Wish you were here : อยู่กับผมนะที่รัก
-
เขียนโดย chivaru
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 07.50 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
19.62K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561 11.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) เหตุผลที่ 7 ความจริง(ไม่หมด)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเหตุผลที่ 7 ความจริง(ไม่หมด)
» ลูกตาล «
“ตัวเล็ก เดี๋ยวมารับนะ” พี่หมอกระซิบแผ่วเบา ฉันพยักหน้ารับ พี่หมอกับพี่พยาบาลก็เดินออกไป ปล่อยให้ฉันกับเทียนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของเทียนกันเพียงลำพัง
เราเงียบกันอยู่พักใหญ่ ฉันไม่ยอมพูดอะไร ประสานมือกำแน่นอย่างกังวลใจไว้หน้าตักตัวเอง ฉันควรจะบอกเรื่องอาการป่วยของฉันดีมั้ย ควรจะเผชิญหน้ากับเขายังไงดี และเป็นเทียนที่เริ่มพูดกับฉันก่อน
“ตาล...ทำไมมาถึงทิ้งเทียนไปละครับ”
‘..ตาลขอโทษ..’ ฉันได้แต่คิดในใจ ปากยังคงไม่กล้าขยับ
“ตาลไม่รักเทียนแล้วใช่มั้ย...ตาลมีใครใหม่แล้วใช่มั้ยครับ..ตาลครับ...”
‘..รักสิเทียนตาลรักเทียนมากนะ..’
“ถ้าเทียนเคยทำอะไรผิดกับตาล เทียนขอโทษ”
‘..เทียนไม่ผิด ตาลผิดเองที่ไม่กล้าบอกเทียน..’
“แค่ตาลบอกมาคำเดียวว่าไม่รักเทียนแล้ว เทียนจะไม่มาให้ตาลเห็นหน้าอีก มีอะไรตาลก็บอกมาเถอะครับ อย่าเอาแต่เงียบแบบนี้เลย”
ฉันเสียใจที่ไม่สามารถบอกเทียนได้หมดทุกอย่าง ในวันนี้ฉันยังไม่พร้อม
“เทียน...ตาลขอโทษ”
“....” กลับกันเป็นเทียนที่เงียบไม่พูดอะไร ฉันได้ยินเสียงเหมือนเขากำลังร้องไห้
“เทียน..ขอมือหน่อยสิ” ฉันอยากรู้ว่าเทียนยังใส่แหวนของฉันอยู่มั้ย
“….”
“นี้แหวนตาลใช่มั้ย ขอบคุณนะเทียน ที่ยังใส่มัน” ไม่ใช่แค่ฉันที่ยังรักเขา แต่เขาเองก็ยังรักและรอฉันอย่างนั้นหรอ มันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกผิด
“....”
“แต่เทียนจะถอดมันทิ้งก็ได้นะ ยังไงตาลคงกลับไปอยู่กับเทียนไม่ได้หรอก ถึงเทียนจะรักตาล…” ฉันอยากปลดปล่อยน้ำตาที่มีอยู่แต่ทำได้เพียงสะกดกลั้นมันเอาไว้ก่อน
“ทำไม...”
“ตาลอยากกลับบ้าน ตาลอยากกลับไปหาเทียน ตาลอยากเห็นเทียนยิ้มให้ตาลเหมือนเมื่อก่อน แต่...เทียน...”
“ทำไม..” เทียนถามคำเดิมซ้ำๆ
“แต่ตาลคงไม่สามารถเห็นมันได้อีกแล้ว ตาคู่นี้กำลังจะ..ฮึก..บอด..” ฉันเค้นเสียงแผ่วเบาพูดคำสุดท้าย น้ำตาที่เก็บไว้ไหลรินออกมาอีกครั้ง
“….”
ฉันอยากเห็นหน้าเทียนอีกสักครั้ง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันอยากได้รอยยิ้มที่ฉันโหยหามาตลอด 2 ปีที่เราจากกัน
“เทียน..ตาลขอโทษ..ฮึก..ที่ไม่ได้บอก ขอโทษที่หายไป..ฮึก”
“แล้วทำไมแค่นี้ตาลต้องไปจากเทียน ทิ้งไว้แค่จดหมายกับแหวนวงนี้ ทำไมตาลไม่บอกเทียน” เสียงแข็งๆ ของเทียนทำให้ฉันเจ็บร้าวไปทั้งใจ
“ตาลขอโทษ..ฮึก.. แต่เทียนรักษาตัวให้หายแล้วกลับไปเถอะ ตาลไม่สามารถยืนข้างเทียนได้แล้ว” ฉันก็อยากให้มันเป็นแค่นี้เหมือนกัน แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ฉันไม่กล้าพอที่จะบอกเทียน ฉันเกลียดการจากลาซ้ำๆ ซากๆ แต่ฉันต้องทำ ในวันหนึ่งที่ฉันอาจไม่อยู่แล้ว เทียนจะยังคงอยู่ได้โดยไม่ต้องร้องไห้เสียใจให้กับฉัน
“ตาลไม่รักเทียนแล้วหรอครับ” น้ำเสียงของเทียนอ่อนลง
“เทียนดูแลตัวเองด้วยนะ..ฮึก..ตาลขอโทษ...”
ฉันถอดแหวนจากนิ้วก้อยข้างซ้ายของเทียนช้าๆ วางลงบนฝ่ามือหนาที่ตอนนี้มันบางลงเล็กน้อยเมื่อเขาประสบอุบัติเหตุ ฉันรวบมือซ้ายเทียนให้กำมันไว้ และไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
พี่หมอเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยของเทียนเหมือนแอบฟังอยู่หน้าห้อง พาฉันกลับห้องพักอย่างเงียบเชียบ ฉันไม่ได้ยินเรียกตามหลังเหมือนวันนั้น เขาคงเสียใจมากกับเรื่องของฉัน แต่ฉันเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย
“ขอโทษ..ที่บอกไม่หมด...ฮรืออ” ฉันปล่อยโฮหนักเมื่อตัวฉันถูกวางลงบนเตียงผู้ป่วยประจำห้อง
“พี่...ฮรืออ ตาลไม่ได้บอก ตาลไม่กล้า...ฮรืออ..”
“ไม่เป็นไรตัวเล็ก ไม่เป็นไร” พี่หมอไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่อ เพียงแค่กอดฉันไว้แน่นเหมือนรับรู้ทุกอย่าง
= 1 สัปดาห์ต่อมา =
หลังจากที่ได้คุยกับเทียนเมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันทำได้แค่ถามไถ่อาการของเทียนจากพี่หมอ ถึงอยากไปเห็นด้วยตัวเองว่าเทียนดีขึ้นแล้วจริงๆ แต่ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะตาฉันตอนนี้มองทุกอย่างพร่ามัวไปหมด แทบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว
โรคที่ฉันเป็นเริ่มเข้าขั้นวิกฤตไปเรื่อยๆ ด้วยสุขภาพที่ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้วยิ่งทำให้ฉันอ่อนแอลงไปอีก เทียนเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับฉัน ถ้าวันนั้นไม่เจอเขาฉันว่ามันก็น่าจะดีกว่านี้ หลังจากวันนั้นฉันก็อาการทรุดลงอีกครั้ง ด้วยโรคหัวใจกำเริบ ถึงมันจะไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านๆ มาแต่มันก็ทำให้ฉันไม่มีแรงจะลุกหรืออยากไปไหนอีกเลย
ฉันขอพรอ้อนวอนพระเจ้าอยู่ทุกวันให้ฉันหายจากโรคที่เป็นอยู่ทั้งหมด แต่เหมือนคำขอของฉันจะส่งไปไม่ถึง อาการเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ถึงพี่หมอจะบอกว่ามันกำลังจะดีขึ้นก็เถอะ แต่ฉันรู้ตัวฉันดี มันแย่ลง และมีเพียงตาคู่นี้ที่มันไม่สามารถกู้กลับมาได้แล้ว มันสายเกินกว่าจะยื้อแล้วจริงๆ
ฉันรักเทียน เขาเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ฉันได้หลงรัก เวลาผ่านมาเนิ่นนานความรักของฉันที่มีให้เขามันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ฉันร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะเคียงข้างแทน อยู่ไปก็เป็นภาระเขาเปล่าๆ ฉันจึงเลือกที่จะออกมา ขอเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนไม่ดีที่ทิ้งเขาแบบนั้น ทั้งๆ ที่เทียนไม่ได้มีความผิดอะไรเลย
โชคชะตามักเล่นตลกกับฉันเสมอ เมื่อสองปีก่อนได้เจอเขาแต่กลับต้องแยกจากกัน วันนี้ก็เช่นกัน ฉันไม่มีหน้าไปให้เขาเห็นหรอก ฉันเกลียดตัวเองที่เกิดมาเป็นแบบนี้ ฉันรู้ดีว่าคงไม่มีโอกาสกลับไปหาเขาอีกแล้ว ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็อยากให้เขาไปเจอใครที่ดี ที่พร้อมจะเคียงข้าง ดูแลเขาได้ ดีกว่าต้องมาทุกข์ทรมานกับคนอย่างฉัน
ฉันได้แต่ขอโทษเขาซ้ำไปซ้ำมาในใจ หัวใจของฉันกำลังร้าวและแตกเป็นเสี่ยง ฉันทำร้ายคนที่ฉันรัก ทำให้เขาเสียใจ ทำให้เขารอคอยอย่างไร้จุดหมาย ที่ฉันและเขาต่างมองมันไม่เห็น
“พี่ เทียนเป็นไงบ้าง อีกนานมั้ยกว่าเขาจะได้กลับบ้าน” ฉันหันไปตามเสียงประตู กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ จากตัวพี่หมอฉันจำได้ดี ถามถึงอาการของเทียนอย่างเป็นห่วง
“ดีขึ้นแล้ว เห็นว่าจะขอกลับเร็วกว่ากำหนด อีกประมาณ 5 วันละมั้ง”
“หรอ...ดีจัง..พี่กอดหน่อย” พี่หมอที่ยืนอยู่หน้าฉันข้างเตียงผู้ป่วยโอบกอดฉัน ถ้าเป็นเทียนที่กอดฉันมันคงจะดีไม่น้อยเลยนะ
“ตัวเล็กอยากกลับบ้านมั้ย อาทิตย์หน้ามีวันว่าง”
“ไปได้หรอ …”
“ได้สิ ก็มีพี่หมอคนนี้อยู่จะกลัวอะไร” พี่หมอพูด้วยน้ำเสียงร่าเริงฉันรู้ รู้ดีว่าเขากำลังพยายามทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
“แน่นะ ตาลยะ...”
“อยากกินขนมเทียนไส้หวาน รู้ครับ รู้แล้ว กี่รอบกี่ครั้งก็เมนูเดิม” พี่หมอแย้งพูด
“ฮ่าๆ ๆ ...รู้ดี~ ไหนขอมือสิ...โอ้ย~” มือหนาของพี่หมอขยี้หัวฉันไม่แรงมา แต่มันก็ทำให้ฉันมึนนิดๆ ได้เลย
“เยอะๆ ๆ ลามปามนะตัวเล็ก”
พี่หมอบอกว่าจะมารับในวันว่างช่วงนี้อาจไม่ได้อยู่ดูแลใกล้ชิด แต่จะมีพยาบาลเวียนเข้ามาดูเรื่อยๆ มีอะไรให้กดเรียกพยาบาลเอา หากมีอะไรเร่งด่วนเขาจะรีบกลับมาทันที
ก็แปลกๆ อยู่หรอกนะดูช่วงนี้พี่หมอดูอารมณ์ดีแปลกๆ ถึงฉันจะไม่เห็นหน้าพี่หมอแล้วก็เถอะ แต่ก็รู้ว่าเขากำลังยิ้มอย่างมีความสุขกับอะไรสักอย่างอยู่แน่นอน คนอย่างพี่หมอดูออกง่ายจะตาย น้ำเสียงเขาจะเป็นตัวบอกอารมณ์ของเขาเป็นอย่างดีเลย ถึงปกติจะหน้านิ่งตายสนิทก็เถอะนะ
คนทุกคนต่างต้องการกำลังใจในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน หรือการใช้ชีวิต ไม่มีใครที่ทำถูกไปหมด ตัดสินใจได้เด็ดขาดทั้งหมด ทุกคนต่างมีข้อผิดพลาดเพื่อเป็นการเรียนรู้ต่อไป 'Cause nobody's perfect
ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการสิ่งที่เรียกว่ากำลังใจ และความรัก ฉันเติบโตมากับร่างกายที่อ่อนแอ รักที่ไม่สมหวัง แต่ฉันก็ยังคงเป็นฉัน ครั้งนี้ฉันอาจตัดสินใจผิดพลาดที่บอกลาเทียนอีกครั้ง แต่นั่นจะไม่ทำให้ฉันต้องเสียใจทีหลังแน่นอน เพราะมันคือเส้นทางที่ฉันเลือกเอง
ในวันที่เสียใจที่สุด อย่างน้อยฉันก็ยังมีพี่ชาย มีพ่อ มีแม่ และเพื่อนสนิทของฉันที่จะคอยมาเยี่ยมอยู่เรื่อยๆ ทุกคนล้วนเป็นกำลังใจให้ฉันเสมอ แม้ว่าวันข้างหน้าฉันอาจจะหาย..จากโลกไปก็ตาม แต่ยังไงฉันก็ยังคงหวังว่าฉันจะหายจากโรคที่เป็นอยู่สักวันหนึ่ง ถึงมันจะเลือนรางมากเต็มที
» ลูกตาล «
“ตัวเล็ก เดี๋ยวมารับนะ” พี่หมอกระซิบแผ่วเบา ฉันพยักหน้ารับ พี่หมอกับพี่พยาบาลก็เดินออกไป ปล่อยให้ฉันกับเทียนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยของเทียนกันเพียงลำพัง
เราเงียบกันอยู่พักใหญ่ ฉันไม่ยอมพูดอะไร ประสานมือกำแน่นอย่างกังวลใจไว้หน้าตักตัวเอง ฉันควรจะบอกเรื่องอาการป่วยของฉันดีมั้ย ควรจะเผชิญหน้ากับเขายังไงดี และเป็นเทียนที่เริ่มพูดกับฉันก่อน
“ตาล...ทำไมมาถึงทิ้งเทียนไปละครับ”
‘..ตาลขอโทษ..’ ฉันได้แต่คิดในใจ ปากยังคงไม่กล้าขยับ
“ตาลไม่รักเทียนแล้วใช่มั้ย...ตาลมีใครใหม่แล้วใช่มั้ยครับ..ตาลครับ...”
‘..รักสิเทียนตาลรักเทียนมากนะ..’
“ถ้าเทียนเคยทำอะไรผิดกับตาล เทียนขอโทษ”
‘..เทียนไม่ผิด ตาลผิดเองที่ไม่กล้าบอกเทียน..’
“แค่ตาลบอกมาคำเดียวว่าไม่รักเทียนแล้ว เทียนจะไม่มาให้ตาลเห็นหน้าอีก มีอะไรตาลก็บอกมาเถอะครับ อย่าเอาแต่เงียบแบบนี้เลย”
ฉันเสียใจที่ไม่สามารถบอกเทียนได้หมดทุกอย่าง ในวันนี้ฉันยังไม่พร้อม
“เทียน...ตาลขอโทษ”
“....” กลับกันเป็นเทียนที่เงียบไม่พูดอะไร ฉันได้ยินเสียงเหมือนเขากำลังร้องไห้
“เทียน..ขอมือหน่อยสิ” ฉันอยากรู้ว่าเทียนยังใส่แหวนของฉันอยู่มั้ย
“….”
“นี้แหวนตาลใช่มั้ย ขอบคุณนะเทียน ที่ยังใส่มัน” ไม่ใช่แค่ฉันที่ยังรักเขา แต่เขาเองก็ยังรักและรอฉันอย่างนั้นหรอ มันทำให้ฉันยิ่งรู้สึกผิด
“....”
“แต่เทียนจะถอดมันทิ้งก็ได้นะ ยังไงตาลคงกลับไปอยู่กับเทียนไม่ได้หรอก ถึงเทียนจะรักตาล…” ฉันอยากปลดปล่อยน้ำตาที่มีอยู่แต่ทำได้เพียงสะกดกลั้นมันเอาไว้ก่อน
“ทำไม...”
“ตาลอยากกลับบ้าน ตาลอยากกลับไปหาเทียน ตาลอยากเห็นเทียนยิ้มให้ตาลเหมือนเมื่อก่อน แต่...เทียน...”
“ทำไม..” เทียนถามคำเดิมซ้ำๆ
“แต่ตาลคงไม่สามารถเห็นมันได้อีกแล้ว ตาคู่นี้กำลังจะ..ฮึก..บอด..” ฉันเค้นเสียงแผ่วเบาพูดคำสุดท้าย น้ำตาที่เก็บไว้ไหลรินออกมาอีกครั้ง
“….”
ฉันอยากเห็นหน้าเทียนอีกสักครั้ง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันอยากได้รอยยิ้มที่ฉันโหยหามาตลอด 2 ปีที่เราจากกัน
“เทียน..ตาลขอโทษ..ฮึก..ที่ไม่ได้บอก ขอโทษที่หายไป..ฮึก”
“แล้วทำไมแค่นี้ตาลต้องไปจากเทียน ทิ้งไว้แค่จดหมายกับแหวนวงนี้ ทำไมตาลไม่บอกเทียน” เสียงแข็งๆ ของเทียนทำให้ฉันเจ็บร้าวไปทั้งใจ
“ตาลขอโทษ..ฮึก.. แต่เทียนรักษาตัวให้หายแล้วกลับไปเถอะ ตาลไม่สามารถยืนข้างเทียนได้แล้ว” ฉันก็อยากให้มันเป็นแค่นี้เหมือนกัน แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ฉันไม่กล้าพอที่จะบอกเทียน ฉันเกลียดการจากลาซ้ำๆ ซากๆ แต่ฉันต้องทำ ในวันหนึ่งที่ฉันอาจไม่อยู่แล้ว เทียนจะยังคงอยู่ได้โดยไม่ต้องร้องไห้เสียใจให้กับฉัน
“ตาลไม่รักเทียนแล้วหรอครับ” น้ำเสียงของเทียนอ่อนลง
“เทียนดูแลตัวเองด้วยนะ..ฮึก..ตาลขอโทษ...”
ฉันถอดแหวนจากนิ้วก้อยข้างซ้ายของเทียนช้าๆ วางลงบนฝ่ามือหนาที่ตอนนี้มันบางลงเล็กน้อยเมื่อเขาประสบอุบัติเหตุ ฉันรวบมือซ้ายเทียนให้กำมันไว้ และไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
พี่หมอเดินเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยของเทียนเหมือนแอบฟังอยู่หน้าห้อง พาฉันกลับห้องพักอย่างเงียบเชียบ ฉันไม่ได้ยินเรียกตามหลังเหมือนวันนั้น เขาคงเสียใจมากกับเรื่องของฉัน แต่ฉันเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาเลย
“ขอโทษ..ที่บอกไม่หมด...ฮรืออ” ฉันปล่อยโฮหนักเมื่อตัวฉันถูกวางลงบนเตียงผู้ป่วยประจำห้อง
“พี่...ฮรืออ ตาลไม่ได้บอก ตาลไม่กล้า...ฮรืออ..”
“ไม่เป็นไรตัวเล็ก ไม่เป็นไร” พี่หมอไม่ได้พูดหรือถามอะไรต่อ เพียงแค่กอดฉันไว้แน่นเหมือนรับรู้ทุกอย่าง
= 1 สัปดาห์ต่อมา =
หลังจากที่ได้คุยกับเทียนเมื่ออาทิตย์ก่อน ฉันทำได้แค่ถามไถ่อาการของเทียนจากพี่หมอ ถึงอยากไปเห็นด้วยตัวเองว่าเทียนดีขึ้นแล้วจริงๆ แต่ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะตาฉันตอนนี้มองทุกอย่างพร่ามัวไปหมด แทบจะมองอะไรไม่เห็นแล้ว
โรคที่ฉันเป็นเริ่มเข้าขั้นวิกฤตไปเรื่อยๆ ด้วยสุขภาพที่ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้วยิ่งทำให้ฉันอ่อนแอลงไปอีก เทียนเป็นกำลังใจสำคัญสำหรับฉัน ถ้าวันนั้นไม่เจอเขาฉันว่ามันก็น่าจะดีกว่านี้ หลังจากวันนั้นฉันก็อาการทรุดลงอีกครั้ง ด้วยโรคหัวใจกำเริบ ถึงมันจะไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านๆ มาแต่มันก็ทำให้ฉันไม่มีแรงจะลุกหรืออยากไปไหนอีกเลย
ฉันขอพรอ้อนวอนพระเจ้าอยู่ทุกวันให้ฉันหายจากโรคที่เป็นอยู่ทั้งหมด แต่เหมือนคำขอของฉันจะส่งไปไม่ถึง อาการเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ถึงพี่หมอจะบอกว่ามันกำลังจะดีขึ้นก็เถอะ แต่ฉันรู้ตัวฉันดี มันแย่ลง และมีเพียงตาคู่นี้ที่มันไม่สามารถกู้กลับมาได้แล้ว มันสายเกินกว่าจะยื้อแล้วจริงๆ
ฉันรักเทียน เขาเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่ฉันได้หลงรัก เวลาผ่านมาเนิ่นนานความรักของฉันที่มีให้เขามันไม่เคยลดน้อยลงไปเลย ฉันร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะเคียงข้างแทน อยู่ไปก็เป็นภาระเขาเปล่าๆ ฉันจึงเลือกที่จะออกมา ขอเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนไม่ดีที่ทิ้งเขาแบบนั้น ทั้งๆ ที่เทียนไม่ได้มีความผิดอะไรเลย
โชคชะตามักเล่นตลกกับฉันเสมอ เมื่อสองปีก่อนได้เจอเขาแต่กลับต้องแยกจากกัน วันนี้ก็เช่นกัน ฉันไม่มีหน้าไปให้เขาเห็นหรอก ฉันเกลียดตัวเองที่เกิดมาเป็นแบบนี้ ฉันรู้ดีว่าคงไม่มีโอกาสกลับไปหาเขาอีกแล้ว ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็อยากให้เขาไปเจอใครที่ดี ที่พร้อมจะเคียงข้าง ดูแลเขาได้ ดีกว่าต้องมาทุกข์ทรมานกับคนอย่างฉัน
ฉันได้แต่ขอโทษเขาซ้ำไปซ้ำมาในใจ หัวใจของฉันกำลังร้าวและแตกเป็นเสี่ยง ฉันทำร้ายคนที่ฉันรัก ทำให้เขาเสียใจ ทำให้เขารอคอยอย่างไร้จุดหมาย ที่ฉันและเขาต่างมองมันไม่เห็น
“พี่ เทียนเป็นไงบ้าง อีกนานมั้ยกว่าเขาจะได้กลับบ้าน” ฉันหันไปตามเสียงประตู กลิ่นแป้งเด็กอ่อนๆ จากตัวพี่หมอฉันจำได้ดี ถามถึงอาการของเทียนอย่างเป็นห่วง
“ดีขึ้นแล้ว เห็นว่าจะขอกลับเร็วกว่ากำหนด อีกประมาณ 5 วันละมั้ง”
“หรอ...ดีจัง..พี่กอดหน่อย” พี่หมอที่ยืนอยู่หน้าฉันข้างเตียงผู้ป่วยโอบกอดฉัน ถ้าเป็นเทียนที่กอดฉันมันคงจะดีไม่น้อยเลยนะ
“ตัวเล็กอยากกลับบ้านมั้ย อาทิตย์หน้ามีวันว่าง”
“ไปได้หรอ …”
“ได้สิ ก็มีพี่หมอคนนี้อยู่จะกลัวอะไร” พี่หมอพูด้วยน้ำเสียงร่าเริงฉันรู้ รู้ดีว่าเขากำลังพยายามทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น
“แน่นะ ตาลยะ...”
“อยากกินขนมเทียนไส้หวาน รู้ครับ รู้แล้ว กี่รอบกี่ครั้งก็เมนูเดิม” พี่หมอแย้งพูด
“ฮ่าๆ ๆ ...รู้ดี~ ไหนขอมือสิ...โอ้ย~” มือหนาของพี่หมอขยี้หัวฉันไม่แรงมา แต่มันก็ทำให้ฉันมึนนิดๆ ได้เลย
“เยอะๆ ๆ ลามปามนะตัวเล็ก”
พี่หมอบอกว่าจะมารับในวันว่างช่วงนี้อาจไม่ได้อยู่ดูแลใกล้ชิด แต่จะมีพยาบาลเวียนเข้ามาดูเรื่อยๆ มีอะไรให้กดเรียกพยาบาลเอา หากมีอะไรเร่งด่วนเขาจะรีบกลับมาทันที
ก็แปลกๆ อยู่หรอกนะดูช่วงนี้พี่หมอดูอารมณ์ดีแปลกๆ ถึงฉันจะไม่เห็นหน้าพี่หมอแล้วก็เถอะ แต่ก็รู้ว่าเขากำลังยิ้มอย่างมีความสุขกับอะไรสักอย่างอยู่แน่นอน คนอย่างพี่หมอดูออกง่ายจะตาย น้ำเสียงเขาจะเป็นตัวบอกอารมณ์ของเขาเป็นอย่างดีเลย ถึงปกติจะหน้านิ่งตายสนิทก็เถอะนะ
คนทุกคนต่างต้องการกำลังใจในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน หรือการใช้ชีวิต ไม่มีใครที่ทำถูกไปหมด ตัดสินใจได้เด็ดขาดทั้งหมด ทุกคนต่างมีข้อผิดพลาดเพื่อเป็นการเรียนรู้ต่อไป 'Cause nobody's perfect
ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการสิ่งที่เรียกว่ากำลังใจ และความรัก ฉันเติบโตมากับร่างกายที่อ่อนแอ รักที่ไม่สมหวัง แต่ฉันก็ยังคงเป็นฉัน ครั้งนี้ฉันอาจตัดสินใจผิดพลาดที่บอกลาเทียนอีกครั้ง แต่นั่นจะไม่ทำให้ฉันต้องเสียใจทีหลังแน่นอน เพราะมันคือเส้นทางที่ฉันเลือกเอง
ในวันที่เสียใจที่สุด อย่างน้อยฉันก็ยังมีพี่ชาย มีพ่อ มีแม่ และเพื่อนสนิทของฉันที่จะคอยมาเยี่ยมอยู่เรื่อยๆ ทุกคนล้วนเป็นกำลังใจให้ฉันเสมอ แม้ว่าวันข้างหน้าฉันอาจจะหาย..จากโลกไปก็ตาม แต่ยังไงฉันก็ยังคงหวังว่าฉันจะหายจากโรคที่เป็นอยู่สักวันหนึ่ง ถึงมันจะเลือนรางมากเต็มที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ