไหล่รุ่นพี่คนนี้ไว้ แล้วพากันหันหลังขวับเข้ามุม พวกเขาคุยอะไรกับบางอย่างแล้วจูนก็ยื่นกระดาษอะไรทุกอย่างให้ไป ซึ่งนั่นทำให้รุ่นพี่คนนั้นยอมจากไปโดยดีอย่างงงๆ
"อะไรครับ แค่คนทำข้าวหกเอง สนใจอะไรกัน รีบกินรีบไปสิครับ! เออ คนเรา"
จูนที่เคยเห็นอิริยาในสถานการณ์นี้มาก่อนแล้วก็รู้ดีว่าเธอไม่ค่อยชอบเป็นจุดสนใจเลยตั้งใจตะโกนไล่คนที่มาดูให้ไปไกลๆ
"คนอะไรนิสัยเสียชะมัด เอ๊ะ!? อิริยา มีแผลด้วยนี่!"
ฟิล์มบ่นไปด้วยในขณะที่ปลอบใจเธอไปด้วย และตอนนั้นเองเธอก็สังเกตเห็นรอยแผลจากการโดนมีดบาดของอิริยาที่เอามือปิดไว้จนไม่มิดเพราะเลือดที่เริ่มไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นจูนเข้ามาใช้ผ้าเข็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อซับเลือดและห้ามเลือดไว้ให้จากนั้นก็นำพลาสเตอร์ปิดแผลอันเดียวกับที่เขาเคยได้รับมาจากอิริยามาปิดแผลที่แขนซ้ายของเธออย่างใจดี จากนั้นก็ก้มเก็บจานที่รุ่นพี่นิสัยเสียคนนั้นทำหกไว้ไปเก็บให้แทน
"ไม่เป็นไรแล้วนะ"
"...."
อิริยามองดูจูนที่ค่อยๆแกะพลาสเตอร์มาติดให้โดยไม่พูดอะไร จนกระทั่งเขาเดินจากไปในขณะที่ใบหน้าของเธอจู่ๆก็เริ่มที่จะมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ด้วยความรู้สึกที่เธอไม่เข้าใจแต่ก็คุ้นเคย
...คุณแม่...
ภาพของผู้หญิงที่อยู่ในชุดเดรสสีขาวอันสง่างามกำลังลูบหัวเธอในขณะที่เธอกำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนโต๊ะที่ดูเหมือนเป็นที่จัดงานบางอย่างแห่งหนึ่งผุดขึ้นมา
"อิริยา! อิริยา!"
เสียงของแนนเรียกเธอที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ด้วยสีหน้าที่กำลังเศร้าหมอง
"อะ...เอ๊ะ!? แนน..."
แนนสะกิดจากข้างหลังจนเด็กสาวสะดุ้งตกใจขึ้น เธอมองไปที่แนนที่มาพร้อมจานข้าวผัดและแซนวิชที่เธอฝากซื้อไปนั่นเอง ซึ่งดูเหมือนเธอเองจะยังไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
"มีเรื่องอะไรรึเปล่า เห็นคนดูเยอะๆเมื่อกี้"
เธอพูดไปในขณะที่สายตาก็มองดูคนที่พากันเดินกลับที่นั่งของตนตามเดิมซึ่งเป็นผลจากการสลายม๊อบของจูนด้วยความแปลกใจ
"อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก แค่เจอคนนิสัยเสียน่ะ"
ฟิล์มจู่ๆก็ฉวยตอบขึ้นแบบปัดๆไป
"เอ๋?.....งั้นหรออิริยา?"
"อะ....อืม"
แนนไม่มั่นใจในท่าทางมีพิรุธของฟิล์มจึงหันมาถามอิริยา ซึ่งเธอเองก็ทำทีท่าไม่รู้ไม่ใช่ด้วยอีกคนและเธอเองก็เอาเวลาไหนไปเช็ดน้ำตาจนหมดจนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้
"งั้นหรอ...."
แนนยื่นแซนวิชไส้ทูน่ามาย็องเนสที่ซื้อมาหลังจากเหลือเป็นชิ้นสุดท้ายที่ร้านให้เธอไปทานหลังจากฝากซื้อไปนาน
"มาแล้วลา...."
จู่ๆเสียงเล็กๆเรียบๆตั้งขึ้นจากข้างหลังแนน
"เบล? ไปไหนมาเนี่ย เขารอจนจะกินอิ่มหมดแล้วนะ"
เบลที่กลับมาพร้อมเยลลี่ถ้วยเล็กในสภาพมอมแมมสุดๆก็เดินโซเซมานั่งข้างๆอิริยา
"แล้วทำไมสกปรกมาแบบนี้ล่ะเนี่ย!"
ฟิล์มดุเบลที่อยู่ในสภาพนี้ซึ่งดูเหมือนแม่ดูลูกที่พึ่งกลับจากการเล่นซนมาไม่มีผิด
".... ฉันหนีสภานักเรียนมาน่ะ จู่ๆพวกนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้ จะเรียกดูสมุดนี่ให้ได้ ฉันเลยหนีไปทางโซนเกษตรกรรมน่ะจากนั้น....."
เธอเล่าช้าๆอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วหยิบสมุดที่เธอสะพายไว้กับตัวตลอดขึ้นมา ซึ่งนั้นก็เป็นสมเหตุสมผลที่ทำให้เนื้อตัวดูสกปรกมอมแมมเช่นนี้
....น่ะ....น่าสงสาร.....
ทั้งแนนและฟิล์มต่างคิดเช่นเดียวกัน
"อ้าว! อิริยา มาด้วยหรอ ปกติเห็นแต่อยู่บนห้อง เอ...เมื่อกี้จูนก็มาหาด้วยนี่นา มีเรื่องอะไรกานหรอ"
จู่ๆเด็กสาวตัวน้อยก็พูดอะไรลอยๆขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหย่อนยานเรียบๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเธออย่างไม่มีเหตุทำให้ฟิล์มที่นั่งอยู่สะดุ้งขึ้น
"เอ๊ะ!? อิริยารู้จักจูนด้วยหรอ?"
แนนที่กำลังทานอาหารอยู่เมื่อได้ยินดังนั้นช้อนที่กำลังตักอาหารอยู่นั้นก็ร่วงลงกับจานจนดังแกร๊งขึ้นมา พร้อมเอียงคอหันมามองฟิล์มอย่างน่าขนลุก
"กะ...ก็ นิดหน่อยน่ะ"
อิริยาตอบอย่างน่าตาเฉย พร้อมเอามือลูบๆแถวแผลที่โดนบาดเบาๆไปด้วยโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จนแนนสังเกตเห็นเข้า
"เธอเป็นแผลด้วยนี่!? นี่เกิดอะไรขึ้นหรอ!?
"กะ...ก็มีเรื่องนิดหน่อยค่ะ....แต่ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกค่ะ"
เมื่อเธอเห็นแผลนั้นก็ทำให้แนนตกใจอย่างโอเวอร์ ราวกับแม่ที่เป็นห่วงลูกอกแทบจะแตกตายและดูเหมือนเธอจะนึกอะไรขึ้นได้
"ฟิล์มจ๊ะ....พอจะเล่ามาให้ฟังหน่อยได้ไหม"
จากนั้นก็ค่อยๆหันมามองฟิล์มช้าๆแล้วถามคำถามต่อด้วยรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง
"คะ....คือ....เรื่องนี้ฉันอธิบายได้!"
แนนค่อยๆคืบคลานเข้ามาใกล้ฟิล์มขึ้นเรื่อยๆ
"อย่า! อย่า!!!!"
ไม่รอช้า เธอก็ได้กระโดดตะครุบฟิล์มหงายหลังไป ในขณะที่อิริยามองดูทั้งสองด้วยความสงสัย
"คือว่านา แนนเขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ เธอจะเป็นห่วงคนอื่นอยู่ตลอด โดยเฉพาะอิริยาเลยลา เธอเคยบอกว่าถ้าอิริยามาเรียนแล้วจะดูแลเป็นอย่างดีเลยลา"
เบลอธิบายให้อิริยาฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมทานเยลลี่ไปด้วยในขณะที่มองดูแนนขย่ำฟิล์มจนต้องร้องขอชีวิต
.
.
.
.
.
"นี่ๆ อิริยา"
ฟิล์มเรียกเด็กสาวในขณะที่เดินไปส่งงานห้องอาจารย์กันสองคน
"?"
เธอมองด้วยท่าทางสงสัย
"พูดกับพวกเราแบบที่พูดกับจูนก็ได้นะ"
"เอ๊ะ!?"
อิริยาเลิกคิ้วขึ้นแสดงความประหลาดใจสุดๆ
"แต่นั่นมันหยาบคายมากเลยไม่ใช่หรอคะ"
"เอาหน่าๆ! พวกเราไม่ถือหรอก"
เมื่อเธอยืนกรานว่าเช่นนั้นอิริยาก็จึงต้องยอมต่อความต้องการของเธอเช่นนั้นแต่โดยดี
....แค่ไม่เติมคะค่ะลงท้ายแล้วพูดเป็นน้ำเสียงปกตินี่มันหยาบตรงไหนเนี้ย!....
#ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านครับและก็ขออภัยที่รอกันนาน #ก็เป็นตอนเสริม ระหว่างช่วงตอนที่ 2 กับ 3 นั้นเองครับ เอาไว้อ่านแทนตอนหลักก่อนละกัน เพราะช่วงนี้ค่อนข้างจะเป็นช่วงสำคัญเลยตั้งใจจะทำยาวๆและก็จะตั้งใจขัดคำเกลาวลีให้ดีที่สุดก่อนเพื่อให้เข้าถึงเนื้อเรื่องและรายละเอียดต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วค่อยลงให้อ่านกันอีกทีนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ