เถื่อนร้ายบัญชารัก

10.0

เขียนโดย Phaky

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.31 น.

  37 ตอน
  0 วิจารณ์
  38.79K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561 08.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

30) ต่างคนต่างน้อยใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

“พิ้งค์จ๋า ขอกอดหน่อย”

 

คล้อยหลังเฮ็นริคออกไปไม่นาน ฟรานซิสโก้ก็เป็นอีกคนที่เดินออกมาจากห้องนอนด้านใน ต่างกันที่สีหน้าของมือขวาหนุ่มเรียบเฉย แต่ดวงตาคมกริบของคนเป็นเจ้านายกลับกรุ้มกริ่มแวววาว ยิ่งยามมองแพรชมพูที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่ตรงโซฟารับแขก นัยน์ตาคู่นั้นก็ยิ่งฉายความเจ้าเล่ห์ออกมาชัดเจน พอเดินมาถึงก็ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับที่ร่างบางนั่งอยู่ก่อน ทำเสียงออดอ้อนพลางซุกใบหน้ากับซอกคอหอมกรุ่น แต่พอแขนล่ำสอดเข้ากอดรัดร่างอุ่น แพรชมพูกลับทำตัวแข็งเกร็งขืนตัวหนี ฟรานซิสโก้จึงยืดตัวขึ้นนั่งพลางกระชากร่างเล็กที่ทำเหมือนเขาเป็นตัวน่ารังเกียจเข้ามากระแทกลำตัว

 

“ทำไม!”

 

“ฉันจะเข้าไปนอนกับเอลี่คะ”

 

แรงปะทะทำให้รู้สึกเจ็บและจุกที่อกนุ่ม แต่เจ็บกายหรือจะสู้เจ็บปวดใจ ในตอนนี้เธอต้องการอยู่คนเดียวคิดอะไรคนเดียวไปเงียบๆ ยอมรับว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าหรือแม้แต่เพียงปลายเล็บของฟรานซิสโก้ก็สามารถกระชากต่อมน้ำตาของเธอให้พังทลายได้ทุกเมื่อ แต่เธอร้องไห้มากพอแล้ว สมควรที่หัวใจของเธอจะด้านชาจนไม่เหลือน้ำตาสำหรับฟรานซิสโก้อีก แต่ขอเวลาให้เธอหน่อย

 

“เอลี่มีเพื่อนนอนด้วยแล้ว แต่ผมสิไม่มีใครให้นอนกอดเลย”

 

เพราะเกลียดความรู้สึกยามถูกแพรชมพูทำเหมือนรังเกียจจนเผลอใส่อารมณ์กับร่างบาง แต่พอเห็นใบหน้าเศร้าๆที่เขารู้ดีว่าเป็นเพราะเหตุใด ฟรานซิสโก้เลยได้สติ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกพลางลดทอนความแข็งกระด้างของน้ำเสียงลง แล้วรีบเตือนตัวเองว่าเขามาเพื่ออธิบายเรื่องอดีตอันแสนจะเสเพลให้แพรชมพูยอมเข้าใจ ใจเย็น...ใจเย็นๆ

 

“เลือกมาซักคนสิคะ”

 

เพราะหน้าตาเสแสร้งแกล้งใสซื่อของคนข้างๆกระมังที่ทำให้แพรชมพูฉุนกึก เรียวปากอิ่มเม้มแน่นในความไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเขา มือบางจึงหยิบรูปถ่ายทั้งหมดที่ได้ความอนุเคราะห์จากอลิซาเบธที่ซ่อนไว้ใต้กองหนังสือโยนลงบนโต๊ะอย่างแรงตามอารมณ์ฉุนเฉียว นาทีนี้ความกลัวความเกรงใจไม่ต้องถามถึง และความโกรธของเธอก็ยิ่งเดือดพล่านเมื่อฟรานซิสโก้กวาดมองภาพพวกนั้นช้าๆแล้วถอนหายใจทำหน้าระอิดระอา

 

“ไม่ถามเหรอคะว่าฉันได้มันมาจากไหน”

 

“ผมรู้แล้วว่าเป็นฝีมือลิซ่า”

 

อ๋อ! พอเห็นว่าเป็นฝีมือแฟนก็เลยไม่คิดจะโกรธงั้นสิ อลิซาเบธระรานเธอแบบนี้นี่ฟรานซิสโก้ไม่คิดจะพูดอะไรออกมาเลยหรือ นี่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยใช่ไหมที่เธอถูกแฟนของเขาบุกมาเย้ยหยันจนเสียน้ำตา หรือที่เขาอาสาพาเอมิเลียไปนอนด้วยตัวเองเป็นเพราะเขารู้เห็นเป็นใจเปิดทางให้อลิซาเบธเข้ามาหาเธอ เลว!

 

“พิ้งค์ จะไปไหน”

 

“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”

 

“เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ยังไงก็ต้องเห็น ทำไมเราไม่หันหน้ามา...”

 

ฟรานซิสโก้รีบรั้งแขนเล็กเอาไว้ก่อนที่แพรชมพูจะเดินหนี ก่อนที่จะผิดใจกันไปมากกว่านี้ ชายหนุ่มจึงพยายามจะสงบสติอารมณ์ให้เย็นลงแล้วใช้เหตุผลคุยกัน แต่ทว่าคำพูดถัดมาจากเรียวปากอิ่มนี่สิที่มันบั่นทอนทุกความตั้งใจให้พังพินาศ

 

“ใช่ ฉันไม่เคยลืมว่าเพราะถูกบังคับ ชีวิตฉันถึงหนีไม่พ้นคนเลวๆแบบคุณ”

 

‘เพราะถูกบังคับ!’

 

ท่อนขาแข็งแกร่งแทบหมดแรงยืนเมื่อได้ฟัง บอกไปคงไม่มีใครเชื่อว่าคำว่า ‘ถูกบังคับ’ จากปากเล็กๆของแพรชมพูมันมีอานุภาพรุนแรงมากพอที่จะทำร้ายหัวใจผู้ชายที่ไม่อนาทรต่อผู้หญิงคนไหนเลยให้เจ็บปวดได้ง่ายดาย ดวงตาร้าว รานทอดมองร่างบางที่หันหน้าหนีด้วยความผิดหวังเต็มหัวใจ นี่หมายความว่าทุกคืนที่เขาตระกองกอด ทุกครั้งที่เขาหอมแก้มนุ่มจุมพิตริมฝีปากหวานและทุกส่วนสัดบนเรือนกายนั้นแพรชมพูไม่เคยเต็มใจเลยหรือ รอยยิ้มอ่อนหวานที่หญิงสาวมอบให้เขาทุกวันนี้ไม่ได้เกิดจากความสุขที่ได้อยู่กับเขาเหมือนที่เขารู้สึกเลยใช่ไหม 

 

“งั้นหรือ? เพิ่งรู้ว่าที่นอนครางหงิงๆใต้ร่างผมทุกคืนนั่นเพราะถูกบังคับ”

 

แพรชมพูหน้าชาที่เขาพูดเหมือนเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย ถ้าคำพูดจากปากเขามันจะทำให้รู้สึกแย่แบบนี้สู้ให้ฟรานซิสโก้เดินเข้ามาตบศีรษะเธอเลยยังดีเสียกว่า เพราะความรู้สึกสุดท้ายมันก็เจ็บพอกัน ต่างกันแค่การตบจะทำให้เธอเจ็บแค่ศีรษะ แต่คงไม่ทำให้หัวใจเธอปวดแปลบเหมือนคำพูดร้ายกาจนั่น

 

“รู้แล้วก็ปล่อยฉันไปซะ”

 

“ฮื้อ ได้ไงเล่า ไหนๆก็หนีไปไหนไม่รอดอยู่แล้ว งั้นมาให้ผมบังคับอีกสักยกสองยกจะเป็นไร”

 

หมดแล้วความอดทนที่พยายามเตือนตัวเองให้ใจเย็นเมื่อถูกคำพูดอานุภาพร้ายกาจประหนึ่งมีดทื่อๆแทงฉับเข้าตัดขั้วหัวใจ เมื่อความใจดีที่เขามอบให้อย่างที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้รับมันไม่มีค่าในสายตาของแพรชมพู เขาก็ไม่จำเป็นต้องทำมันอีก!

 

“เทเรซ่า หนึ่งชั่วโมงจากนี้ผมไม่ต้องการถูกรบกวน”

 

มือล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงโทร.สั่งงานเลขาฯ แต่สายตาดุเหี้ยมกลับจ้องแพรชมพูไม่วางตา สั่งงานเสร็จสรรพโทรศัพท์ราคาแพงก็ถูกขว้างทิ้งไม่ใยดี กลายเป็นร่างบางที่เตรียมผละหนีที่ถูกกระชากเข้ามากระแทกอกแกร่ง ความเจ็บทำให้แพรชมพูแหงนหน้าขึ้นเตรียมบริภาษคนพาล แต่ดวงตาดำทะมึนที่มองจ้องทำให้เธอพูดไม่ออก ขนอ่อนบนเรือนกายลุกซู่ เมื่อเห็นมือสีแทนอีกข้างค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด หัวใจดวงน้อยแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เธอเคยเห็นความน่ากลัวของเขามาแล้ว แต่ดูเหมือนจะสู้ครั้งนี้ไม่ได้เลย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ขึ้นชื่อว่าห้องทำงานของเจ้าของห้องเสื้อระดับโอต์กูตูร์มีหรือจะคับแคบไร้รสนิยมให้เสียชื่อแบรนด์ พื้นที่กว่าหนึ่งร้อยตารางเมตรถูกเนรมิตให้กลายเป็นห้องตัดเย็บในสไตล์โมเดิร์นที่ยังไม่ทิ้งความโก้หรูด้วยการตกแต่งในโทนสีทองสลับเมทัลลิก ผนังห้องบุด้วยวอลเปเปอร์สีครีม กลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์หลุยส์มันวาวที่ช่วยขับบรรยากาศให้ยิ่งรู้สึกถึงความหรูหรา พื้นที่กว้างถูกจัดสรรเป็นโซนประชุม ออกแบบ ตั้งหุ่นโชว์ โมเดลแพทเทิร์น และแคทวอร์กจำลองได้อย่างลงตัว

 

แต่สำหรับชายหนุ่มมาดขรึมที่กำลังย่างกรายเข้าไปเหยียบอาณาเขตของห้องเสื้อแบรนด์ดังกลับรู้สึกเฉยเมยต่อความโก้หรูที่โอบล้อม สิ่งเดียวที่สายตาคมกริบของเฮ็นริคให้ความสนใจตอนนี้คือร่างสะโอดสะองของเจ้าของห้องเสื้อ ชายหนุ่มไล่สายตามองหุ่นโชว์นับสิบที่ถูกสวมด้วยชุดฟูฟ่องที่จะใช้แสดงในงานแฟชั่นโชว์ครั้งล่าสุด ไม่มีร่างของอลิซาเบธวุ่นวายอยู่ตรงนั้น เป้าหมายต่อไปคือห้องเล็กๆที่อยู่ด้านในสุดซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวของหญิงสาวที่ติดป้ายว่าห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต แต่มันไม่มีผล มารยาทไม่ใช่เรื่องที่ต้องคำนึงเพราะหน้าที่ของเฮ็นริคตอนนี้คือถ่ายทอดคำตักเตือนของฟรานซิสโก้สู่เจ้าของสถานที่ที่หาญกล้าระรานแพรชมพูเท่านั้น

‘สูทสากลของผู้ชาย?’

เหตุเพราะพื้นห้องถูกปูด้วยพรมผ้าลินินปักเลื่อมลายสวยบวกการเคลื่อนไหวที่เงียบกริบของเฮ็นริคจึงทำให้หญิงสาวที่กำลังง่วนอยู่กับการตรวจเช็คความเรียบร้อยของเสื้อบนหุ่นโชว์ไม่ได้ยินเสียง นัยน์ตาสีดำสนิทคงไม่หรี่มองด้วยความแปลกใจหากเสื้อที่อยู่บนหุ่นนั้นเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงเหมือนที่โชว์อยู่ด้านนอก จำได้ว่าแบรนด์เทรย์ซาร์ลผลิตแต่อาภรณ์หรูหราของสตรีชั้นสูงมิใช่หรือ แล้วเหตุใดมือเรียวตามฉบับลูกผู้ดีของอลิซาเบธถึงวุ่นวายอยู่กับเสื้อสูทสากลสีดำสนิทสำหรับสุภาพบุรุษรูปร่างสูงใหญ่กันล่ะ ไหล่กว้างประมาณนี้ ความยาวกางเกงเท่านี้ จะเป็นของใครไปได้นอกจาก...

“ลิลลี่ ขอกรรไกรหน่อย”

เพราะหางตาเห็นแวบๆว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลัง อลิซาเบธจึงคิดว่าเป็นลิลลี่ เพราะนอกจากเลขาฯคนสนิทก็ไม่เคยมีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามาเหยียบในพื้นที่ส่วนตัวของเธอ แต่เมื่อยื่นมือรอแล้วไม่ได้กรรไกรมาตัดด้ายเส้นน้อยที่รุ่ยออกมาจากตะเข็บเสื้อตามที่ขอ เจ้าของห้องเสื้อคนสวยจึงหันใบหน้ากลับไปมอง พลันริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีส้มอิฐก็เม้มเข้าหากันเมื่อรู้ว่าผู้บุกรุกเป็นใคร

“มาทำไม”

“คุณควรเอาเวลามาทำงานที่กำลังเร่งรีบ มากกว่าทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง”

‘อีตานี่มองเหมือนรู้ว่าเราตัดสูทชุดนี้ให้ใคร!’

ณ เวลานี้ไม่มีใครน่าหมั่นไส้เท่าผู้ชายที่ยืนปั้นหน้านิ่งตรงหน้าอีกแล้ว นอกจากทำหยิ่งไม่ยอมตอบคำถาม เฮ็นริคยังเลื่อนสายตามองเลยไปยังเสื้อสูทที่แขวนบนหุ่นโชว์ยามริมฝีปากได้รูปเอื้อนเอ่ยคำว่า ‘เรื่องไม่เป็นเรื่อง’ สายตาของเขาเหมือนต้องการต่อว่าที่เธอเอาเวลาที่ควรใส่ใจรายละเอียดของชุดที่ใช้ในงานแฟชั่นโชว์ที่ใกล้จะถึงมาทำเสื้อผ้าของผู้ชายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงาน มันเรื่องของเธอไหมล่ะ! ถ้าเธอจะบ้าผู้ชายจนเสียงานแล้วมันเกี่ยวกับเขาตรงไหน โชคดีที่เนื้อผ้าใช้ตัดเสื้อมันคือเนื้อผ้าเกรดดีที่สุดจึงคงตัวไม่เสียรูปทรงยามมือเรียวเผลอขยำตัวเสื้อด้วยความขุ่นเคืองเมื่อผลผลิตจากความตั้งใจของเธอถูกกล่าวหาว่าไร้ค่า พวกไร้รสนิยม!

“มันเรื่องของฉัน”

หมดอารมณ์ที่จะใส่ใจเสื้อสูทที่เธอลงแรงทำด้วยตัวเองทุกขั้นตอนถึงขนาดบินไปยังต่างประเทศเพื่อให้ได้เนื้อผ้าที่ดีที่สุดมาใช้ตัดเย็บ มือเรียวดันหุ่นโชว์ไว้ตรงมุมห้องแล้วพาร่างระเหิดระหงไปยังโซฟาเข้าชุด พอบั้นท้ายสัมผัสความนุ่มของเนื้อผ้ากำมะหยี่ที่ใช้บุเก้าอี้ มือบางก็คว้านิตยสารขึ้นมาเปิดอ่าน อลิซาเบธนั่งไขว่ห้างโชว์เรียวขาสวยทำตัวตามสบายไม่ได้ให้ความสนใจกับบุรุษที่ยืนทำหน้าเคร่งขรึมตรงหน้าอีก

“ผมมาเตือน”

“เตือน? เรื่องอะไร” อลิซาเบธเงยใบหน้าแสดงความสงสัยขึ้นมองคนพูด

“คุณฟรานห้ามไม่ให้คุณยุ่งกับคุณพิ้งค์อีก”

“เหรอ? ฉันรู้แค่ว่าอะไรที่ฉันต้องการ ฉันต้องได้ มีอะไรไหม”

ใบหน้าสวยเชิดหยิ่งขึ้นด้วยความถือดีพอๆกับคำพูด มือขวาหนุ่มมองภาพตรงหน้านิ่งๆ ใจหนึ่งก็อยากบอกหญิงสาวให้รู้ตัวว่าท่าทางเช่นนั้นไม่ได้ทำให้ดูสูงส่งขึ้นสักนิด แต่กลับทำให้รู้ว่าอลิซาเบธก็ไม่ต่างจากพวกคุณหนูขี้วีนไร้เหตุผล เป็นปกติของลูกสาวเศรษฐีที่เกิดมาคอยมีคนรับใช้รองมือรองเท้ากระมังจึงไม่เคยถูกขัดใจ อยากได้อะไรชี้นิ้วสั่งเป็นต้องได้ ไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นว่าจะต้องเจ็บปวดมากมายเพียงใดเพื่อให้ได้สิ่งที่หญิงสาวต้องการ ซึ่งผู้หญิงในลักษณะนี้แหละที่ผู้ชายส่วนใหญ่มักส่ายหน้าหนี

“คุณเป็นผู้หญิงนิสัยแย่ครับ”

เฮ็นริคต่อว่าออกไปตรงๆหาได้สนใจร่างระหงที่ลุกขึ้นจากโซฟาขึ้นมากระทืบเท้าปึงปังด้วยความขัดใจนั่นไม่ ดวงตาคมมองกิริยาไม่น่ารักนั้นอย่างตำหนิ นิสัยแบบนี้ต่อให้สวยหยาดฟ้ามาดินก็ไร้ประโยชน์ ความสวยงามของสตรีเป็นสิ่งแรกที่สะดุดสายตาผู้ชายก็จริง แต่มันไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด หากคบกันไปจนถึงวันที่ความอดทนต่อนิสัยร้ายกาจหมดลง สุดท้ายความสวยก็ไม่อาจเหนี่ยวรั้งเอาไว้ได้อยู่ดี

“เฮ็นริค กล้าว่าฉันเหรอ”

“ผมแค่ต่อว่า แต่ถ้าเป็นคุณฟราน... ใช้สมองของคุณจินตนาการเอาแล้วกันครับว่าท่านจะทำอะไรได้บ้าง คุณพิ้งค์ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เจ้านายเคยควง ถ้าไม่อยากเดือดร้อน คุณคงรู้ดีว่าควรทำตัวยังไง”

พูดทิ้งท้ายไว้ให้คิดแค่นั้นแล้วเฮ็นริคก็เดินจากไปแบบเงียบๆเหมือนตอนมา ทิ้งให้คนถูกเตือนมองตามหลังชายหนุ่มด้วยสายตาขัดเคืองใจ มันเป็นทั้งคำเตือนและคำขู่ในประโยคเดียวกันอลิซาเบธรู้ดี แล้วเธอก็เป็นอีกคนที่มั่นใจว่ารู้จักนิสัยของฟรานซิสโก้ดีไม่แพ้มือขวาอย่างเฮ็นริค เพราะฉะนั้นเธอจึงรู้วิธีเอาตัวรอดจากเจ้าพ่อวงการเครื่องประดับไม่ยาก

“เชอะ พิเศษกว่าคนอื่นงั้นเหรอ ปกป้องกันนัก คอยดูแล้วกันว่าฉันจะทำอะไรได้บ้าง”

*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*

ยายขายาวนี่ร้ายจริงๆ ทำหนูพิ้งค์ทะเลาะกับอิพี่ฟราน แล้วยังจะมีแผนร้ายมาอีก ใครอยากตบนางบ้าง ยกมือขึ้น

 

ปล.หนังสือสั่งได้ที่เฟซบุ๊กนะคะ ส่วน E-book ภัคแจ้งเปิดขายวันที่ 18 ต.ค.ค่ะ ใครใคร่อ่านเล่ม...อ่าน ใครใคร่โหลดก็...โหลดได้ตามสะดวกเลยค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา