ตุ๊กตาแฝงแค้น
เขียนโดย Hanuna
วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 10.27 น.
แก้ไขเมื่อ 18 กันยายน พ.ศ. 2561 10.28 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลายเดือนต่อมาน้ำทิพต้องย้ายบ้านและไปอยู่โรงเรียนใหม่ เนื่องจากบิดาของเธอได้งานในตำแหน่งที่ดีขึ้น จึงต้องย้ายไปอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง แต่การย้ายโรงเรียนกลางเทอมแบบนี้ ต้องมีการปรับตัวและหาเพื่อนใหม่อีกครั้ง แล้วความยุ่งยากที่เกิดขึ้นกับชีวิตใหม่ของเธอก็มาถึง
“ใครเอาเศษผงมาใส่ใต้โต๊ะของฉัน” น้ำทิพตะโกนเสียงดัง เมื่อเธอเข้าคาบเรียนแรกแต่กลับพบเศษผง กระดาษและขยะอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมดใต้โต๊ะของเธอ
เสียงโวยวายของน้ำทิพ ทำให้เด็กผู้หญิงหัวโจ๊กของห้องเดินตรงเข้ามาหาเธอ
“ก็นะ เธอเป็นเด็กใหม่ ก็ต้องโดนรับน้องใหม่” นกเบ้ปากใส่
“เป็นเด็กใหม่แล้วยังไง” น้ำทิพเธอไม่ยอมแพ้ เป็นเด็กใหม่แล้วทำกันแบบนี้หรือ
“ก็ไม่ยังไงหรอก เธอต้องกวาดไปทิ้งเอง ฮ่า ฮ่า” นกพูดทิ้งท้ายแล้วสะบัดกระโปรงเดินกลับไปนั่งที่
น้ำทิพกัดฟันกรอดไม่พอใจ แต่เธอไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ได้แต่ยอมจำนนทุกหนทาง
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอได้เล่าและระบายอารมณ์กับตุ๊กตาหมีด้วยความเจ็บใจ
“ฉันเกลียด และก็เกลียด เกลียดเพื่อนทุกคนในห้อง” เธอยกตุ๊กตาหมีขึ้นมากอด และกำมือทั้งสองข้างด้วยความแค้น
“พวกมันชอบมองฉันเหมือนตัวประหลาด แกล้งฉันสารพัด นอกจากกวาดเศษผงใส่ใต้โต๊ะฉันแล้ว ไอ้นกมันยังบอกเพื่อน ๆ ไม่ให้คบกับฉันอีก พอถามเหตุผล มันบอกแค่หมั่นไส้ เหตุผลบ้า ๆ อะไร แล้วพรุ่งนี้ พวกนั้นมันยังนัดฉันไปหลังโรงเรียน แกคิดว่าไง ฉันต้องโดนตบแน่เลย ฮือ ฮือ” น้ำทิพยกตุ๊กตาขึ้นมาระบายความอึดอัดทั้งหมด จนน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย แล้วผล็อยหลับไปทันทีที่สบายใจ
ภายในห้องที่มืดมิด สิ่งไม่มีชีวิตที่รอคอยกลืนกินความเคียดแค้นทุกอย่างจากผู้เป็นเจ้าของ แล้วก่อร่างสร้างให้สมความปรารถนา กำลังทำในสิ่งที่สาวน้อยน้ำทิพต้องการ
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ให้พวกมันมาแตะต้องตัวเธอได้แน่นอน หึหึหึ”
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน น้ำทิพใจกล้าไปหลังโรงเรียน ตามที่พวกนั้นได้นัดกับเธอเอาไว้ แต่เธอต้องแปลกใจ เมื่อไม่พบใครแม้แต่คนเดียว
“ไม่เห็นมีใครเลย” น้ำทิพรอคอยหลายชั่วโมงจนเธอต้องตัดสินใจกลับบ้านอย่างเช่นทุกวัน และรู้สึกโล่งใจที่เธอรอดตายจากพวกผู้หญิงเหล่านั้น
หลายวันต่อมา พวกนกไม่มาโรงเรียนตั้งแต่วันนั้น สร้างความแปลกใจให้กับน้ำทิพเป็นอย่างมาก
“นัด เธอเห็นนกไหม” น้ำทิพรีบดักถามนัดทันทีที่เธอเดินผ่าน
“ทำไม” นัดถามกลับอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมกับทำสีหน้าไม่พอใจ
“ม...ไม่มีอะไรหรอก” น้ำทิพต้องขมวดคิ้วไม่เข้าใจท่าทางที่แสดงออกมาของคนตรงหน้า แต่ด้วยความอยากรู้จึงไม่ยอมเดินจากไปไหน จนนัดใจอ่อน บอกในสิ่งที่เธอต้องการ
“นกไม่มาเรียนหรอก”
“ม...ไม่สบายเหรอ” น้ำทิพถามกลับด้วยความสงสัย เมื่อหลายวันก่อนพวกเธอยังสบายดีอยู่เลย
“ฉันได้ข่าวว่า บ้านพวกเขาเจออะไรแปลก ๆ ด้วยนะ” นัดส่งสายตาจดจ้องน้ำทิพขณะพูด จนน้ำทิพเริ่มเกร็งแต่ทำใจกล้าถามต่อ
“อ...อะไร”
“เธออยากรู้จริงสิ” สีหน้าของนัดที่นิ่งราวกับมีบางอย่างซ่อนอยู่ ยิ่งทำให้น้ำทิพอยากรู้มากขึ้นถึงแม้เริ่มใจคอไม่ดี
“ช...ใช่”
“มีคนนำเลือดไปป้ายที่กระจกหน้าบ้านนะสิ ข...เขียนขู่ไว้ด้วยนะ” นัดพยายามพูดแม้ว่าสีหน้าเริ่มซีดเผือด
“มีแบบนั้นด้วยเหรอ” น้ำทิพฉงนสงสัย ใครกันทำเรื่องอย่างนั้น แต่นัดก้มหน้านิ่ง
“แล้วมันเขียนว่าอะไร” น้ำทิพถามขึ้นอีกครั้ง คงไม่ใช่เรื่องร้ายกาจหรอกนะ
“เขียนว่า ห...ห้ามยุ่งกับน้ำทิพ ไม่อย่างนั้นจะตายทีละคน” นัดเงยหน้าจ้องน้ำทิพเขม็ง
“เฮ้ย...” น้ำทิพหน้าซีดเลยทีเดียว มันหมายความว่ายังไงกันแน่
นัดไม่สนใจสีหน้าของน้ำทิพ เธอต้องการพูดในสิ่งที่น้ำทิพควรรับรู้เอาไว้
“เขานินทาเธอ พูดกันหนาหูเลยทีเดียว”
“อะไร” น้ำทิพขมวดคิ้วทันที
“ว่าเธอเป็นคนทำเรื่องทั้งหมด” น้ำเสียงและสีหน้าของนัดเปลี่ยนไป จ้องจับผิดทุกท่าทางของน้ำทิพ เหมือนทุกสิ่งที่เขาได้ยินเป็นความจริง และคนตรงหน้าต้องเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ม...ไม่ใช่ฉันนะ” น้ำทิพส่ายหน้ารัวให้กับนัด รวมถึงทุกคนในห้องที่ได้ยินการสนทนาทั้งหมด ความเครียดเริ่มประดังเข้ามาใส่ตัวของเธอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ แล้วเธอควรจะทำอย่างไรต่อ ตอนนี้เธอโดนหมายหัวแล้วสิ
น้ำทิพเธอไปโรงเรียนตามปกติ แต่ปรากฏว่าทุกคนเดินหนีเธอกันหมด แม้แต่เพื่อนที่นั่งข้างเธอยังย้ายไปนั่งที่อื่น จนเธอรู้สึกอึดอัด เพราะทุกคนในห้องเรียนมองเธอด้วยสายตาที่แปลกออกไป
“นัดรอก่อน” น้ำทิพเห็นนัดกำลังจะเดินผ่านตน จึงรีบร้องทักทันที
“มีอะไร” น้ำเสียงห้วนและสายตาเหยียดส่งมา จนน้ำทิพชะงัก
“ค...คือ ทำไมไม่มีใครคุยกับฉันเลย” น้ำทิพเริ่มรู้สึกอึดอัด เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่นัดกลับทำท่าทางลุกลี้ลุกลนหันซ้ายขวา เหมือนกลัวว่าใครจะมองเห็น
“คงกลัวเธอ” นัดตัดสินใจตอบน้ำทิพ ด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครผ่านมา
“กลัว! หมายความว่ายังไง ที่บอกว่ากลัวฉัน” สร้างความงุนงงจนน้ำทิพต้องขมวดคิ้วสงสัย
“คงกลัวเธอจะไปฆ่าพวกเขา”
“บ้าเหรอ ฉันจะไปทำอย่างนั้นทำไมกัน” น้ำทิพต้องตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ทำไมถึงคิดแบบนั้นกันได้
“เธอไม่รู้เหรอ ว่านกนะ ตายแล้ว” นัดจ้องเขม็งมาทางน้ำทิพ จนน้ำทิพต้องถอยห่างมาหนึ่งก้าว
“ป...เป็นไปได้ยังไง ล...แล้วนกเป็นอะไรตาย”
“รถชน ถูกรถชนตายยังไงล่ะ! ได้ยินไหม!” นัดตะโกนเสียงดังใส่ แล้วผลักน้ำทิพชิดกำแพง
“โอ๊ย! เธอผลักฉันทำไม”
“เธอฆ่านกใช่ไหม” นัดคาดคั้นจากน้ำทิพ เธอเสียใจที่เพื่อนต้องมาเสียไป โดยที่เธอไม่สามารถช่วยสิ่งใดได้ ผู้หญิงตรงหน้ามาพรากเพื่อนที่รักของเธอไป
“ไม่ได้ฆ่านะ” น้ำทิพตะโกนใส่ เธอไม่ยอมให้ใครมาใส่ร้ายอีก ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนทำ
“แล้วจะเป็นใคร หลักฐานก็บอกว่ามีชื่อเธอในกระดาษที่ข่มขู่เพื่อนฉัน ไม่ใช่เธอฆ่าแล้วจะเป็นใคร ห๊ะ!” นัดไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป จึงดันตัวน้ำทิพติดผนังมากยิ่งขึ้น พร้อมกับกดหัวไหล่น้ำทิพติดกำแพงจนรู้สึกเจ็บไปหมด
“ไม่รู้ ไม่ใช่ฉันนะ” น้ำทิพทำหน้าเหยเกกับแรงบีบที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง แรงโกรธที่ส่งผ่านมาทางฝ่ามือของนัด ทำให้น้ำทิพไม่สามารถขยับไปไหนได้
“ต้องใช่เธอแน่ บอกมานะว่าเธอทำเพื่อนฉันตาย ใช่ไหม” นัดกัดฟันเพื่อระงับความโกรธ น้ำเสียงและสีหน้าของนัด ทำให้น้ำทิพหมดความอดทน เธอจึงถีบนัดกระเด็นพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนที่จะวิ่งหนีหายไป
“ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่า เข้าใจยัง!” นัดล้มจากแรงถีบของน้ำทิพ ต้องกัดฟันด้วยความเจ็บใจ เธอได้แต่มองหลังน้ำทิพที่วิ่งหายไปด้วยความรู้สึกแค้นเคือง จนไม่สามารถปกปิดสีหน้าได้
“ไอ้ฆาตกร!”
ทางด้านน้ำทิพได้โดดเรียน โดยปีนกำแพงโรงเรียนหนีกลับบ้าน และเก็บตัวในห้องนอนเงียบ พร้อมกับร้องไห้ซบกับหมอน ทุกคนในบ้านออกไปทำงานจนหมด จึงสามารถระบายกับเพื่อนตัวโปรดได้อย่างเต็มที่
“เจ้าลูซ ฉันไม่ได้ทำนะ นายเชื่อฉันใช่ไหม” น้ำทิพกอดหมีน้อยแล้วหลับไปด้วยความเพลีย การนอนหลับของน้ำทิพกับจิตใจที่หดหู่ ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับตุ๊กตาหมีในอ้อมกอดของเธอ เจ้าลูซกำลังยิ้ม!
เช้าวันใหม่กับโรงเรียนที่น้ำทิพไม่อยากไป แต่เธอไม่สามารถหาข้ออ้างหยุดได้ จึงต้องไปเรียนตามปกติ และพบว่านัดไม่มาโรงเรียน แต่ที่น่าแปลกใจจนเหงื่อตก คือข่าวของนัดที่ถูกแพร่กระจายไปทั่ว ว่าเธอตายแล้ว!
“เธอรู้หรือเปล่า นัดตายแล้วนะ”
“นัดไหน?”
“นัดห้องห้าไง”
“เฮ้ย! จริงเหรอ ล...แล้วเป็นอะไรถึงตาย”
“ใหลตาย”
เป็นบทสนทนาที่น้ำทิพได้ยินเข้าโดยบังเอิญ เธอแทบล้มลงตรงนั้น ขาไม่สามารถก้าวต่อได้
“ม...มันเกิดอะไรขึ้น” น้ำทิพพูดกับตัวเอง นี่มันเกิดสิ่งใดกับชีวิตของเธอกันแน่ ทำไมมีแต่คนตายรายล้อมรอบตัวเธอแบบนี้
น้ำทิพต้องทนทุกข์กับสิ่งที่ได้รับตลอด 1 สัปดาห์ ไปไหนมีแต่เสียงต่อว่าและนินทา ขนาดในโลกออนไลน์ยังมีแต่คำพูดใส่ร้ายเธอ ว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเธอเป็นต้นเหตุ บ้างก็ว่าเธอจ้างวานคนมาฆ่าทุกคน ที่ทะเลาะและผิดใจกับเธอ หรือทำให้เธอไม่สบายใจ บ้างก็ว่าเธอจัดฉากเป็นคนดี แสนดี แต่ลับหลังเป็นฆาตกรเลือดเย็น และอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย จนน้ำทิพทนไม่ไหว ต้องโดดเรียนเกือบทุกคาบ แล้วมาแอบบนดาดฟ้าโรงเรียน ความคิดแวบแรกของเธอนั้น คือ ความตาย! มันจะทำให้เธอหลุดจากเรื่องพวกนี้หรือไม่ เป็นสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัวของเธอ
จนกระทั่งเธอได้เดินชนเข้ากับใครบางคน ที่ก้มหน้าก้มตา แต่น้ำเสียงเย็นเฉียบ จนน้ำทิพต้องปิดหูแล้วล้มลงกับพื้นทันที
“ไปตายซะ!”
“ไปตายซะ!”
เป็นคำพูดที่ก้องอยู่ในหัว เธอรีบลุกหนีแล้ววิ่งกลับบ้าน โดยไม่สนใจว่า จะวิ่งชนใครที่ขวางทางเธอแม้แต่น้อย สิ่งแรกที่เธอทำ คือการกลับไปที่ห้องนอน เธอล้มตัวกอดตุ๊กตาหมีแน่น แต่เสียงของบุคคลปริศนา ยังคงก้องในหัวไม่หายไปไหน จนเธอตัดสินใจ หยิบมีดคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋า แล้วกรีดที่แขนและข้อมือ ทั้งแรงและลึก เพื่อให้เสียงที่กึกก้องหายไปแล้วให้ความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่
ร่างกายเริ่มสูญเสียเลือด เมื่อเลือดไหลนองเต็มเตียงและหยดไปกองกับพื้น เธอเริ่มหน้ามืด ล้มตัวลงนอนหายใจรวยริน โดยมีเจ้าลูซอยู่ในอ้อมแขนอีกข้างหนึ่ง สติของสาวน้อยเริ่มเลือนราง หน้าซีดเนื่องจากสูญเสียเลือดและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดไหล เพราะบาดแผลมีจำนวนมากและลึก จนเลือดไหลอาบไปทั่วเตียง ลมหายใจเริ่มแผ่วเบา หายไปแล้ว! เสียงนั่นหายไปแล้ว! เพียงเวลาไม่นาน น้ำทิพสิ้นลมหายใจ แล้วจมกองเลือดอยู่ภายในความมืดมิด
เช้าวันรุ่งขึ้น มารดาของน้ำทิพขึ้นมาตามน้ำทิพลงไปทานข้าว กลับต้องตกใจ เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพลูกสาวของตนเอง เธอเอามือป้องปากไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ภาพที่เห็นเป็นสาวน้อยหน้าตาซีดเผือด ดวงตาเปิดแต่ไร้แสง ร่างจมกองเลือดสีแดงฉาน โดยมีตุ๊กตาหมีตัวโปรดอยู่ในอ้อมแขน กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วจนเวียนหัว น้ำตาของคนเป็นแม่ไหลอาบแก้ม เมื่อรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักไม่มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว เธอวิ่งเข้าไปกอดร่างไร้ลมหายใจ และร้องไห้จนเสียงก้องไปทั่วห้อง
ในเวลาไล่เลี่ยกัน โรงพยาบาลต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ภายในห้องผู้ป่วย มีสาวน้อยใส่เครื่องช่วยหายใจติดสายอุปกรณ์ช่วยชีวิตจำนวนมาก ได้หัวใจหยุดเต้นลงกะทันหัน เครื่องวัดชีพจรเป็นเส้นตรง สัญญาณเตือนดังก้องจนหมอและพยาบาลต้องรีบเข้ามาช่วยชีวิต แต่ไม่อาจช่วยเหลือได้ทันท่วงที เธอคนนั้นได้จากไปแล้ว หลังจากนอนเป็นเจ้าหญิงนิทรามาหลายปี
“ยังไม่จบเท่านี้หรอกนะ ความน่ากลัวพึ่งเริ่มต้น หึหึหึ” เสียงเจ้าลูซ ที่ตัวเปื้อนไปด้วยเลือดของเจ้านายคนล่าสุดของมัน ดังก้องในห้องที่มืดมิด ใช่แล้ว ความตายไม่ใช่สิ่งสุดท้าย แต่เป็นการเริ่มต้นของบางสิ่งต่างหาก จงเตรียมรับความน่าสะพรึงกลัวของเจ้าหมีที่ก่อเกิดจากความรัก ความแค้น ความปรารถนาอันแรงกล้าได้เลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ