น้องสาวดนตรีไทยกับพี่ชายสายกินเนื้อ

-

เขียนโดย นาราชา

วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 22.23 น.

  2 ตอน
  3 วิจารณ์
  4,107 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2 พี่ชายในใจขิม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          การเลือกตั้งสภานักเรียนสิ้นสุดลงไปแล้ว  พร้อมๆ กันกับการหายหน้าหายตาไปของพี่ไทเกอร์  พี่เสือ  ผู้ชายมาดเข้ม  เสียงเข้ม  ตาดุ  ที่ขิมเฝ้าติดตามทุกการเคลื่อนไหว  แต่ส่วนใหญ่พี่เขามีบทบาทแค่ไหนห้องสภานักเรียนซึ่งขิมเองไม่ได้มีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย  การเรียนที่หนักหน่วงขึ้น  เนื่องจากว่า  ขิมไปสืบทราบมาว่าพี่เสือจะเข้าคณะวิศวะกรรมของมหาวิทยาลัยที่คะแนนสูงที่สุดในภาคอีสาน  เวลาหนึ่งปีขิมก็ไม่กล้าออกตัวแรง  ถ้ามีวาสนาต่อกัน  ขิมจะตามไปสานต่อที่มหาวิทยาลัย  (ถ้าพี่เสือไม่มีลูกสองเมียสามไปซะก่อนนะ)  ดังนั้น  นังขิมน้อยจะต้องสู้เต็มที่  ตั้งใจเรียนเต็มขั้น  สายตาก็มองหา  วิชาก็บากบั่น  สมองน้อยๆ ที่ไม่ค่อยจะอำนวย  พาลแต่จะให้คิดถอดใจอยู่เรื่อย  ตั้งสติสิขิมสู้สิแกร๊

            ถึงยังไงพี่เสือก็ยังคงอยู่ในสายตาขิมเสมอ  ทุกกิจกรรมสำคัญของโรงเรียนพี่เป็นที่ปรึกษาของสภานักเรียนอย่างเหนียวแน่น  และที่ดูๆ  ไม่มีสาวเป็นตัวเป็นตน  ไปไหนมาไหนกะเพื่อนมหาโจรอีกสองคนเป็นสมุนซ้ายขวา ขิมก็พยายามเป็นคนเก่งให้ทัดเทียมพี่เขานะ  ขิมพยายามลงชื่อเข้าแข่งขันทุกอย่างที่โรงเรียนจัด  เหมือนคนกระหายการแข่งขัน  จนชื่อของขิมเป็นหนึ่งในรายชื่อของนักกิจกรรมตัวยงประจำโรงเรียน  ไม่ได้อยากเด่นในสายตาใคร  แค่อยากเป็นคนที่อยู่ในใจพี่ชายคนเดียว  ความพยายามของขิมไม่เสียเปล่าซะทีเดียว  เมื่อการจัดการแข่งขันกีฬาภายในที่จัดยิ่งใหญ่อลังการ  ขิมได้รับคัดเลือกให้เป็นคฑากรไม้หนึ่งของสีชมพูฟรุ๊งฟริ๊ง โดยที่สำคัญมีผู้จัดการทีมบาสเกตบอลเป็นพี่เสือคนเข้มอย่างเป็นปาฏิหาริย์  เพื่อโอกาสที่มีอย่างน้อยนิด  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อขิมสมัครเข้าทีมบาสเกตบอลหญิงสีชมพู  ถามว่าเล่นเป็นไหม๊  ก็เล่นได้เท่าที่ครูพละสอนตอนชั้นมอต้นไง  เมย์เนย์สองสาวแฝดมันยังทึ่งในความใจกล้าหน้าด้านของขิมเลย  สถานการณ์มันก็เป็นยังงี้นะ

            “พี่คะ  ขอใบสมัครหน่อยค่ะ”  กว่าจะต่อแถวจนได้มายืนหน้าพี่เสือต้องรวบรวมความกล้ามาตั้งเท่าไหร่  พี่เสือเงยหน้าขึ้นมาดูผงะไปเล็กน้อย

            “เอาจริงเหรอ  ขิม  บาสมันหนักนะ”  อ๊าก!!!!!  พี่เสือรู้จักชื่อขิมด้วย  ตายตาหลับแล้วอีขิมเอ้ย

            “ไหวสิค่ะ  น่าสนุกดีนะคะ  ขิมขอมาซ้อมดูถ้าไม่ไหวขิมเป็นตัวสำรองหิ้วกระติกน้ำให้ก็ได้”  ที่จริงอยากบอกว่า  ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆ  พี่เสือก็ไหวทุกอย่างแล้ว

            “เอาก็เอา  พี่ว่าหนุ่มๆ คงขยันมาซ้อมเยอะขึ้น  เอานี่เขียนเสร็จก็ไปส่งกะพี่รินนะ  เขาดูแลทีมหญิง”  หยิบใบสมัครให้แล้วก็ชี้ไปทางพี่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ 

            “ขอบคุณค่ะ”  ทำได้แค่นี้จริงๆ  แค่รับมา  แล้วก็หันหน้าออกจากแถวไป  แต่ระหว่างการซ้อมเพื่อคัดเลือกตัวจริง  ขิมก็ได้ใกล้ชิดพี่เสือมากขึ้น  พี่เสือใจดีนะ  ซื้อน้ำมาเลี้ยงพวกเราอยู่บ่อยๆ  ทั้งๆ  ที่ตัวเองก็ซ้อมแต่การดูแลน้องๆ ก็ไม่ขาดตกบกพร่อง  ออกจะดีเกินไปด้วยซ้ำ  คือ  พี่ดูแลทุกคนเลย  พี่ทั่วถึงมากเลย 

            และก็เป็นไปตามคาด  ขิมเป็นตัวสำรองค่ะ  แต่ก็ได้ลงบ้างแหละนะ  พี่รินให้ลงลองสนามเผื่อว่าปีหน้าจะได้เป็นตัวจริง  แต่ในจังหวะชุลมุน  ลูกบาสที่ถูกขว้างมาปะทะแป้นแล้วแฉลบมาอย่างเร็ว  แล้วตอนนั้นขิมก็กำลังมองเพื่อรอรีบราวใต้แป้นก็ถูกซัดเข้าอย่างจัง  บริเวณใบหน้า  (ไม่แน่ใจว่าตรงไหน  มันมึนไปหมด)  หลังจากนั้นขิมก็ไม่มีสติแล้ว

 

            ..........................................................................................................................

            เปลือกตาที่ประดับด้วยขนตางอนงาม  กะลังขยุกขยิกแล้วค่อยๆ ลืมขึ้น  ตาโตๆ กระพริบปรับแสง  ร่างน้อยๆ นั้นพยายามกระถดตัวขึ้นนั่ง  ก่อนจะพบว่าทำไม่ได้จึงนอนลงไปอีกครั้ง

            “น้องขิมเป็นยังไงบ้าง”  ผมถามไปอย่างรีบร้อนด้วยความเป็นห่วง

            “เอ่อ  มึนๆ ค่ะ”  เธอหันมาเห็นผม  ยิ่งกระพริบตาถี่เข้าไปอีก  แสงอาจไม่พอสำหรับการมองคนผิวเข้มอย่างผมสินะ

            “ยังเจ็บตรงไหนอยู่ไหมครับ”  เธอยกสองมือขึ้นลูบหน้า 

            “โหนกแก้มขวาค่ะพี่”  เธอยังคลำหน้าตัวเองป้อยๆ

            “เอ่อ  ตอนนั้นเลือดกำเดาไหลด้วย  แต่พี่ห้ามเลือดหยุดไปแล้ว  ประคบเย็นให้ด้วยครับ  พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ขออนุญาตเราก่อน  เอ่อ.........คือ  ขิมสลบไปก่อน”  ผมเกรงใจที่แต๊ะอั๋งเธอไปอะนะ  รู้สึกผิดพิลึก  ทั้งๆ ที่เพื่อนเธอกรูกันเข้ามาแต่ผมที่ไวกว่า  อุ้มช้อนเธอมุ่งตรงมาทางห้องพยาบาล  โดยไม่ได้สนใจใครอีกเลย

            “ขอบคุณนะคะพี่เสือ  จะขอโทษขิมเรื่องอะไรกัน”  ว่าแล้วยังยิ้มพริมใจมาให้อีก  โอ๊ยตายๆๆๆ  ผมต้องรีบออกไปจากตรงนี้ให้ไว  ผมจะทนไม่ไหว  หัวใจมันสูบฉีดเลือดแรงเกินไป

            “เออ  ขิมตื่นแล้วเดี๋ยวพี่ไปสนามก่อน  จะบอกเพื่อนมาเฝ้านะ”  ไม่รอคำตอบผมก็พุ่งออกประตูจากมา  วิ่งหนีหัวใจตัวเองจนเหนื่อยหอบ  ก่อนไปตามแฝดเมย์เนย์ไปหาเพื่อนรักเค้าที่นอนป่วยตาแป๋วอยู่ที่ห้องพยาบาล

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา