ดินแดนที่ไร้ตัวตน
-
เขียนโดย NK_Killer
วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.48 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
3,868 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561 20.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) (Part 1) เกาะร้างที่มีแค่เราสองคน Ep.2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ2
หลังจากที่ออสต้าและเรนเดียร์พยายามว่ายน้ำไปที่เกาะแห่งนั้นโดยเร็วที่สุด ทั้งสองขึ้นฝั่งมาด้วยตัวเปียกปอนและรู้สึกว่าเริ่มหนาวขึ้น ออสต้าจึงกอดเรนเดียร์ด้วยความห่วงใย
“หนาวเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ เรายังอยู่ข้างๆอยู่”
ออสต้ารู้สึกดีกับเรนเดียร์มาก จนไม่รู้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์มันอยู่ในฐานะใด แต่ตอนนี้เขาทั้งสองคนกลับรู้สึกดีและห่วงใยไปแล้ว ออสต้ามองไปในเกาะก็ไม่เห็นว่าจะมีเมืองโลวิตอย่างที่เทพเจ้าท่านนั้นได้พูดไว้เลย แต่ถึงยังไงออสต้าก็ไม่ละความพยายามอย่างแน่
“เราว่าเราต้องเดินผ่านเขาไปในป่านี้อีกไกลเลย ยังไหวไหมเรนเดียร์”
“เรายังไหว ถ้ามีออสต้าไปด้วย”
ออสต้ารู้สึกดีและเริ่มเขิน ก่อนจะจับมือเรนเดียร์เดินเข้าไปในป่าด้วยกัน ในเกาะแห่งนี้มีแต่แสงสว่างจากฟากฟ้า และ รอบด้านที่มืดมาก แต่ทั้งสองคนก็ยังไปต่อได้ ออสต้าและเรนเดียร์เดินเข้าไปได้สักพัก เรนเดียร์รู้สึกว่าเดินเข้าไปสักพักมันเริ่มมืดมาก และเสียงที่เงียบมาก แทบไม่ได้ยินเสียงลมหายใจหรือเสียงเต้นของหัวใจเลย
“ออสต้า เราว่ามันเงียบมากเลยนะ”
“เหมือนกัน เราเริ่มมองทางไม่เห็นแล้ว ไม่มีแสงไฟอะไรสักอย่าง”
เมื่อออสต้ามองไปทางไหนก็มีแต่ความมืด ยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ก็ไม่เห็นอะไรเลย ก่อนที่เรนเดียร์จะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ที่ดูเหมือนน่ากลัว
“ออสต้า”
เรนเดียร์ตกใจจึงหลบอยู่หลังออสต้า ภาพที่เห็นคือ คนในชุดขาวและกางเกงสีน้ำเงิน พยายามเดินมาทางทั้งสองคน ออสต้าจึงตั้งสติและปกป้องเรนเดียร์มากขึ้น
“ใครน่ะ อย่าเข้ามานะว้อย”
“ออสต้า เรากลัว ทำอะไรสักอย่างสิ”
“เราไม่มีอาวุธ เราจะสู้อะไรได้ เราเรียนศิลปะป้องกันตัวอยู่”
ออสต้าพยายามจะใช้ศิลปะป้องกันตัว เมื่อคนๆนั้นเดินเข้ามา ออสต้าจึงเตะเข้าที่ตัวเขา ทำให้เขาล้มลงพลางไปด้วย เมื่อเรนเดียร์เห็นคนๆนั้นเข้า ก็หลับตากลัวมาก คนๆนั้นเข้ามาใกล้ตัวเรนเดียร์ และจับมือมองหน้า ทำให้เรนเดียร์เริ่มหายกลัวทันที
“นายคือ...”
ออสต้าลุกขึ้นมาก็เห็นเขาคนนั้นทันที มีสีหน้าเศร้าหมองและรู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีใครอีกแล้ว ออสต้ามองเขา ความระแวงของออสต้าก็หายไปทันที
“ไซโคลน”
“นายก็เป็นคนที่หลงมาด้วยล่ะสิ ช่วยอะไรพวกเราได้ไหม” ออสต้า
ไซโคลนนิ่งไปสักพักและเริ่มมีสีหน้าที่เริ่มเศร้าอีกครั้ง นัยน์ตาที่บอกกับพวกเขามันดูมีอะไรที่พวกเขายังไม่รู้ในตัวเขาอีก
“เราไม่รู้อะไรทั้งนั้น เราก็หลงมาที่นี่เหมือน รอบตัวเราไม่มีใครเลย เราเศร้าและเหงาเหลือเกิน”
“ทำไมล่ะ ไซโคลน ทำไมชีวิตนายมันเศร้าแบบนี้” เรนเดียร์
“เราคิดถึงคนที่นั่นเหลือเกิน ทั้งเพื่อนทั้งคนรัก เราหลงมาที่นี่ไม่มีใครเลย เรา...”
ไซโคลนเริ่มพูดไปและน้ำตาไหลมากขึ้น จนเรนเดียร์เริ่มอ่อนไหวจนล้มลงกับพื้น พร้อมเริ่มน้ำตาซึมจนออสต้าต้องเข้ามาปลอบทั้งสองคน
“ไม่ต้องเศร้าไปนะ ยังไงเราจะต้องไปจากที่นี่ให้ได้ เราทั้งสามคนก็อยากออกไปเจอคนที่เรารักกันทั้งนั้น อยากไปใช้ชีวิตตามปกติ อยากอยู่กับเพื่อน อดทนไว้สิ” ออสต้า
ถึงออสต้าจะปลอบใจมากแค่ไหน แต่ตัวเองก็อยากจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ พอเริ่มทำใจได้บ้างก็เรียกทั้งสองขึ้นมา
“ดีขึ้นเหรอยัง เราอยากไปต่อแล้ว” ออสต้า
“ออสต้า”
ไซโคลนเรียกออสต้าและกลัวอะไรบางอย่าง
“นายจะไม่ทิ้งเราระหว่างทางใช่ไหม”
“เราไม่ทิ้งนายไปหรอก ถึงนายจะดีหรือแย่แค่ไหนเราก็ไม่ทิ้งใครไปกลางทางหรอก เราเป็นห่วงคนแบบนาย”
ออสต้าปลอบใจไซโคลน จนไซโคลนใจอ่อนและรู้สึกดี ไซโคลนมองตาออสต้าอย่างอ่อนโยนและเป็นห่วง ออสต้าไม่รู้หรอกว่าแววตาที่เขามองนั้น มองด้วยความรักที่จริงจังสำหรับเขา
เมื่อเริ่มออกเดินทางต่อ พวกเขาก็เดินไปอย่างไร้จุดหมายและไร้หนทางที่จะไป ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปเจอลำธารแห่งหนึ่งที่ตัดผ่านทางของพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะหยุดกันสักพัก
“เราว่าเราพักกันที่นี่ก่อนไหม” เรนเดียร์
“ก็ดีนะ เราเดินทางมาไกลมากแล้ว พักสักหน่อยดีกว่า”
ทั้งสามคนหยุดพัก ก่อนที่ออสต้าจึงขึ้นไปนอนบนโขดหิน และบอกกับเรนเดียร์ให้อยู่กับเขาด้วย
“เรนเดียร์ เราขอพักอยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหนไกลนะ เราเป็นห่วง”
“เราไม่ไปไหนอยู่แล้ว”
ออสต้าเหน็ดเหนื่อยมากจึงหลับไปทันที เวลาผ่านไปสักพัก เรนเดียร์มองไปทั้งสองข้างทางก็ไม่เห็นว่าไซโคลนจะอยู่แถวนั้นเลย จึงออกไปตามหาเขาทันที เมื่อเดินไปทางเลียบลำธารก็เห็นไซโคลนยืนหันหลังอยู่ เรนเดียร์จึงเข้าไปหา
“ไซโคลน”
“เรนเดียร์
เรนเดียร์พาไซโคลนมานั่งที่พื้นดินของลำธาร และพูดคุยไปกับเรนเดียร์ด้วย
“เรารู้สึกดีกับเรนเดียร์เลยนะ”
“ทำไมล่ะ”
“เราเห็นนายกับออสต้าสนิทกันเหมือนเพื่อนดีๆเลยนะ เราคิดอยากจะมีเพื่อนดีๆแบบนี้บ้าง”
“นายอยากมีเพื่อนขนาดนั้นเลย เราก็พยายามเป็นเพื่อนที่นี่กับนายเลยนะ นายรู้สึกดีกับเราไหมล่ะ”
ไซโคลนเริ่มเศร้าเล็กน้อย เรนเดียร์เริ่มเห็นอาการของไซโคลนก็เลยสงสัยอะไรในตัวเขาบางอย่าง
“เราถามจริงๆนะ นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเศร้าตลอดเวลาเลย เรารู้สึกไม่ดีเลย”
“เราเป็นโรคซึมเศร้า”
เรนเดียร์ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ดี แต่ก็ไม่เคยมีท่าทีที่จะรังเกียจไซโคลนเลย เรนเดียร์จึงพูดคุยกับเขาโดยที่ไม่รังเกียจเลย
“เรนเดียร์จะรับได้ไหม เราไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว”
“ไม่เอานะ ไซโคลน เราสัญญาว่าเรากับออสต้าจะไม่ทิ้งนายไป”
“ไม่มีใครต้องการต้องการคนที่ไม่ปกติหรอก เพื่อนคนอื่นเขารับไม่ได้ในตัวเรา เราไม่รู้จะทำไงดี เคยคิดอยากฆ่าตัวตายมาแล้ว” ไซโคลน
“ไม่เอานะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่ค่า อย่างน้อยก็ยังมีใครสักคนบนโลกที่ยังเห็นค่าของนายอยู่นะ ถ้านายเปลี่ยนตัวเอง ไม่อ่อนแอและร้องไห้แบบนี้ ทุกคนเขาจะยอมรับในตัวนายเลยนะ” เรนเดียร์
ไซโคลนพยายามจะไม่ร้องไห้ให้เป็นแผลทางใจอีกต่อไป จึงจับมือเรนเดียร์และนอนซบไหล่ไปด้วย
“เรารู้สึกดีนะที่มีคนอย่างเรนเดียร์คอยเข้าใจเรา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราชอบความรู้สึกนี้มากเลย”
ไซโคลนเริ่มทำใจได้บ้าง ก่อนที่จะเริ่มหลับไป
ด้านออสต้า เมื่ออสต้าตื่นขึ้นมา ก็มองหาเรนเดียร์ แต่มองไปทางไหนก็หาไม่เจอจึงเดินออกไปตามหาแถวลำธาร ก่อนที่จะเจอตัวเรนเดียร์และไซโคลนด้วยกัน
“เรนเดียร์”
ไซโคลนตื่นขึ้นมา เห็นออสต้าเดินออกมาจึงเริ่มรู้สึกว่า เขาอาจเป็นเจ้าของของเรนเดียร์ก็ได้ แต่ไซโคลนไม่ใช่คนที่คิดมากจึงไม่ได้รู้สึกอะไร
“อ้าว ออสต้า ตื่นแล้วเหรอ เรายังไม่ได้นอนเลย” เรนเดียร์
“ไปนอนด้วยกันหน่อยสิ เรานอนไม่ค่อยหลับเลย”
ออสต้าพาเรนเดียร์ไปด้วยทันที ทำเอาไซโคลนเริ่มหวาดกลัวกับเขาสองคนนี้ ถ้าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกัน
หลังจากที่ออสต้าและเรนเดียร์พยายามว่ายน้ำไปที่เกาะแห่งนั้นโดยเร็วที่สุด ทั้งสองขึ้นฝั่งมาด้วยตัวเปียกปอนและรู้สึกว่าเริ่มหนาวขึ้น ออสต้าจึงกอดเรนเดียร์ด้วยความห่วงใย
“หนาวเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ เรายังอยู่ข้างๆอยู่”
ออสต้ารู้สึกดีกับเรนเดียร์มาก จนไม่รู้ว่าตอนนี้ความสัมพันธ์มันอยู่ในฐานะใด แต่ตอนนี้เขาทั้งสองคนกลับรู้สึกดีและห่วงใยไปแล้ว ออสต้ามองไปในเกาะก็ไม่เห็นว่าจะมีเมืองโลวิตอย่างที่เทพเจ้าท่านนั้นได้พูดไว้เลย แต่ถึงยังไงออสต้าก็ไม่ละความพยายามอย่างแน่
“เราว่าเราต้องเดินผ่านเขาไปในป่านี้อีกไกลเลย ยังไหวไหมเรนเดียร์”
“เรายังไหว ถ้ามีออสต้าไปด้วย”
ออสต้ารู้สึกดีและเริ่มเขิน ก่อนจะจับมือเรนเดียร์เดินเข้าไปในป่าด้วยกัน ในเกาะแห่งนี้มีแต่แสงสว่างจากฟากฟ้า และ รอบด้านที่มืดมาก แต่ทั้งสองคนก็ยังไปต่อได้ ออสต้าและเรนเดียร์เดินเข้าไปได้สักพัก เรนเดียร์รู้สึกว่าเดินเข้าไปสักพักมันเริ่มมืดมาก และเสียงที่เงียบมาก แทบไม่ได้ยินเสียงลมหายใจหรือเสียงเต้นของหัวใจเลย
“ออสต้า เราว่ามันเงียบมากเลยนะ”
“เหมือนกัน เราเริ่มมองทางไม่เห็นแล้ว ไม่มีแสงไฟอะไรสักอย่าง”
เมื่อออสต้ามองไปทางไหนก็มีแต่ความมืด ยิ่งเดินไปไกลเท่าไหร่ก็ไม่เห็นอะไรเลย ก่อนที่เรนเดียร์จะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ที่ดูเหมือนน่ากลัว
“ออสต้า”
เรนเดียร์ตกใจจึงหลบอยู่หลังออสต้า ภาพที่เห็นคือ คนในชุดขาวและกางเกงสีน้ำเงิน พยายามเดินมาทางทั้งสองคน ออสต้าจึงตั้งสติและปกป้องเรนเดียร์มากขึ้น
“ใครน่ะ อย่าเข้ามานะว้อย”
“ออสต้า เรากลัว ทำอะไรสักอย่างสิ”
“เราไม่มีอาวุธ เราจะสู้อะไรได้ เราเรียนศิลปะป้องกันตัวอยู่”
ออสต้าพยายามจะใช้ศิลปะป้องกันตัว เมื่อคนๆนั้นเดินเข้ามา ออสต้าจึงเตะเข้าที่ตัวเขา ทำให้เขาล้มลงพลางไปด้วย เมื่อเรนเดียร์เห็นคนๆนั้นเข้า ก็หลับตากลัวมาก คนๆนั้นเข้ามาใกล้ตัวเรนเดียร์ และจับมือมองหน้า ทำให้เรนเดียร์เริ่มหายกลัวทันที
“นายคือ...”
ออสต้าลุกขึ้นมาก็เห็นเขาคนนั้นทันที มีสีหน้าเศร้าหมองและรู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีใครอีกแล้ว ออสต้ามองเขา ความระแวงของออสต้าก็หายไปทันที
“ไซโคลน”
“นายก็เป็นคนที่หลงมาด้วยล่ะสิ ช่วยอะไรพวกเราได้ไหม” ออสต้า
ไซโคลนนิ่งไปสักพักและเริ่มมีสีหน้าที่เริ่มเศร้าอีกครั้ง นัยน์ตาที่บอกกับพวกเขามันดูมีอะไรที่พวกเขายังไม่รู้ในตัวเขาอีก
“เราไม่รู้อะไรทั้งนั้น เราก็หลงมาที่นี่เหมือน รอบตัวเราไม่มีใครเลย เราเศร้าและเหงาเหลือเกิน”
“ทำไมล่ะ ไซโคลน ทำไมชีวิตนายมันเศร้าแบบนี้” เรนเดียร์
“เราคิดถึงคนที่นั่นเหลือเกิน ทั้งเพื่อนทั้งคนรัก เราหลงมาที่นี่ไม่มีใครเลย เรา...”
ไซโคลนเริ่มพูดไปและน้ำตาไหลมากขึ้น จนเรนเดียร์เริ่มอ่อนไหวจนล้มลงกับพื้น พร้อมเริ่มน้ำตาซึมจนออสต้าต้องเข้ามาปลอบทั้งสองคน
“ไม่ต้องเศร้าไปนะ ยังไงเราจะต้องไปจากที่นี่ให้ได้ เราทั้งสามคนก็อยากออกไปเจอคนที่เรารักกันทั้งนั้น อยากไปใช้ชีวิตตามปกติ อยากอยู่กับเพื่อน อดทนไว้สิ” ออสต้า
ถึงออสต้าจะปลอบใจมากแค่ไหน แต่ตัวเองก็อยากจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ พอเริ่มทำใจได้บ้างก็เรียกทั้งสองขึ้นมา
“ดีขึ้นเหรอยัง เราอยากไปต่อแล้ว” ออสต้า
“ออสต้า”
ไซโคลนเรียกออสต้าและกลัวอะไรบางอย่าง
“นายจะไม่ทิ้งเราระหว่างทางใช่ไหม”
“เราไม่ทิ้งนายไปหรอก ถึงนายจะดีหรือแย่แค่ไหนเราก็ไม่ทิ้งใครไปกลางทางหรอก เราเป็นห่วงคนแบบนาย”
ออสต้าปลอบใจไซโคลน จนไซโคลนใจอ่อนและรู้สึกดี ไซโคลนมองตาออสต้าอย่างอ่อนโยนและเป็นห่วง ออสต้าไม่รู้หรอกว่าแววตาที่เขามองนั้น มองด้วยความรักที่จริงจังสำหรับเขา
เมื่อเริ่มออกเดินทางต่อ พวกเขาก็เดินไปอย่างไร้จุดหมายและไร้หนทางที่จะไป ก่อนที่พวกเขาจะเดินไปเจอลำธารแห่งหนึ่งที่ตัดผ่านทางของพวกเขา ก่อนที่พวกเขาจะหยุดกันสักพัก
“เราว่าเราพักกันที่นี่ก่อนไหม” เรนเดียร์
“ก็ดีนะ เราเดินทางมาไกลมากแล้ว พักสักหน่อยดีกว่า”
ทั้งสามคนหยุดพัก ก่อนที่ออสต้าจึงขึ้นไปนอนบนโขดหิน และบอกกับเรนเดียร์ให้อยู่กับเขาด้วย
“เรนเดียร์ เราขอพักอยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหนไกลนะ เราเป็นห่วง”
“เราไม่ไปไหนอยู่แล้ว”
ออสต้าเหน็ดเหนื่อยมากจึงหลับไปทันที เวลาผ่านไปสักพัก เรนเดียร์มองไปทั้งสองข้างทางก็ไม่เห็นว่าไซโคลนจะอยู่แถวนั้นเลย จึงออกไปตามหาเขาทันที เมื่อเดินไปทางเลียบลำธารก็เห็นไซโคลนยืนหันหลังอยู่ เรนเดียร์จึงเข้าไปหา
“ไซโคลน”
“เรนเดียร์
เรนเดียร์พาไซโคลนมานั่งที่พื้นดินของลำธาร และพูดคุยไปกับเรนเดียร์ด้วย
“เรารู้สึกดีกับเรนเดียร์เลยนะ”
“ทำไมล่ะ”
“เราเห็นนายกับออสต้าสนิทกันเหมือนเพื่อนดีๆเลยนะ เราคิดอยากจะมีเพื่อนดีๆแบบนี้บ้าง”
“นายอยากมีเพื่อนขนาดนั้นเลย เราก็พยายามเป็นเพื่อนที่นี่กับนายเลยนะ นายรู้สึกดีกับเราไหมล่ะ”
ไซโคลนเริ่มเศร้าเล็กน้อย เรนเดียร์เริ่มเห็นอาการของไซโคลนก็เลยสงสัยอะไรในตัวเขาบางอย่าง
“เราถามจริงๆนะ นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเศร้าตลอดเวลาเลย เรารู้สึกไม่ดีเลย”
“เราเป็นโรคซึมเศร้า”
เรนเดียร์ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกใจคอไม่ดี แต่ก็ไม่เคยมีท่าทีที่จะรังเกียจไซโคลนเลย เรนเดียร์จึงพูดคุยกับเขาโดยที่ไม่รังเกียจเลย
“เรนเดียร์จะรับได้ไหม เราไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว”
“ไม่เอานะ ไซโคลน เราสัญญาว่าเรากับออสต้าจะไม่ทิ้งนายไป”
“ไม่มีใครต้องการต้องการคนที่ไม่ปกติหรอก เพื่อนคนอื่นเขารับไม่ได้ในตัวเรา เราไม่รู้จะทำไงดี เคยคิดอยากฆ่าตัวตายมาแล้ว” ไซโคลน
“ไม่เอานะ อย่าคิดว่าตัวเองไม่ค่า อย่างน้อยก็ยังมีใครสักคนบนโลกที่ยังเห็นค่าของนายอยู่นะ ถ้านายเปลี่ยนตัวเอง ไม่อ่อนแอและร้องไห้แบบนี้ ทุกคนเขาจะยอมรับในตัวนายเลยนะ” เรนเดียร์
ไซโคลนพยายามจะไม่ร้องไห้ให้เป็นแผลทางใจอีกต่อไป จึงจับมือเรนเดียร์และนอนซบไหล่ไปด้วย
“เรารู้สึกดีนะที่มีคนอย่างเรนเดียร์คอยเข้าใจเรา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราชอบความรู้สึกนี้มากเลย”
ไซโคลนเริ่มทำใจได้บ้าง ก่อนที่จะเริ่มหลับไป
ด้านออสต้า เมื่ออสต้าตื่นขึ้นมา ก็มองหาเรนเดียร์ แต่มองไปทางไหนก็หาไม่เจอจึงเดินออกไปตามหาแถวลำธาร ก่อนที่จะเจอตัวเรนเดียร์และไซโคลนด้วยกัน
“เรนเดียร์”
ไซโคลนตื่นขึ้นมา เห็นออสต้าเดินออกมาจึงเริ่มรู้สึกว่า เขาอาจเป็นเจ้าของของเรนเดียร์ก็ได้ แต่ไซโคลนไม่ใช่คนที่คิดมากจึงไม่ได้รู้สึกอะไร
“อ้าว ออสต้า ตื่นแล้วเหรอ เรายังไม่ได้นอนเลย” เรนเดียร์
“ไปนอนด้วยกันหน่อยสิ เรานอนไม่ค่อยหลับเลย”
ออสต้าพาเรนเดียร์ไปด้วยทันที ทำเอาไซโคลนเริ่มหวาดกลัวกับเขาสองคนนี้ ถ้าเขาไม่ได้เป็นเพื่อนกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ