Wish you were here : อยู่กับผมนะที่รัก
-
เขียนโดย chivaru
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 07.50 น.
21 ตอน
3 วิจารณ์
19.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2561 11.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เหตุผลที่ 1 ทนเหงา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเหตุผลที่ 1 ทนเหงา
= 2 ปีต่อมา ... =
วันรับปริญญาของผมก็มาถึง เป็นวันที่วุ่นวายจริงๆ ช่วงเช้ามีเวลานิดหน่อยถ่ายรูปไปตามซุ้มกับครอบครัวที่น่ารักของผม และผองเพื่อน มีอีกคนที่ผมอยากให้เขาอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง คิดแล้วน้ำตาตกในเลยครับ ก็ผมยังรอ... วันที่ลูกตาลจะกลับมา หลังจากวันที่ลูกตาลจากผมไปมีเพียงจดหมายฉบับนั้นที่ผมยังเก็บไว้ เป็นของย้ำเตือนใจผมอยู่เสมอ
“เฮ้ออ...” ผมถอนหายใจยาวออกมา น้องชายผมที่รู้ทุกอย่างหันมาด้วยความเป็นห่วง มันรู้ดีว่าผมยังรอตาลอยู่
“เอาน่าพี่ วันนี้วันดีอย่าคิดมากสิ” ชีวิตมันเศร้าจริงๆ ถึงขนาดให้น้องมันต้องมาปลอบ
“เออๆ” ผมถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน เดินไปถ่ายรูปที่ซุ้มบูมของคณะนิเทศฯ
ผมจบหลักสูตรนิเทศศาสตร์ ม.W เอกโฆษณา เกรดจบก็งั้นๆ คิดแล้วอยากเรียนใหม่ แต่ติดที่ว่าจิตใจไม่มีอันจะเรียนเท่าไหร่ เห็นคนมีคู่เดินไปเดินมา ถ่ายรูปด้วยกัน ผมอิจฉาตาร้อนอีกแล้ว เดินไปสองก้าวเข้าซุ้มบูมของหลักสูตร ม. ผมเรียกไม่เหมือนมหาลัยอื่นเขาหรอก นิเทศฯ เป็นหนึ่งในหลักสูตรของสำนักวิชาสารสนเทศศาสตร์ ประกอบด้วย 5 หลักสูตรหลักๆ
“เงินนะเก็บไว้ทำกิจกรรมนะ” ผมบอกรุ่นน้องหลังบูมผมเสร็จ
“ครับ/ค่ะ” หึหึ ตอนรุ่นผมก็ตอบรับกันดีแบบนี้แหละ เละเทะครับ ฮ่าๆ ๆ
ผมเดินไปตามซุ้มบูมอีกแค่ 2 ซุ้ม พอดีเป็นคนไม่ดังเลยสบายแบบนี้แหละ ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน ชุดครุยหนาสีดำแทบสีมหาลัย เสร็จจากบูมผมก็เดินกลับมาหาครอบครัวที่นั่งรอผมอยู่ที่มุมหนึ่งของตึกอาคารเรียน ตึกนี้ผมต้องไปเก็บตัวบัณฑิตช่วงบ่าย และขึ้นอาคารประชุมใหญ่ในช่วงเย็น กำหนดการเป็นไปตามเวลาที่ทางมหาลัยกำหนด เสร็จสิ้นทุกอย่างก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มแล้ว
- [บ้านขนมไทย] -
“พ่อครับ แม่ครับ ขอบคุณครับ” ก้มลงกราบแทบเท้าพ่อกับแม่ ขอบคุณท่านที่เลี้ยงผมมา ถึงผมจะเกเรบ้างแต่วันนี้ผมเรียนจบแล้ว ท่านทั้งสองลูบหัวผมปรอยๆ
“หลังจากนี้ ก็ชีวิตแกเต็มตัวแล้วนะเทียน” พ่อกล่าว ถึงอย่างนั้น พ่อกับแม่ก็ไม่เคยบังคับอะไรผมเลย
“ขนมเทียน อะไรที่ทุกข์ใจอยู่เล่าให้แม่ฟังบ้างก็ได้นะลูก” แม่กล่าว
“....ครับแม่” แม่มักจะอยู่ข้างๆ ผมเสมอ
เที่ยงคืนแล้ว นาฬิกาบนฝาผนังห้องบอกเวลา หลังจากจัดการเรื่องรับปริญญา ทำธุระส่วนตัวเสร็จสิ้น ผมทิ้งตัวนอนบนเตียงกว้างประจำห้อง เปิดเพลงเป็นเพื่อนแก้เหงา เฮ้ออ.. ตาลจะคิดถึงผมบ้างมั้ยนะ เธอจะรู้มั้ยว่า ผมไม่สามารถรักใครได้อีก ทุกครั้งที่ผมอ่านจดหมายฉบับเดิม น้ำตาผมไหลได้ทุกครั้ง จนหลังๆ ผมเลือกที่จะเก็บมันไว้ ถึงแม้ชีวิตจะต้องเดินไปข้างหน้า เหมือนที่ใครๆ กล่าวไว้ แต่ผมยังคง รอ... ตาลกลับมาหา ต่อให้ต้องเหงา ต้องร้องไห้คนเดียว เดินคนเดียว ฟังเพลงคนเดียว เดินเที่ยวคนเดียว ผมทนได้
♯...♪ เมื่อไม่มีเธอแล้ว
แต่ละวันมันเหงาเกินไป
เมื่อไม่มีเธอ มันเหมือนจะตาย
ฉันต้องการเธอได้ยินไหม
เธออยู่ที่ไหน อย่าทิ้งฉันไป
ช่วยกลับมาเป็นคนที่รักฉันใหม่
จะอยู่ยังไง ถ้าวันนี้ฉันไม่มีเธอ
มันเจ็บเหลือเกิน มันปวดเหลือเกิน
กลับมาได้ไหมเธอ
I can't breathe I can't breathe Yeah ♪...♯
** I can't breathe - กอล์ฟ พิชญะ (Feat. ยอด Bodyslam) **
“โถ่เว้ย! เพลงจะมาตอกย้ำอะไรตอนนี้ว่ะ” ค่ำคืนอันหนาวเหน็บนี้ก็เป็นอีกคืน ที่ผมร้องไห้จนผล็อยหลับไป
- ความฝันขนมเทียน -
“ตาล ตาลกลับมาแล้วใช่มั้ย”
“......”
“ตาลผมรักตาล อย่าจากผมไปไหนอีกเลย”
“......”
“ได้โปรดนะตาล ผมจะดูแลตาลเอง”
“......”
“ตาลไม่ต้องคิดมาก ตาลไม่ต้องทรมานคนเดียวอีกแล้ว นะตาล”
“......”
“อยู่กับผมเถอะนะ ผมขอร้อง ตาล..”
“......”
ผมในความฝันน้ำตาไหลพราก ยื่นมือไปหวังโอบกอดหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ ผมดำยาวถึงกลางหลัง ตากลมโตสีน้ำตาล ผมจำได้ดี ตาลเพียงแค่ยิ้มตอบผมกลับมา ร่างบางของตาลค่อยๆ จางหายไป พร้อมรอยยิ้มนั้น
“ไม่!! ตาล!!” ผมสะดุ้งตัวตื่นอย่างแรง จากความฝัน แม่ที่ได้ยินเสียงดังจนไปถึงด้านนอก รีบวิ่งเข้ามาดู น้ำตาผมยังคงไหลอาบแก้ม ภาพความทรงจำยังคงตีกลับเข้ามา
“ไม่เป็นไรนะเทียน” แม่กอดผมแน่นปลอบอยู่แบบนั้น ยิ่งทำให้ต่อมน้ำตาแตกไปอีก แม่ปลอบอยู่พักใหญ่ ผมที่เพิ่งได้สติลุกขึ้นไปล้างหน้า จัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วลงไปกินข้าวด้านล่างกับครอบครัว
การคบกันของผมกับตาลบ้านทั้งสองฝั่งรับรู้เป็นอย่างดี หลังจากที่ตาลหายไปผมไม่เคยไม่ได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับตาลอีกเลย พ่อกับแม่ตาลไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้ผมฟังเลย ถึงผมจะเข้าไปถามอยู่หลายครั้ง คำตอบที่ได้รับ มีเพียงสีหน้าหม่นหมอง กับความเงียบ จนผมถอดใจกับการถามหาตาล หน้าที่ ที่ผมกำหนดให้ตัวเอง ทำได้เพียงแค่ รอ
ที่ผ่านมามีใครต่อใครมากหน้าหลายตาเข้าหาผม เผยจุดประสงค์อย่างชัดเจน แต่ผมไม่สามารถรับรักใครได้ สิ่งที่ผมทำได้คือปฏิเสธด้วยความจริง ที่ว่า ผมมีคนรักอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่มีใครเคยเห็นตาลเลยสักครั้ง แม้กระทั่งเพื่อนสนิทผมเอง ยังไม่มีใครเคยเจอตาลเลย เพราะร่างกายของตาลเปราะบางเกินกว่าจะพาออกไปพบผู้คน
“เทียนเป็นไงบ้างลูก” แม่ที่เห็นผมร้องไห้เอาเป็นเอาตาย จะว่าไงดี ผมไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใครเลย นี้เป็นครั้งแรกเลยที่แม่ได้เห็นผมในสภาพนี้
“โอเคแล้วครับแม่” ฝืนยิ้มน้อยๆ ไม่อยากให้แม่ต้องเป็นกังวล
“กินข้าวก่อน เดี๋ยวไปที่ร้านพร้อมแม่เลยละกัน”
“ครับ...”
ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่อยากให้แม่เห็นน้ำตาที่มันคลอเบ้าผมอีกครั้งที่นึกถึงความฝัน มือที่ไม่ได้จับช้อนปาดน้ำตาช้าๆ ตอนนี้ผมจะอ่อนแอไปกว่านี้ไม่ได้ ผมต้องไปช่วยงานที่ร้านขนมไทยของคุณยายที่ส่งต่อมาให้แม่ และตอนนี้มันก็กำลังจะเป็นของผม ส่วนลุง ป้า น้า ต่างก็มีร้านขนมไทยของตัวเองแต่อยู่กันคนละพื้นที่
ด้วยความที่ชอบสีพาสเทลหวานๆ ผมเลยขอแม่ดีไซน์กล่องบรรจุภัณฑ์ขนมเทียนของผมเอง ตระกูลฝั่งแม่จะมีความชำนาญ เหมือนมีพรสวรรค์ ที่ทุกคนก็ทำขนมตามชื่อเล่นตัวได้อร่อยกันทุกคน ผมก็เช่นกัน พ่อผมที่เป็นเขยแต่งเข้ามาก็ทำได้เพียงเป็นลูกมือให้แม่เท่านั้น ที่บอกแต่งเข้านี้ก็เพราะแม่ไม่ยอมย้ายไปอยู่ฝั่งพ่อ เพราะต้องดูแลคุณยาย พ่อด้วยความที่รักแม่เอามากจึงจำยอมทุกอย่างตามที่แม่ต้องการ พ่อบอกว่าไม่ได้กลัว เขาเรียกเกรงใจ แต่ผมดูเหมือนพ่อจะกลัวมากกว่าอีกนะ หงอทุกครั้งที่แม่ขึ้นเลยก็ว่าได้
- [ร้านขนมไทยคุณนาย] -
คุณยายรักร้านขนมนี้มาก ด้วยความที่ฐานะการเงินสมัยนั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไร จึงทำให้คุณยายต้องทำงานส่งตัวเองเรียนไปด้วย ท่านเก็บหอมรอมริบจากน้ำพักน้ำแรง ต้องแร่ขายขนมกะละแม หรือ กาละแมนั่นแหละตั้งแต่สมัยท่านยังเด็ก กว่าจะเปิดร้านได้อายุท่านก็ร่วงเข้า 40 ปลายๆ เข้าไปแล้ว
“ขอขนมน้ำดอกไม้ กับทองหยิบ 2 กล่อง เอากลับครับ” ลูกค้ามากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามา จนติดใจต้องเป็นต้องลูกค้าประจำกันถ้วนหน้า
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” ทุกครั้งที่เข้าร้านแม่จะชอบทำหน้าที่หยิบขนมให้ลูกค้าเองเสมอ
ผมมองดูลูกค้าคนแล้วคนเล่า มากันเป็นคู่บ้าง คนเดียวบ้าง เป็นกลุ่มบ้าง ใจผมกระตุกวูบ มองหญิงสาวคนหนึ่งไกลๆ เธอคล้ายตาลมาก เธอแต่ไม่ได้หันมามองผม ที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะมุมหน้าร้าน ผู้ชายตัวสูงหุ่นสมาร์ต เดินตามหลังเธอเข้ามา
“ไม่รอเลยนะตัวเล็ก” ชายร่างสูงเอ่ยตักเตือน
“พอจำทางได้ค่ะ”
“รบกวนสั่งขนมเทียนไส้หวานให้ด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขอ
“อืม” ชายร่างสูงตอบรับ เดินมาหน้าตู้ขนมไทยเรียงราย เลือกขนมอยู่ครู่หนึ่ง
“เอา..ขนมเทียนไส้หวาน 2 ชิ้น แล้วก็..เอา…” ชายร่างสูงสั่งขนมไทยต่ออีกสอง สามอย่าง
“ได้แล้ว กลับกัน” ซื้อขนมเสร็จเขาทั้งสองก็พากันออกจากร้านโดยหญิงสาวเกาะกุมแขนของชายร่างสูงเอาไว้
ผมที่ยืนมองอยู่เงียบๆ จ้องมองหญิงสาวอย่างจนลับตาไป
เดี๋ยว! สร้อยข้อมือเส้นนั้น! ใช่ต้องใช่แน่ๆ ลูกตาล!
= 2 ปีต่อมา ... =
วันรับปริญญาของผมก็มาถึง เป็นวันที่วุ่นวายจริงๆ ช่วงเช้ามีเวลานิดหน่อยถ่ายรูปไปตามซุ้มกับครอบครัวที่น่ารักของผม และผองเพื่อน มีอีกคนที่ผมอยากให้เขาอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง คิดแล้วน้ำตาตกในเลยครับ ก็ผมยังรอ... วันที่ลูกตาลจะกลับมา หลังจากวันที่ลูกตาลจากผมไปมีเพียงจดหมายฉบับนั้นที่ผมยังเก็บไว้ เป็นของย้ำเตือนใจผมอยู่เสมอ
“เฮ้ออ...” ผมถอนหายใจยาวออกมา น้องชายผมที่รู้ทุกอย่างหันมาด้วยความเป็นห่วง มันรู้ดีว่าผมยังรอตาลอยู่
“เอาน่าพี่ วันนี้วันดีอย่าคิดมากสิ” ชีวิตมันเศร้าจริงๆ ถึงขนาดให้น้องมันต้องมาปลอบ
“เออๆ” ผมถอนหายใจรอบที่ร้อยของวัน เดินไปถ่ายรูปที่ซุ้มบูมของคณะนิเทศฯ
ผมจบหลักสูตรนิเทศศาสตร์ ม.W เอกโฆษณา เกรดจบก็งั้นๆ คิดแล้วอยากเรียนใหม่ แต่ติดที่ว่าจิตใจไม่มีอันจะเรียนเท่าไหร่ เห็นคนมีคู่เดินไปเดินมา ถ่ายรูปด้วยกัน ผมอิจฉาตาร้อนอีกแล้ว เดินไปสองก้าวเข้าซุ้มบูมของหลักสูตร ม. ผมเรียกไม่เหมือนมหาลัยอื่นเขาหรอก นิเทศฯ เป็นหนึ่งในหลักสูตรของสำนักวิชาสารสนเทศศาสตร์ ประกอบด้วย 5 หลักสูตรหลักๆ
“เงินนะเก็บไว้ทำกิจกรรมนะ” ผมบอกรุ่นน้องหลังบูมผมเสร็จ
“ครับ/ค่ะ” หึหึ ตอนรุ่นผมก็ตอบรับกันดีแบบนี้แหละ เละเทะครับ ฮ่าๆ ๆ
ผมเดินไปตามซุ้มบูมอีกแค่ 2 ซุ้ม พอดีเป็นคนไม่ดังเลยสบายแบบนี้แหละ ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน ชุดครุยหนาสีดำแทบสีมหาลัย เสร็จจากบูมผมก็เดินกลับมาหาครอบครัวที่นั่งรอผมอยู่ที่มุมหนึ่งของตึกอาคารเรียน ตึกนี้ผมต้องไปเก็บตัวบัณฑิตช่วงบ่าย และขึ้นอาคารประชุมใหญ่ในช่วงเย็น กำหนดการเป็นไปตามเวลาที่ทางมหาลัยกำหนด เสร็จสิ้นทุกอย่างก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มแล้ว
- [บ้านขนมไทย] -
“พ่อครับ แม่ครับ ขอบคุณครับ” ก้มลงกราบแทบเท้าพ่อกับแม่ ขอบคุณท่านที่เลี้ยงผมมา ถึงผมจะเกเรบ้างแต่วันนี้ผมเรียนจบแล้ว ท่านทั้งสองลูบหัวผมปรอยๆ
“หลังจากนี้ ก็ชีวิตแกเต็มตัวแล้วนะเทียน” พ่อกล่าว ถึงอย่างนั้น พ่อกับแม่ก็ไม่เคยบังคับอะไรผมเลย
“ขนมเทียน อะไรที่ทุกข์ใจอยู่เล่าให้แม่ฟังบ้างก็ได้นะลูก” แม่กล่าว
“....ครับแม่” แม่มักจะอยู่ข้างๆ ผมเสมอ
เที่ยงคืนแล้ว นาฬิกาบนฝาผนังห้องบอกเวลา หลังจากจัดการเรื่องรับปริญญา ทำธุระส่วนตัวเสร็จสิ้น ผมทิ้งตัวนอนบนเตียงกว้างประจำห้อง เปิดเพลงเป็นเพื่อนแก้เหงา เฮ้ออ.. ตาลจะคิดถึงผมบ้างมั้ยนะ เธอจะรู้มั้ยว่า ผมไม่สามารถรักใครได้อีก ทุกครั้งที่ผมอ่านจดหมายฉบับเดิม น้ำตาผมไหลได้ทุกครั้ง จนหลังๆ ผมเลือกที่จะเก็บมันไว้ ถึงแม้ชีวิตจะต้องเดินไปข้างหน้า เหมือนที่ใครๆ กล่าวไว้ แต่ผมยังคง รอ... ตาลกลับมาหา ต่อให้ต้องเหงา ต้องร้องไห้คนเดียว เดินคนเดียว ฟังเพลงคนเดียว เดินเที่ยวคนเดียว ผมทนได้
♯...♪ เมื่อไม่มีเธอแล้ว
แต่ละวันมันเหงาเกินไป
เมื่อไม่มีเธอ มันเหมือนจะตาย
ฉันต้องการเธอได้ยินไหม
เธออยู่ที่ไหน อย่าทิ้งฉันไป
ช่วยกลับมาเป็นคนที่รักฉันใหม่
จะอยู่ยังไง ถ้าวันนี้ฉันไม่มีเธอ
มันเจ็บเหลือเกิน มันปวดเหลือเกิน
กลับมาได้ไหมเธอ
I can't breathe I can't breathe Yeah ♪...♯
** I can't breathe - กอล์ฟ พิชญะ (Feat. ยอด Bodyslam) **
“โถ่เว้ย! เพลงจะมาตอกย้ำอะไรตอนนี้ว่ะ” ค่ำคืนอันหนาวเหน็บนี้ก็เป็นอีกคืน ที่ผมร้องไห้จนผล็อยหลับไป
- ความฝันขนมเทียน -
“ตาล ตาลกลับมาแล้วใช่มั้ย”
“......”
“ตาลผมรักตาล อย่าจากผมไปไหนอีกเลย”
“......”
“ได้โปรดนะตาล ผมจะดูแลตาลเอง”
“......”
“ตาลไม่ต้องคิดมาก ตาลไม่ต้องทรมานคนเดียวอีกแล้ว นะตาล”
“......”
“อยู่กับผมเถอะนะ ผมขอร้อง ตาล..”
“......”
ผมในความฝันน้ำตาไหลพราก ยื่นมือไปหวังโอบกอดหญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ ผมดำยาวถึงกลางหลัง ตากลมโตสีน้ำตาล ผมจำได้ดี ตาลเพียงแค่ยิ้มตอบผมกลับมา ร่างบางของตาลค่อยๆ จางหายไป พร้อมรอยยิ้มนั้น
“ไม่!! ตาล!!” ผมสะดุ้งตัวตื่นอย่างแรง จากความฝัน แม่ที่ได้ยินเสียงดังจนไปถึงด้านนอก รีบวิ่งเข้ามาดู น้ำตาผมยังคงไหลอาบแก้ม ภาพความทรงจำยังคงตีกลับเข้ามา
“ไม่เป็นไรนะเทียน” แม่กอดผมแน่นปลอบอยู่แบบนั้น ยิ่งทำให้ต่อมน้ำตาแตกไปอีก แม่ปลอบอยู่พักใหญ่ ผมที่เพิ่งได้สติลุกขึ้นไปล้างหน้า จัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้วลงไปกินข้าวด้านล่างกับครอบครัว
การคบกันของผมกับตาลบ้านทั้งสองฝั่งรับรู้เป็นอย่างดี หลังจากที่ตาลหายไปผมไม่เคยไม่ได้รับรู้อะไรเกี่ยวกับตาลอีกเลย พ่อกับแม่ตาลไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้ผมฟังเลย ถึงผมจะเข้าไปถามอยู่หลายครั้ง คำตอบที่ได้รับ มีเพียงสีหน้าหม่นหมอง กับความเงียบ จนผมถอดใจกับการถามหาตาล หน้าที่ ที่ผมกำหนดให้ตัวเอง ทำได้เพียงแค่ รอ
ที่ผ่านมามีใครต่อใครมากหน้าหลายตาเข้าหาผม เผยจุดประสงค์อย่างชัดเจน แต่ผมไม่สามารถรับรักใครได้ สิ่งที่ผมทำได้คือปฏิเสธด้วยความจริง ที่ว่า ผมมีคนรักอยู่แล้ว ถึงแม้ไม่มีใครเคยเห็นตาลเลยสักครั้ง แม้กระทั่งเพื่อนสนิทผมเอง ยังไม่มีใครเคยเจอตาลเลย เพราะร่างกายของตาลเปราะบางเกินกว่าจะพาออกไปพบผู้คน
“เทียนเป็นไงบ้างลูก” แม่ที่เห็นผมร้องไห้เอาเป็นเอาตาย จะว่าไงดี ผมไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใครเลย นี้เป็นครั้งแรกเลยที่แม่ได้เห็นผมในสภาพนี้
“โอเคแล้วครับแม่” ฝืนยิ้มน้อยๆ ไม่อยากให้แม่ต้องเป็นกังวล
“กินข้าวก่อน เดี๋ยวไปที่ร้านพร้อมแม่เลยละกัน”
“ครับ...”
ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่อยากให้แม่เห็นน้ำตาที่มันคลอเบ้าผมอีกครั้งที่นึกถึงความฝัน มือที่ไม่ได้จับช้อนปาดน้ำตาช้าๆ ตอนนี้ผมจะอ่อนแอไปกว่านี้ไม่ได้ ผมต้องไปช่วยงานที่ร้านขนมไทยของคุณยายที่ส่งต่อมาให้แม่ และตอนนี้มันก็กำลังจะเป็นของผม ส่วนลุง ป้า น้า ต่างก็มีร้านขนมไทยของตัวเองแต่อยู่กันคนละพื้นที่
ด้วยความที่ชอบสีพาสเทลหวานๆ ผมเลยขอแม่ดีไซน์กล่องบรรจุภัณฑ์ขนมเทียนของผมเอง ตระกูลฝั่งแม่จะมีความชำนาญ เหมือนมีพรสวรรค์ ที่ทุกคนก็ทำขนมตามชื่อเล่นตัวได้อร่อยกันทุกคน ผมก็เช่นกัน พ่อผมที่เป็นเขยแต่งเข้ามาก็ทำได้เพียงเป็นลูกมือให้แม่เท่านั้น ที่บอกแต่งเข้านี้ก็เพราะแม่ไม่ยอมย้ายไปอยู่ฝั่งพ่อ เพราะต้องดูแลคุณยาย พ่อด้วยความที่รักแม่เอามากจึงจำยอมทุกอย่างตามที่แม่ต้องการ พ่อบอกว่าไม่ได้กลัว เขาเรียกเกรงใจ แต่ผมดูเหมือนพ่อจะกลัวมากกว่าอีกนะ หงอทุกครั้งที่แม่ขึ้นเลยก็ว่าได้
- [ร้านขนมไทยคุณนาย] -
คุณยายรักร้านขนมนี้มาก ด้วยความที่ฐานะการเงินสมัยนั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไร จึงทำให้คุณยายต้องทำงานส่งตัวเองเรียนไปด้วย ท่านเก็บหอมรอมริบจากน้ำพักน้ำแรง ต้องแร่ขายขนมกะละแม หรือ กาละแมนั่นแหละตั้งแต่สมัยท่านยังเด็ก กว่าจะเปิดร้านได้อายุท่านก็ร่วงเข้า 40 ปลายๆ เข้าไปแล้ว
“ขอขนมน้ำดอกไม้ กับทองหยิบ 2 กล่อง เอากลับครับ” ลูกค้ามากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามา จนติดใจต้องเป็นต้องลูกค้าประจำกันถ้วนหน้า
“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” ทุกครั้งที่เข้าร้านแม่จะชอบทำหน้าที่หยิบขนมให้ลูกค้าเองเสมอ
ผมมองดูลูกค้าคนแล้วคนเล่า มากันเป็นคู่บ้าง คนเดียวบ้าง เป็นกลุ่มบ้าง ใจผมกระตุกวูบ มองหญิงสาวคนหนึ่งไกลๆ เธอคล้ายตาลมาก เธอแต่ไม่ได้หันมามองผม ที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะมุมหน้าร้าน ผู้ชายตัวสูงหุ่นสมาร์ต เดินตามหลังเธอเข้ามา
“ไม่รอเลยนะตัวเล็ก” ชายร่างสูงเอ่ยตักเตือน
“พอจำทางได้ค่ะ”
“รบกวนสั่งขนมเทียนไส้หวานให้ด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขอ
“อืม” ชายร่างสูงตอบรับ เดินมาหน้าตู้ขนมไทยเรียงราย เลือกขนมอยู่ครู่หนึ่ง
“เอา..ขนมเทียนไส้หวาน 2 ชิ้น แล้วก็..เอา…” ชายร่างสูงสั่งขนมไทยต่ออีกสอง สามอย่าง
“ได้แล้ว กลับกัน” ซื้อขนมเสร็จเขาทั้งสองก็พากันออกจากร้านโดยหญิงสาวเกาะกุมแขนของชายร่างสูงเอาไว้
ผมที่ยืนมองอยู่เงียบๆ จ้องมองหญิงสาวอย่างจนลับตาไป
เดี๋ยว! สร้อยข้อมือเส้นนั้น! ใช่ต้องใช่แน่ๆ ลูกตาล!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ