เถื่อนร้ายบัญชารัก
เขียนโดย Phaky
วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
5) จะรอดหรือเละ?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
เป็นอีกหนึ่งราตรีในช่วงเวลาพักร้อนที่ข้างกายสุดล่ำของเจ้าของบริษัทออกแบบจิวเวลรี่ระดับโลกมีสาวงามคลอเคลียใกล้ชิด หลังจากส่งมอบงานชิ้นสำคัญและเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับท่านนายพลองอาจที่ประเทศไทย ฟรานซิสโก้จึงถือโอกาสนี้พักผ่อนคลายเครียดก่อนต้องเดินทางกลับไปดูแลงานที่อิตาลีในอีกสัปดาห์หน้า แต่การพักผ่อนของชายหนุ่มมิใช่การนอนหลับนิ่งๆอยู่บนเตียงนุ่ม ในทางกลับกัน ฟรานซิสโก้กลับผ่อนคลายและเป็นสุขยิ่งนักเมื่อร่างกายแข็งแกร่งสูญเสียหยาดเหงื่อจากการโลมเล้ากับความอวบอิ่มของอิสตรีแสนสวย เหมือนอย่างตอนนี้ ที่ร่างสูงของฟรานซิสโก้กำลังถูกรุกรานอย่างเร่าร้อนด้วยสองมือและริมฝีปากเชี่ยวชาญของนางแบบสาวสุดเซ็กซี่ที่พบกันในผับ
“อากาศร้อนจังเลยนะคะ”
หลังจากประตูห้องพักถูกปิดลงด้วยมือบอดี้การ์ดคนใดคนหนึ่ง เจ้าของร่างเพรียวระหงตามฉบับนางแบบก็ลงมือปลดเปลื้องอาภรณ์น้อยชิ้นจนร่างกายของตัวเองเปล่าเปลือยด้วยความเชื่องช้าดั่งต้องการจะยั่วยวน จากนั้นอลีนานางแบบสาวลูกครึ่งที่กำลังฮอตไม่แพ้นางแบบตัวท็อปของเมืองไทยก็ขยับตัวแนบชิดร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอหมายปอง ใบหน้าเฉี่ยวแหงนเงยขึ้นทิ้งสายตามองฟรานซิสโก้อย่างท้าทาย ในขณะที่สองมือสีน้ำผึ้งลูบไล้ไหล่กว้างเบาๆก่อนวกปลายนิ้วเกี่ยวกับชายเสื้อยืดเนื้อดีแล้วจับรูดขึ้นทางศีรษะ เปิดเปลือยอกกว้างที่มีไรขนดกดำเรียงตัวสวยไล่ลงสู่ขอบกางเกงยีนส์เนื้อหนา บุคลิกภายนอกของฟรานซิสโก้นั้นเยือกเย็นและสุขุม แต่รอยสักรูปดาวสามดวงไล่ขนาดจากชายโครงสู่ก้อนซิกแพ็กแข็งๆ นั่นกลับทำให้ชายหนุ่มดูดิบเถื่อน และมันก็กระตุ้นความเร่าร้อนของนางแบบสาวให้โพยพุ่งได้ดียิ่งนัก
“ขอลีน่า ‘ชิม’ คุณหน่อยนะคะ”
เผลอกัดริมฝีปากแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่กับสรีระแข็งแกร่งสมชายชาตรีที่ยืนนิ่งคล้ายรูปปั้นเทพบุตรนักรบตรงหน้า อลีนาจึงทำทีเป็นเอ่ยขออนุญาตแล้วตวัดปลายลิ้นเลียริมฝีปากอย่างยั่วเย้า ก่อนใช้หน้าอกไซซ์มหึมาเสียดสีกับอกแข้งกระด้าง ไรขนสากที่ครูดผิวนุ่มทำเอาร่างสวยขนลุกวูบวาบ นึกพอใจที่เห็นรอยหยักยิ้มมุมปากของมหาเศรษฐีรูปงามที่เธอตั้งใจฉกมาจากเพื่อนนางแบบด้วยกัน แต่ยังหรอก แค่นี้มันยังน้อยเกินไปที่จะเหนี่ยวรั้งฟรานซิสโก้ให้หลงใหล ปลายเท้าบางจึงเขย่งตัวขึ้นสูง ใช้เรียวปากเคลือบลิปสติกสีแดงฉ่ำกดจูบหนักๆ แล้วตวัดปลายลิ้นอุ่นแตะแต้มบนไหล่กว้าง เนื้อตัวที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามตึงแน่นที่ได้สัมผัสพาลให้อลีนาอดจินตนาการยามถูกร่างสูงสอดประสานไม่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงช่วงเวลานั้นโดยเร็ว นางแบบสาวจึงไล่ปลายลิ้นไล้เลียไปทั่วเนื้อตัวช่วงบนไร้อาภรณ์ของฟรานซิสโก้ที่ยืนนิ่งอย่างต้องการปลุกเร้า ตั้งแต่ช่วงอกต่ำเรื่อยลงมาวนเวียนอยู่ตรงก้อนซิกแพ็กเนิ่นนานคนถูกพรมจูบยังยืนนิ่ง กลายเป็นคนจูบเสียเองที่ลมหายใจชักหอบถี่ขึ้นทุกขณะ
“อาว์ ลีน่าไม่ไหวแล้ว หิวใจจะขาดขอลีน่านะคะ”
เพราะความร้อนจากกลางกายแข็งแกร่งที่แนบชิดทำให้ความตั้งใจที่จะทรมานฟรานซิสโก้ให้มากที่สุดนั้นสะดุดลง ร่างเปลือยฉ่ำเยิ้มไปด้วยไฟราคะทิ้งตัวลงนั่งบนส้นเท้าเหมือนคนหมดแรง ฝ่ามือลูบคลำตรงซิปกางเกงที่โป่งพองตรงหน้า ในระหว่างที่น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขอ มือสั่นๆของอลีนาก็ช่วยกันปลดเปลื้องเข็มขัดราคาแพงไปด้วยไม่ให้เสียเวลา จากเข็มขัดก็ตามมาด้วยกระดุมเหล็กสี่เม็ดที่ต้องเร่งกำจัดให้พ้นทาง ใช้เวลาเพียงชั่วอึดใจ กายแกร่งใหญ่โตก็ดีดตัวผงาดโชว์ความอลังการอยู่นอกกางเกงเนื้อหนา ทำเอาคนแอบมองตาค้างหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ต่างกับอลีนาที่มองมันด้วยสายตากระหายหิวราวกับมันคืออาหารรสเลิศที่หากไม่ได้กินคงขาดใจตาย เรียวปากสีสดสูดปากครางเสียงยาวแล้วตวัดปลายลิ้นเลียรอบริมฝีปากอีกครั้งอย่างคนหิวโหย
“กินมันเสียสิ”
ฟรานซิสโก้สั่งเสียงเรียบตามบุคลิก แต่ภายในกลับรุ่มร้อนเหมือนมีลูกไฟวิ่งวนในร่างกายจากการปรนเปรอด้วยนักรักมืออาชีพ ความอึดอัดที่ถูกปลุกเร้าตั้งแต่พากันขึ้นมานั่งอยู่บนรถกำลังเรียกร้องการฝากฝังในที่อุ่นชื้นเป็นการเร่งด่วน มือหนากดศีรษะของคู่ขาสาวสวยให้ใบหน้าเย้ายวนอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มือนิ่มทั้งสองข้างลูบไล้มันจนคนหน้านิ่งหลุดเสียงครางลึกอย่างเผลอตัว ทำเอาอลีนารู้สึกฮึกเหิมและไม่รอให้เขาสั่งในสิ่งที่หญิงสาวก็ปรารถนาเป็นครั้งที่สอง เรียวปากสีสดอ้ากว้างก่อนครอบครองสัดส่วนร้อนฉ่าในอุ้งมือจนฟรานซิสโก้ส่งเสียงครางพึงพอใจ
“อุ้ย!”
“ใคร!”
เพราะความไร้เดียงสาต่อเรื่องเพศตรงข้ามทำให้สาวน้อยวัยใสที่ลอบมองพฤติกรรมสุดเร่าร้อนของสองหนุ่มสาวด้วยความจำใจอยู่บนเพดานห้องพักร้องอุทานออกมาเสียงหลงทันทีที่เห็นการกระทำชวนอาเจียนของฝ่ายหญิง เมื่อรู้ตัวว่าเผลอส่งเสียงให้เป้าหมายรู้ตัว แพรชมพูก็รีบคลานหนีออกจากช่องลมตรงฝ้าเพดานเพื่อเอาตัวรอด ไม่สนใจแล้วว่าภารกิจที่ถูกนาตาชาตะคอกสั่งยังไม่สำเร็จ และไม่สนใจเสียงตะโกนถามของผู้ชายหื่นกามหน้าคมคนนั้นด้วย แพรชมพูจึงไม่เห็นว่าฟรานซิสโก้ผลักร่างเปลือยของคู่ขาสาวออกห่างทันทีที่ถูกบุคคลที่สามรบกวนก่อนดึงกางเกงยีนส์เนื้อหนากลับมาอยู่ในที่ของมันเพราะอารมณ์รัญจวนถูกทำลายจนหมดสิ้น แล้วเรียกลูกน้องคนสนิทที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเข้ามาพบเสียงห้วน ในขณะเดียวกันดวงตาคู่คมก็จ้องมองฝ้าเพดาน ช่องทางที่ถูกรบกวนด้วยสายตาอาฆาตแค้นสุดใจ
“บ้าฉิบ! เฮ็นริค!”
“ครับ”
เสียงตะโกนเรียกของผู้เป็นนายทำให้มือขวาคนสนิทกระชากประตูเปิดเข้ามาด้านในทันทีเพราะคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่ ดวงตาของบอดี้การ์ดหนุ่มควบตำแหน่งมือขวาชะงักไปนิดกับภาพสตรีร่างเปลือยที่นอนแผ่หราอยู่บนเตียงกว้างด้วยใบหน้าหงิกงอ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่มือขวาหนุ่มให้ความสำคัญ เฮ็นริคค้อมศีรษะให้เจ้านายเหนือหัวที่ยืนเท้าสะเอวหันรีหันขวางสบถคำหยาบอย่างคนอารมณ์เสียขั้นสุดพร้อมน้อมรับคำสั่ง
“สั่งปิดที่นี่ห้ามใครเข้าออก แล้วค้นให้ทั่วว่ามีใครที่มันกล้าลองดีกับฉัน”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
ฟรานซิสโก้ไม่ตอบ แต่เลือกจะพยักพเยิดหน้ามองขึ้นไปตรงฝ้าเพดานเจ้าปัญหา เพียงเท่านั้นมือขวาคนสนิทก็เข้าใจและรีบออกไปปฏิบัติตามคำสั่ง เฮ็นริคก้าวเร็วๆไปที่ห้องพักด้านข้างไม่รีรอ เดาได้ไม่ยากเลยว่าจะต้องเป็นผู้หญิงที่มากับแท็กซี่คันเมื่อครู่ที่เขาเห็นแน่นอน
“ทางนี้ครับคุณฟราน”
แล้วก็เป็นดังคาด เพราะเมื่อเฮ็นริคเปิดประตูห้องพักของผู้ต้องสงสัยห้องข้างๆเข้าไปก็พบผู้หญิงตัวบางคนหนึ่งในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สีดำสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวมัดผมเป็นก้อนกลมตรงกระหม่อมสไตล์วัยรุ่น ที่คอคล้องสายกล้องถ่ายภาพกำลังโหนตัวลงมาจากฝ้าเพดานห้องพักอย่างทุลักทุเล เฮ็นริคจึงตะโกนเรียกเจ้านายเหนือหัว และฟรานซิสโก้ก็รีบตามมาทันทีส่งผลให้คนที่กำลังตะกายตัวลงมาจากด้านบนตกใจจนร่างหล่นตุ๊บลงไปนอนเค้เก้อยู่บนเตียงนอน
.........................................................................................................................
มือบางชื้นเหงื่อบีบเข้ากันแน่นจนอากาศมิอาจแทรกผ่าน เป็นห้วงเวลาที่แพรชมพูยอมรับว่ามันช่างบีบหัวใจเหลือเกิน ทรวงอกที่กำลังสะท้อนขึ้นลงตามระดับลมหายใจหอบถี่รุนแรงนั้นเป็นพยานได้ดี นับตั้งแต่ทำพลาดให้เป้าหมายรู้ตัว แพรชมพูก็ทำใจไว้แล้วว่าเธออาจถูกจับได้ และยิ่งมั่นใจชะตาชีวิตมากขึ้นว่าเธอคงหมดสิทธ์หลบหนีก็ตอนที่ร่วงลงมาจากเพดาน เพราะยังไม่ทันที่เธอจะลุกขึ้นนั่งเลยด้วยซ้ำ เสียงประตูที่ถูกเปิดผลัวะเข้ามาพร้อมชายชุดดำก็ทำให้หัวใจของเธอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม และหลังจากนั้นแค่ไม่กี่วินาที ดวงตากลมก็ฉายประกายความหวาดหวั่นออกมามากมายเมื่อเห็นเป้าหมายเดินหน้าตึงตามเข้ามาอีกคน ร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงยีนส์สีดำติดกายย้ำเตือนให้สำนึกผิดว่าเธอได้ก่อโทสะร้ายให้เขาอย่างมหันต์
‘ให้ตาย! ยังเด็กอยู่เลย’
ฟรานซิสโก้ยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้าตัวขัดคอความสุข ดวงตาคมกริบหรี่มองร่างบางที่นั่งก้มหน้าห่อไหล่ตัวสั่นระริกอยู่บนเตียง คราแรกคิดว่าจะเจอกับพวกปาปารัซซี่ท่าทางรอบจัดเห็นแก่เงินจนไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่นซะอีก แต่ที่เขาเจอกลับมีเพียงเด็กสาวที่เดาจากเนื้อตัวเล็กๆบางๆเหมือนเด็กน้อยเพิ่งหย่านมอายุไม่น่าจะถึงยี่สิบปีคนหนึ่ง ไม่น่าจะโลดโผนกล้าทำอะไรสุ่มเสี่ยงแบบนี้ จากที่คิดจะลงโทษสถานหนักตามกฎของคนที่กล้าทำให้เขาโกรธ ฟรานซิสโก้จึงเปลี่ยนใจ เลือกที่จะใช้วิธีรอมชอมเพื่อเค้นความจริงแทน
“สวัสดีสาวน้อย เคยมีใครบอกไหม ว่าเป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่ควรเข้ามาในสถานที่...แบบนี้”
เสียงรองเท้าหนังมันปลาบสีดำสนิทกระทบพื้นปูนแข็งๆที่ค่อยๆดังเข้ามาใกล้เขย่าขวัญของแพรชมพูให้กระเจิดกระเจิงจนต้องนั่งก้มหน้าหลับตาปี๋ แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับน้ำเสียงราบเรียบที่เอ่ยขึ้นเหนือศีรษะตอนนี้ หากเขากระโชกโฮกฮากด่าทอเธอก็แค่ตกใจและกลัว แต่นี่น้ำเสียงเรียบๆเอื่อยๆที่ปะปนความเยือกเย็นกลับทำให้เธอรู้สึกหวาดเสียวไปทั่วสันหลังลามไล่มาจนถึงคอหอย รู้สึกลำคอมันตีบตันไปหมด แม้แต่น้ำลายสักหยดยังแทบกลืนไม่ลง สัญชาตญาณร้องเตือนว่าภายใต้คำพูดธรรมดาๆนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยอันตราย...เท่าชีวิต!
“ว่าไง ดึกดื่นป่านนี้ ออกมาเพ่นพ่านแถวนี้ทำไม”
ฟรานซิสโก้ยิงคำถามตามมาอีกครั้ง ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นพยายามอย่างมากที่จะใจเย็นโดยไม่คว้าลำคอเล็กๆนั่นมาหักก่อนได้รู้คำตอบ แต่ดูยายเด็กที่นั่งมือเท้าจิกเกร็งตรงหน้าคงไม่รู้เอาเสียเลยว่าเขาไม่ได้ใจเย็นอย่างน้ำเสียงที่กัดฟันพูดออกไปเลยสักนิด ตรงกันข้ามเชียวล่ะ ในตอนนี้หากเทียบโทสะของเขาเป็นอุณหภูมิของน้ำ เจ้าน้ำที่ว่าก็คงเดือดจัดจนปรอทที่ใช้วัดแตกละเอียดเมื่ออยู่ๆถูกเด็กที่ไหนไม่รู้ลูบคม ใครรู้เข้าคงขายหน้าสิ้นดี
“พูด!”
แล้วความอดทนจอมปลอมที่พยายามสร้างขึ้นมาก็หมดลงจนได้เมื่อได้รับเพียงความเงียบแทนที่คำตอบที่ต้องการ ฟรานซิสโก้สาวเท้าเข้ามายืนใกล้จำเลยอีกนิดก่อนตบฝ่ามือหนาลงบนฟูกนอนแรงๆเป็นการกระตุ้นเตือน ทำเอาคนที่นั่งก้มหน้างุดสะดุ้งจนตัวโยน ร่างบางนั่งตัวสั่นเป็นลูกนกเปียกน้ำแลดูน่าเวทนา แต่นั่นมิอาจทำให้คนถูกกระตุกหนวดรู้สึกสงสารเลยสักนิด เมื่อตัวการไม่ยอมเปิดปาก กล้องถ่ายภาพที่คล้องลำคอขาวจึงถูกมือใหญ่ของเฮ็นริคดึงออกไปค้นหาความจริงเสียเอง
“อุ้ย!”
“เงยหน้า เดี๋ยวนี้!”
น้ำเสียงทรงพลังและเปี่ยมด้วยอำนาจที่ดังข้างหูทำให้แพรชมพูไม่อาจดื้อดึงได้อีกแม้ตอนนี้จะกลัวจนปากคอสั่นไปหมด ดวงตาคลอน้ำใสๆค่อยๆลืมขึ้น สิ่งแรกที่มองเห็นคือปลายรองเท้าหนังสีดำขัดจนขึ้นเงาวับ ไล่ขึ้นมายังช่วงขาเรียวยาวใต้กางเกงยีนส์สีดำตัวสวย ดวงตากลมค่อยๆไล่สายตาขึ้นสูง จนมาถึงตรงกลางกาย ภาพที่เธอเห็นเมื่อไม่นานมันย้อนกลับมาพาลให้รู้สึกสะอิดสะเอียนจนต้องรีบแหงนหน้าหนีมองขึ้นสูง แล้วความรู้สึกก็ไม่ต่างกันนักกับรอยสักรูปดาวที่พาดผ่านลอนซิกแพ็กแน่น ลมหายใจของความหวาดกลัวหอบกระชั้นขึ้นอีกครั้งเมื่อเงยหน้าขึ้นมองเห็นอกกว้าง ช่วงบ่าหนา และท่อนแขนสีแทนล่ำสันที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดโปน เพราะมันยิ่งทำให้เขาดูเหมือนคนเถื่อนในความรู้สึก และเธอก็รู้ดีว่าไม่มีปัญญาต่อกรกับผู้ชายลักษณะแข็งแกร่งไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ได้เลยหากเขาคิดจะจับเธอหักคอ ก็มีแค่เละกับตายคามือเขาเท่านั้น
****************************************************************************************
ยังไงๆ ยัยนักสืบตากลมของเราถูกจับได้ซะแล้ว ทำไงดี คนอ่านว่าไง คิดว่านังหนูพิ้งค์จะรอดมะ?
กด 1. โหวต รอดสิ เพราะพระเอกของเราหน้าตาดูใจดี๊ใจดี
กด 2. โหวต ไม่รอดหรอก เพราะคนเขียนใจร้าย หรือ
กด 3. ไม่รอด และ....เละ! ฮ่าๆๆ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ