เถื่อนร้ายบัญชารัก
เขียนโดย Phaky
วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) นักสืบจำเป็น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
นี่คือโฉมหน้านักสืบพิ้งค์ น่ารักไหมคะ
********************************************************************************************************
‘ห้าหมื่น!’
เพราะคำนี้คำเดียวแท้ๆที่ทำให้แพรชมพูจำต้องพาตัวเองมานั่งซ่อนตัวอยู่ในรถแท็กซี่อยู่หน้าสถานบันเทิงที่กำลังส่งเสียงอึกทึกในยามวิกาล ทั้งที่ปกติเธอคือเด็กอนามัยจ๋า ไม่เคยออกมาเพ่นพ่านนอกห้องพักหลังสามทุ่มเลยด้วยซ้ำ ความไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศ ความมืดของบริเวณที่รถจอด กอปรกับผู้คนท่าทางเมามายเดินเข้าออกพลุกพล่านทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวจนอยากจะร้องไห้ ดีว่าคนขับแท็กซี่เป็นคุณลุงอายุมากแล้วท่าทางเป็นคนใจดี เธอจึงโล่งใจไปได้ว่าระหว่างที่ยืดคอชะเง้อมองเป้าหมายอยู่ในรถ เธอจะไม่ถูกทำมิดีมิร้ายก่อนลงมือทำภารกิจสำคัญ
“ห้าหมื่น ห้าหมื่น ห้าหมื่นเชียวนะ! ท่องไว้สิพิ้งค์ ท่องไว้”
แพรชมพูหลับตาลงซบใบหน้าชื้นเหงื่อกับฝ่ามือทั้งสองข้างของตัวเองแล้วพยายามคิดถึงตัวเลขค่าจ้างของงานครั้งนี้เพื่อปลอบประโลมความรู้สึกตื่นกลัวที่เพิ่มมากขึ้นตามเวลาที่หมุนไปเรื่อยๆ หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม เนื้อตัวหนาวเย็นไปตลอดร่างเมื่อเหลือบสายตามองนาฬิกาที่ข้อมือซ้ายแล้วเห็นว่าเป็นเวลาใกล้ตีสองที่ผับจะปิดบริการ และนั่นก็จะเป็นเวลาที่เป้าหมายของเธอเดินออกมา หน้าที่ต่อไปของเธอคือสะกดรอยตามและถ่ายภาพเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
“พอดีเพื่อนพี่กำลังมีปัญหากับแฟน พิ้งค์ช่วยหน่อยนะจ๊ะ”
หลังจากวันที่เธอเจอนาตาชาวันย้ายคอนโดฯและรุ่นพี่คนสวยรับปากจะให้ความช่วยเหลือเรื่องงาน จากนั้นสองวันให้หลังนาตาชาก็โทรศัพท์กลับมาหาเธอเรื่องงานจริงๆ แต่เธอกลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด นั่นเพราะเจ้างานที่ว่าไม่ใช่งานประจำตามบริษัทต่างๆอย่างที่เธอจินตนาการไว้ แต่มันคืองานนักสืบ!
“นี่เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยจ้ะ”
ครั้นเธอจะปฏิเสธเพราะไม่เคยทำอะไรที่มันสุ่มเสี่ยงแบบนี้ก็พูดไม่ออก เพราะตัวเลขเงินค่าจ้างในเช็คที่นาตาชายัดใส่มือจำนวนห้าหมื่นบาทถ้วนมันล่อใจคนใกล้จะกินแกลบแทนข้าวแบบเธอเหลือเกิน สุดท้ายก็ต้องพยักหน้ารับ
“หนูๆ คนนี้ไหมที่หนูตามหา”
ใบหน้าหวานเงยขึ้นจากฝ่ามือบางเมื่อได้ยินคำถามของคุณลุงคนขับ ดวงตากลมหวานกะพริบตามองผู้ชายชาวต่างชาติที่กำลังเดินล้วงกระเป๋ากางเกงออกมาจากหน้าผับหรู เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากๆ ท่วงท่าการเดินเอื่อยๆของเขาดูสบายตาแต่เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงพลังงานของความกร้าวแกร่งที่แผ่ออกมาจากเรือนกายสูงใหญ่สไตล์ชาวยุโรปของเขา ช่วงขายาวภายใต้กางเกงยีนส์สีดำเข้ารูป และอกกว้างแน่นๆที่ดันเสื้อยืดสีขาวออกมาให้เห็น แม้จะอยู่ในระยะไกล แต่มันก็ตรึงสายตาของเธอได้ดีชะมัด คนบ้านี่กินอะไรเข้าไปก็ไม่รู้ แค่สวมชุดลำลองธรรมดาๆยังดูดีเหลือร้าย จะมีที่ขัดหูขัดตานิดหน่อยก็ตรงที่ข้างกายเขามีชะนีเบ้าหน้าสวยแต่แต่งตัวประหยัดเนื้อผ้าได้โล่เดินเกาะแขนล่ำๆตามมาด้วยนี่แหละ มาทำไม!
“อ้าว เฮ้ย! ลุงคะ เขาไปนู่นแล้ว รีบตามไปเลยค่ะ”
มือน้อยตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เพราะมัวแต่มองใบหน้าหล่อของเป้าหมายเพลิน ได้สติอีกทีว่าตอนนี้เธอมีหน้าที่อะไรก็ตอนที่เห็นบีเอ็มดับบริวคันโก้ขับพาเป้าหมายกับคู่ขาออกไปนั่นแหละ แพรชมพูจึงตบเบาะของคุณลุงคนขับแล้วเอ่ยปากสั่งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น คุณลุงก็แสนจะเข้าใจ เพราะแกรีบเหยียบคันเร่งจนมิด สุดท้ายก็ไล่ตามไปจนทันรถของเป้าหมายสมใจ
..................................................................................................................................................................
“คุณพระคุณเจ้าเจ้าขา ช่วยคุ้มครองให้พิ้งค์ทำสำเร็จและปลอดภัยด้วยนะคะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวจริงๆค่ะ หลังจากนี้ไป พิ้งค์ขอสัญญาว่าพิ้งค์จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
แพรชมพูพนมมือขึ้นไหว้เหนือศีรษะแล้วบนบานศาลกล่าวเมื่อเกิดความลังเล นาทีนี้ความตื่นเต้นปะปนความหวาดกลัวมันเกาะกินหัวใจจนมือไม้สั่นแทบทำอะไรไม่ถูก จะเดินหน้าก็หวั่นใจ แต่จะถอยหลังก็ทำไม่ได้เพราะเธอรับเงินค่าจ้างมาแล้ว
หลังจากคุณลุงขับแท็กซี่จ่อท้ายรถของเป้าหมายมาติดๆ ก็เห็นว่าบีเอ็มคันสวยเลี้ยวเข้าไปจอดยังโรงแรมแห่งแรกที่เจอทันที นึกแปลกใจอยู่ครามครันที่เขาเลือกโรงแรมเล็กๆแลดูคล้ายม่านรูดราคาถูกขัดบุคลิกแสนโก้ของเขา จนเธอนึกค่อนในใจเหยียดๆว่าทั้งคู่คงอยู่ในอารมณ์เร่าร้อนจนทนหาโรงแรมดีๆไม่ไหวกระมัง ยิ่งมั่นใจความคิดตัวเองมากขึ้นเมื่อเธอสามารถยกกล้องถ่ายภาพเรือนแสนเก็บภาพเป้าหมายที่กำลังยืนกอดยืนล้วงกับคู่ขาโดยไม่อายสายตาใครไว้ได้หลายภาพ คราแรกคิดว่าเท่านั้นจะเพียงพอจึงส่งภาพถ่ายให้นาตาชาดูเพื่อปิดภารกิจ แต่เพียงไม่ถึงสองนาที นาตาชาก็โทรศัพท์กลับมาพร้อมทั้งตะคอกสั่งเธอด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวดุดันให้ตามถ่ายภาพทั้งคู่ให้มากกว่านี้ เพราะภาพใบหน้าของผู้หญิงไม่ชัดเจนพอ ซึ่งเธอไม่อยากทำเช่นนั้นเลย เพราะนั่นหมายความว่าเธอต้องแอบตามเข้าไปเก็บภาพระหว่างที่เป้าหมายกับคู่ขากำลัง… ไม่นะ!
“เธอต้องไปพิ้งค์ เธอต้องตามไปถ่ายภาพสองคนนั่นมาให้ฉัน! เดี๋ยวนี้ ได้ยินไหมว่าเดี๋ยวนี้ ไป๊!”
น้ำเสียงที่เคยหวานหูของรุ่นพี่คนสวยแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวกราดเกรี้ยว พร้อมทั้งตวาดกลับมาเสียงดังจนไหล่บางสะดุ้งโหยง อีกฝ่ายตัดสายไปแล้วดื้อๆ แต่แพรชมพูยังคงกำโทรศัพท์ในมือไว้แน่น หัวใจดวงน้อยกลับมาเต้นโครมครามอีกครั้งเมื่อมองตามเป้าหมายเข้าไปในโรงแรม ยิ่งเห็นว่าด้านหน้าห้องพักที่เป้าหมายเข้าไปนั้นมีบอดี้การ์ดตัวโตในชุดสูทสีดำสนิทยืนเฝ้าอยู่ถึงสามชีวิตก็ยิ่งกลัว พลางคิดกังวลว่ามีคนเฝ้าแน่นหนาขนาดนี้แล้วเธอจะตามเข้าไปเก็บภาพสองคนนั้นได้อย่างไร
“รบกวนเปิดห้องให้ด้วยค่ะ”
มือบางชื้นเหงื่อของแพรชมพูทั้งสองข้างบีบกล้องถ่ายภาพในมือแน่นใช้มันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ฟันขาวราวไข่มุกซี่น้อยกัดริมฝีปากล่างพร้อมกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆเป็นการข่มความหวาดหวั่น แล้วตัดสินใจเดินหน้าต่อ จากนั้นจึงสั่งให้คุณลุงขับรถเข้าไปจอดที่ห้องข้างๆของฟรานซิสโก้ แล้วสั่งพนักงานที่วิ่งตามมาให้เปิดห้องพักให้เธอหนึ่งห้อง
“มารอแขกหรือครับพี่ เชิญข้างในเลยครับ”
แม้จะอับอายสายตากรุ้มกริ่มของพนักงานวัยรุ่นที่มองตามมายิ้มๆที่คงคิดว่าเธอคือผู้หญิงขายบริการเข้ามารอเสี่ยใหญ่ แต่แพรชมพูก็แข็งใจปั้นหน้านิ่งแล้วก้าวฉับๆเข้าไปรอในห้อง กดล็อกประตูเรียบร้อยก็ต้องเบิกตากว้างยกมือทาบอก ร่างบางผงะรุนแรงเมื่อเห็นการตกแต่งภายใน แม้ไฟในห้องจะออกสลัวๆแต่เธอก็เห็นมันชัดเจน พื้นที่ห้องทุกด้านนั้นกรุกระจกเงาไว้รอบ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นเงาสะท้อนของตัวเองในนั้น ใบหน้าเนียนแดงก่ำเมื่อสมองจินตนาการบางอย่าง แม้ไม่เคยย่างกรายเข้าใกล้แหล่งมั่วสุมโลกีย์ที่ยืนอยู่ แต่เธอก็เข้าใจวัตถุประสงค์ของการติดกระจกพวกนี้ดี
อี๋...น่าเกลียดที่สุด!
“แล้วจะเข้าไปยังไงล่ะเนี่ย”
ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงสปริงเด้งๆอย่างเหนื่อยล้า ดวงตากลัดกลุ้มกวาดมองไปทั่วห้องอย่างใช้ความคิด แค่คิดว่าจะต้องเห็นภาพที่สองคนนั่นทำอะไรต่อมิอะไรกันก็รู้สึกขนลุกขนพองจนอยากจะอาเจียน แต่ที่ย่ำแย่ยิ่งกว่านั้นคือเธอจะหาวิธีไหนล่ะที่จะเข้าไปถ่ายภาพอุจาดตาพวกนั้นออกมาได้ นั่งกัดฟันขบคิดจนสมองแทบระเบิดแต่ก็ยังไร้หนทาง ร่างบางจึงทิ้งตัวนอนแผ่หราไปบนเตียงกว้าง พลันสายตาที่มองเพดานกรุกระจกเงาก็เห็นดวงไฟกะพริบสีแดงดวงเล็กๆอยู่บนนั้น หัวคิ้วเรียวขมวดมุ่นก่อนแพรชมพูจะรีบทะลึ่งตัวขึ้นพรวดตกใจสุดขีดเพราะกลัวว่านั่นอาจจะเป็นกล้องจิ๋วเอาไว้แอบถ่าย
“เก้าอี้อะไรเนี่ย หน้าตาแปลกๆ”
เพราะต้องการหาคำตอบว่าเจ้าไฟสีแดงนั่นคือกล้องแอบถ่ายหรือไม่ แพรชมพูจึงหาตัวช่วยที่จะทำให้ความสูงของเธออยู่ในระดับที่มือน้อยแตะถึงเพดานห้อง กวาดดวงตากลมๆมองไปทั่วห้องแล้วก็พบเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ความสูงของมันเมื่อรวมกับขาสั้นๆของเธอ มันยังน้อยนิดเกินที่มือบางจะเอื้อมถึงดวงไฟเจ้าปัญหา ดวงตาครุ่นคิดจึงกวาดมองไปรอบห้องอีกครั้งแล้วก็พบว่าตรงหน้าห้องน้ำมีเก้าอี้รูปทรงแปลกๆหน้าตาคล้ายเก้าอี้เอาไว้นอน ที่ปลายมีขาหยั่งลอยขึ้นมา ความสูงของมันมากกว่าเก้าอี้ตัวแรก เกิดรอยยิ้มตรงมุมปากสีเรื่อเมื่อคิดว่ามันอาจช่วยเธอได้ แพรชมพูจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปลากมันขึ้นมาวางบนเตียง แม้จะทุลักทุเลจนต้องปาดเหงื่อเพราะเจ้าเก้าอี้หน้าตาประหลาดนั้นมีน้ำหนักมากกว่าตัวเธอ แต่สุดท้ายคนตัวเล็กก็ทำมันสำเร็จ
“เฮ้ย! เพดานนี่มัน...!”
เมื่อความพยายามลากเก้าอี้ตัวยาวขึ้นไปตั้งบนเตียงกว้างประสบความสำเร็จ แพรชมพูจึงไม่รอช้ารีบพาร่างบางปีนป่ายขึ้นไปยืนบนเก้าอี้หน้าตาประหลาดตัวนั้น รอยยิ้มกว้างขวางปรากฏเมื่อยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วพบว่ามือบางของตัวเองแตะถึงเพดาน จากนั้นจึงไม่รีรอที่จะมองให้รู้ว่าเจ้าดวงไฟสีแดงที่กังวลนั้นเป็นอย่างที่คิดหรือไม่ แต่ดูแล้วดูอีกจนมั่นใจก็พบว่ามันเป็นแค่ดวงไฟฮีทเตอร์ธรรมดาๆ คนขี้สงสัยจึงเตรียมปีนลงจากเก้าอี้ ทว่าจังหวะที่กำลังจะลดตัวลง ร่างบางกลับเสียการทรงตัวซวนเซ สองมือเล็กๆจึงปัดป่ายไปกระแทกกับเพดานด้านบนถัดจากดวงไฟสีแดงโดยบังเอิญ นั่นทำให้ดวงตากลมเบิกกว้าง เรียวปากบางอ้าค้างหวอ เพราะมัน...ขยับได้!
..........................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ